ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง - บทที่ 171 มีสิทธิ์อะไรมาดูถูกเธอ
เป็นแบบนั้น ยืนอยู่ตรงนั้น เธอมองดูรูปถ่ายเหล่านั้นอย่างเงียบๆ การเต้นของหัวใจก็ราวกับรัวเร็วขึ้น
ไม่มีความโกรธเคืองดั่งเปลวเพลิงเหมือนเมื่อครู่ หนามแหลมตามร่างกายก็ราวกับถูกดึงออก ดวงตาเธออ่อนโยน ใบหน้าละมุน
เธอมองดูรูปถ่าย เขามองมาที่เธอ มองดูกลีบปากชมพูระเรื่อที่นุ่มราวกับดอกไม้ แก้มขาวอมชมพูอ่อนๆ พร้อมกับหน้าอกที่กระเพื่อมไหวตามจังหวะการหายใจเข้าออก……
เธอเป็นเพียงคนเดียว และคนคนเดียว!
ยิ่งไปกว่านั้น เขาคิดว่า เธอทำเสน่ห์ใส่เขาหรือเปล่า ถึงทำให้เขาหลงใหลในเรือนร่างของเธอแบบนี้ !
ความปรารถนาในครั้งนี้ เห็นชัดว่าทวีความรุนแรงอย่างมาก กลัวก็แต่ ร่างกายที่อัดแน่นนี้จะระเบิดออก!
ก้าวไปข้างหน้า ร่างกายที่สูงใหญ่ของเขาโน้มลง ในตอนที่เธอยังไม่ฟื้นคืนสติ ริมฝีปากบางที่น่าหลงใหลก็ได้ปิดกั้นลมหายใจของเธออย่างเบ็ดเสร็จ
แค่เพียงเท่านี้ มันไม่สามารถเติมเต็มความต้องการของเขาได้ ดันสะโพกให้ลอยผ่านกางเกงที่สวมใส่ ยกร่างของเธอขึ้น จากนั้น กดร่างของเธอแนบชิดเข้ากับผนังอย่างแน่นหนา
ทันใดนั้นก็ได้สติ เชอร์รีนขัดขืนอย่างสุดกำลัง ทั้งแตะทั้งถีบ
เขากลับยังคงจูบเธออย่างป่าเถื่อน สองมือกดมือเธอเอาไว้แน่น ยกขึ้นเหนือศีรษะ ขาที่เรียวยาวยื่นออกไป แทรกลงตรงกลางหว่างขาของเธอ
สองมือของเธออดไม่ได้ที่อยากจะข่วนไปที่ใบหน้าของเขา แต่ในตอนนี้ มือและเท้าของเธอถูกตรึงเอาไว้ บวกกับขาที่อ่อนแอ ทำให้เธอไร้กำลัง
และ ท่าทีของเขาก็ป่าเถื่อนรุนแรงมากขึ้น มือขวาที่จับข้อมือเธออยู่ก็สลับไปเป็นมือซ้าย จากนั้น มือซ้ายก็เชยคางเธอขึ้น ทำให้แนวสันกรามและคอของเธอแทบจะอยู่ในแนวเส้นตรง
ในจังหวะที่ดวงตาเริ่มมืดมน ใกล้จะหายใจไม่ออก เขาถึงได้ต่อลมหายใจให้เธอ และปล่อยเธอในที่สุด
เมื่อได้รับอิสระ เธอสูดหายใจเข้าปอดอย่างหนัก สายตาเย็นชาจ้องเขม็งมองเขา สองมือผลักออกอย่างแรง ผลักร่างที่ยังวางขาอยู่ตรงหว่างขาของเธอออก พูดช้าๆชัดๆว่า“รบกวนคุณออกัสเคารพตัวเองด้วย!”
เมื่อยืนนิ่งได้ ออกัสเช็ดน้ำใสที่เลอะอยู่ตรงมุมปากออกอย่างเชื่องช้า ดวงตาดำขลับเต็มไปความเจ้าเล่ห์“คุณเชอร์รีนก็มีอารมณ์ร่วมกับผม ไม่ใช่เหรอ ?”
