ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง - บทที่ 234 เป็นความผิดของผมทั้งหมด
“แม่ หนู——”
จากนั้น ไม่รอให้เธอได้พูดจบ ออกัสบีบไปที่มือของเธอ พูดขัดเธอขึ้นมา“คุณป้า เรื่องนี้ ผมควรเป็นคนรับผิดชอบมันทั้งหมด ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอครับ !”
“ฉันกำลังคุยกับลูกสาวของฉัน ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ!”กนกอรพูดอย่างไม่เกรงใจ “อีกอย่าง บ้านเราไม่ต้อนรับคนแปลกหน้า เชิญคุณไปซะ !”
“ผมไม่ใช่คนแปลกหน้า ผมเป็นผู้ชายของเธอ ดังนั้นการกระทำของเธอที่ขัดต่อคำสั่งของคุณป้าทั้งหมดเพราะผมคอยเสี้ยมเธอเอง ความโกรธของคุณป้าที่มีเอามาลงกับผมเถอะครับ ผมขอรับมันไว้เอง ”ท่าทีของเขาไม่แข็งกร้าวและมีความถ่อมตัวอยู่
เมื่อได้ยินดังนั้น กนกอรก็ยิ้มเยาะ “คุณชายใหญ่ตระกูลสิริไพบูรณ์ ใครจะกล้าเอาความโกรธเคืองไปลงกับคุณกัน คุณกลับไปได้แล้ว !”
องค์ชายที่เงียบอยู่นานก็เอ่ยปากพูด“คุณป้าครับ”
อารมณ์โกรธของกนกอรก็จึงได้เบาบางลง จ้องเขม็งมองไปยังเชอร์รีน“ แกยังมีเยื่อใยกับเขาอยู่ใช่ไหม ?”
ร่างเชอร์รีนไหวสั่น ริมฝีปากรู้สึกแห้งผาก แขนที่เรียวยาวของออกัสก็ยื่นมา โอบไปที่รอบเอวของเธอต่อหน้าทุกคนที่อยู่ในห้องนั่งเล่น ทำเธอถอยหลังไม่ได้ และยังมาปิดทางหนีทีไล่เธออีก เขาไม่ยอมให้เธอได้ถอยหลังอีกแล้วแม้แต่ก้าวเดียว!
แขนของเขาทั้งอบอุ่นและมีพลัง ในตอนนี้ มันกลายเป็นที่พึ่งพิงของเธอ พยักหน้าให้ เธอก็ไม่หลบหนีมันอีก“ใช่ค่ะ แม่ ”
“แกต้องให้ฉันตายไปก่อนถึงจะพอใจใช่ไหม เรื่องเมื่อสี่ปีก่อนแกลืมมันไปหมดแล้วหรือไง ? ทำไมแกถึงไม่รู้จักจำ ? ”กนกอรหอบหายใจหนัก องค์ชายเขาดีแค่ไหน ทำไมเธอถึงได้หน้ามืดตามัวแบบนี้ มองไม่เห็นมันเลยหรือยังไง !
“เรื่องเมื่อสี่ปีก่อนทุกอย่างล้วนเป็นความผิดของผม นั่นคือเรื่องจริง ผมปฏิเสธไม่ได้ และไม่คิดที่จะปฏิเสธ แต่หลังจากนี้ ผมจะไม่ทำเรื่องที่มันผิดพลาดแบบนั้นขึ้นอีก จะไม่ทำให้เธอต้องเป็นทุกข์ นี่คือคำสัญญาของผม !”
กนกอรไม่แม้แต่จะอยากได้ยินมัน“คำสัญญาของคุณไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับครอบครัวของเรา ออกไปเลยเดี๋ยวนี้!”
เธอไม่อาจจะลืมเรื่องเมื่อสี่ปีก่อนไปได้ เธอเห็นสภาพของลูกสาวมีใบหน้าซีดเผือดอยู่ที่โรงพยาบาล นอนอยู่บนเตียงด้วยสภาพที่ร่างกายโรยรา เขาในตอนนั้น ไปอยู่ที่ไหน ?
