ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง - บทที่ 188 อัตราความสำเร็จต่ำมาก
“แต่ว่าก็น่ารังเกียจจริงๆ นั่นแหละ หลายปีนี้ไม่มีแม้แต่โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ แต่ก็ยังจะใช้จดหมายแทน นี่มันแสดงให้เห็นว่าเธอมีหัวใจที่บริสุทธิ์มากเลยไม่ใช่เหรอ?”เชอร์รีนยักไหล่แล้วหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา
ตอนที่ 2 คนยังคุยกันอยู่ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้น หลังจากนั้นก็เห็นหัสดินเดินเข้ามา ใบหน้าที่หล่อๆ ของเขาที่ยิ้มออกมา “ภรรยา กินข้าวเช้าหรือยัง?”
ยู่ยี่ยืนขึ้นแล้วก็ปากองจดหมายพร้อมกับสลิปธนาคารใส่หน้าเขา ร่างกายเธอสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ “ฉันต้องการคำอธิบาย หัสดิน!”
หัสดินมองลงไป แล้วสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ว่าเห็นไม่ชัดเท่าไหร่นัก “นี่เธอค้นข้าวของฉันเหรอ?”
“ใช่”ยู่ยี่จ้องหน้าเขา แล้วก็พูดออกมา “รู้สึกว่าฉันเอาของมีค่าของนายไปโดยพลการ ก็เลยโมโหงั้นเหรอ?”
“เปล่า ฉันจะโมโหได้ยังไง ภรรยาจะค้นข้าวของสามีก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องและเหมาะสมอยู่แล้ว แล้วฉันจะโมโหได้ยังไงกัน?”หัสดินรีบเก็บสีหน้าในทันที แล้วหัวเราะออกมาเบาๆ เขายื่นมือไปโอบไหล่ของยู่ยี่ ดูหวานและสนิทสนมกันผิดปกติ
ยู่ยี่สะบัดแขนของเขาออกในทันที เธอรู้สึกรังเกียจ “สลิปธนาคารนี่มันเรื่องอะไรกันแน่? ทำไมนายต้องโอนเงินให้เธอด้วย หัสดิน!”
สามารถเห็นได้ชัดเจนจากสลิปธนาคารว่า หลายปีมานี้ เขาโอนเงินให้เรนนี่ทั้งหมด 4 ก้อน ถึงเงินมันจะไม่ได้มากเท่าไหร่นัก แต่มันก็มากกว่า 1 แสนขึ้นไป
ถึงแม้ว่าเชอร์รีนจะเป็นห่วงยู่ยี่ แต่ว่าเธอก็รู้ดีว่าการที่สามีภรรยาทะเลาะกัน เธออยู่ด้วยคงไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก
เชอร์รีนลุกขึ้นแล้วก็บอกลายู่ยี่ หลังจากนั้นเธอก็หันไปมองหัสดิน “หวังว่านายจะอธิบายให้ดี อย่าให้ฉันเห็นยู่ยี่ร้องไห้ หรือว่าได้ยินเรื่องที่น่ารังเกียจอะไรออกมาจากปากของเธอ!”