ความโกรธผสมปนเปกับความอาย และเพราะความรู้สึกละอาย ทำให้แก้มของเชอร์รีนเห่อร้อน กัดฟันกร่อน แล้วพูดว่า
“กับเรื่องเมื่อครู่ ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงคนไหนก็มีอารมณ์ได้กันทั้งนั้น หรือต่อให้อีกฝ่ายจะไม่ใช่คุณออกัส ก็มีอารมณ์ด้วยอยู่แล้ว……”
เขามองดูใบหน้าที่พูดท้าทาย ทำให้เธอมีอารมณ์ร่วมกับตัวเอง จนรู้สึกอับอาย และโกรธตัวเอง
“คุณเชอร์รีนเคยทำกับผู้ชายคนอื่น ?”แววตาของชายหนุ่มแหลมคมขึ้นมา มืดมน และกักเก็บอารมณ์อย่างที่สุด
“นี่มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณออกัส!”เธอพูดเสียงนุ่ม เชอร์รีนควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจและความคิดของเธอ เพื่อให้ตัวเองกลับสู่ความสงบ
หลังจากนั้น เธอก็เปลี่ยนเรื่องกลับไปเรื่องเดิม “ ในเมื่อ คุณก็รู้อยู่แล้วว่าซารางเป็นลูกสาวของคุณ ทำไมตอนเจอกันครั้งแรก คุณต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้จักเธอด้วย?”
ในตอนนี้ พอมาคิดๆดู ตอนที่เขาเจอกับซารางตอนนั้น ท่าทีของเขาที่เจอซารางนั้นนิ่งสงบมาก สงบจนราวกับมองดูคนแปลกหน้า ไม่มีอาการสะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย
ในตอนนั้น เธอคิดว่าเขาเชื่อในคำโกหกของเธอแล้วจริงๆ คำโกหกที่ถูกปรุงแต่งขึ้นมา ดังนั้นจึงไม่สงสัยในสถานะของซาราง แต่ที่คิดไม่ถึงก็คือ เขารู้ตัวตนของซารางอยู่แต่แรกแล้ว ถึงได้แสดงออกมาให้เห็นแบบนั้น !
“ครั้งแรกที่เจอกัน ก็ย่อมไม่อยากให้คุณตื่นตกใจ และไม่อยากให้คุณเชอร์รีนกลัวจนพากันหนีเตลิด ดังนั้น ก็จึงวางแผนที่จะค่อยๆผูกมิตรกับเธอ แต่แล้ว ก็เห็นชัดว่าคุณเชอร์รีนไม่ให้โอกาสกันเลย ผมก็จึงต้องสร้างโอกาสขึ้นเอง……”
เขาเลิกคิ้วขึ้น น้ำเสียงทุ้มต่ำ ความสนใจทุกอย่างยังคงหมุนเวียนอยู่กับคำพูดเมื่อครู่ ค้างอยู่อย่างนั้น และยังหมกมุ่นกับมัน
แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ใช่คุณออกัส ก็มีอารมณ์ด้วย……
คำพูดที่พูดออกมาจากปากเล็กๆของเธอนั้น มันทำเขาอดไม่ได้ที่อยากจะจูบไปยังปากเล็กๆที่ทั้งน่ารังเกียจและเย้ายวนนั้นให้มันช้ำซะ!
เหอะ มีอารมณ์ เขายิ้มเยาะอย่างพูดไม่ออก เธอเคยไปลองกับผู้ชายที่ไหนอย่างนั้นเหรอ หรือว่า ความรู้สึกที่ได้รับมันลึกซึ้งกว่าเขางั้นเหรอ?
“ต่อให้จะเป็นแบบนั้น แต่สิทธิ์ในการเลี้ยงดูซารางก็ยังอยู่กับฉัน คุณพาซารางไปแบบนี้ ไม่ให้ฉันได้เจอกับซาราง มันเหมือนการจำกัดอิสรภาพ!”
เมื่อได้ยินดังนั้น ริมฝีปากบางของออกัสก็ยกหยักขึ้น พูดเสียงทุ้มว่า“ไม่ได้เจอกันสี่ปี ผมอยากจะอยู่ลำพังกับลูกสาว ไม่อยากให้ใครมารบกวน นี่ก็เรียกว่าจำกัดอิสรภาพด้วยเหรอ?”
“ก็ได้ แล้วที่คุณบอกว่าขออยู่กันตามลำพังนี่มันต้องนานแค่ไหน สามวัน ห้าวัน หนึ่งอาทิตย์ หรือครึ่งเดือน ยังไงก็ต้องกำหนดเวลา คุณบอกฉันมาถึงเวลาฉันจะได้ไปรับซาราง”
หายใจเข้าลึกๆ เชอร์รีนระงับความคิดที่ฟุ้งซ่านในใจ เพื่อให้ตัวเองสงบสติ และเย็นลง
ดวงตาเรียวของออกัสหรี่ลง มุมปากเหยียดออก พูดอย่างสบายๆว่า“อยู่ลำพังกันสักสี่ปี หลังสี่ปีแล้วสิทธิ์ในการเลี้ยงดู ถึงตอนนั้นค่อยมาคุยกัน……”
เขากำลังเล่นตลกกับเธอ!