ออกัสไม่อยากจะไปกระตุ้นอารมณ์เธออีก ความไม่ชอบนั้นไม่ได้ก่อตัวขึ้นในวันเดียว ดังนั้นหากอยากจะให้ทุกอย่างมันเลือนหายไป ก็ย่อมที่จะเป็นไปไม่ได้
“คุณป้า คุณลุง งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ไว้วันหลังจะมาหาใหม่”
ยังไงจักรกฤษก็เป็นผู้ชาย ตอบรับอย่างเย็นชา ส่วนกนกอร หางตาไม่แม้แต่จะมองเขาเลย
ปล่อยมือของเชอร์รีน สายตาของออกัสก็จ้องมองไปที่องค์ชาย“ ออกไปคุยกัน ”
“ได้”องค์ชายรับคำ เหลือบมองไปยังกนกอรที่ยังโกรธจัด เพื่อให้ทุกอย่างราบรื่นขึ้น“เชอร์รีน คุณช่วยเข็นผมออกไปหน่อย ผมไม่ค่อยสะดวก”
รับคำ เชอร์รีนก็เข็นรถเข็นเดินตามหลังไป ขณะที่ออกัสเดินนำหน้า เมื่อเห็นลูกสาวเข็นรถขององค์ชาย กนกอรก็ไม่กล้าพูดห้าม
ไปยังร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ๆ มือใหญ่ของออกัสดึงเชอร์รีนมา ให้เธอนั่งข้างเขา จากนั้นก็มองไปที่องค์ชาย คำที่หาฟังได้ยากก็หลุดออกมา“ขอบคุณมาก”
“ที่ผมทำแบบนี้ไม่ได้ทำเพื่อประธานออกัส ประธานออกัสไม่จำเป็นต้องพูดขอบคุณผม ”
หลังจากที่เชอร์รีนทัดผมไปที่ใบหู ก็รู้สึกละอายใจมาก และไม่สบายใจด้วย“ ขอโทษด้วยนะ องค์ชาย”
“งานแต่งงานนี้เป็นผมที่อยากจะจบมันเอง คุณไม่ต้องรู้สึกผิดหรือไม่สบายใจไป ถึงผมจะชอบผู้หญิงสักคน แต่ก็ไม่สามารถจะใจกว้างรู้ทั้งรู้ว่าเธอรักผู้ชายคนอื่น และคิดถึงแต่ผู้ชายคนนั้นอยู่ตลอด แล้วยังมาแต่งงานกับผมอีก ร่างกายและหัวใจไม่ได้อยู่ด้วยกัน การแต่งงานแบบนี้ ไม่มีทางมีความสุขไปได้หรอก”
องค์ชายดื่มกาแฟหนึ่งแก้ว ที่ทั้งจืดชืด และมีรสขม เหมือนความรู้สึกของเขาในตอนนี้“อีกเรื่องหนึ่ง ขาของผมมีความรู้สึกขึ้นมาบ้างแล้ว อยากจะไปรักษาตัวที่อเมริกา”
ได้ยินดังนั้น ดวงตาของเชอร์รีนก็เป็นประกายขึ้นมา ทันทีทันใด ก็ตื่นเต้นจนราวกับเด็กน้อยที่ได้กินขนม “จริงเหรอ?”
“จริง”นานมากแล้วที่ไม่ได้เห็นเธอเหมือนเด็กเล็กๆแบบนี้ ดูๆไปแล้ว มีคนที่รักอยู่ข้างๆ มันช่างแตกต่างจริงๆ ยังไงเขาก็เปลี่ยนเธอไม่ได้เลย แต่ออกัสกลับทำมันได้อย่างง่ายดาย เขาคงต้องยอมแพ้แล้วจริงๆ“วันมะรืนผมจะบินไปอเมริกา ตั๋วเครื่องบินซื้อไว้เรียบร้อยแล้ว”
“ฉันจะไปด้วย ” เชอร์รีนกล่าว
ทันใดนั้น สีหน้าของออกัสก็มืดมน “คุณจะไปทำไม ?”
