ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง - บทที่ 271 โชคดีที่รู้ทัน
จักรกฤษก็ยังคงดื้อรั้นเหมือนปกติ ดั่งเจ้าเด็กไม่รู้จักโตเลย “ตรวจอะไร ร่างกายของฉันแข็งแรงดี มีชีวิตอยู่อีกสี่สิบปีก็ไม่ใช่ปัญหา ไม่ต้องตรวจ!”
ทำอะไรเขาไม่ได้เลย ในใจของเชอร์รีนมีการตัดสินใจแล้ว รอครั้งหน้าตอนที่เธอไปโรงพยาบาล จะชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดก็ต้องเอาเขาไปให้ได้
ไม่ได้อยู่ที่บ้านต่อนานสักเท่าไหร่ หยิบกิมจิที่กนกอรเตรียมไว้ก่อนขึ้นมา และผักกาดดองอีกเล็กน้อย เธอพาซารางออกจากบ้านไป
วันนี้ออกัสมีประชุมสำคัญต้องเข้าร่วม ดังนั้นจึงไม่สามารถมารับเธอและซารางกลับอพาร์ทเม้นท์ ทั้งสองต่อรถกลับอพาร์ทเม้นท์
หลังจากที่กล่อมซารางจนหลับแล้ว เธอนั่งรอออกัสอยู่บนโซฟาห้องรับแขก เริ่มมีความง่วงผ่านเข้ามา ค่อยๆ นอนลงบนโซฟา
นาฬิกาควอตซ์ในห้องรับแขกชี้อยู่ที่ตีหนึ่ง ประตูห้องอพาร์ทเม้นท์ดังขึ้น ร่างกายที่สูงผอมของออกัสปรากฏอยู่ตรงหน้าประตู
เหมือนเขาพึ่งไปเข้าสังคมกลับมา บนร่างกายมีกลิ่นของสุราอ่อนๆ เสื้อคลุมพาดอยู่ตรงแขนอย่างไม่เรียบแล้ว เนกไทที่อยู่เสื้อถูกดึงออก คอเสื้อเปิดไว้
เดินเข้ามาในห้องรับแขก นัยน์ตาหยุดอยู่บนร่างกายที่นอนหดเป็นวงกลมอยู่บนโซฟาดั่งเจ้าหนอน ใบหน้าและอารมณ์ดูอ่อนโยนขึ้นมาทันที ในใจของออกัสเหมือนถังถูกแสงสว่างส่องเข้ามา เดินเข้ามาด้วยการก้าวเท้าเสียงเบา โค้งตัวลงอุ้มเธอขึ้นมา
ดวงตาหรี่ตาขึ้นช้าๆ เผยช่องโหว่ออกมา เห็นว่าเป็นเขา นัยน์ตาของเขาดีใจและเปล่งประกายขึ้น ทว่าปากกลับหาวไม่หยุด “นายกลับมาแล้ว ในห้องครัวมีอาหารเย็นที่เตรียมไว้นะ”
“อื้ม ฉันรู้แล้ว เธอนอนเถอะ……” นัยน์ตาและน้ำเสียงของเขาอ่อนโยนขึ้นเรื่อยๆ อ่อนโยนดั่งคลื่นที่พัดออกเบาๆ
เธอเปิดไฟดวงนั้นไว้ให้เขา และการรอที่ทำเพื่อเขา ทำให้เขามีความรู้สึกเหมือนการเป็นเจ้าของอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเหมือนเรื่องราวทุกอย่างได้จบลง ความเหนื่อยล้าและความเมาที่ได้มาจากงานเลี่ยงเลือนหายไปทันที
“ฉันไปอุ่นอาหารเย็นให้นาย แล้วฉันค่อยนอน…….” ระหว่างที่พูด ร่างกายของเธอขยับเล็กน้อย ดิ้นลงจะกระโดดลงมาจากอ้อมกอดของเขา
แขนทั้งสองของออกัสไม่ได้ปล่อยเธอออก ยังคงกอดเธอไว้แน่น มือซ้ายของเขาจับไปที่คาง ให้แก้มของเธอพิงอยู่ตรงหน้าอก “เด็กดีนอนเถอะนะ ฉันไปอุ่นเอง นอนเถอะ……”
