ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง - บทที่ 217 คุณอธิบายหน่อยได้ไหม
หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา มองดูหมายเลขที่แสดงขึ้นมาบนหน้าจอแล้ว คิ้วของหัสดินขยับ แล้วมองมาทางยู่ยี่โดยจิตใต้สำนึก
ยู่ยี่กำลังเอาเสื้อคลุมให้ซาราง กลัวว่าเธอจะหนาว ไม่ได้สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวนี้
ดังนั้นเขาจึงถอยหลังไปสองก้าว แล้วกดรับสาย : “ฮัลโหล”
“หัสดิน ฉันจะถึงสนามบินแล้วนะคะ ตอนกลางวันหลังจากที่โทรหาแล้ว จู่ๆฉันก็คิดถึงพี่ขึ้นมา ก็เลยซื้อตั๋วเครื่องบินจากเมืองจัสมินกลับมาที่เมืองs แม้แต่ตัวฉันเองก็คิดว่ามันกะทันหันเกินไปเลย พี่คงจะไม่ได้ยุ่งอยู่ใช่ไหม ฉันไปที่โรงแรมนะ”
“เธออยู่ที่สนามบินแล้วกัน เดี๋ยวพี่ไปรับเธอเอง” หัสดินไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วสุดท้ายจึงเอ่ยขึ้น
จากนั้นเขาก็เดินไปทางด้านหน้า แล้วยื่นกุญแจรถส่งให้ยู่ยี่ : “ที่รัก ผมไปรับลูกค้าที่สนามบินก่อนนะ คุณขับรถกลับบ้านก่อนเลย”
“กลับกี่โมงคะ?”ยู่ยี่รับกุญแจรถมา
“ตอนนี้ยังไม่แน่ใจเลยครับ แต่ดึกสุดก็คงจะไม่เกินสี่ทุ่ม รักคุณนะ”ระหว่างนั้นเขาก็โน้มตัวลงมาประทับจูบลงบนริมฝีปากของยู่ยี่ : “ขับรถดีๆนะ”
“คุณอาเขิน คุณอาเขิน” ซารางหัวเราะคิกคัก
ยู่ยี่ผลักเขาออก แล้วเอาผมทัดหู ยิ้มพลางเอ่ยขึ้น : “ตรงนี้มีเด็กอยู่นะคะ คุณไปเถอะ”
เรื่องงาน เธอไม่เคยถามเขามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว นั่นเป็นอิสระและสิทธิของผู้ชาย เธอไม่อยากจะผูกมัดเขาเอาไว้แน่นเกินไป
จากนั้น หลังจากที่ทั้งสามคนทักกันแล้ว ยู่ยี่ก็ขับรถออกไป ส่วนเชอร์รีนที่จะอุ้มซารางไปนั้น แต่ซารางไม่ยอม เกาะติดออกัสอยู่ คุณอาบอกว่าพรุ่งนี้จะไปเล่นปล่อยว่าวกัน!
“ถ้าอย่างนั้นคุณพาเธอไปด้วยก็แล้วกันค่ะ รอฉันกลับไปที่เมืองทะเลหทัยก่อน แล้วค่อยไปรับเธอกลับ” เห็นแบบนี้แล้ว เชอร์รีนจึงเก็บมือกลับมาแล้วเอ่ยขึ้น
“อืม ไปด้วยกันก่อนแล้วกันครับ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณด้วย แล้วก็ที่คอนโดก็ยังมีเสื้อผ้าของคุณกับซารางอยู่ด้วย”เขาเหลือบมองเธอ เผยให้เห็นแสงที่ดูลึกซึ้งออกมา
มีเสื้อผ้าและกระเป๋ายังอยู่ที่คอนโดเขาจริงๆ เธอพยักหน้าลงแล้วรับตัวซารางมา จากนั้นก็ขึ้นรถ แล้วกลับไปยังเมืองทะเลหทัย ไม่มีเวลาที่จะมาเอาเพียงลำพังอีกแล้ว
สนามบิน
รองเท้าส้นสูงสีทอง รางที่สวมใส่ชุดกระโปรงชีฟองยาวถึงข้อเท้า รวบผมเป็นหางม้าเอาไว้ แกว่งไปแกว่งมา เผยให้เห็นหน้าผากใสๆ ในมือกำลังลากกระเป๋าสัมภาระเอาไว้
ทันใดนั้นเอง โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เธอรับด้วยใบหน้าดีใจ : “หัสดิน”
“ฮุนไดสีดำ ทะเบียนรถ6330”หัสดินเอ่ยขึ้น
วางสายไปแล้ว เธอก็มองไปรอบๆ เมื่อเห็นรถฮุนไดสีดำแล้วจึงรีบเดินเข้าไปทันที เปิดประตูรถ แล้วขึ้นไปนั่งตรงที่นั่งข้างคนขับ
ฮุนไดสีดำธรรมดาๆ หากอยู่ในบรรดารถจำนวนมากนั้นก็ธรรมดาเสียจนไม่มีใครมอง แต่ราคานั้นก็สองสามแสนเช่นกัน
คงไม่มีใครคิดว่าลูกชายของตระกูลภูษาธรที่มีชื่อเสียงแห่งเมืองsจะขับรถแบบนี้ ใครจะไปคิดกัน?
