ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง - บทที่ 250 ครั้งนี้เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นอีก
โรงแรม
เขาผลักประตูห้องอาหารของโรงแรมออก หลังจากเห็นคนตรงหน้า เชอร์รีนก็เลิกคิ้วเล็กน้อย นอกจากสิงหาและสุนันท์แล้ว ก็ยังมีผู้หญิงอีกคนนึง
เธอดูสวย และค่อนข้างสง่างามอย่างบอกไม่ถูก ความงดงามของเธอมาจากจิตวิญญาณ
เธอสามารถรู้สึกได้ ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะสังเกตที่เธออย่างละเอียด แต่ว่าผู้หญิงคนนี้ สรุปแล้วเธอเป็นคนยังไงกันแน่?
เธอนั่งลงที่โต๊ะอาหาร หลังจากที่ออกัสดึงเก้าอี้ให้เธอ เขาก็นั่งลงข้างๆเธอ
สายตาของวินดามองระหว่างเชอร์รีนกับออกัสสลับไปมา อย่างมีความหมายลึกซึ้ง และมองไม่ออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
นึกไม่ถึงว่า ลูกของสิงหากลับไม่เหมือนเขาเลยซักนิดเดียว ทั้งร่างกายและลักษณะเฉพาะตัวที่ดูสง่างามและสูงศักดิ์ ที่ไม่มีใครเทียบได้
กระทั่งมาถึงเชอร์รีน สายตาของเธอหยุดลงบนร่างของเธอค่อนข้างนาน ตอนนั้นลูกยังเล็กๆแถมยังถูกตัวเธอทิ้งไป ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีภาพแห่งความทรงจำอะไรเลย
ทุกคนพูดคุยกันตามมารยาท เป็นเรื่องยากที่ในวันนี้สุนันท์ไม่อารมณ์เสียหรือโวยวายเลย จากนั้นอาหารก็มาเสิร์ฟ
สิงหาดูแลเธอมาตลอด บอกให้เธอกินเยอะหน่อย เชอร์รีนรู้สึกว่ามีอะไรบางผิดปกติ การสังสรรค์แบบนี้ เธอไม่ค่อยชอบเลย
“กำไลข้อมือของคุณนายสวยจังเลย” วินดามองกำไลอัญมณีบนข้อมือของสุนันท์ ที่เป็นสีเขียวมรกต มันสวยมากจริงๆ
“จริงหรอ? นี่สิงหาให้ฉันมาเมื่อวาน สายตาของเขาดีมาตลอดเลย” เมื่อพูดถึงกำไล ใบหน้าสุนันท์ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ให้อารมณ์เหมือนดอกไม้ที่กำลังบาน ยิ่งไปกว่านั้นก็เหมือนเธอกำลังโอ้อวด
“คุณสิงหากับคุณสุนันท์ดูรักกันมากเหมือนในข่าวลือเลย จนทำให้คนอื่นอิจฉาเลย” วินดาพูด ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก
เชอร์รีนไม่สนใจที่สองคนคุยกัน เธอป้อนอาหารให้ซาราง ใบหน้าที่หล่อเหลาของออกัสก็เฉยเมยเช่นกัน เขาเอาก้างปลาทั้งหมดออก จากนั้นก็วางไว้หน้าสองแม่ลูก สายตาที่ยิ้มแย้ม มองดูก็เธอที่ทานอาหารจนหมด
สามคนตกอยู่ในโลกของตัวเอง เหมือนกับว่าออกมาทานข้าวเองคนเดียว เหมือนไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับพวกเขาสามคนข้างหน้าเลย