เป็นเพราะว่าง่วงมากแล้วจริงๆ เธอไม่ได้ยืนหยัด หาตำแหน่งที่สบายที่สุดในอ้อมกอดของเขา หลับตาแล้วนอนหลับไป
ในตอนที่เธอกำลังมึนๆ งงๆ กำลังจะหลับสนิท น้ำเสียงที่ต่ำและอ่อนพลิ้วของผู้ชายดังผ่านมายังข้างหูของเธอ “หลังจากนี้ ฉันจะไม่กลับมาดึงขนาดนี้แล้ว……”
ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถปลีกตัวออกมาจากการเข้าสังคมได้ เขาก็ยังรีบกลับมาให้เช้าที่สุด ไม่ให้เธอรอ……
ณ โรงแรม
ภายใต้ค่ำคืนราตรี สิงหายืนอยู่ตรงหน้าต่าง ชายสวมชุดสูทยืนอยู่ข้างหลังของเขา
“ทางนั้นมีข่าวอะไรไหม?” สิงหาถาม
ชายที่สวมชุดสูทรู้ว่าเขาถามอะไรอยู่แล้ว ส่ายหัว ตอบกลับ “จนกระทั่งตอนนี้ยังไม่มีข่าวส่งมาครับ”
“ยาล่ะ สองสามวันนี้ยังให้พวกเขาใส่อยู่หรือเปล่า?”
“สัปดาห์นี้ยังไม่เคยขาดเลยครับ พวกเขาใส่ทุกวันครับ”
“ปริมาณของยาเป็นยังไงบ้าง?”
“เหมือนกับที่ท่านบอกครับ ใส่ปริมาณยาน้อยมากและอ่อนมากครับ ไม่ก่อให้เกิดการทำร้ายใดๆ กับร่างกายครับ……”
สิงหาพยักหน้าอย่างพอใจ เป้าหมายสุดท้ายของเขาคือไขกระดูก ตอนนี้สิ่งที่ต้องการก็แค่การประนีประนอมจากพวกเขา
……
เช้าวันนี้ เชอร์รีนตื่นเช้ามาก ก็แค่เวลาหกโมง เธอก็ตื่นแล้ว
ออกัสยังหลับสนิทอยู่ กอดเธอไว้แน่น มือข้างซ้ายวางอยู่บนหน้าอกของเธออย่างไร้ยางไอ จับแล้วอ่อนนุ่ม
เธอก็พึ่งเห็นในช่วงนี้ว่าตอนเขาหลับมีนิสัยแบบนี้ คางของเขายังทับอยู่ระหว่างผมที่อ่อนนุ่มของเธอด้วย
ร่างกายไม่สามารถขยับได้ ยื่นมือออกไป ผลักเธอไปหนึ่งที อยากให้เขาปล่อยออก แต่ใครจะรู้ มือของเขากลับกอดแน่นขึ้นยิ่งกว่าเดิม
ทำอะไรไม่ได้ เชอร์รีนได้แต่เอ่ยปากขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “ฉันไปล้างหน้า นายนอนต่อไปก่อนนะ ฉันทำอาหารเช้าเสร็จแล้วค่อยเรียกนาย”
การตอบกลับออกมาจากลำคอด้วยเสียงเบา ออกัสปล่อยเธอออก ไปล้างหน้าแปรงฟันที่ห้องน้ำ แล้วไปทำอาหารเช้า
เช้าก่อนหน้านี้ล้วนตื่นสายไป ไม่มีเวลาทำอาหารเช้า วันนี้ตื่นค่อนข้างเช้า ยิ่งไม่ต้องไปซื้อที่ข้างล่างแล้ว ตัดสินใจทำเอง
นึ่งไข่นุ่มให้ซาราง จากนั้นก็ต้มโจ๊ก แล้วนำผักที่กนกอรให้นำกลับมาเมื่อวานจัดใส่จาน
หลังจากที่เตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เธอยิ้มโค้งขึ้น ไปเรียกซารางที่ห้องนอน เมื่อคืนเขานอนดึกเกินไป ตอนนี้สามารถนอนได้อีกสักพักก็ให้เขานอนหน่อย
