ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง - บทที่ 180 ต้องการสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเด็กไหม
สิทธิ์ในการเลี้ยงดู เธอสู้เขาไม่ได้หรอก……
สุนันท์ยังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นและยังไม่ได้จากไป เธอยังมีคำถามที่อยากจะถามออกัส
ผ่านไปสักพัก ออกัสก็เปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาดและสบายตัวเดินออกมา หลังจากที่จิบน้ำอุ่นบนโต๊ะแล้ว ก็จึงพูดขึ้นว่า“ แม่มาได้ยังไง ?”
“คุณยายเป็นห่วงสุขภาพของแก ย้ำนักย้ำหนาว่าให้ฉันซื้ออาหารเสริมมาให้ แล้วนี่ เด็กคนนั้นเป็นใครกัน ? ”เธอแกล้งทำเป็นไม่รู้
โดยไม่รู้ตัว เสียงของเขาก็ทุ้มแล้วนุ่มเบา“ลูกสาวผม ”
“ลูกกับเชอร์รีน?”สุนันท์ถามขึ้นอีกครั้งทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว
“ครับ……”ตอบกลับเสียงเบา ออกัสก็นั่งลงบนโซฟา ขาเรียวยาวไขว่ห้าง ด้วยท่วงท่าที่สง่างาม
เป็นอีกครั้ง ที่สุนันท์ถามหยั่งเชิงต่อ“แล้วเชอร์รีนไม่ได้เรียกร้องอะไรจากแกเลยเหรอ เช่นพวกเงินทอง เมื่อสี่ปีก่อน เธอก็นับว่าถือตัวมาก!”
ดวงตาก็ฉายชัดขึ้นมา ออกัสจับได้ถึงช่องโหว่ในคำพูดของเธอ“เรื่องเมื่อสี่ปีก่อน แม่ปิดบังอะไรผม เธอถือตัวมาก คำพูดนี้หมายความว่ายังไง ?”
“เมื่อสี่ปีก่อนแกพาหยาดฝนไปต่างประเทศ ไม่ใช่ว่าให้ฉันเอาเช็คเปล่าไปให้เธอใบหนึ่งหรอกเหรอ ฉันให้เธอแล้ว เธอไม่ได้รับมันไว้ ใบหน้าเย่อหยิ่ง และสุดท้ายเช็คใบนั้นฉันก็ฉีกมันทิ้งไป”
เมื่อได้ยินดังนั้น หลังที่พิงพนักของออกัสก็เหยียดตัวหยัดตรง“ ทำไมเรื่องนี้ถึงไม่เคยพูดกับผมมาก่อนเลย ?”
“เธอไม่รับมันไว้ ฉันให้เธอยังไงเธอก็ไม่รับ อีกอย่างแกบินไปอเมริกาแล้ว นานวันเข้า ฉันก็เลยลืม ”
ดวงตาลุ่มลึกราววังน้ำวน ริมฝีปากบางของเขาเม้มกันจนเป็นเส้นตรง สีหน้าดูไม่ค่อยจะดีขึ้นมาเล็กน้อย
เขาคิดมาตลอดว่าสุนันท์ได้เอาเช็คให้เธอไปแล้ว ไม่คิดมาก่อนว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้
สี่ปี เธอเลี้ยงลูกมาจนโต แต่ไม่เคยใช้เงินเขาเลยแม้แต่บาทเดียว ความรู้สึกแบบนี้ แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่พอใจ!
ในตอนนี้ ซารางที่นอนตื่นก็เดินออกมาจากห้องนอน สองมือยังคงขยี้ตาอยู่ เดินมาอยู่ข้างๆออกัส เงยหน้าเล็กๆที่ยังง่วงงุน“คุณอา หม่ามี๊ล่ะ?”