แต่ว่าบางครั้งเชอร์รีน ก็ยังรู้สึกได้ว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังมองมาที่เธออยู่ และเธอไม่รู้ว่าสรุปแล้วเธอมองอะไรกันแน่
นึกใตร่ตรองอยู่พักนึง ทันใดนั้นเธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าตอนเดินออกจากร้านทาร์ตไข่ในคืนนั้น เธอมองเห็นหลังผู้หญิงคนนึงยืนอยู่กับสิงหา โดยที่หันหลังให้เธอ เมื่อมองแบบนี้ เธอก็เหมือนกับแผ่นหลังของผู้หญิงคนนั้นมาก
ส่วนทางสุนันท์ก็ดูพยายามโอ้อวดความรักของพวกเขาสองคน เวลาอยู่ต่อหน้าวินดา มือของเธอก็ไปขยับที่กำไรข้อมืออย่างตั้งใจ
วินดายิ้มมุมปาก มันมีความหมายลึกซึ้ง จนดูออกว่าคืออะไร แต่ไม่รู้ว่ามีความหมายอะไรแอบแฝงอยู่ เธอเอนไปทางซ้าย ขยับไปมาเล็กน้อย คนที่นั่งฝั่งซ้ายของเธอคือสิงหา ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยท่าทางเคร่งขรึม แต่พอมองดีๆ แล้วกลับเห็นว่าเหมือนเขามีอะไรซ่อนอยู่
ซารางเป็นเด็กดีได้พักหนึ่ง คราวนี้เขาก็ได้ซนขึ้นมาอีกครั้ง เธอหยิบตะเกียบ ร่างเล็กอยู่บนโต๊ะอาหาร และเธอก็พยายามเอื้อมมือออกไปคีบปูที่อยู่ตรงกลางโต๊ะ มือไม้เธอสั่นเทา เธอคีบขึ้นมาได้อย่างยากลำบาก เมื่อเห็นว่าเธอจะเลื่อนมาวางข้างในปากเล็กๆ ของเธอ อยู่ดีๆ ก็ได้ยินแกรกดังขึ้น ตะเกียบตกลงไปที่พื้นพร้อมกับปู
เธอบึนปากเล็กๆขึ้น และหันมามองหน้าแม่เพราะกลัวโดนด่า เธอเป็นคนก่อเรื่อง แต่สุดท้ายก็ฟ้องแม่อย่างน่าสงสาร “หม่ามี๊ ตะเกียบและปูไม่เชื่อฟัง เขารังแกหนู!”
เชอร์รีนเลิกคิ้วอย่างทนไม่ได้ เธอยิ้มมุมปากและดึงเธอเข้ามากอด จากนั้นก็วางเธอลงในอ้อมกอดของออกัส ก่อนจะแตะจมูกเธอเบาๆ “ยัยเด็กแสบ!”
ในระหว่างที่พูด เธอก้มลงหยิบตะเกียบที่พื้น แต่สายตาของเธอก็บังเอิญไปเจอกับภาพตรงหน้าร่างกายของเธอก็แข็งทื่อไปหมด จากนั้นสิ่งที่ตามมาก็คือความรู้สึกขยะแขยง
เธอเห็นว่าใต้ผ้าปูโต๊ะ วินดาได้เตะรองเท้าส้นสูงที่เท้าของเธอออก และเธอก็กำลังเตะเท้าของสิงหาอยู่
เป็นความรู้สึกที่ไม่รู้ว่าจะใช้คำพูดอะไรมาอธิบายดี มันทั้งตะลึง ไม่อยากจะเชื่อ แถมยังรังเกียจอีก….
ไม่ว่ายังไงก็ตาม เธอก็นึกไม่ถึงว่าระหว่างสิงหากับวินดาจะมีความสัมพันธ์แบบนี้!
ดูจากภายนอกแล้ว สิงหาก็เป็นคนที่ตรงไปตรงมา จริงจัง บวกกับเป็นผู้รับผิดชอบในอำเภอซีซ่า ทำอะไรเพื่ออำเภอซีซ่ามาเยอะ หนังสือพิมพ์ยังตีพิมพ์เขาในฐานะผู้พิพากษาอภำเภอซีซ่าที่โดดเด่นที่สุดเลย และเป็นตัวแทนของสภาประชาชนแห่งชาติอีกด้วย
แต่ว่า เขาในตอนนี้กลับ….