ในที่สุด รถก็มาจอดอยู่ตรงหน้าคฤหาสน์หลังหนึ่งในชานเมือง ห่างจากตัวเมืองมาก อีกทั้งยังเป็นคฤหาสน์ที่แยกออกมาเดี่ยวๆอีกด้วย
เดินเข้ามาในคฤหาสน์แล้ว หัสดินก็ล้มตัวลงบนโซฟาอย่างขี้เกียจ : “ต่อไปกลับมาเมืองsก็มาพักอยู่ที่นี่นะ กุญแจ”
“นี่เป็นชื่อของพี่เหรอคะ?” เรนนี่รับมา
“ไม่ใช่หรอก แต่ว่าเป็นของพี่น่ะ”หัสดินถอดเสื้อสูทนอกออก ถึงแม้ว่าในรถจะเปิดแอร์ ก็ยังมีเหงื่อออกอยู่ดี
“ไปอาบน้ำก่อนเถอะค่ะ เห็นเหงื่อพี่แล้ว เดี๋ยวจะอบตายซะก่อน” เรนนี่หัวเราะ ตรงแก้มมีรักยิ้มปรากฏขึ้น เธอบีบกล้ามเนื้อตรงเอวของเขาเบาๆ
หัสดินตั้งใจที่จะเอาร่างของเขาขยับไปถูแนบเธอ : “มา ให้พี่ลองดูหน่อยซิว่าจะอบให้เธอตายไปเลยได้ไหม”
“เอาล่ะ รีบไปค่ะ อย่าดื้อ” เรนนี่ผลักเขา แล้วทำเป็นหน้ามุ่ย
เหงื่อเต็มตัวนั้นรู้สึกไม่สบายอยู่จริงๆ หัสดินลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ห้องน้ำ ตอนที่เดินออกมานั้น ก็สวมใส่เสื้อเชิ๊ตและกางเกงสูท
เรนนี่เองก็อาบน้ำแล้วเช่นกัน ขาขาวเนียนเป็นความรู้สึกที่แตกต่างออกไป เธอนั่งลงบนโซฟา แล้วตบลงข้างตัวเอง พลางกระพริบตาลง : “มานอนนี่สิคะ เดี๋ยวฉันนวดให้ เพิ่งเรียนมา”
รอยยิ้มขี้เกียจและดูไม่เป็นทางการ ศีรษะของหัสดินหนุนลงบนขาของเธอแทนหมอน แล้วรับความพอใจจากการนวดนี้ ความรู้สึกสบายที่พูดไม่ออกนี้แผ่ขยายไปทั่วร่างกาย ดวงตาหรี่ลง
เรนนี่ก้มศีรษะลงเล็กน้อย เสื้อแขนยาวของเธอเลื่อนลงมา ทัศนียภาพของหน้าอกตรงหน้าเผยออกมา ชุดชั้นในสีแดงกับหน้าอกกลมขาวเนียน
หัสดินกลืนน้ำลาย แล้วลุกขึ้น แขนยาวโอบร่างของเธอเข้ามากอดเอาไว้ มือใหญ่โอบอยู่ที่เอวของเธอ แล้วจูบเธอ
เสียงที่ดังชัด รองรับน้ำหนัก แขนเรียวของหญิงสาวคล้องอยู่ที่คอของชายหนุ่ม จูบกันอย่างร้อนแรง และไม่อยากแยกออกจากกัน
จูบกันอยู่แบบนี้ โดยทั้งสองคนไม่มีใครยอมปล่อย จนกระทั่งหลังจากนั้นเป็นเวลานาน หัสดินจึงปล่อยเธอ มองเวลาแล้ว ตีลงบนแก้มของเรนนี่เบาๆ แล้วจูบลงบนริมฝีปากของเธออีกครั้ง : “ไปแล้วนะ”
“สูทค่ะ” เรนนี่ไม่ได้รั้งเขาด้วยเช่นกัน ยื่นสูทส่งให้ แล้วยืนอยู่ตรงประตูคฤหาสน์ มองดูเขาจากไป
ออกมาจากคฤหาสน์ แล้วนั่งลงบนรถฮุนไดสีดำ หัสดินสตาร์ทรถ แล้วใบหน้าของยู่ยี่ก็ลอยแวบเข้ามาในหัวเขา เขาขมวดคิ้วขึ้น เป็นความรู้สึกที่มองไม่ชัดเจนนัก
การออกนอกลู่นอกทางครั้งแรกของผู้ชายมักจะตำหนิตัวเอง ละอายใจ และไม่สงบ….