“ฉันอยากได้ยินกับหูตัวเองจากหมอว่าขาของเขาจะรักษาหาย และจะไปดูแลเขา จนกว่าเขาจะหายดี”นี่คือสิ่งที่เธอสามารถทำได้อย่างสุดกำลัง
“ที่อเมริกาเขามีการบันทึกเสียง ถึงตอนนั้นให้หมอที่ทำการรักษาบันทึกเสียงเอาไว้ จากนั้นก็ส่งกลับมาให้คุณ แบบนี้ก็สามารถได้ยินจากหูตัวเองเหมือนกัน”ไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าที่ออกัสจะแยกคนทั้งสองให้ออกจากกันได้ จะเป็นไปได้ยังไงที่จะปล่อยให้เขาสองคนได้อยู่ด้วยกันอีก?
เชอร์รีนส่ายหัว และปฏิเสธ“ยังไงฉันก็ต้องไป !”
“ผมได้จ้างนักโภชนาการมาห้าคน และพยาบาลอีกสามคน คุณคิดว่าบทบาทของคุณที่อยู่ตรงนั้นจะสู้พวกเขาได้เหรอ ?” น้ำเสียงของออกัสแหบแห้ง ยื่นมือไป จัดผมที่ยุ่งเหยิงของเธอให้ทัดไปที่ใบหู
“แล้วนี่ ตอนนี้คุณก็เลยกำลังดูถูกฉันอยู่ใช่ไหม ? ไม่ว่าจะเป็นการดูแล หรือทำอาหาร ฉันไม่ได้แพ้ใครเลย โอเคไหม?”
คิ้วที่ได้รูปของออกัสเลิกขึ้น นิ้วมือเคาะลงบนโต๊ะเบาๆ อมยิ้ม“ คุณนี่มันหลงตัวเองจริงๆ เพื่อนๆของคุณเขารู้กันหรือเปล่า?”
เชอร์รีนถลึงตามองเขาอย่างไม่พอใจ และชี้แจงข้อเท็จจริง“ฉันหลงตัวเองยังไง!เมื่อสี่ปีก่อนใครกันที่กลับมาทุกคืน เอาแต่ร้องอยากจะกินบะหมี่ฝีมือของฉัน แล้วใครกันที่ซดน้ำจนไม่เหลือ?”
ในสายตาขององค์ชายเธอเป็นคนมีเหตุมีผล ใจเย็น มีความคิดเป็นของตัวเองมาโดยตลอด รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และไม่ต้องการอะไร
แต่ว่า เขาไม่เคยเห็นเธอที่มีใบหน้าเห่อร้อนแบบนี้ และแสดงออกถึงความไม่พอใจแบบนี้ !