นี่ทำให้ทั้งสองอยู่ด้วยกันได้ยังไงกัน?
หลังจากดึงสติกลับมาแล้ว เชอร์รีนก็ดึงความคิดที่ตกใจของตัวเองกลับคืนมา เธอหยิบตะเกียบขึ้นมาอย่างใจเย็น ก่อนจะยืดตัว เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน สายตาของเชอร์รีนมองผ่านสิงหาไป
เขามีท่าทีที่พูดกับสุนันท์อย่างปกติดี และในตอนท้าย เขาก็หันกลับมาและพูดอะไรบางอย่างกับวินดา ด้วยสีหน้าและท่าทางที่จริงจังขนาดมาก แต่การกระทำตรงใต้โต๊ะก็ดูน่ารังเกียจจริงๆ
เชอร์รีนคิดไม่ถึงเลยว่า สิงหาจะเป็นคนแบบนี้!
เมื่อหันมาอีกรอบ เธอก็เห็นผู้ชายที่อยู่ข้างๆ เธอกำลังป้อนน้ำผลไม้ให้ซารางอยู่ เธอไม่กล้ามองแม้แต่น้อย แน่นอนว่าเธอก็จะไม่รับรู้ถึงความผิดปกติ รวมถึงสุนันท์ แน่นอนว่าเธอก็ยิ่งรู้เรื่องนี้ไม่ได้
เธอมองไปยังสิงหาและวินดาที่อยู่ตรงหน้า มันทำให้เธอไม่อยากอาหารและทานอะไรไม่ได้อีก เธอไม่ขยับตะเกียบอีกต่อไป ดวงตาของเขาหันไปเล็กน้อย ออกัสยกยิ้มริมฝีปากบางๆ น้ำเสียงที่ทุ่มต่ำและแหบแห้งของเขาก็ดังออกมา “อยู่ต่อไปไม่ได้แล้วใช่ไหม?“
เธอพยักหน้า เธอไม่สามารถจะอยู่ต่อได้แล้วจริง
ออกัสทักทายกับทั้งสามคน จากนั้นก็อุ้มซารางและจับมือเชอร์รีนเดินออกไป
พอเดินออกจากโรงแรม เชอร์รีนก็สูดอากาศบริสุทธิ์ ตอนนั้นเองที่ฉันรู้สึกได้ว่าทุกคนมีความสุขทั้งร่างกายและอารมณ์ ไม่ต้องรู้สึกหดหู่และตึงเครียดอีกต่อไป
“พรุ่งนี้ซารางเปิดเทอมใช่ไหม”
“ใช่ มีอะไรหรือเปล่า?”
เธอเลิกคิ้วของเธอขึ้น สิงหาพาเธอไปยังห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ฝั่งตรงข้าม และเดินตรงไปนังโซนผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ตอนนี้ซารางวุ่นวายและเสียงดังมาก เธอวิ่งไปวิ่งมาในห้างสรรพสินค้าด้วยขาสั้นๆทั้งสองข้าง เดี๋ยวไปคล้องกระเป๋านักเรียน เดี๋ยวก็ไปคล้องกับกล่องเครื่องเขียน
เชอร์รีนตามหลังเธอไป เธอหยิบมันออกมา และก็ใส่กลับเข้าไปข้างใน ดูเหมือนแม่และลูกสาวจะต่อสู้กันเอง
ออกัสสวมเสื้อคอปกสีดำแขนยาวที่เรียบง่ายพร้อมกางเกงลำลองขายาว ชุดดูเรียบง่ายจน ไม่อาจจะเรียบง่ายไปกว่านี้ได้แล้ว ซึ่งมันสามารถดึงดูดสายตาจำนวนมากได้ ราวกับสัตว์ที่หาดูได้ยาก
เขาไม่สนใจสายตาที่มองเขาจากฝูงชน เขาทำแค่เดินตามแม่และลูกสาวไปอย่างสบายๆ เขาหยิบทุกสิ่งที่เชอร์รีนใส่เข้าไปออกมา
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เชอร์รีนก็โกรธจัด “คุณจะตามใจเธอแบบนี้เหรอ ทั้งกระเป๋านักเรียนและกล่องเครื่องเขียนที่บ้านเป็นของใหม่ทั้งหมดเลย ถ้าคุณซื้อจำนวนมากขนาดนี้ ยังไงเธอก็ใช้ไม่หมดแล้ว!”
