ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง - บทที่ 257 เกิดเรื่องเวลานี้ไม่ได
ไม่นานก็มีหมอเพศชายมาถึง หลังทำการตรวจทั่วร่างกายและทำแผลเสร็จสรรพ จึงกล่าวว่า “ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงครับ แค่ร่างกายอ่อนแอ เสียเลือดเล็กน้อยและได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจครับ”
ออกัสยืนอยู่ด้านข้าง ได้ยินคุณหมอพูดเช่นนี้ก็โล่งอก ยื่นมือดึงเนคไท จากนั้นก็ไปที่บริษัท
หลังจากเขาได้ทิ้งประโยคนั้นไว้ เขาก็ไม่กลัว่าแม่ของตนจะคิดสั้นอีก
“ไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลให้ผมที ผมจะเอาผลลัพธ์เย็นนี้” ออกัสสั่งการผู้ช่วยเตโชเสียงเย็นเยียบ
ผู้ช่วยเตโชพยักหน้ารับ จากนั้นก็ถอยออกไป ตอนใกล้เลิกงานเขาก็เคาะประตูแล้วเข้ามา ก่อนจะรายงานข้อมูลที่สืบค้นได้ตามความเป็นจริง
บริจาคไขกระดูก……
ผู้หญิงโง่คนนี้ยังตอบตกลงอีกต่างห่าง
เชอร์รีนเลิกงานตอนเย็นแล้วก็เตรียมตัวจะไปรับซาราง ทว่ากลับเห็นรถยนต์เล็กซัสจอดรอนอกประตูโรงเรียน
ฝนยังคงตกหนักไม่หยุด และไม่มีทีท่าจะหยุดเลย เขานั่งรออยู่ในรถ เส้นผมและเสื้อผ้าเปียกปอยเล็กน้อย
“พวกเราไปรับซารางกันเถอะ พูดไว้ก่อนเลยนะ วันนี้ฉันกับซารางจะกลับบ้าน” เชอร์รีนแสดงจุดยืนของตน
ออกัสยกยิ้มเบาๆ“พึ่งทำงานสายหนึ่งวันก็กลัวแล้วเหรอ หา?”
“ไม่ใช่กลัว แต่ด้วยจรรยาบรรณครูไม่ควรพูดปดหรือไม่เข้าสอน มันทำตัวไม่เหมือนครูเลย”
“เป็นครูผู้มีจรรยาบรรณจริงๆเลย เห็นทีผมต้องเอาเป็นแบบอย่างแล้ว”
เชอร์รีนกล่าวอย่างไม่เอียงอาย พยักหน้า“แน่นอน”
“พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ มีความคิดจะออกไปเที่ยวด้วยกันไหม?” ออกัสชายตามองในขณะที่เคาะพวงมาลัยรถไปด้วย ทำให้เกิดเสียงใสเป็นจังหวะขึ้นมา “พาซารางไปทะเลกันดีไหม?”
ซารางพูดแต่จะไปเที่ยวทะเล และยังบอกว่าอยากดูนกนางนวลด้วย พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ สมาชิกครอบครัวทั้งสามคนยังไม่เคยออกไปเที่ยวด้วยกันเลย เชอร์รีนไม่อาจปฏิเสธได้ เกิดความอยากขึ้นมาแล้ว
“อย่ามั่วแต่อยากไปอยู่เลย ไปกันเถอะ ว่าไงจะไปไหม?” เวลานี้ดวงตาเรียวเล็กของออกัสหรี่ขึ้น หางตาเผยเสน่ห์ที่ยากจะพรรณนาได้ออกมา
หัวใจเธอเต้นรัวแรง“คุณขับรถดีๆ”
เห็นเธอเริ่มหน้าแดงก่ำ ออกัสก็ค่อยๆยกมุมปากขึ้น“รับซารางแล้วพวกเราก็ไปกันเลย”
เชอร์รีนพิงอยู่ที่เบาะรถ ดวงตาพลันวาวโรจน์ ตบใส่แขนเขาเบาๆ “นี่คุณ อันนี้ถือว่าเป็นบอกจะไปเที่ยวก็ไปเที่ยวทันทีไหม?”