“กลับโรงแรมไปแล้ว พรุ่งนี้จะมาหาหนู……” สีหน้าที่อ่อนโยน ออกัสพูดเสียงนุ่มนวล อุ้มร่างเธอขึ้นมาบนตัก “สวัสดีคุณย่าสิ……”
ยังคงง่วงงุนอยู่ ใบหน้าของซารางซบลงที่อกของเขา มองไปที่สุนันท์ แล้วเอ่ยทักทายอย่างเชื่อฟัง“คุณย่า”
หลังจากที่ได้ใช้เวลาร่วมกันในวันนี้ ในใจของเธอก็มีความรู้สึกที่เปลี่ยนไปกับออกัส เปลี่ยนเป็นค่อยๆเชื่อใจ ไว้ใจ และใกล้ชิดสนิทสนมกับเขามากขึ้น
ต่อหน้าออกัส สุนันท์ไม่กล้าที่จะเมินเฉยใส่ แม้ความสัมพันธ์ของเธอกับเชอร์รีนนั้นจะกระด้างกระเดื่อง กับเด็กแล้วก็จึงไม่ชอบขี้หน้าสักเท่าไร แต่ก็ไม่ได้รุนแรงเหมือนกับเชอร์รีน พูดเสียงเบา แล้วตอบกลับว่า“เด็กดี นี่ป้าบัว เอาลูกอมมาให้หน่อยสิ ”
ดวงตาของซารางเป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย ป้าบัวเพิ่งจะยื่นมาให้ ก็ถูกมือใหญ่ของออกัสคว้าเอาไว้“ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ห้ามกินลูกอมอีก……”
“ทำไมล่ะ?”เธอร้องท้วง
“อยากให้แมงกินฟันหมดปากเลยหรือยังไง ? ป้าบัว ล้างองุ่นมาให้สักสองสามพวงครับ……”
เมื่อเห็นดังนั้น สุนันท์ก็รู้สึกประหลาดใจ ความรู้สึกของออกัสที่มีต่อเด็กคนนี้ลึกซึ้งมากกว่าที่เธอคิด ดูแลห่วงใยกันมากถึงขนาดนี้เชียว
คิ้วยกหยัก ครั้งนี้ เธอไม่ได้ปิดบังอีก แต่ถามไปตรงๆว่า“ออกัส ลูก แกต้องการ หรือไม่ต้องการ?”
สิทธิ์ในการเลี้ยงดู เธออยากรู้มากจริงๆ ว่าเขาต้องการหรือไม่ต้องการ ?
ซารางยังเด็ก ฟังไม่เข้าใจ ถือองุ่นที่เก็บมากับมือกินมันอย่างเอร็ดอร่อย ปากเล็กๆขยับไปมา“หวานจริงๆ!”
และ ออกัสเองก็ฟังเข้าใจในความหมายที่เธออยากจะสื่อ ไม่ได้พูดอะไร ดวงตาลุ่มลึก ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน นิ้วเรียวยาวที่อบอุ่นก็เช็ดน้ำองุ่นที่ไหลเลอะออกจากมุมปากของเธอออก
“คุณอา กินสิ” ซารางยิ้มแย้มแล้วยื่นไปที่ริมฝีปากของเขา เมื่อเห็นเขาไม่ขยับ เธอก็ยิ้มร่าเริงมากขึ้น “ของตอนกลางวันมันเปรี้ยว แต่ครั้งนี้มันหวานจริงๆนะ ชิมดูสิ”
“จริงเหรอ?”คิ้วที่เรียวยาวของออกัสยกหยักขึ้นด้วยความสงสัย และพูดหยอกเธอ
“จริงๆ!”ศีรษะของซารางพยักหน้าราวกับกุ้งตัวเล็ก“หนูจะกินให้ดู คุณอาดูนี่ ”
ระหว่างที่พูด มือที่ขาวนวลก็เด็ดองุ่นขึ้นมาสามลูก จากนั้นก็เอาเข้าปากเล็กๆไปทั้งหมด ทำเอาหน้าเล็กๆกลมกลิ้ง น่ารัก และไร้เดียงสามาก เมื่อกินหมดปาก ก็ไม่ลืมที่จะเลียไปที่ริมฝีปากสีชมพู “เห็นไหม ครั้งนี้หวานมาก หนูไม่ได้โกหก!”
ริมฝีปากบางยกหยักขึ้น ออกัสโน้มตัวไปข้างหน้า ไปที่มือเล็กๆของเธอ แล้วกินองุ่นเข้าไป
“คุณอา ทำไมวันนี้หม่ามี๊ถึงไม่พาหนูไปด้วยล่ะ? พรุ่งนี้หม่ามี๊จะมาหาหนูจริง ๆ เหรอ ? ”
“อืม มา……”
เมื่อได้ยินดังนั้น ซารางก็โล่งใจหันมองไปรอบๆห้องนั่งเล่น“เจ้าดิ๊กล่ะ?”