มุมริมฝีปากที่แสดงออกถึงความรักขยับเล็กน้อย แขนยาวกอดเธอไว้ในอ้อมแขน พวกเขาสบตากัน ดวงตาที่อ่อนโยนของเขาจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง “ของพวกนั้นคุณเป็นคนซื้อมันมา แต่คราวนี้ ผมเป็นคนซื้อมา…”
“มันต่างกันยังไง”
เธอโดดดึงดูดจากสายตาที่ลึกซึ้งของเขา หัวใจของเชอร์รีนเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ และการหายใจของเธอก็เร็วขึ้นเล็กน้อย
เขาโอบกอดเธอด้วยแขนยาว และพาเธอเดินไปข้างหน้า เสียงของออกัสนุ่มนวลมาก “เชอร์รีน ฉันเป็นหนี้เธอเป็นเวลาสี่ปีแล้ว และตอนนี้ฉันแค่อยากจะชดใช้…”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เชอร์รีนไม่ได้พูดอะไร และเธอก็ไม่คัดค้าน เธอยิ้มมุมปากเล็กน้อย เขากอดเอวเล็กๆของเธอไว้แน่น ก่อนจะโน้มตัวมาจุมพิตริมฝีปากแดงของเธอเบาๆ “ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่สวยที่สุดหรือดีที่สุด ของเพียงแค่เป็นสิ่งที่เธอชอบ ผมก็อยากให้มันมาอยู่ตรงหน้าของเธอทั้งนั้น นี่ถึงจะทำให้ฉันมีความสุขมากในฐานะพ่อ และก็มีความรู้สึกของความสำเร็จที่ยากจะสื่อออกมาปรากฏขึ้น”
“แล้วถ้าลูกสาวของคุณอยากได้ดวงดาวบนท้องฟ้าล่ะ คุณจะหยิบมันให้เธอได้ไหม?”
“มีอะไรที่ทำไม่ได้บ้าง?” เขาแตะแก้มที่เรียบเนียนของเธอ ดวงตาของเขาจดจ่อไปที่เธอ และคำพูดของเขาอ่อนโยน “ขอแค่คุณต้องการ ขอแค่ผมมี ขอแค่เป็นสิ่งที่ผมสามารถให้ได้ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ”
ตั้งแต่มีเธอและลูก หัวใจของเขาก็มีความสุขมาก ขอแค่เป็นสิ่งที่พวกเธอต้องการ เขาจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อเอามันอยู่ต่อหน้าพวกเธอ
ขอแค่คุณต้องการ ขอแค่ผมมี ขอแค่เป็นสิ่งที่ผมสามารถให้ได้ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ
ประโยคง่ายๆ เช่นนี้ กลับทำให้เชอร์รีนอดไม่ได้เธอตาแดงเล็กน้อย เธอรู้สึกซาบซึ้งมาก แต่เธอก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แสร้งทำเป็นมองซาราง
“ว่าแต่ คุณกลายเป็นคนที่เลี่ยนขนาดนี้ตอนไหน?” ในตอนท้าย เธอก็อดไม่ได้ที่จะถามเขากลับ
ลูกกระเดือกขยับไปมา นิ้วเรียวของออกัสทัดผมให้เธอ เขาดูทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย “ผมพูดว่า ทำไมคุณต้องทำลายบรรยากาศขนาดนี้เลยหรอ?”