ซารางตื่นยากมาโดยตลอด งอแงไม่ยอม หรี่ตาขึ้น มืออันขาวนุ่มของเธอจับท้องไว้ ขี้โกง “หม่ามี๊ หนูปวดท้อง”
“หนูปวดท้องจริงๆ หรือว่าตั้งใจไม่ยอมไปโรงเรียน?” เชอร์รีนบีบแก้มของเธอ
“ปวดท้องจริงๆ ค่ะ” เสียงของซารางเหมือนดั่งอยู่ที่กำลังพึมพำอยู่ แก้มอันน้อยนิดห่มอยู่ในผ้าห่ม ไม่ยอมเงยขึ้น
“นี่พึ่งไปโรงเรียนกี่วันเนี่ย หนูก็แกล้งปวดท้อง ขี้เกียจไม่ยอมไปโรงเรียน งั้นได้ แม่จะโทรหาคุณครูของหนูตอนนี้เลย”
เชอร์รีนทำท่าหยิบโทรศัพท์ออกมา ได้ยินประโยคนี้ ซารางรีบลุกขึ้นมาจากเตียง ใบหน้าน้อยอกน้อยใจ
ในตอนเด็ก บางครั้งคนที่เด็กกลัวไม่ใช่พ่อแม่ แต่เป็นคุณครู ก็เหมือนดั่งถูกบางอย่างควบคุมไว้เลย
“ไปใส่เสื้อผ้าเอง ใส่เสร็จแล้วมาทานอาหารเช้า รองเท้าใหม่ที่ซื้อให้หนูเมื่อวานอยู่ใต้เตียงแล้วนะ”
ชัดเจนเลยว่าซารางอย่างไม่ตื่นกึ่งตื่นกึ่งหลับ เซไปเซมานั่งอยู่ตรงนั้น ดวงตาอยากจะหลับตาอยู่ตลอดเวลา
หยิกไปที่จมูกของเขา เชอร์รีนไปที่ห้องน้ำ เห็นว่าใต้กางเกงชั้นในมีสีแดงอ่อนๆ เธอขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ
ในเมื่อท้องแล้ว ทำไมถึงมีประจำเดือน รอยแดงนี้หมายความว่าอะไร?
ทว่า รอยแดงไม่ได้เยอะ มีเพียงเล็กน้อย ไม่ได้เยอะเท่านิ้วโป้งเลยด้วยซ้ำ สีแดงดูบาดตาเป็นพิเศษ
สวมกางเกงให้ดี เธอตัดสินใจไปดูที่โรงพยาบาล ทว่าพึ่งเดินไปแค่สองก้าว ก็มีความเจ็บขึ้นมาเหมือนกับเมื่อวาน
เทียบกับสองครั้งก่อนแล้วครั้งนี้ดูเจ็บกว่าเดิม แขนของเขาดันไปยังข้างชักโครก ร่างกายนั่งอยู่ที่พื้นกอดท้องไว้ ดูว่าจะสามารถอดทนไปเหมือนครั้งที่แล้วได้หรือเปล่า
ทว่าครั้งนี้ชัดเจนเลยว่ามีความรุนแรง ราวกับว่าถูกเข็มแทงแล้วเธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนไปทั้งตัว รู้สึกถึงความหนาวเย็นนั้นเชื่อมโยงไปทั้งข้างบนและข้างล่าง ถึงขั้นขาทั้งสองของเธอเกือบจะล้มลงพื้นเพราะยันไม่ไหว อีกอย่างความปวดนี้ก็ปวดขึ้นเรื่อยๆ เหมือนจะไม่เห็นใจกันเลย เจ็บปวดอย่างบ้าคลั่งไปทั่วทั้งตัว
ใบน้ำที่แดงฉ่ำเริ่มซีดขาวแล้วในตอนนี้ แม้กระทั่งริมฝีปากก็ไม่มีรอยเลือดแล้ว เธอสูดหายใจอย่างเยือกใหญ่ หน้าผากมีเหงื่อเย็นไหลออกมา ไม่สามารถขยับได้ ขยับแค่เล็กน้อย ก็รู้สึกเจ็บปวดมาก
ซางรางก็วิ่งเข้าไปในห้องอาบน้ำ เห็นหม่ามี๊นั่งอยู่ เธอกะพริบตาที่ดำขลิบ “หม่ามี๊ เป็นอะคะ?”
