คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย - บทที่ 402 ไล่ล่า
“วิ้ง!” ในเมืองไป่เหอพลันปรากฏเสียงดังสนั่น ม่านอาคมที่ป้องกันน้ำทะเลมาหลายร้อยปีเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง ท่าทางราวกับจะระเบิดได้ทุกเมื่อ
สายตาของทุกคนถูกวงเวทใหญ่ดึงดูดไว้ ทุกคนมองไปยังม่านแสง ม่านแสงเริ่มกระพริบและส่ายไหวอย่างรุนแรง นี่คือเหตุการณ์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ในใจแต่ละคนมีลางร้าย
มีเสียงดังวิ้ง ม่านแสงพลันปริแตกออกเป็นรูขนาดใหญ่กว้างห้าหกจั้ง น้ำทะเลไหลทะลักเข้ามาอย่างบ้าคลั่งและตกลงมากระแทกเบื้องหน้าราชันเหวินพอดี เขาหลบไม่ทัน ถูกน้ำทะเลที่พุ่ง งเข้ามาสาดจนเปียก แรงผลักขนาดยักษ์ผลักเขาออกไป มีรูโหว่ปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากรูโหว่ช่องแรกที่ปรากฏขึ้นบนม่านแสง น้ำทะเลเทเข้ามาในเมืองไป่เหออย่างบ้าคลั่ง พริบตา าเมืองเริ่มจมอยู่ใต้น้ำ
“แย่แล้ว!” ราชันสุ่ยจวินกำลังจะจับตัวจินเฟยเหยาไว้กลับถูกขัดจังหวะ เห็นน้ำทะเลทะลักเข้ามาในเมืองไม่หยุด ครู่หนึ่งวงเวทใหญ่ก็หายไปจนหมดสิ้น
เขาด่าทออย่างเดือดดาล หันหน้าพุ่งไปยังหอไห่เฉวียนโดยไม่สนใจจินเฟยเหยา ใต้หอไห่เฉวียนมีบ้านพักลับแห่งหนึ่ง วงเวทใหญ่ของวงเวทชมทะเลกางไว้ที่นั่น ไม่มีเนื้อมังกรเทพแล้ว เวลานี้จำเป็นต้องใช้ศิลาวิญญาณค้ำจุนไว้ ไม่เช่นนั้นรอจนน้ำทะเลเข้าท่วมหมด วงเวทชมทะเลจะหายไปจนเกลี้ยงเกลา
เผ่าปิศาจในเมืองไม่เป็นอะไรนัก น้ำทะเลท่วมเข้ามาเล็กน้อยยังทำให้พวกเขาจมน้ำตายไม่ได้ เพียงแต่การป้องกันของวงเวทชมทะเลหายไป ที่นี่ก็เป็นศูนย์บัญชาการใหญ่อันปลอดภัยให้เผ่าปิศ ศาจไม่ได้อีก สูญเสียสถานที่ที่สำคัญที่สุดอย่างเมืองไป่เหอไปจะกระทบถึงสถานการณ์การสู้รบในครั้งนี้ของเผ่าปิศาจ
เนื่องจากที่นี่ปลอดภัยที่สุด สิ่งของและสินค้าจำนวนมากล้วนสามารถส่งมาเก็บไว้ที่นี่ได้ แล้วค่อยแบ่งสรรไปแต่ละที่ตามข่าวสารที่ได้รับมา เผ่าปิศาจที่สังหารศัตรูในแนวหน้าเหล่านั้น นล้วนส่งคนในครอบครัวมาอยู่ที่นี่ เพื่อให้พวกเขาไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังและสามารถต้านทานทั้งสองเผ่าได้อย่างเต็มกำลัง
ดังนั้นจำเป็นต้องรักษาวงเวทชมทะเลไว้!