เธออยากสัมผัสการออกท่องเที่ยวที่บอกจะไปก็ไปเลยตั้งนานแล้ว มันเป็นไลฟ์สไตล์ที่อิสระเสรี ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยความสวยงาม
“ใช่”
พอรับซารางได้ก็ตัดสินใจไปยังสนามบินกะทันหัน จากนั้นก็ซื้อตั๋วรอบบินที่เร็วที่สุดไปที่ซานไบล์
ผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงซานไบล์ ทว่าก็ดึกมากแล้ว จึงไปที่โรงแรมห้องเพรสซิเดนสูท ซึ่งจองไว้ล่วงหน้าแล้ว
เชอร์รีนกับซารางเหนื่อยจนหมดสภาพเรียบร้อย เมื่อถึงโรงแรมก็โน้มตัวนอนที่เตียงทันที
ส่วนออกัสไม่ได้นอน ยืนอยู่หน้าบานหน้าต่างที่ถึงพื้นแล้วมองแสงสีเสียงยามค่ำคืนกลางเมือง ระหว่างนิ้วมีบุหรี่ที่จุดไฟแล้ว ทว่าเมื่อนึกถึงว่ามีสองแม่ลูกอยู่ในห้องด้วย เขาก็ดับก้นบุหรี่ ก่อนจะรินไวน์มาหนึ่งแก้ว แล้วเขย่าเบาๆ
ถ้าเขาจำไม่ผิด ผลตรวจไขกระดูกจะออกมาพรุ่งนี้
หากถึงเวลาเขาหาเชอร์รีนไม่เจอจะทำยังไงนะ?ซึ่งเขาที่ว่าก็คือสิงหานั่นเอง
ไม่ว่าวินดาจะเป็นผู้หญิงแบบไหนก็ไม่เกี่ยวกับเขา และเขายิ่งไม่อยากให้เชอร์รีนบริจาคไขกระดูกให้อีกฝ่าย ……
ไม่ใช่เป็นเพราะอีกฝ่ายมีความสัมพันธ์ลับกับสิงหา แต่เป็นเพราะผู้หญิงที่ทิ้งลูกสาวตัวเอง มานึกถึงลูกสาวที่ตนทอดทิ้งก็ตอนที่ต้องการอยากมีชีวิตอยู่ต่อ ผู้หญิงประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องช่วยเหลืออะไรทั้งนั้น
เธอเป็นผู้หญิงของเขา เขาไม่อยากให้เธอต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมนี้……
คนอื่นจะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่เกี่ยวกับเขา?เขาไม่อยากให้เธอต้องเจ็บและลำบากเพราะผู้หญิงประเภทนี้
วันรุ่งขึ้น พวกเขาทั้งสามคนกินข้าวเช้าเสร็จก็ไปที่ชายหาด ที่ซานไบล์แห่งนี้เหมือนอยู่ในฤดูใบไม้ผลิตลอดทั้งปี เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ดีมากเลย
ทั้งสามคนเปลี่ยนชุดเสร็จเรียบร้อย ผู้หญิงบนชายหาดบ้างก็ใส่ชุดว่ายน้ำ บ้างก็ใส่บิกินี่ พลางเผยหุ่นอันเซ็กซี่เย้ายวนใจของตน
ซารางใส่ชุดว่ายน้ำ ออกัสใส่ชุดวันสบายๆด้วยกางเกงขาสั้น เสื้อแขนสั้นสีฟ้า ท่ามกลางความสง่างามและเป็นผู้ใหญ่จึงเผยชีวิตชีวาเพิ่มขึ้น แลดูอายุน้อยและหล่อเหลาคมคายยิ่ง
มีเพียงเชอร์รีนใส่กระโปรงโบฮีเมียนตัวยาว กระทั่งปลายเท้ายังโดนบดบังด้วยปลายกระโปรง เวลาเดินต้องยกกระโปรงขึ้น เธอขมวดคิ้วแน่นเป็นปมอย่างไม่สบอารมณ์
ซึ่งผู้ชายเป็นคนเลือกกระโปรงตัวยาวนี้เอง ความจริงในใจเธอก็อยากใส่ชุดว่ายน้ำ ทว่า……
เชอร์รีนมองเหล่าผู้เหล่าที่เย็นสบาย แววตาพลันทอประกายแสงความอิจฉาเล็กน้อย พวกเธอเหล่านั้นดีเหลือเกิน
ออกัสกลับถลึงตาใส่เธออย่างไม่รู้สึกสะทกสะท้าน“ถ้ามองคนอื่นต่อ เดี๋ยวลูกตาก็กระเด็นออกมาหรอก ……”
ได้ยินคำนี้ เชอร์รีนก็รีบแสดงความคิดของตัวเอง“ฉันก็อยากใส่ชุดว่ายน้ำ ใส่กระโปรงยาวแล้วเดินไม่สะดวก”
“หุ่นแบบนั้น คุณมีไหมล่ะ?”ออกัสดึงเธอกลับมา
เชอร์รีนหมดคำจะพูด คนนี้นี่นะ……
จากนั้นเธอจ้องเขาอย่างหงุดหงิดใจ“ฉันมีหุ่นแบบนั้นหรือเปล่า คุณไม่รู้เหรอ?”