พอพูดจบ เธอก็หันหลังเดินออกจากคอนโดไป พอเดินออกมาจากลิฟต์โทรศัพท์ก็ดังขึ้น องค์ชายเป็นคนโทรมา
“เชอร์รีน พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของผม คุณสามารถพาซารางออกมาด้วยได้ไหม? ไม่ได้เจอกันตั้งนานแล้ว ผมคิดถึงเด็กน้อยคนนั้นเหลือเกิน”
เชอร์รีนยิ้มแล้วตอบว่า “ได้สิคะ คุณนัดสถานที่มาเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะพาซารางไป”
หลายปีมานี้ สามารถพูดได้ว่าองค์ชายเห็นซารางเติบโตขึ้นทีละปี ทีละปี ในสายตาของซารางเขาได้กลายเป็นพ่อของเธอไปแล้วด้วยซ้ำ
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย พรุ่งนี้ต้องให้ผมไปรับคุณซารางไหม?”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันพาซารางไปเองได้ คุณไม่ต้องมาหรอก……”เชอร์รีนพูดต่อ “ถ้าเกิดว่าคุณเลือกสถานที่ได้แล้วก็โทรมาบอกฉัน เด็กน้อยนี่ก็คิดถึงคุณเหมือนกัน อืม พรุ่งนี้พวกเราจะไปให้ตรงเวลาค่ะ……”
“เออใช่สิ องค์ชาย คุณส่งเบอร์โทรศัพท์ทนายมาให้ฉันหน่อยสิ วันนี้ฉันมีเวลาพอดีเลย จะไปคุยกับเขาซะหน่อย”
ตอนนี้เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะยื่นคำร้องเปลี่ยนสิทธิ์เลี้ยงดูต่อศาล ดังนั้นก่อนเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้น เธอต้องเตรียมตัวไว้ก่อน
“โอเค เดี๋ยวผมจะส่งเบอร์ให้คนเดี๋ยวนี้”องค์ชายวางสายไป
ผ่านไปไม่กี่นาที ก็มีเสียงข้อความดังขึ้น เชอร์รีนดูทันทีว่ามีข้อความส่งมา เธอก็เปิดอ่านแล้วก็โทรไปหาเบอร์นั้นทันที
แล้วก็ประจวบเหมาะ ช่วงบ่ายวันนี้ทนายคนนั้นไม่ได้เข้าไปทำงาน หลังจากได้ยินในสิ่งที่เธอพูด ก็ตกปากรับคำ แล้วก็นัดกันที่ร้านกาแฟใกล้ๆ หลังจากรออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง วีระก็เดินเข้ามาหาเธอ
ผู้ชายวัยกลางคน ดูแล้วคาดว่าอายุน่าจะประมาณ 40 กว่าปี สวมใส่เสื้อผ้าสบายๆ ใส่เสื้อแขนสั้นสีขาวและกางเกงขายาวสีดำ มันทำให้เขาดูเป็นคนมีความสามารถและเอาจริงเอาจังอยู่ไม่น้อยเลย
ทั้งสองคนนั่งคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง หัวข้อก็คือสิทธิ์การเลี้ยงดูของซารางนั่นเอง
ทนายวีระก็ไม่ได้ปิดบังเธอ เพราะว่าฝ่ายตรงข้ามคือคุณชายออกัส เขาก็เลยบอกให้เธอต้องเตรียมใจเอาไว้ เพราะอัตราความสำเร็จที่จะชนะในเรื่องนี้มีแค่ประมาณ 30% เท่านั้น
30% มันถือว่าน้อยมากเลย……
ตอนที่ออกมาจากร้านกาแฟก็เป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้ว อารมณ์และความรู้สึกของเชอร์รีนได้รับผลกระทบเล็กน้อย อัตราความสำเร็จนั้นมันต่ำกว่าที่เธอคาดการณ์เอาไว้มาก
แต่ว่าเธอก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้นต่อ รีบกลับไปที่คอนโดในทันที ซารางกำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา พอเห็นเธอเดินเข้ามา ก็ทิ้งรีโมททีวี แล้วก็บิดตูดน้อยๆ ของเธอวิ่งเข้าห้องไป แล้วก็มีเสียงปิดประตูดังปัง
ป้าบัวกำลังทำความสะอาดห้องนั่งเล่นอยู่ แล้วก็พูดอย่างไม่มีทางเลือก “วันนี้คุณเชอร์รีนออกไปตอนที่คุณหนูน้อยยังไม่ตื่น เธอไม่ชอบที่คุณไม่พาเธอไปด้วย ตอนนี้ก็เลยโกรธอยู่น่ะค่ะ”
เชอร์รีนยิ้ม “ขี้โมโหจริงๆ ”
“เด็กเล็กก็เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ พอตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอคุณเชอร์รีน ก็เอะอะโวยวายบอกว่าจะเอาหม่ามี๊ แต่พอมีการ์ตูน ก็ถึงได้เบนความสนใจไปได้” ป้าบัวก็ยิ้มตามเหมือนกัน
“ป้าบัวไปทำงานต่อเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันไปง้อก่อน”เชอร์รีนหัวเราะเบาๆ ระหว่างที่พูดอยู่นั้นเธอก็เดินไปถึงหน้าประตูแล้วก็เคาะประตูเบาๆ เธอพยายามทำเสียงให้ใหญ่ เลียนแบบเสียงของหมีแบมเบิล “แบร์ นี่ฉันเองแบมเบิล วิค คนตัดไม้มาแล้ว รีบมาช่วยฉันได้เร็ว!”