จินเฟยเหยาเห็นฉากนี้ก็ตะลึงงัน มังกรปิศาจบอกว่ามีศิลาวิญญาณค้ำจุนวงเวทใหญ่ไว้ชัดๆ แต่ตอนนี้ดูอย่างไรวงเวทใหญ่ก็ต้องถูกทำลาย แต่นางรู้สึกได้ว่าอานุภาพกดดันที่กดทับ บนร่างผ่อนคลายลง ท่าทางราชันสุ่ยจวินจะรีบไปยุ่งกับวงเวทชมทะเล ตนเองสามารถฉวยโอกาสนี้หลบหนีไปได้พอดี
คิดถึงตรงนี้ จินเฟยเหยาที่ไม่มีอานุภาพกดดันกดทับบนร่างก็พุ่งหัวปักเข้าไปในบ้านเปลือกหอย ครอบครัวราชันเผ่าพิภพรออยู่ในกล่องอย่างอกสั่นขวัญแขวน พวกเขาได้ยินความเคลื่อนไหวด ด้านนอกแล้ว รู้สึกว่าจินเฟยเหยาผู้นี้ขวัญกล้าเกินไป ร่วมมือกับนางแล้วซวยไปแปดชาติจริงๆ
ไม่รอให้พวกเขาบ่นว่า ก็เห็นเปลวเพลิงสีดำสายหนึ่งกระแทกเข้าประตูบ้านมา กล่องสีดำถูกเปลวเพลิงนี้ห่อหุ้ม แล้วพุ่งเข้าไปในอุโมงค์ใต้ดินที่อยู่ใต้โต๊ะ
พอจินเฟยเหยาเข้ามาในอุโมงค์ก็หมุนตัวมาต่อยหมัดทันที ไฟนรกพุ่งออกมาจากอุโมงค์ใต้ดิน จู่โจมเข้ากลางบ้านเปลือกหอย บ้านเปลือกหอยโดนหมัดนี้ของนางเข้าไปก็พังถล่มลงมาดังโครม ป ปะการังโขดหินทั้งหมดกดทับลงมาอุดอุโมงค์ใต้ดินที่ซ่อนอยู่ด้านล่าง
จากนั้นจินเฟยเหยาก็ใช้มือปิดกล่อง และหลบหนีไปข้างหน้าตามทางอุโมงค์อย่างรวดเร็ว นางเหาะออกมาระยะหนึ่งแล้วใช้มือโจมตีทำลายอุโมงค์ทางด้านหลัง นางเหาะออกจากพื้นที่พันหลี่ท ทางใต้ดินโดยไม่หยุดพักมาตลอดทาง เบื้องหน้าปรากฏทางตัน จินเฟยเหยาพุ่งชนด้านบนอย่างแรงก็พุ่งจากใต้ดินเข้าไปในทะเล
ที่นี่เผ่าพิภพทำทิ้งไว้โดยเฉพาะ ถ้าขุดทะลุหมดน้ำทะเลจะท่วมเข้ามา ถึงตอนนั้นน้ำจะทะลักเข้าเมืองไป่เหอ ดังนั้นพวกเขาจึงทิ้งไว้ที่ระดับความหนาเกือบสามจั้ง รอตอนจินเฟยเหยาม มาก็พุ่งชนเปิดออกเอง
จินเฟยเหยาทะลวงออกมาจากอุโมงค์ใต้ดิน ก็เห็นน้ำทะเลเปลี่ยนรูปเป็นน้ำวนท่วมเข้าอุโมงค์ใต้ดิน นางชะงักร่าง รีบนำเกาะลอยได้เล็กๆ ออกมาอย่างรวดเร็ว เกาะลอยได้พื้นที่กว้างสิบ หมู่ปรากฏขึ้นลอยในน้ำทะเล นางหิ้วกล่องที่มีครอบครัวราชันเผ่าพิภพโยนไปในเกาะลอยได้ จากนั้นใช้การรับรู้สั่งการพวกเสี่ยวหวงเสี่ยวหงและสั่งความราชันเผ่าพิภพ หลังเก็บเกาะลอ อยได้เล็กๆ ก็ใช้เวทหนีไฟนรกหลบหนีอีกครั้ง
ตามทิศทางบนกระจกสภาพโลกวิญญาณ จินเฟยเหยาหนีไปทางโลกวิญญาณจ้งถู่อย่างไม่คิดชีวิต เดินบนพื้นดินยังเร็วกว่าในน้ำทะเล นางว่ายพลางเพิ่มระดับความสูงในการดำน้ำพุ่งขึ้นไปบนผิว วทะเล นางเข้าใจดี ถ้าครั้งนี้หนีไม่รอดก็ได้แต่รอความตาย
