คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย - บทที่ 400 ใช้สายตาสังหารคน
ราชันเผ่าพิภพพยักหน้าราวกับสากตำครก เอ่ยตอบรับซ้ำๆ “ผู้อาวุโสร้ายกาจจริงๆ เดาออกแม้แต่เรื่องนี้”
“ลองบอกแผนการของเจ้ามาให้ฟังหน่อย ว่าเจ้าคิดจะทำอย่างไร” จินเฟยเหยาเอ่ยถาม
ราชันเผ่าพิภพจึงบอกแผนการอย่างละเอียดของตนเองออกไปรอบหนึ่ง ถึงแม้ในโลกวิญญาณจ้งถู่ตอนนี้จะมีการสู้รบไม่ขาดสาย ทว่าส่วนมากล้วนอยู่บนพื้นดิน ส่วนใต้ดินจะสงบสุขกว่าหน่อย อาศัย ยความสามารถในการขุดอุโมงค์ที่เหนือธรรมดาของเผ่านี้ ขุดสถานที่ซ่อนตัวแห่งหนึ่งอยู่อาศัยได้ง่ายดายยิ่ง ส่วนอันตรายระหว่างทางมีเพียงสถานที่ซึ่งอยู่ในน่านน้ำ ตอนนี้พวกเขายากจน มาก ไม่มีสิ่งของพวกปลาไป๋สุ่ยให้นั่งโดยสารจึงเกรงว่าจะเจอสัตว์ทะเลหรือเผ่ามนุษย์เผ่ามาร
ที่เรียกจินเฟยเหยามาก็เพื่อให้ได้รับความคุ้มครอง พอถึงโลกวิญญาณจ้งถู่แล้วก็สามารถให้สถานที่อยู่อาศัยอันปลอดภัยแก่นาง แม้กระทั่งช่วยนางขุดศิลาวิญญาณก็ยังได้
ช่วยตนเองขุดศิลาวิญญาณกลับเป็นความคิดที่ไม่เลว จินเฟยเหยาเงยหน้าขึ้นมองเขา แผนการดียิ่ง แต่ไม่มีแผนการว่าจะหนีออกไปอย่างไร ราชันเผ่าพิภพเพิ่งปรากฏตัวก็ถูกพบเห็น น่าจะไม ม่ได้ยินเรื่องราวมากนัก เขายังไม่รู้ว่าตอนตนเองจากไป เกรงว่าคงจะออกจากเมืองไป่เหอไม่ได้ง่ายๆ
แต่ในเมื่อส่งตนเองมาถึงที่ เช่นนั้นก็ไม่เกรงใจล่ะ
จินเฟยเหยายิ้มแย้มเอ่ยว่า “แบบนี้ก็ได้ แต่ทางที่ดีตอนออกไปต้องแอบๆ ไป”
“แน่นอน ผู้อาวุโสต้องไม่คิดจะให้ตนเองถูกพบเห็นแน่ พวกเราสามารถแยกกันไปได้ จากนั้นหาสถานที่แห่งหนึ่งรวมตัวกัน” ราชันเผ่าพิภพปีติยินดีอย่างยิ่ง มีคนผู้นี้คุ้มครอง น่าจะกลับถ ถึงโลกวิญญาณจ้งถู่ได้อย่างปลอดภัย เมืองไป่เหอแห่งนี้อยู่ต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ กลับไปโลกวิญญาณจ้งถู่ดีกว่า ในดินน่าอยู่กว่าในน้ำ
“ไม่ นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของข้า” จินเฟยเหยายื่นนิ้วออกมาส่ายไหว จากนั้นเริ่มขู่ขวัญเขา “เจ้าไม่ดูบ้างว่าตอนนี้สภาพการณ์เป็นอย่างไร ประชาชนต่อต้านเผ่ามนุษย์และเผ่ามาร ตอนนี้ เจ้ากลับจะย้ายบ้าน ผู้อื่นล้วนวิ่งมาที่นี่ เจ้ากลับทำตรงกันข้าม ผู้ใดจะรู้ว่าเจ้าคิดจะไปเข้ากับเผ่ามนุษย์และเผ่ามารหรือไม่”
“ไม่ ข้าจะทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร!” พอราชันเผ่าพิภพได้ยิน คิดไม่ถึงว่าจะถูกตราหน้าอย่างหนัก จึงรีบอธิบายว่า นี่มิใช่เรื่องที่พูดเล่นๆ ได้ตามใจชอบ ถ้าถูกกล่าวหาขึ้นมาจริงๆ คงต้องตายทั้งครอบครัว
จินเฟยเหยาแย้มยิ้ม เอ่ยต่อว่า “เจ้าไม่ต้องลนลานขนาดนี้ ข้าเพียงพูดเรื่อยเปื่อยเท่านั้น แต่ไม่รับรองว่าคนอื่นจะคิดแบบนี้ การกระทำของเจ้าในสายตาของคนอื่นน่าสงสัยเกินไป อีกทั้ง งอย่างเจ้าถือว่าหลบหนีก่อนการสู้รบสินะ? เป็นทหารหนีทัพ!”