ขมวดคิ้วเข้าหากัน เชอร์รีนตกใจมาก พยายามอดทนไว้ “ไปหาแด๊ดดี้ บอกแด๊ดดี้ว่า หม่ามี๊ปวดท้อง……”
ศีรษะเหมือนกับลูกไก่จิกจ้าวเลย ซารางกลืนน้ำลายแล้วพุ่งเข้าไปในห้องนอน ผู้ชายยังหลับอยู่ เธอตะโกนร้อง ถึงแม้ตัวจะน้อย ทว่าตอนนี้เสียงทั้งดังทั้งแหลม “แด๊ดดี้ แด๊ดดี้ หม่ามี๊บอกว่าปวดท้องค่ะ!”
นัยน์ตาลืมขึ้น ออกัสเลิกผ้าห่มออกแล้วขึ้นมาจากเตียง พุ่งเข้าไปในห้องน้ำ อุ้มเธอขึนมาทันที รีบไปที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
เจ็ดโมงกว่า เป็นช่วงเวลาเข้างานพอดี บนถนนรถติดมาก ใบหน้าที่หล่อเหลาของออกัสราวกับว่ามีหมอกหนาปกคลุมอยู่ เหยียบคันเร่งลงไป รถออฟโรดที่การขับดีเยี่ยมขับผ่านช่องซอกระหว่างรถตรงไป
บนหน้าผากมีเหงื่อเย็นไหลโชก เชอร์รีนให้เขาขับช้าหน่อย
ทว่าตอนนี้ออกัสจะขับช้าได้ยังไง เขาถึงขั้นอยากมีปีกบินไปถึงโรงพยาบาลเลย
ซารางยังอยู่ที่อพาร์หลังจากที่เม้นท์ เขาสวมหูฟัง โทรหาจักรกฤษ ให้เขาไปดูแลซารางที่อพาร์ทเม้นท์ก่อน
ตลอดทางนี้ทั้งขับแซง ทั้งฝ่าไฟแดง ไม่ช้าก็มาถึงโรงพยาบาล โรงพยาบาลที่ไปคือโรงพยาบาลเอกชนใกล้บ้าน สิ่งแวดล้อมไม่แน่ เป็นที่ใช้จ่ายของคนรวยทั้งนาน
คุณหมอคอยรออยู่ตั้งนานแล้ว ตรงไปที่ห้องทำงานของโรงพยาบาลเลย มือกดทับท้องของเชอร์รีน เธอปวดจนรู้สึกตกใจ
“ไม่ใช่กระเพาะอักเสบ และไม่ใช่ไส้ติ่งอักเสบ เป็นปัญหาของมดลูก คุณออกัสเชิญหลบหน่อยค่ะ พวกเราจะทำการตรวจอย่างละเอียดให้คนไข้ค่ะ”
สีหน้าของเขาอยู่ในสายตา ออกัสหรี่ตาขึ้นแล้ว เหมือนว่าอยากจะพูดประชดอะไรบางอย่าง ทว่าสุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยปากพูด ริมฝีปากเป็นเส้นตรง เดินออกจากห้องทำงานของโรงพยาบาลไป
นั่งอยู่บนเก้าอี้แนวยาวตรงหน้าห้องทำงาน ออกัสขมวดคิ้วเป็นปมขึ้นมา
คนที่เดินผ่านระเบียงไม่ว่าจะคนไข้ คุณหมอ หรือว่าผู้ปกครอง นัยน์ตาต่างก็หยุดอยู่บนตัวของเขา จ้องมองเขา
ตอนนั้นเร่งรีบเกินไป เขายังไม่ทันมีเวลาไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและคิดเรื่องอื่น ตอนนี้บนตัวของเขายังสวมชุดอาบน้ำอยู่ บนรองเท้ายังเป็นรองเท้าแตะ