ส่วนในเมืองไป่เหอก็โกลาหลยกใหญ่ รูโหว่ที่ปรากฏบนม่านแสงมีมากถึงร้อยรู น้ำทะเลไหลบ่าเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง บ้านส่วนใหญ่จมอยู่ใต้น้ำ ราชันสุ่ยจวินรีบเข้าไปในห้องลับด้านล่าง งหอไห่เฉวียน ใช้ป้ายผลึกชิ้นหนึ่งเปิดประตูบานใหญ่ที่มีฝุ่นจับอยู่เต็มไปหมด
ด้านในเป็นห้องกว้างและสว่างไสว เพดานห้องเป็นภาพห้วงนภาดารารายที่ฝังขึ้นจากหินผลึกและมุกจำนวนนับไม่ถ้วน บนพื้นปูหินผลึกเรียบลื่น เห็นได้ชัดว่าทั้งห้องเป็นผลึกโปร่งใสอั นงดงาม ตรงกลางห้องกลับวางแท่นหกเหลี่ยมที่เต็มไปด้วยลวดลายวงเวท วงเวทที่หดเล็กอันหนึ่งกระพริบอยู่บนนั้น บนแท่นเต็มไปด้วยศิลาวิญญาณ เวลานี้ทั้งแท่นกำลังกระพริบไม่หยุดตาม มไปด้วย เดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่างอาจจะดับสนิทได้ทุกเมื่อ
วงเวทบนแท่นเต็มไปด้วยรูโหว่เช่นเดียวกับวงเวทใหญ่ภายนอก ราชันสุ่ยจวินรีบก้าวเข้าไป ล้วงถุงเฉียนคุนใบหนึ่งออกมา เห็นเขาโบกมือ ในถุงเฉียนคุนก็มีศิลาวิญญาณชั้นบนจำนวนมาก ลอยออกมา ค่อยๆ ฝังลงบนแท่นหกเหลี่ยมแทนที่ศิลาวิญญาณที่เปลี่ยนเป็นสีเทา
หลังศิลาวิญญาณชั้นบนมาแทนที่ รูโหว่บนวงเวทค่อยๆ หดเล็กลงและค่อยๆ หายไปทีละรู สุดท้ายกลับคืนสู่สภาพเดิมอีกครั้ง จากนั้นราชันสุ่ยจวินใช้การรับรู้ถ่ายเทลงบนแท่นวิญญาณ ขับเค คลื่อนวงเวท กันน้ำทะเลที่ไหลบ่าเข้ามาออกไป
หลังจากกระทำทุกอย่างเสร็จสิ้น เขาก็ตวาดอย่างเดือดดาล “มนุษย์ปิศาจ! ปะปนเข้ามานานขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าจะหมายตาเนื้อมังกรเทพ ข้าเลินเล่อเกินไปจริงๆ”
นี่ได้แต่โทษว่าหลังจากแขวนมังกรเทพไว้ที่นี่ก็มีวงเวทใหญ่คุ้มครองตนเองจึงไม่มีใครหมายตามัน ทำให้เกือบจะเพิกเฉยการคงอยู่ของมัน แต่โชคดีที่ศิลาวิญญาณสามารถควบคุมวงเวทชมท ทะเลได้ ทำให้มันไม่สูญเสียประสิทธิภาพไปชั่วคราว เพียงแต่สิ้นเปลืองศิลาวิญญาณชั้นบนปริมาณมาก ทว่าหยุดใช้ศิลาวิญญาณในการค้าขายมาหลายปีแล้ว ตอนนี้คิดจะหาศิลาวิญญาณชั้นบนคงไม่ง่าย ยนัก