แต่ว่าซารางที่ชอบเล่นเกมนี้มาโดยตลอดมีท่าทีเฉยเมย เห็นได้ชัดว่าเด็กน้อยคนนี้กำลังโกรธ
“ซาราง ทำไมลูกไม่เปิดประตูละ? ตอนนี้แม่จะไปหมักไวน์แล้ว อยากมาช่วยแม่หน่อยไหม?”เธอพยายามเกลี้ยกล่อมสาวน้อย
แล้วก็ได้ผล หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ประตูก็เปิดออกเป็นช่องเล็กๆ ซารางก็ยื่นหัวเล็กๆ ออกมาจากช่องนั้น “จะไปทำไวน์เหรอคะ?”
“อืม อยากไปด้วยกันไหม?”จุดอ่อนของเด็กน้อยคนนี้อยู่ที่ไหน เธอก็ย่อมรู้ดีอยู่แล้ว ไม่มีใครรู้จักลูกของตัวเองดีไปกว่าแม่หรอก
“ไป!”ประตูเปิดออกมาในทันที ซารางพุ่งออกมาอย่างตื่นเต้น เหมือนกับว่าตอนนี้ลืมสิ่งที่กดไปหมดแล้ว “หม่ามี๊ รีบไปเถอะ พวกเราไปทำไวน์กัน!”
พอพูดจบ มือเล็กๆ ที่ขาวเนียนของเธอก็กุมมือของเชอร์รีนเอาไว้ แล้วก็พาออกไปข้างนอกอย่างใจร้อน
เชอร์รีนสอนซารางอย่างอดทน ให้เธอแช่องุ่น แล้วทั้งสองคนก็ล้างองุ่นอย่างระมัดระวัง ซารางก็เลียนแบบเธอได้เหมือนมาก
ทำตามหม่ามี๊
ยังไม่ทันจะถึงหกโมง ออกัสก็กลับมาถึงคอนโด แล้วก็มองป้าบัวที่กำลังทำความสะอาดห้องรับแขกอยู่ เขาเลิกคิ้วและถามว่า “พวกเธอล่ะครับ?”
ป้าบัวรู้ในทันทีว่าพวกเธอที่เขาหมายถึงนั่นคือใคร ก็เลยตอบว่า “อยู่ในห้องครัวค่ะ”
เขาหันหลังไป และขายาวๆ ก็เดินไปในห้อง คู่แม่ลูกกำลังนั่งหันหลังให้เขาอยู่ เธอสองคนนั่งอยู่ที่พื้น ไม่รู้ว่ากำลังยุ่งอะไรกันอยู่
พอได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา ซารางก็หันหน้าไป พร้อมกับยิ้มแล้วพูดว่า “คุณลุง หนูกับหม่ามี๊กำลังจะหมักไวน์กันค่ะ อยากมาทำด้วยกันไหม?”
ออกัสเหลือบมองแผ่นหลังที่ยังคงนั่งหันหลังให้เขาอยู่ เขาขยับริมฝีปากบางด้วยความสงสัย “ไวน์ที่หม่ามี๊ของหนูหมักมันดื่มได้เหรอ?”
“ดื่มได้! หม่ามี๊หนูบอกว่ามันอร่อยมากด้วย!”ซารางมั่นใจในหม่ามี๊ของตัวเอง เชื่อใจในตัวเธอเป็นอย่างมาก “คุณลุงก็มาด้วยกันสิคะ”
ดวงตาของเขายังจับจ้องไปที่ผู้หญิงที่ไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง แล้วเขาก็ค่อยๆ เดินเข้าไป น้ำเสียงเด็กน้อยของซารางเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น เธอหยิบองุ่นพวงหนึ่งขึ้นมาโชว์ต่อหน้าเขา “คุณลุงเดี๋ยวหนูสอนค่ะ ต้องทำแบบนี้นะคะ แล้วก็แบบนี้ ต่อมาก็แบบนี้……”
การสาธิตที่ไม่เหมือนใครทำให้ออกัสขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วก็ดึงร่างเล็กๆ ของเธอมากอดไว้ในอ้อมแขน “มาสอนปะป๊าเร็ว……”
ซารางหยิบองุ่นพวงหนึ่งยื่นให้เขา แล้วก็ทำท่าทางจริงจังเหมือนคุณครูตัวน้อยๆ “หม่ามี๊บอกว่าจะทำให้เปลือกองุ่นนิ่มไม่ได้ แล้วก็อย่าล้างที่เป็นสีขาวออก”