“ไปอาบน้ำแล้ว เดี๋ยวเขาก็เอามาส่ง ”
ทำตัวลึกลับ เธอขยับชิดไปที่ข้างหูของออกัส แล้วกระซิบว่า“ บอกความลับให้คุณอาอย่างหนึ่ง ”
“ความลับอะไร?”
ดวงตาสีเข้มของเธอกลิ้งกลอกไปมา เสียงอ่อนโยน แต่จริงจังมาก“ ตอนนี้หนูไม่ได้เกลียดคุณอามากแล้ว!”
ประโยคง่ายๆแค่นี้ ก็เพียงพอที่จะขจัดความหมองเศร้าในใจของเขาออกไปได้ ริมฝีปากบางยกหยักขึ้นอย่างอ่อนโยน
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของคนทั้งสอง คิ้วของสุนันท์ก็ขมวดแน่นมากขึ้นไปอีก แม้เขาจะไม่ได้ตอบ แต่เธอก็มองออก ออกัสรักและตามใจเด็กคนนี้มาก
อย่างไรเสีย ไม่ว่าเขาจะอยากได้สิทธิ์ในการเลี้ยงดูเด็กหรือไม่ สำหรับเธอแล้วก็ไม่ได้สลักสำคัญอะไร
ในตอนนี้เชอร์รีนก็เป็นภรรยาเก็บของตระกูลสิริไพบูรณ์ แค่เด็กคนหนึ่ง เธอไม่เก็บเอามาใส่ใจหรอก
“คุณย่า จะกินองุ่นด้วยไหมคะ ?” ซารางมองไปที่สุนันท์ หยิบองุ่นขึ้นมาพวงหนึ่ง แล้วยื่นไปให้อย่างจริงใจ ด้วยใบหน้าที่ภาคภูมิใจ “คุณย่า หนูเป็นคนเก็บองุ่นมาด้วยตัวเองเลยนะ!”
สุนันท์หัวเราะ แต่ไม่ได้กินมัน หยิบองุ่นแล้ววางกลับไปในจาน พูดปากไม่ตรงกับใจว่า “เก่งจังเลย !”
“ขอบคุณค่ะคุณย่า”เธอปากหวาน และมีมารยาท ขนตางอนยาวพลิ้วไสว ดูแล้วน่ารักมากจริงๆ
ด้วยความเกลียดชังที่มีต่อเชอร์รีน กับซารางแล้ว สุนันท์ก็รู้สึกชอบเธอไม่ลงจริงๆ แม้ว่าจะเป็นหลานสาวของเธอ แต่เด็กน้อยก็ไม่ได้เติบโตมากับเธอ ดังนั้นก็จึงไม่ได้ผูกพันด้วยมากเท่าไร
ซารางรู้สึกคิดถึงเจ้าดิ๊ก เฝ้ารอเจ้าดิ๊กกลับมาอยู่ตลอด แต่รออยู่นานก็ไม่เห็นแม้เงาของเจ้าดิ๊ก เอียงศีรษะน้อยๆ แล้วเธอก็ผล็อยหลับไปด้วยความง่วงงุน
สุนันท์ถามว่า“ หน้าของหยาดฝนเป็นอย่างไรบ้าง?”
“แม่มีรูปถ่ายไม่ใช่เหรอ ?”เขาโบกมือ ส่งสัญญาณให้ป้าบัวอุ้มซารางไปที่ห้อง
ป้าบัวรีบเดินเข้ามา อุ้มซารางขึ้นอย่างระมัดระวัง “คุณออกัส ที่ห้องคุณ หรือห้องของคุณหนูน้อยคะ?”
“ห้องผม……”
หลังจากที่ป้าบัวเดินไปแล้ว สุนันท์จึงพูดว่า “รูปมันไม่ชัด ฉันเห็นรอยแผลเป็นที่แก้มของเธออยู่เล็กน้อย”
“มีรอยแผลเป็น ไม่ได้ลึกมาก……”
เมื่อได้ยินดังนั้น สุนันท์ก็ถอนหายใจยาว“เออนี่ ได้ยินหยาดฝนบอกว่า เธอกับคู่หมั้นของเธอถอนหมั้นกันแล้วเหรอ?”
หยิบกุญแจรถที่วางอยู่บนโต๊ะ ออกัสก็ตอบอืมเสียงเบาจากลำคอ ลุกขึ้นยืน“ แม่ ผมขับไปส่งที่บ้านตระกูลสิริไพบูรณ์……