โชคดีที่นำสิ่งของของราชันเผ่าพิภพทั้งหมดมาเสริมทัพ ด้านในมีศิลาวิญญาณไม่น้อย ค้ำจุนครั้งหนึ่งได้หลายสิบปีก็ไม่มีปัญหา แต่เกรงว่าต้องแจ้งคนของแต่ละเผ่าให้พวกเขานำศิลาวิญ ญญาณชั้นบนมา ไม่เช่นนั้นวงเวทใหญ่จะไม่มีศิลาวิญญาณใช้งาน เผ่ามารและเผ่ามนุษย์สามารถโจมตีได้
เดินออกจากห้องเฝ้าวงเวท ราชันสุ่ยจวินก็ส่งคนไปเรียกคนกลุ่มหนึ่งมา เนื่องจากรู้ว่าหลังจากจินเฟยเหยาแปลงร่างความแข็งแกร่งจะพุ่งทะยานไปถึงขั้นแปลงจิต เขาจึงสั่งเผ่าปิศาจขั้น แปลงจิตหกคนให้พวกเขานำพวกขั้นกำเนิดใหม่ไปไล่ล่าจินเฟยเหยา
ราชันเหวินไม่นับว่าเป็นคนของราชันสุ่ยจวิน แต่ก็เสนอตัว ยินดีไปตามจับเอง
ดังนั้นกลุ่มเจ็ดคนนี้จึงพาผู้บำเพ็ญเซียนขั้นกำเนิดใหม่ยี่สิบกว่าคนออกจากเมืองไป่เหอ แยกย้ายกันตามล่าจินเฟยเหยา
บนท้องฟ้ามีลม ในทะเลมีกระแสน้ำ กลิ่นของจินเฟยเหยาถูกกระแสน้ำในทะเลพัดไป คิดจะหานางพบไม่ใช่เรื่องง่าย ทว่าแต่ละคนต่างมีวิธีการตามหาคนของตนเอง เดินวนรอบหนึ่งทั้งหมดก็มอง งไปยังทิศทางหนึ่งโดยไม่ได้นัดหมาย พวกเขาไล่ตามกระแสน้ำมาอย่างไม่ลดละ สาบานว่าต้องสังหารจินเฟยเหยาให้จงได้
“ผลุบ” จินเฟยเหยาโผล่ขึ้นมาจากทะเล ในที่สุดก็ว่ายออกมาแล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้นางคาดไม่ถึงคือด้านนอกยังเป็นฟ้าแลบฟ้าร้อง ทำให้นางเกิดความรู้สึกว่าวันเวลาย้อนกลับไปเหมือนวันที่นางเพิ่งมา
“เข้าใจผิดไปหรือไม่ หรือว่าที่นี่มีสภาพอากาศแบบนี้ทั้งวัน? มิน่าจึงสร้างเมืองอยู่ใต้ทะเล ถ้าสร้างบนทะเลคงถูกฟ้าผ่าจนเป็นเศษซากไปนานแล้ว” จินเฟยเหยาสาปแช่ง อากาศแบบนี้จะไม่ไป ปก็ไม่ได้ เพียงแต่ต้องหาทิศทางที่แม่นยำก่อน
นางนำกระจกสภาพโลกวิญญาณออกมาดูอย่างละเอียด กระจกสภาพโลกวิญญาณส่องแสงชี้ทิศทางที่ถูกต้องให้นาง จินเฟยเหยาเก็บกระจกแล้วนำทงเทียนหรูอี้ออกมา ติดยันต์ซ่อนกายบนร่างแล้ว เหาะขึ้นกลางอากาศ หลบหลีกสายฟ้าอย่างระมัดระวังรีบรุดไปโลกวิญญาณจ้งถู่
ตอนพวกราชันเหวินไล่ตามออกมา จินเฟยเหยาก็หลบหนีไปไกลมากแล้ว มองเมฆสายฟ้าที่สะสมตัวอยู่เหนือท้องทะเลมานานปี พวกราชันเหวินรีบเหาะตามไปในอากาศ ทว่าต้องหลบเลี่ยงสายฟ้าที่ ผ่าลงมาเป็นครั้งคราวเช่นเดียวกัน บินเร็วไม่ได้ อีกทั้งกลิ่นอายยิ่งจางลงทุกที สุดท้ายก็หาร่องรอยไม่พบ
“ทำอย่างไรดี แต่ละคนมีวิธีตามรอยหรือไม่?” เผ่าปิศาจเหล่านี้ได้แต่หยุดลง ดำอยู่ในทะเลหลบหลีกสายฟ้า พลางหารือเรื่องถัดไป