ระหว่างพวกเขาเป็นเหมือนคู่รักธรรมดาทั่วไป มีเรื่องให้ทะเลาะกันได้ง่ายๆ และระหว่างกันก็มีเรื่องให้เล่าอย่างไม่จบไม่สิ้น
“ใช่ ผมไม่เคยลืมวันที่เราไปจดทะเบียนสมรสเมื่อสี่ปีก่อน ใครกันที่ผมเพ้ากระเซอะกระเซิง หน้าก็ไม่ทันได้ล้าง ”เขายังคงพูดล้อเธอไม่หยุด
พูดถึงเหตุการณ์นั้นขึ้นมา แก้มของเชอร์รีนก็อดไม่ได้ที่จะขึ้นสีแดงๆ จ้องเขม็งมองเขา “นี่คุณคิดว่าพอฉันตกปากรับคำจะอยู่กับคุณแล้ว คุณก็จะกำเริบเสิบสานได้งั้นเหรอ ? ฉันว่าฉันคงต้องกลับไปคิดดูใหม่ซะแล้ว ”
“อย่านะอย่าเลย เมื่อกี้ผมพูดผิดไป ต่อให้จะไม่ได้ล้างหน้า หรือต่อให้จะผมเพ้ายุ่งเหยิง แต่ก็สดใสและสวยงามพอที่จะทำให้ผมหลงใหลได้”เขาเปลี่ยนคำพูดทันที น้ำเสียงเข้มๆนั้นจริงใจมาก มองไปยังใบหน้าที่เห่อร้อนของเธออย่างพึงพอใจ
“คุณทำตัวให้ปรกติหน่อยจะได้ไหม ?” เชอร์รีนหยิกไปที่แขนของเขา
“ผมทำตัวไม่ปรกติตรงไหน ? ชมแฟนตัวเองต้องดูดินฟ้าอากาศด้วยเหรอ?”เขากุมมือที่เรียวยาวของเธอ แล้วบีบมันเล่นอย่างตามใจชอบในฝ่ามือ นุ่มนิ่ม จนทำเขาไม่อยากจะปล่อยมือ
“เอาล่ะ คุยกันพอประมาณแล้ว ผมคงต้องไปแล้ว”องค์ชายละสายตาออก พลังของความรักดูถูกไม่ได้จริงๆ
เชอร์รีนรีบพูดทันทีว่า “ฉันไปส่งคุณ และอีกสองวันจะเดินทางไปอเมริกา ยังไงซะะฉันก็จะบินไปด้วยแน่นอน!”
ออกัสชำเลืองมองเธอ และพูดโพล่งออกมาด้วยเช่นกัน “ผมก็จะไป……”
หยิกไปที่ฝ่ามือของเขา เธอขมวดคิ้ว“ คุณอย่าไปสร้างปัญหา ฉันไปคนเดียวก็พอ อีกอย่างคุณไปด้วยก็ไม่ช่วยอะไร ”
ได้ยินดังนั้น ออกัสก็ไม่พอใจ ฟังจากน้ำเสียงของเธอ ทำไมถึงได้รู้สึกเหมือนรังเกียจเขาเลย?
“ผมเข็นรถเข็นได้……”เขามองเธอ
“……”หางคิ้วของเชอร์รีนอดไม่ได้ที่จะกระตุก เข็นรถเข็น ใครๆก็ทำเป็น ซารางสามขวบกว่า ก็เข็นได้ เขามีอะไรน่าภูมิใจขนาดนั้นกัน ?
จากนั้น องค์ชายก็ไม่ได้อยู่ต่อ และออกัสเองก็ได้หาคนมาดูแลเขาโดยเฉพาะ ดูแลทั้งเรื่องอาหารการกินและชีวิตประจำวันของเขา รวมถึงการเดินทางด้วย
เมื่อคิดถึงกนกอรกับจักรกฤษ เชอร์รีนยังคงไม่สบายใจ“วันนี้คุณกลับไปทำงานของคุณเถอะ ฉันก็จะกลับบ้านเหมือนกัน วุ่นวายขนาดนี้ ยังต้องเก็บกวาดอะไรอีกเยอะเลย”
“ทำไมต้องรีบไล่ผมไปด้วย ?”เขาเลิกคิ้วขึ้น เห็นชัดว่าไม่พอใจเล็กน้อย
“ไม่ใช่อย่างนั้น สถานการณ์ที่บ้านของฉันคุณเองก็เห็น วันนี้พอแค่นี้ก่อนเถอะนะ แล้วค่อยติดต่อกันวันหลัง” เชอร์รีนยังคงครุ่นคิดกลับไปแล้วจะอธิบายกับพ่อแม่เธอยังไง
ออกัสเหลือบมองเธอ ฝ่ามือใหญ่ยื่นมาตรงหน้าเธอ“มือถือ”