คณบดีที่รีบมาหลังจากที่ได้ข่าว พอพบเจอกับเขาครั้งแรกก็ตกตะลึงมากๆ เขาเคยเห็นประธานออกัสแบบนี้……ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ประธานออกัสที่พบเจอในปกติบุคลิกเกรี้ยวกราด ทั้งตัวเต็มไปด้วยความสูงส่งและสง่างามที่พูดไม่ออก และยังมีความแพงความที่ไม่สามารถดูหมิ่นได้
ขณะนี้กลับใส่เพียงแค่รองเท้าแตะและชุดอาบน้ำ ตกใจหนักมาก ยังคงหายใจอย่างรุนแรง แม้กระทั่งการหายก็รีบมาก
ทว่าพวกนี้กลับไม่ส่งผลกระทบต่อความหล่อของเขาเลย เพราะว่ายังมีพยาบาลสาวๆ ผู้หญิงอีกมากมายที่เดินผ่านทางนี้ แล้วมองโดยไม่หันศีรษะกลับ
เดินผ่านไป คณบดีพูดอย่างเคารพ “คุณออกัสครับ ห้องทำงานอยู่ข้างนายนี้ ไปห้องทำงานเถอะครับ”
“ไม่ต้อง” เขาพูดออกมาสองคำอย่างเย็นชา ในน้ำเสียงมีความเยือกเย็นสุขุมแฝงอยู่ ราวกับวันที่เหน็บหนาวในฤดูร้อน หยดน้ำเป็นน้ำแข็ง
ตอนนี้เธอนอนอยู่ในห้องฉุกเฉินไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจะไปห้องทำงานได้ยังไง ตอนนี้ เขาแม้กระทั่งนั่งลงก็ไม่กล้านั่ง
คนที่สามารถทำให้ประธานทำแบบนี้ต้องเป็นคนที่สำคัญในใจเขามากแน่ๆ คณบดีกระแอมคอไปเสียงหนึ่ง “หรือว่าประธานจะไปเปลี่ยนชุดหน่อยไหมครับ”
ได้ยินประโยคนี้ของเขาแล้ว นัยน์ตาของออกัสหยุดอยู่บนตัวของตนเอง หน้าอกทั้งแผ่นเผยออกมา บนเท้ายังเป็นรองเท้าแตะ จริงๆ แล้วมีความ……
ทว่าเขาก็ยังคงไม่จากไป รอให้ข่าวของเธอออกมาแล้ว เขาค่อยไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ไม่สาย
อยู่ตรงหน้าเธอ ไม่ว่าจะภาพลักษณ์หรือหน้าตา ล้วนไม่มีค่าให้พูดถึง
คณบดีก็ไม่ดีที่จะพูดอะไรอีก ยืนอยู่ตรงหน้า คิวที่หล่อเหลาของออกัสขมวดขึ้นเยอะมาก โบกมือ แสดงให้เขาจากไป
ระหว่างนั้น เขาโทรหาจักรกฤษ หลังจากที่รู้ว่าเขามาถึงอพาร์ทเม้นท์เจอซารางแล้ว เขาจึงจะวางใจวางสายลง
หลังจากผ่านไปไม่นาน ในที่สุดห้องประตูฉุกเฉินก็เปิดออก คุณหมอประจำตัวเดินมา ถอดผ้าปิดปากลง
“เป็นยังไงบ้าง?” เอาตรงๆ เลย ออกัสเอ่ยปากพูดขึ้นตรงๆ
“โชคดีที่รู้ทันเวลาพอดี และมาได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้แท้งได้”