ทุกคนต่างส่ายศีรษะ อยู่ห่างไกลเกินไป ไม่มีทางตามรอยได้แล้ว ถ้าตอนนั้นลงคาถาบางอย่างบนร่างนางได้ ตอนนี้ยังสามารถหาพบ เพียงแต่ไม่ได้ทำเรื่องนี้ไว้ ตอนนี้ตามหาตัวยากแล้ว
ยามนี้ราชันเหวินพลันเอ่ยว่า “ทิศทางนี้ไปโลกวิญญาณจ้งถู่ บนทะเลเวิ้งว้าง ถ้านางไม่หาสถานที่หยั่งเท้าสักแห่งคงบินสะปะสะปะไม่ได้ ข้าเดาว่าเป้าหมายของนางคือโลกวิญญาณจ้งถู่ ตอนนี้ที่นั่นการสู้รบรุนแรงอย่างยิ่ง นางอาจจะไปหาเผ่ามนุษย์”
“แต่ตอนนี้เมืองไป่เหอขาดคนไม่ได้ ไปโลกวิญญาณจ้งถู่อย่างน้อยต้องใช้เวลาสามเดือน ไปกลับเพื่อตามหาคนเสียเวลาเกินไป อีกทั้งพวกเราจำเป็นต้องกลับไปคุ้มครองความปลอดภัยของเมืองไป่เ เหอ รั้งอยู่ในกองทัพเผ่าปิศาจไม่ได้” เผ่าปิศาจขั้นแปลงจิตที่เป็นลูกน้องราชันสุ่ยจวินลำบากใจอยู่บ้าง ภารกิจของพวกเขาคือคุ้มครองเมืองไป่เหอ ถ้าไปโลกวิญญาณจ้งถู่ต้องเข้าร่วม มในกองทัพเผ่าปิศาจแน่
ส่วนพื้นที่ของโลกวิญญาณจ้งถู่กว้างใหญ่มาก คิดจะหามนุษย์ปิศาจผู้นั้นให้พบเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับโชค จะกลับหรือจะไล่ตามไป ทำให้พวกเขารู้สึกตัดสินใจลำบาก
เวลานี้ราชันเหวินจึงเอ่ยปาก “เอาแบบนี้ พวกเจ้ากลับไปรายงานราชันสุ่ยจวิน ส่วนข้าพาคนของข้าไปโลกวิญญาณจ้งถู่ ภารกิจของข้าคือมาส่งองค์หญิงชีซิง ตอนนี้สมควรกลับไปแล้ว แค่ไปสั งหารศัตรูเบื้องหน้า ไม่ว่าโลกวิญญาณใดล้วนเป็นเช่นเดียวกัน ข้าจะไปเข้าร่วมกับทัพปิศาจที่โลกวิญญาณจ้งถู่ จุดประสงค์หลักคือตามหามนุษย์ปิศาจผู้นั้น อีกทั้งยังช่วยสังหารเผ่ามาร และเผ่ามนุษย์ได้ด้วย”
“ก็ดี พวกเราแยกกันตรงนี้ ถ้าราชันเหวินหาคนผู้นี้พบและชิงเนื้อมังกรเทพกลับคืนมาได้ ราชันเหวินโปรดเร่งรุดเอากลับมาส่งสักครา เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงความปลอดภัยของเมืองไป่เหอ อ โปรดจดจำไว้” ลูกน้องเผ่าปิศาจของราชันสุ่ยจวินอำลาราชันเหวินแล้วกลับเมืองไป่เหอ ส่วนราชันเหวินพาลูกน้องเผ่าปิศาจขั้นกำเนิดใหม่แปดคนเร่งรุดเดินทางไปยังโลกวิญญาณจ้งถู่
หลังจากเหาะไปทางโลกวิญญาณจ้งถู่ได้หนึ่งเดือนกว่าก็พ้นเขตเมฆสายฟ้า ราชันเหวินพลันพบว่ามีกลิ่นอายของจินเฟยเหยาลอยมาในสายลม “ฮึ ไปโลกวิญญาณจ้งถู่จริงๆ ด้วย ถึงขุดดินสามฉื่อก ก็ต้องหาตัวเจ้าออกมาให้ได้!”