ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง - บทที่ 263 เธอคือแม่แท้ๆของเธอ
“สำหรับผม คุณไม่ต้องกังวล และก็ไม่ต้องคิดมาก ยิ่งไปต้องไปเรียบเรียงภาษา เข้าใจไหม?พวกเราเป็นคนที่ใกล้ชิดกันที่สุด ต่อหน้าผม คุณไม่ต้องรักษาสติ ความเจ๋ง เหมือนกับเมื่อกี๊ ที่ขี้งอน จนตัวเองยุ่งเหยิงไปหมด ไม่ว่าคุณเป็นแบบไหน ผมก็ชอบคุณ เข้าใจไหม?”
เธอพยักหน้า ตอนนี้เขารู้ความจริงแล้ว เธอกลับรู้สึกโล่งอก:“แต่ว่า ต่อไปไม่ว่าเรื่องอะไร คุณห้ามปิดบังฉันนะ!”
แน่นอนว่าออกัสไม่ยอมแน่ สายตาลึกซึ้งนั้นหรี่ลงเล็กน้อย พูดเงื่อนไขกับเธอ:“เงื่อนไขนั้นต้องซึ่งกันและกัน แค่ฝ่ายเดียวไม่ได้……”
“โอเค แล้วก็ขอโทษด้วย เมื่อกี๊ฉันพูดเหลวไหล คุณอย่าใส่ใจนะ ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองพูดไปแบบนั้น——”
แน่นอน ไม่รอให้เธอพูดจบ ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มก็เอนตัวลงเล็กน้อย ริมฝีปากบางๆกัดไปที่ริมฝีปากสีแดงของเธอ จูบลงไป กลืนทุกลมหายใจและคำพูดของเธอ ไปหมด
คนตั้งท้องเป็นอย่างที่ดนัยบอกจริงๆด้วย บางครั้ง ก็จะอารมณ์แปรปรวนกันไป
ดูเหมือนว่า เขาต้องหาหนังสือของคนตั้งครรภ์สักสองสามเล่มมาอ่านซะแล้ว
สิงหากลับมาที่บ้านตระกูลสิริไพบูรณ์ สุนันท์ไม่อยู่ มีแต่คนใช้อยู่
เขาโทรหาป้าบัวล่วงหน้า ได้ยินป้าบัวบอกว่าเธอไม่อยู่ เขาถึงกลับมา ตอนนี้ในสถานการณ์เช่นนี้แล้ว ระหว่างเขาทั้งสองคนอย่าได้เจอกันเลย
และอีกอย่าง ก็ไม่จำเป็นต้องเจอกันด้วย เขากลับมา ก็แค่เอาของที่เป็นของเขาทั้งหมดไปก็เท่านั้น
เขาไม่ได้ไปที่ห้อง แต่ไปที่ห้องทำงานโดยตรง ของในห้องทำงานสำหรับเขาแล้ว ล้วนแต่สำคัญที่สุด
เอกสาร ปากกา ที่ควรเอาไปเขาก็ไม่ทิ้งไว้เหมือนกัน หยิบกุญแจออกมา แล้วเปิดลิ้นชักชั้นสุดท้ายออก
ลิ้นชักชั้นสุดท้ายนั้นวางโบราณวัตถุที่แม่เขาทิ้งไว้ก่อนเสีย ทั้งหมดใส่อยู่ในชั้นนั้น นับดูอย่างละเอียดแล้ว มีที่ไม่ได้เปิดมาสิบกว่าปีแล้วด้วย
นาฬิกา ที่คาดผม กำไล สิงหาเอาของพวกนั้นออกมาทั้งหมด แล้วใส่ในกระเป๋าเช่นกัน
จากนั้น เขาจะปิดลิ้นชัก แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร มีของติดอยู่ในลิ้นชัก ปิดไม่ได้เลย
สิงหาขมวดคิ้ว ยื่นมือเข้าไป แตะตรงปลายสุดลิ้นชัก ก็พบว่ามีบางอย่างติดอยู่ที่นั่นจริงๆ กลมๆ เรียบๆ
เป็นอะไรกันแน่นะ?