เชอร์รีนยิ้มมุมปาก ก่อนจะเขย่งปลายเท้า และจูบลงบนริมฝีปากของเขา ราวกับว่าเป็นการปลอบโยนเขาอย่างเงียบๆ
เห็นได้ชัดว่าการกระทำดังกล่าวทำให้ผู้ชายพอใจมากๆ แขนของเขากระชับเอวที่เรียวเล็กของเธอ มาแนบข้างกาย ก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบอย่างร้อนแรง
ในระหว่างนี้ ตะกร้าสินค้าซารางได้เติมด้วย ดินสอ กระเป๋านักเรียน ยางลบ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอสามารถหยิบได้ เธอก็ใส่เข้ามาจนเต็มอย่างรวดเร็ว
ตอนที่จ่ายเงิน เธอก็รู้วิธีที่จะเอาใจโดยกอดต้นขาของออกัสและรอยยิ้มตาหยี ก่อนจะเรียกแด๊ดดี้ ท่าทีแบบนั้น มันเหมือนท่าทีขี้อ้อนของหมาน้อยชัดๆ
เป็นไปตามที่เธอคาดหวังไว้ ออกัสรูดการ์ดในทันที ทำให้เด็กหญิงตัวเล็กๆ ตะโกนเรียกแด๊ดดี้ดังๆ ด้วยความดีใจ ทั้งสามกลับมาที่คอนโด มีรายการบาสเกตบอลฉายพอดี ออกัสเปิดและเปลี่ยนไปที่ช่องกีฬาเพื่อดูเกมการแข่งขันของ NBA
ซารางไม่ได้แย่งทีวีกับเขา แต่เธอนั่งลงบนผ้าห่ม ตรงหน้าก็มีดินน้ำมันกองใหญ่วางอยู่ ให้เธอเล่นจนพอใจ
โรงเรียนเปิดพรุ่งนี้ และเชอร์รีนก็ต้องรีบจัดตารางของเธอ ดังนั้นเธอจึงหยิบโน้ตบุ๊คของออกัสออกมา และต้องป้อนรหัสผ่านของเธอ
ภาพเมื่อ 4 ปีที่แล้วยังคงอยู่ในความทรงจำของเธอ เขาให้บัตรธนาคารกับเธอ แต่รหัสผ่านคือปีเกิดของหยาดฝน แล้วคราวนี้ล่ะ?
เธอหายใจออกยาวๆ นิ้วของเธอแตะบนแป้นพิมพ์ก่อนจะพิมพ์วันเดือนปีเกิดของหยาดฝนอย่างช้าๆ เธอสามารถสัมผัสได้ถึงอาการสั่นเล็กน้อยระหว่างนิ้วของเธอได้อย่างชัดเจน แต่ ในตอนที่หน้าจอถูกปลดล็อค เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีบางสิ่งกรีดลงบนหัวใจของเธอ และเธอก็รู้สึกเจ็บปวด
“ตึก” เธอปิดโน้ตบุ๊คเสียงดัง เชอร์รีนเดินกลับไปที่โซฟา เธออุ้มซารางขึ้นมา และเดินออกจากคอนโดไป
ออกัสมองเห็นความโกรธบนใบหน้าของเธออยู่แล้ว แต่เขาก็งงมากๆ ว่าจริงๆ แล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมอยู่ดีๆ เธอถึงได้โกรธขนาดนั้น?
“เชอร์รีน!” ขายาวของเขาขยับ และเขาก็คว้าข้อมือเธอด้วยมือใหญ่ของเขา “เกิดอะไรขึ้น?”
หลังจากมองดูเขาครู่หนึ่ง เธอก็ไม่ได้พูดอะไรเลยเธอยังเดินไปข้างหน้าต่อไป