ประโยคนี้ทำให้ออกัสเบิกบานใจยิ่ง ระหว่างคิ้วเผยรอยยิ้มเนือยๆขึ้นมา พลางโอบเอวเธอด้วยท่าทีคลุมเครือในเชิงคู่รัก กล่าวว่า“มาสิ ผมจะลองวัดขนาดไซด์ดู ผมวัดไม่ผิดแน่……”
เชอร์รีนสะบัดมือใหญ่ที่เขาฉวยโอกาสแตะเนื้อต้องตัวออก ก่อนจะเขม็งตาใส่เขา ส่วนซารางนั้นกำลังเล่นทรายอย่างสนุกสนาน
ออกัสว่ายน้ำเก่งมาก ซารางยกสองขาขึ้น บอกจะว่ายน้ำด้วยคน
พ่อลูกจึงอยู่ในน้ำทะเล ออกัสสอนซารางว่ายน้ำ ส่วนเชอร์รีนยืนมองด้านข้าง ชุดกระโปรงโบฮีเมียนตัวยาวเปียกน้ำทะเลจนแนบกันลำตัวแล้ว
ออกัสหรี่ตามองเธอ ก่อนจะพยักคางให้อีกฝ่าย สื่อให้เธอรู้ว่าขึ้นฝั่งได้แล้ว เธอยิ้มอย่างอารมณ์เสีย เอ่ยว่า“คุณคิดว่าอยู่ในยุคโบราณหรือไง?ทำไมเมื่อก่อนฉันถึงไม่รู้ว่าคุณหัวโบราณแบบนี้?”
“รู้ตอนนี้ก็ไม่สาย อันที่จริงใส่ยาวหน่อยก็ไม่เสียหายอะไรนี่ ผู้หญิงกลัวดำไม่ใช่เหรอ คุณใส่แบบนี้แล้วจะตัวดำได้ยังไง ใช่ไหม?”
“ใช่บ้าบออะไรกัน” เธอพูดอย่างหงุดหงิด มีแต่เขาแหล่ะมั้งที่พูดได้เต็มปากเต็มคำแบบนี้ กลัวดำอะไรกัน ก่อนมาชายหาดก็ต้องทากันแดดแล้วหรือเปล่า
ณ โรงพยาบาลในเมืองS
สิงหาร้อนอกร้อนใจอยู่ในห้องผู้ป่วย ตอนนี้ผลตรวจไขกระดูกออกมาแล้ว ถึงจะเข้ากันไม่สูงมากนัก ทว่าก็ยังอยู่ในระดับกลาง ถือว่าทำการปลูกถ่ายไขกระดูกได้อยู่
ทว่าประเด็นสำคัญตอนนี้คือ มือถือเชอร์รีนโทรไม่ติด และเป็นวันหยุดเรียนด้วย ดังนั้นจึงไม่รู้จะหาตัวเธอได้ที่ไหน
หรือว่าเธอเปลี่ยนใจกะทันหัน?
“คุณไม่ต้องร้อนใจนะ ผมจะให้คนไปสืบว่าเชอร์รีนไปไหนแล้ว” สิงหาปลอบประโลมวินดา จากนั้นก็โทรออก
ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้จะปล่อยให้เกิดปัญหาขึ้นไม่ได้ ปกติหาคนมาทำการปลูกถ่ายไขกระดูกนั้นยากเย็นแสนเข็ญ เวลานี้ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เหนือการคาดหมายไม่ได้…