“จะเป็นทหารหนีทัพได้อย่างไร” ราชันเผ่าพิภพรีบเอ่ย “นั่นเป็นสถานที่ซึ่งมีการสู้รบมากนะ ส่วนชนชั้นสูงของแต่ละเผ่าพวกนั้นก็ย้ายมาอยู่ที่นี่ พวกเขาต่างหากจึงเป็นคนที่หลบหนี ก่อนการสู้รบ”
“จะว่าไปก็จริง แต่ถ้ามีชนชั้นสูงคนใดเห็นเจ้าเป็นที่ขัดตา คิดจะหาเรื่องสนุกสนาน ประณามพวกเจ้าเล่นๆ แบบนั้นจะทำอย่างไร” จินเฟยเหยาจะไม่ปล่อยเขาไปแบบนี้ ข่มขู่เขาอย่างไม่ยอมเลิ กรา “เจ้าลองคิดดู ชนชั้นสูงเหล่านั้นปกติว่างงานมาก หลังจากมาถึงที่นี่แล้วก็เบียดเสียดกันอยู่ในห้องเล็กๆ เบื่อหน่ายอย่างยิ่ง มีเวลาว่างก็ต้องหาความบันเทิง”
“นี่…” ราชันเผ่าพิภพนึกถึงบุคคลรุ่นท่านพ่อของตนเองได้ ดูเหมือนตั้งแต่จำความได้ เสด็จพ่อของตนเองก็นำคนอื่นมาเล่นสนุกเป็นการฆ่าเวลาเนื่องจากอยู่ว่างไม่มีอะไรทำจนเบื่อหน่า ายเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งฐานะ นิสัยจึงแปลกประหลาด เรื่องเช่นนี้มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้น ผู้ใดจะรู้ว่าคนว่างงานเหล่านั้นจะทำเรื่องอะไรออกมา
ดังนั้นเขาจึงมองจินเฟยเหยาและเอ่ยถามอย่างลังเล “เช่นนั้นผู้อาวุโสมีความคิดอย่างไร?”
“พวกเจ้าขุดอุโมงค์ได้และอาศัยอยู่ชั้นหนึ่งพอดี ให้คนทั้งบ้านลงมือ ขุดอุโมงค์ในบ้านเชื่อมกับเส้นทางใต้ดินข้างนอก เจ้าลองคิดดู ในพื้นที่พันหลี่ไม่ปลอดภัย เจ้าขุดไปถึงข้างร ร่องทะเลลึกโดยตรง รอจนขุดเสร็จหมดแล้ว พวกเราจะออกไปข้างนอกจากที่นี่” จินเฟยเหยามองเขาแล้วเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม
“ยาวขนาดนั้น!” ราชันเผ่าพิภพเอ่ยอย่างตกตะลึง ยาวเกินไปแล้วกระมัง
จินเฟยเหยาเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “พูดตามตรงนะ เจ้าคงไม่อยากถูกคนเห็นว่ามากับข้าหรอกนะ ตอนนี้ข้าเป็นตัวเรียกความเกลียดชัง เจ้าดูข้างนอก ราชันเหวินยังเฝ้าอยู่เลย ดังนั้น ขุดทางใต้ดินจึงเป็นเรื่องที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย พวกเจ้าไม่เคยขุดอุโมงค์ใต้ดินมาหลายพันปีพอดี จะได้ฝึกฝนสักหน่อย ไม่เช่นนั้นต่อไปกลับถึงโลกวิญญาณจ้งถู่แล้วไม่ชำนาญจะใช้ชีวิตได้ อย่างไร”