เขานั่งลงไปที่พื้น พร้อมกับความสงสัย ใช้เวลาอยู่นานมาก แรงขนาดใหญ่ ถึงเอาของชิ้นเล็กนั้นออกมาได้
แบมือออก เมื่อแหวนเพชรหยกสีเขียวนั้นเข้าสู่สายตา สิงหากลับตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ แล้วก็ตะลึงอยู่ตรงนั้น……
แหวนเพชรหยกวงนี้เหมือนกันเลยกับ วงนั้นที่เห็นซารางสวมที่คอในโรงพยาบาล ……
เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ กำแหวนเพชรหยกไว้ แล้วเข้าสู่ความคิด
ตอนนั้น เขายังไม่แต่งงาน และก็ยังไม่ได้สร้างบ้านตระกูลสิริไพบูรณ์ พบหยาดฝนอยู่ที่หน้าประตู
ตอนนั้นเป็นเดือนสิบสองตามปฏิทินจันทรคติ หิมะตกหนัก เขาเปิดประตูไป ก็ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ พอก้มหน้าไปที่เท้า ก็มองเห็นเด็ก
ยังอยู่ในผ้าอ้อม และเล็กมากเป็นพิเศษ เหมือนว่าเพิ่งเกิดออกมาไม่นาน หน้าเล็กๆนั้นแดงแข็งไปหมด ร้องไห้ไม่หยุด
รอบๆก็ไม่มีใคร ยิ่งไปกว่านั้นเอาเด็กวางอยู่บนหิมะแบบนี้ เธอจะต้องป่วยแน่
ดังนั้น เขาอุ้มเด็กกลับมาที่บ้าน เปิดผ้าอ้อมออก จึงพบว่าด้านในยังห่อด้วยแหวนเพชรหยกสีเขียววงหนึ่ง
กลับไม่คิดอะไรมาก วางแหวนเพชรหยกกับของโบราณวัตถุของแม่ไว้ด้วยกัน หลายปีนี้ไม่ได้เปิดของโบราณวัตถุพวกนี้เลย และก็ลืมแหวนเพชรหยกอย่างหมดจด
ถ้าวันนี้ไม่ได้กลับมาเอาของออกไป ก็กลัวว่าเขาจะไม่นึกถึงแหวนเพชรหยกวงนี้แล้วแน่ๆ ที่สำคัญคือเวลาผ่านไปนานมากแล้ว เขาลืมไปนานแล้ว
นี่ ถือว่าได้รับมาโดยไม่คาดคิดหรือเปล่า?
ใบหน้าสิงหาปรากฏความสุขออกมา เก็บแหวนเพชรหยก ออกไปจากบ้านตระกูลสิริไพบูรณ์อย่างรวดเร็ว
นั่งอยู่บนรถ เขากดโทรเบอร์หยาดฝนไป แป๊บหนึ่ง ทางนั้นก็รับสาย
“หยาดฝน ตอนนี้เธออยู่ไหน?”สิงหาวางกระเป๋าไว้ที่เบาะหลัง ให้คนขับรถขับรถกลับไปที่โรงพยาบาล
“อยู่ที่อเมริกา”บรรยากาศรอบๆหยาดฝนตรงนั้นฟังดูแล้ววุ่นวายมาก มีคนพูดอยู่ตลอด เสียงดังมาก ฟังไม่ค่อยได้ยินนัก
สิงหาขมวดคิ้ว:“ไปอเมริกาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่ใช่ว่าตัดสินใจอยู่เมืองSแล้วเหรอ?”
“แน่นอนว่าตัดสินใจอยู่เมืองS แต่งานของฉันที่นี่ต้องส่งมอบด้วย ฉันมาอยู่นี่นานแล้ว”
“กลับมาเมื่อไหร่?”
“ถ้าไม่มีอะไร คืนนี้ก็จะกลับเมืองSได้ ซื้อตั๋วเครื่องบินมาแล้ว เดี๋ยวรีบไปสนามบิน”
“ถึงสนามบินแล้วโทรหาพี่นะ พี่จะไปรับเธอ ถึงตอนนั้นมีเรื่องต้องคุยกับเธอ”
หยาดฝนตอบ:“ค่ะ……”
บ้านตระกูลสิริไพบูรณ์
สุนันท์กลับไปถึงบ้านตระกูลสิริไพบูรณ์แล้ว ก็ได้ยินคนใช้พูดว่าคุณชายเพิ่งกลับมา
ได้ยินอย่างนั้น ในใจสุนันท์ก็รู้สึกพอใจ เขาคิดได้แล้วเหรอ เสียใจแล้วเหรอ?