แม้จะไม่เข้าใจ แต่เชอร์รีนก็ยื่นโทรศัพท์ให้เขา เห็นเพียงนิ้วที่เรียวยาวของเขาขยับเคลื่อนไหวไปมา หาเบอร์ตัวเองเจอ ก็ป้อนคำลงไปอย่างเร็ว——ที่รัก
ค่อยๆโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย เห็นเขาพิมพ์ตัวหนังสือลงไป เชอร์รีนอดไม่ได้ที่จะกระแอมไอ จากนั้นก็เสียววาบไปทั่วทั้งแผ่นหลัง
ช้อนตาขึ้นมอง เขาเหลือบมองเธอ ราวกับจะไม่ค่อยพอใจกับคำคำนี้ ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ และก็เปลี่ยนเป็นออกัส
เชอร์รีนคิดว่ามันดีอยู่แล้ว แต่ชายหนุ่มยังคงไม่พอใจ รู้สึกเหมือนเป็นคำเรียกขานของเพื่อนมากกว่า ลบออก แล้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็เปลี่ยนมาเป็นคุณสามี จากนั้นก็ถึงจะยิ้มออก และพอใจกับมัน……
คำนี้ เขาไม่เคยรู้สึกสบายตากับมันมาก่อน แต่เพียงได้เห็น ก็ทำให้รู้สึกอารมณ์ดีได้แล้ว
ความรู้สึกพึงพอใจที่เกิดขึ้นนั้นอธิบายเป็นคำพูดออกมาไม่ได้ ต่อให้บริษัทจะได้ลงนามสัญญาซื้อขายมูลค่าหลายร้อยล้าน ความสำเร็จและความพึงพอใจที่ได้ไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนในตอนนี้ ซึ่งมันทำให้เขาสุขกายและเบิกบานใจเป็นอย่างมาก
เชอร์รีนตะลึงงัน รู้สึกประหลาดใจจริงๆกับการกระทำของเขาแบบนี้ เพราะเขาดูเหมือนเป็นผู้ชายที่ไม่น่าจะทำเรื่องอะไรแบบนี้ได้เลย
นิ้วที่เรียวของเขายังคงเลื่อนดูไปเรื่อยๆ สายตาจดจ่อและจริงจัง เธอมองดูเขาอย่างไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่าเขายังจะเลื่อนหาดูอะไรอีก
นที่สุด นิ้วมือก็หยุดลงตรงชื่อขององค์ชาย ออกัสเหลือบมองมาที่เธออย่างเฉยเมย จากนั้นก็แก้มันเป็นคุณองค์ชาย
“……”เชอร์รีนนิ่งเงียบ เขาต้องทำตัวเป็นเด็กขนาดนี้จริงๆเหรอ?
หลังจากนั้น ก็คืนโทรศัพท์ให้เธอ จับมือที่นุ่มนวลของเธอไว้ในฝ่ามือ งอมือ แล้วถอดแหวนทองออกมา ออกัสช้อนตาขึ้นมอง คิ้วที่ได้รูปขมวดแน่น จ้องมองดูเธอ พูดด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า“หรือแหวนที่ผมให้มันจะเป็นแก้ว แล้วจะบาดนิ้วคุณได้งั้นเหรอ หืม ?”
ไม่คิดมาก่อน ว่าเขาจะยังคิดถึงเรื่องนั้นอยู่ แต่ว่า เธอในตอนนั้นจะรับแหวนวงนั้นของเขาไว้ได้ยังไงกัน ?
เธอไม่ได้พูดอะไร มองดูเขาอย่างเงียบๆ
การมองเงียบๆแบบนี้ มันทำให้เขารู้สึกผิดขึ้นมาทันที
ทอดถอนใจ ออกัสยื่นมือไปแล้วดึงเธอ ดึงร่างเธอให้หันมาหาอย่างเอาแต่ใจ หันหน้าเธอให้เข้าหาเขา“ผมไม่ควรถามคำถามแบบนี้ ผมผิดเอง เรื่องทั้งหมดมันเป็นความผิดของผมเอง !”