“มีวิธีการพูดแบบนี้ที่ไหน...” ราชันเผ่าพิภพทำปากยื่นเอ่ยวาจา ถึงจะไม่ยินยอม แต่สิ่งที่จินเฟยเหยาพูดก็เป็นความจริง
ไม่ว่าจะเป็นด้านใดก็ไม่เป็นประโยชน์กับตนเอง ทว่านางมีพลังบำเพ็ญเพียรสูงสามารถสะบัดก้นหนีไปได้ ในอดีตตอนที่ยังมีเงินมีอำนาจ เชิญเผ่าปิศาจขั้นกำเนิดใหม่หลายคนส่งตระกูลตนเองก กลับโลกวิญญาณจ้งถู่ย่อมไม่มีปัญหาแน่ ตอนนี้ไม่มีอะไรสักอย่างย่อมไม่มีใครทำเรื่องนี้ ถ้าไม่มีคนขั้นกำเนิดใหม่อยู่ สัตว์ทะเลระหว่างทางกินคนได้นะ
นึกถึงเส้นทางจากเมืองไป่เหอถึงโลกวิญญาณจ้งถู่ ราชันเผ่าพิภพยังไม่กล้าพูดว่าสัตว์ทะเลทั้งหมดถูกสังหารจนเกลี้ยงจริงๆ สัตว์ที่สังหารเป็นสัตว์ทะเลของโลกวิญญาณชิงหลิว สถานที่ อื่นๆ ในทะเลยังมีสัตว์ทะเลอยู่จำนวนไม่น้อย อันตรายอย่างยิ่ง นับประสาอะไรกับแค่ขุดอุโมงค์ใต้ดิน เรื่องนี้สำหรับพวกเขาแล้วไม่มีปัญหาเลยสักนิด
ดังนั้นเขาจึงตอบรับและหารือรายละเอียดอีกเล็กน้อยจึงกลับคืนสู่ร่างเดิมอีกครั้ง และวิ่งกลับไปตามอุโมงค์ที่ขุดบนกำแพง
“พวกเราจะพาพวกเขาไปโลกวิญญาณจ้งถู่จริงๆ หรือ?” รอจนเขาไปแล้ว หวาหวั่นซีจึงเอ่ยถาม
“ทำไมจะไม่ไป?” จินเฟยเหยายักไหล่เอ่ยยิ้มๆ “ถึงอย่างไรก็ต้องไป พาพวกเขาไปวันหน้ายังขุดศิลาวิญญาณให้ข้าได้ แม้แต่คนงานเหมืองก็มาหาที่ถึงที่เสร็จสรรพ ถ้าข้าปฏิเสธจะไม่ค่อยดีน นัก”
หวาหวั่นซีครุ่นคิดถึงเรื่องอื่น “พวกเราต้องนำมังกรปิศาจไปจึงไปได้ ด้านหลังต้องมีคนไล่ตามมาแน่ ข้ากับพั่งจื่อสามารถเข้าถุงสัตว์ภูติหรือถุงเฉียนคุน เผ่าพิภพเหล่านั้นจะทำอย่ างไร พลังบำเพ็ญเพียรไม่สูง ทั้งยังมีตั้งสามสิบกว่าคน อีกทั้งได้ยินว่าหลายเดือนก่อนยังให้กำเนิดฝาแฝดที่ยังดูดนมแม่อยู่ เจ้าจะพาไปทั้งครอบครัวอย่างไร?”