แต่ว่า คำพูดต่อมาของคนใช้กลับทำให้เธอเหมือนจากสวรรค์ตกลงไปสู่นรก แตะออกเป็นเสี่ยงๆ:“คุณชายกลับมาเก็บของค่ะ เอาของในห้องทำงานไปหมดแล้ว……”
เหมือนกับเข็มแหลมที่ทิ่มแทงตัวเธอ ทำให้ตัวสั่นและเจ็บปวด ร่างกายทนไม่ไหวที่จะขดตัว จากนั้น เธอก็พุ่งไป ที่ห้องทำงานเหมือนคนบ้า จริงๆด้วย ที่เอาไปได้ ของที่สามารถหยิบไปได้ เขาเอาไปทั้งหมดเลย ไม่ทิ้งไว้สักอัน
ดูเหมือนว่า เขาไม่ใช่แค่ไม่มีความคิดจะกลับมา แต่ยังมุ่งมั่นที่จะแบ่งแยกกับเธอ!
“กรี๊ดกรี๊ด!!!”สุนันท์กรีดร้อง ปัดโคมไฟ เอกสาร บนโต๊ะทำงานทั้งหมดหล่นลงไปที่พื้น แล้วใช้เท้าเหยียบไปอย่างแรง
แต่ว่า เธอจะให้พวกเขาอยู่อย่างดีไม่ได้ จึงโทรศัพท์ไป ให้คนแอบสะกดรอยตามสิงหาล่วงหน้า
ตอนค่ำ เครื่องบินของหยาดฝนมาถึงสนามบิน ส่วนสิงหารออยู่ด้านนอกสนามบินนานแล้ว ไม่หยุดมองดูเวลา
ตอนที่ร่างของเธอปรากฏอยู่ในสายตา สิงหาจึงโล่งอก เดินเข้าไป รับกระเป๋าเดินทางในมือเธอ:“ทำไมนั่งไฟล์ทดึกขนาดนี่ล่ะ?”
“ไฟล์ทก่อนหน้านี้ไม่มีตั๋วเลย ยังไงซะก็ไม่มีเรื่องเร่งด่วนอะไร เลยซื้อไฟล์ทนี้”
ขึ้นรถไป สิงหาพาเธอไปกินอาหารค่ำในร้านอาหารฝรั่งเศสก่อน หยาดฝนไม่ได้กินอะไรบนเครื่องบิน ตอนนี้เลยกินซะเยอะ แล้วก็ดื่มไวน์แดงไปอีกสองสามแก้ว
“กินอิ่มหรือยัง?ถ้าอิ่มแล้ว เดี๋ยวพี่พาเธอไปเจอคนๆหนึ่ง”
“ใครเหรอ?ทำไมลึกลับขนาดนี้ล่ะ?”
สิงหาพูดแต่ก็ยังไม่เข้าใจนัก เขาไม่พูดอะไรมาก พูดแค่ว่า:“รอถึงที่นั่น พี่จะบอกเธอเอง”
รถขับไปที่โรงพยาบาลโดยตรง หยาดฝนไม่เข้าใจ สงสัย แต่ไม่ได้ถาม พอถึงโรงพยาบาล เดี๋ยวก็รู้อะไรที่ควรจะรู้เองแหละ
ตอนที่หยาดฝนเห็นวินดา ความสงสัยในใจก็มากขึ้น ไม่เข้าใจเจตนาของพี่ชายในเวลานี้
สิงหาให้หยาดฝนนั่งลง พูดเสียงอ่อนโยนว่า:“มีบางเรื่องที่เธอก็รู้อยู่แล้ว เช่น เธอคือน้องสาวที่พี่เก็บมา”
“พี่คะ พี่มีอะไรก็พูดมาตรงๆเถอะ ฉันรู้สึกว่าพี่มีเรื่องในใจที่สำคัญมากๆ”ใบหน้าเขามีสีหน้าเคร่งขรึมตลอด ปกปิดเธอไม่ได้
“ที่จริงแล้วเธอคือแม่แท้ๆของเธอ……”สิงหามองไปที่วินดาแล้วพูดกับหยาดฝน จากนั้นหยิบแหวนเพชรหยกสีเขียวนั้นออกมา:“นี่คือของที่พี่พบจากผ้าอ้อมตอนที่พี่เก็บเธอมา เป็นของที่เธอทิ้งไว้อยู่ข้างกายเธอ”