ครั้งที่สอง ถึงแม้ร่างกายจะไม่ได้ใจร้อน แต่จากจิตใจแล้ว ความหยิ่งในศักดิ์ศรีตัวเองและความละอายใจได้หายไปแล้ว มีเพียงแค่ความระแวดระวังเพียงเท่านั้น
รอหลังจากนั้นแล้ว ก็จะรู้สึกได้ถึงความสุขและความพึงพอใจที่ได้อยู่ด้วยกัน
บางครั้ง ก็เป็นการถลำลงไปทีละขั้นๆ
……….
คอนโด
ซารางหลับไปแล้ว หยิบกระเป๋า แล้วจัดเก็บเสื้อผ้าสองสามชุดเสร็จเรียบร้อยแล้ว เชอร์รีนก็จะออกมา
และตอนที่ผ่านห้องรับแขก ออกัสนั่งอยู่บนโซฟา เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ลุกขึ้น ร่างสูงยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ขวางทางเธอเอาไว้
“คุณทำอะไรคะ?”เชอร์รีนขมวดคิ้วขึ้นแล้วมองดูการกระทำเช่นนี้ของเขา
ไม่มีคำพูดใดๆ คิ้วเรียวขยับเล็กน้อย หลังจากนั้นพักหนึ่ง ฝ่ามือใหญ่ของเขาก็แบออก ในนั้นมีแหวนเพชรวงหนึ่งวางอยู่ เพชรเม็ดใหญ่ แวววาวจากแสงไฟที่ส่องมา สวยงามยิ่งนัก
เธอมองเขาอย่างไม่เข้าใจ : “ออกัส รบกวนคุณอธิบายถึงเจตนาของคุณตอนนี้หน่อยได้ไหมคะ?”
แววตาที่ลึกซึ้งจ้องมองเธอ ดวงตาของออกัสหรี่ลง และรูม่านตาของเธอก็หดลงแบบนั้น…..
แสงที่สะท้อนอยู่ในดวงตานั้นร้อนและหนักแน่น เชอร์รีนมองแล้วอดที่จะขมวดคิ้วขึ้นสูงกว่าเดิมไม่ได้
เขา…..เขา…..เขากำลังจะทำอะไรกันแน่?
“การแต่งงานเมื่อสี่ปีก่อน ไม่มีแหวนเพชร ไม่มีชุดแต่งงาน ไม่มีงานแต่งงาน และยิ่งไม่มีคำอวยพรจากแขก และสี่ปีต่อมาผมอยากจะเอาแหวนเพชรวงนี้ให้กับคุณอีกครั้ง สวมลงบนนิ้วของคุณ……”
น้ำเสียงที่ดึงดูดทุ้มต่ำ จ้องมองเธออย่างไม่กระพริบตา
วันนี้ได้มาเห็นงานแต่งงานของดนัยกับนาโนกับตาตัวเอง เห็นตอนที่ดนัยให้คำสาบานและมีสิทธิที่จะครอบครองโอบกอดนาโนเอาไว้ด้วยสีหน้าท่าทางที่สวยงดงามตระการตาเป็นอย่างมาก
ทันใดนั้นเอง หัวใจของเขาราวกับถูกปลุกปั่นขึ้นมา ดวงตามองไปยังร่างของเธอที่อยู่ในชุดเพื่อนเจ้าสาวสีขาว มีความคิดที่บ้าคลั่งรุนแรงพรั่งพรูออกมา
เขาเองก็อยาก ที่จะมีเธอไปจนถึงที่สุดเช่นกัน…..