“ให้กำเนิดอีกแล้ว? เข้าใจผิดไปหรือไม่ ข้าจำได้ว่าก่อนปิดด่านกักตนเพิ่งให้กำเนิดมาสามคนมิใช่หรือ” จินเฟยเหยาเอ่ยถามอย่างตกตะลึง
“นั่นไม่ใช่ฮูหยินน้อยและฮูหยินใหญ่ให้กำเนิด ทว่าคนที่ให้กำเนิดคือฮูหยินสาม หากมิใช่จำนวนภรรยาของเขามีไม่มากเพียงห้าคน ข้าสงสัยว่าปีหนึ่งต้องให้กำเนิดหลายสิบคนแน่” หวาหวั นซีส่ายศีรษะอย่างจนปัญญา นางรู้ชัดเจนขนาดนี้เนื่องจากฮูหยินกับเด็กน้อยของบ้านเผ่าพิภพไม่มีอะไรก็วิ่งมาหา ใช้เรื่องมงคลต่างๆ นานามาขออั่งเปา แต่เพื่อหลีกเลี่ยงความสงสัย พ พวกเขาต่างแอบวิ่งมายามสามกลางดึกตอนที่คนน้อยที่สุดราวกับเป็นโจร
จินเฟยเหยานิ่งอึ้ง ลูบเส้นผมนึกได้อย่างกะทันหัน “เมื่อครู่เจ้าก็เห็นแล้ว ราชันเผ่าพิภพเปลี่ยนเป็นตัวเล็กๆ ได้ก็ให้พวกเขาทั้งหมดกลับคืนสู่ร่างเดิม จากนั้นหากล่องแข็งๆ หรือ อห่อผ้าบรรจุ จากนั้นข้าจะทนลำบากสักหน่อย แบกพวกเขาหลบหนีไปก็ได้ ไม่รู้ว่าพวกเขาจะอยู่ในถุงสัตว์ภูติได้หรือไม่ ถ้าเข้าไปได้ก็จะลดเรื่องยุ่งยากได้มากขึ้น
“ทำไมเจ้าไม่ใจกว้างหน่อย ให้พวกเขาอาศัยอยู่ในเกาะลอยได้เล็กๆ แบบนั้นไม่สะดวกกว่าหรือ ไม่เช่นนั้นเจ้าจะให้คนชราและเด็กที่ยังไม่หย่านมแม่เบียดเสียดกันอยู่ในกล่องเล็กๆ ใบหนึ ง ถ้าเจอคนขวางทางและต่อสู้กันขึ้นมา คงทรมานจนตายไปครึ่งตัว” หวาหวั่นซีฟังคำพูดของนางแล้วทนวิธีหยาบกระด้างของนางไม่ไหว ไม่คิดดูบ้างว่าเผ่าพิภพพวกนั้นจะมีชีวิตรอดกลับไปโล ลกวิญญาณจ้งถู่หรือไม่
“เกาะลอยได้เล็กๆ?” จินเฟยเหยาเกือบจะลืมเจ้าสิ่งนี้ไปแล้ว จะว่าไปก็จริง ขอเพียงออกจากอุโมงค์ใต้ดิน นำเกาะลอยได้ออกมาแล้วโยนเผ่าพิภพเข้าไป ใช้เวลาเพียงชั่วพริบตา ยังสะดวกก กว่าแบกเองอีก
เอ่ยถึงเกาะลอยได้เล็กๆ จินเฟยเหยาก็เอ่ยอย่างกังวลและเสียใจอยู่บ้าง “ข้าลืมหลอมศิลาเทียนฮุ่นลงในเกาะลอยได้เล็กๆ ไม่รู้ว่าต้องนำสิ่งมีชีวิตด้านในออกมาหรือไม่ ไม่เช่นนั้น นหลอมทั้งหมดเป็นกองเดียวจะทำอย่างไร”
“เช่นนั้นเจ้าไปถึงโลกวิญญาณจ้งถู่ค่อยหลอม ถึงอย่างไรตอนนี้เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องใช้ชั่วคราว” หวาหวั่นซีเอ่ย
จากนั้นพวกนางก็รอครอบครัวราชันเผ่าพิภพขุดอุโมงค์ใต้ดิน ขุดเสร็จทั้งหมดเมื่อใด เมื่อนั้นก็นำเนื้อมังกรปิศาจจากไป ราชันเหวินยังเฝ้าอยู่นอกประตู ใช้วิธีการต่างๆ นานาหมดแล้ว แต่ก็บีบให้จินเฟยเหยาออกมาไม่ได้ ราชันสุ่ยจวินไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาไม่คิดจะขัดขวางราชันเหวินและไม่คิดจะออกหน้าไล่จินเฟยเหยาออกมา
ถึงอย่างไรเขาก็เคยใช้ประโยชน์จินเฟยเหยา ถือว่ามีมิตรภาพอยู่บ้าง อีกทั้งตอนนี้มีเรื่องราวมากมาย เขาไม่ว่างมาสนใจเรื่องเล็กๆ แบบนี้ จึงปล่อยให้พวกเขาวุ่นวายกันไป