เขาไม่คิดจะคืนซารางให้เธอ ความโกรธเคืองที่มีกักเก็บเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไป ฟุ้งพล่านขึ้นมา เชอร์รีนร้อนรนกระวนกระวาย“ออกัส คุณมันไอ้คนชั่ว!ไอ้สารเลว!”
คิ้วอดไม่ได้ที่จะกระตุกขึ้นเล็กน้อย เห็นชัดว่า คำพูดที่หยาบคายของลูกสาวเขา ล้วนเลียนแบบมาจากผู้หญิงคนนี้
คำด่าของสองคนแม่ลูกเหมือนกันไม่มีผิด
“ฉันจะไปแจ้งความคุณข้อหากักขังเด็ก!”
“ตามสบายครับคุณเชอร์รีน ผมก็ว่าจะไปที่ศาลด้วย เพื่อยื่นเรื่องขอเปลี่ยนแปลงสิทธิ์ในการดูแลเด็ก……” เขาจ้องมองเธอ ดวงตาลุ่มลึก
“สิทธิ์ในการเลี้ยงดูซารางเป็นของฉัน!นี่เป็นข้อตกลงก่อนหน้า ที่คุณเป็นคนรับปากกับฉันเอง คุณจะไม่รักษาคำพูดไม่ได้!” อารมณ์ของเชอร์รีนอดไม่ได้ที่จะเดือดดาลขึ้นมา!
“คุณเชอร์รีนมีหนังสือสัญญาไหม ? หรือมีลายเซ็นของผมไหม หืม?”
ในที่สุด เชื้อไฟแห่งความโกรธอันน้อยนิดของเธอก็ปะทุขึ้นมา เธอกัดฟันกร่อน“ไร้ยางอาย!หน้าไม่อายที่สุด!”
“ไม่เจ้าเล่ห์เป็นพ่อค้าไม่ได้ คำพูดนี้คุณเชอร์รีนเป็นคนพูดกับผมเอง ผมน้อมรับ นี่ก็ถือว่าเป็นบทเรียนให้กับคุณเชอร์รีนแล้วกันนะครับ……”
ออกัสจ้องมองเธอ คิ้วที่ได้รูปยกหยักขึ้น และดวงตาก็หรี่ลง
ลูกสาวของเขากำลังจะเป็นลูกสาวของคนอื่น ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะผู้หญิงอย่างเธอ!
“เหอะ คุณคิดว่าใครๆเขาก็หน้าด้านเหมือนคุณเหรอ?”เชอร์รีนโมโหจนอยากจะฉีกทึ้งไปที่ใบหน้าของเขา “ต้องทำยังไง คุณถึงจะยอมคืนซารางให้ฉัน?”
“คุณเคยนอนกับผู้ชายคนอื่น ? และมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกัน?”เขาไม่ได้สนใจคำพูดของเธอ ทำเพียงขมวดคิ้วมุ่น ดวงตาฉายแสงมืดมนออกมา
เธอผงะ ไม่ได้สนใจคำพูดที่ราวกับคนบ้าของเขา ทำเพียงกัดฟันแน่น และพูดขึ้นอีกครั้งว่า“จะให้ทำยังไงคุณถึงจะคืนซารางให้ฉันได้?”
“เคย หรือไม่เคย ? ”เขาหน้านิ่ง ราวกับหมกมุ่นอยู่แต่กับคำถามนี้
“เคยแล้วยังไง ไม่เคยแล้วยังไง ไม่ว่ายังไง คุณออกัสรู้คำตอบไปแล้ว จะทำอะไรได้ ?”เธอตอบกลับอย่างเย็นชา
เขา มีสิทธิ์อะไร มาถามคำถามแบบนี้กับเธอ ?
แล้วเขาล่ะ มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหยาดฝน ตลอดทั้งคืนร่วมหลับนอนกับหยาดฝนนับครั้งไม่ถ้วน ?
เมื่อได้ยินดังนี้ ออกัสริมฝีปากเรียวบาง ดวงตาสั่นไหวเล็กน้อย จ้องมองเธออย่างเย็นชา“ก็จริงนะ นอนตัวแข็งทื่ออยู่บนเตียงแบบคุณครูเชอร์รีน ผู้ชายที่ไหนจะมาสนใจ?”
เขามีสิทธิ์อะไรมาดูถูกเธอแบบนี้