จินเฟยเหยาอยู่ในบ้านว่างงานไม่มีอะไรทำก็ฉวยโอกาสเก็บก้อนหินจำนวนมากกลับมาตอนออกไปตัดเนื้อมังกรปิศาจ จากนั้นขว้างผ่านการป้องกันออกไปโจมตีพวกราชันเหวินเป็นครั้งคราว
นางมีเรี่ยวแรงมาก ถึงจะไม่ได้ใช้พลังวิญญาณ ทว่าขอเพียงขว้างออกไปโดน สถานเบาฟกช้ำดำเขียว โดนคนที่มีพลังบำเพ็ญเพียรต่ำก็ศีรษะแตกโลหิตไหลตรงนั้น ส่วนการตอบโต้ของพวกราชันเห วินถูกวงเวทวิญญาณสิบสองปิศาจต้านทานไว้ทำให้เพลิงโทสะพุ่งสูงสามจั้งแต่กลับทำอะไรนางไม่ได้
ราชันเหวินได้แต่ยืนด่าทออย่างเดือดดาลอยู่นอกบ้านเปลือกหอย “ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะเป็นเต่าหดหัวอยู่ในนั้นได้ชั่วชีวิต”
“โง่งม ปิดด่านกักตนฝึกบำเพ็ญตามสบายก็หลายสิบปีแล้ว เจ้ามีเวลาว่างก็ยืนอยู่ข้างนอกไปเถอะ ถึงอย่างไรพอปิดการป้องกันข้าก็ไม่ได้ยินอะไรแล้ว” จินเฟยเหยายังเข้าใกล้หน้าต่างและ เย้ยหยันเขาอย่างไม่กังวล
“เจ้าคอยดูเถอะ!” ราชันเหวินทนไม่ไหวแล้ว สะบัดแขนเสื้อไปหาราชันสุ่ยจวิน ถึงไม่สามารถทำให้วงเวทใหญ่เปิดทางรอดสายหนึ่ง ก็ต้องให้เขาตกลงรื้อบ้านเปลือกหอยนี้ให้ได้ ขอเพียงร รื้อบ้านได้ ดูสิว่านางยังไปหดตัวที่ใดได้อีก
ผลลัพธ์ของการไปหาคือแน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้สถานที่ในเมืองไม่พออยู่แล้ว บ้านเปลือกหอยสูงๆ สามารถให้คนอยู่อาศัยได้จำนวนมาก ราชันสุ่ยจวินย่อมไม่รับปากให้รื้อบ้าน ตรงกันข้ ามเนื่องจากราชันเหวินทั้งทุบทั้งกระแทกอยู่ที่นี่ทั้งวันทั้งคืนทำให้เผ่าปิศาจที่ย้ายเข้ามาภายหลังวิ่งมาร้องทุกข์ด้วยความไม่พอใจอย่างต่อเนื่อง
พวกเขาหลบหลีกการรบอันวุ่นวายมา ถ้าไม่ร่ำรวยก็เป็นคนสูงศักดิ์ เดิมทีเบียดเสียดกันอยู่ในห้องเล็กๆ ก็ไม่สบายอยู่แล้ว ข้างนอกยังมีคนมาเคาะมาทุบทั้งวันอีก ไม่คิดจะให้คนอยู่อย่ างมีความสุขเลยสักนิด
มีคนอธิบายถึงการกระทำของจินเฟยเหยาแก่พวกเขาฟัง ขอให้พวกเขาเข้าใจหน่อย ทว่าพวกเขาไม่คิดจะเข้าใจ เผ่าปิศาจพวกนี้มาที่นี่ในภายหลัง ไม่ใช่คนเมืองไป่เหอเสียหน่อย ไม่รู้สึกว่าเรื่ องนี้ร้ายแรงมากนัก แค่ไม่มีสัตว์ทะเลให้สังหาร ถึงอย่างไรสัตว์ทะเลก็มีอยู่ถมไป ผ่านไปหลายสิบปีก็ถือกำเนิดออกมาอีก ต่อให้คนผู้นี้กระทำเรื่องใด แค้นมีศัตรูหนี้มีเจ้าหนี้ ก็ ไปหานางสิ เกี่ยวอะไรกับทุกคนด้วย
เดิมทีราชันสุ่ยจวินหงุดหงิดเพราะมีธุระมากมาย มาเจอราชันเหวินเข้าอีกจึงด่าทอเขาอย่างสาดเสียเทเสีย ห้ามเขาทุบตีและด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายต่อไป ราชันเหวินถูกหักหน้า หลังจากกลั บไปอย่างเดือดดาลก็ได้แต่อยู่นอกบ้านจินเฟยเหยา ใช้สายตาสังหารคนโดยไร้เสียง จ้องมองบ้านของนางอย่างดุร้าย พอเวลาเนิ่นนานไปก็จ้องจนตาลาย