ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง - บทที่ 295 คุณทำให้ฉันรู้สึกไม่สบาย
แน่นอนว่าในวินาทีต่อมาหลังดวงตาของออกัสก็ลืมขึ้น แต่ข้างในกลับแดงเล็กน้อย ลมหายใจที่เขาพ่นออกมาก็ร้อนมากจนแทบจะลวกคนได้
ทันทีที่สายตาของสบเข้ากับหยาดฝน ความประหลาดใจก็วาบขึ้นในดวงตาของเขา เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เข้าใจสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้ามากนัก
จากนั้นเปลวเพลิงความร้อนที่ลุกโชนขึ้นในร่างกายก็ปั่นป่วนขึ้น
ร่างกายทั้งบนและล่างเต็มไปด้วยความร้อนที่ไม่สามารถอธิบายได้ มือใหญ่ของออกัสขยับฉีกเสื้อบนร่างกายออก
“เธอเกิดอะไรขึ้น?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
หยาดฝนมองเขาไม่ได้พูดอะไร แสงสีดำในดวงตายังคงกะพริบไม่หยุด
เขาโยนเสื้อผ้าที่อยู่ตกด้านข้างใส่เธอตรงๆแล้วเปิดเครื่องปรับอากาศในห้อง
ตอนนี้เข้าฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ข้างนอกฝนก็ยังตก แต่เขากลับปรับอุณหภูมิลงเป็น 16 องศา ในทันใดอุณหภูมิในห้องก็ลดลง
แต่ออกัสประเมินเปลวความร้อนนั้นต่ำเกินไป
ออกัสกลืนน้ำลาย ดวงตาของก็มีสีแดงจางๆแล้ว เขารู้ว่าเรื่องนี้มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เขาจึงพลิกตัวหันมามองหยาดฝน “เธอใส่อะไรไปในซุปปลา”
หยาดฝนที่ห่อตัวในผ้าห่มผืนบางๆเดินเข้าไปหาเขาโดยไม่พูดอะไรสักคำ จากนั้นก็ดึงผ้าห่มผืนบางออก เผยให้เห็นร่างกายที่สวยงามและเซ็กซี่ของหญิงสาว สองมือของเธอกอดหน้าอก “แบบนี้ทำให้คุณรู้สึกสบายขึ้นไหมคะ?”
ออกัสหรี่ตาไม่เหลือบมองดูเธอเลยสักนิด เขาละสายตาออกไปทันที ไม่พูดก็รู้ว่าในซุปปลานั้นใส่อะไรลงไปกันแน่
“ผมไม่เคยคิดว่าคุณจะเป็นผู้หญิงแบบนี้ หยาดฝนที่ผมรู้จักไม่ใช่ผู้หญิงแบบนี้ คุณทำให้ผมรู้สึกแปลกหน้า…”
พอพูดจบเขาก็หันหลังเข้าไปในห้องน้ำ ในอ่างอาบน้ำบรรจุน้ำเย็นไว้เต็มอ่าง เขาจุ่มร่างกายลงไปทั้งตัวโดยไม่ได้ถอดเสื้อเชิ้ตและกางเกงสูท
น้ำเย็นมาก เย็นเหมือนน้ำแข็ง แต่ออกัสกลับไม่รู้สึกเลยสักนิด สิ่งเดียวที่เขารู้สึกในตอนนี้คือความร้อน ไฟ เขาดิ้นรนราวกับสัตว์ที่ถูกขัง
ความร้อนในช่องท้องเหล่านั้นเพิ่มขึ้น มันยิ่งทำให้รู้สึกแย่มากขึ้นเรื่อยๆ ทรมานมากขึ้นเรื่อยๆ นัยน์ตาที่เดิมทีเป็นสีแดงจางๆก็ยิ่งเข้มขึ้นไปอีก เข้มจนเหมือนก้อนเลือดที่ไม่สามารถละลายได้ ทำให้คนที่เห็นรู้สึกหวาดกลัว
หยาดฝนกัดฟัน กลั้นหายใจเดินเข้าไป เสียงของเธอเบาและนุ่มนวลมาก “ออกัสคะ คุณทำแบบนี้มันไม่มีประโยชน์หรอกนะคะ”
ดวงตาคมราวกับลูกศรคมที่จะทะลุทะลวงคนได้ของออกัสก็มองเขม็งมาทันที เสียงต่ำของออกัสไม่มีความอบอุ่นใดๆเหลืออยู่แล้ว “หยาดฝน คุณรู้ไหมว่าความรู้สึกที่คุณให้ผมในตอนนี้มันเป็นยังไง?”
เธอไม่พูดอะไรมองเขาอย่างแน่วแน่ แต่กลับได้คำตอบจากแววตา น่ารังเกียจ!
ร่างกายของหยาดฝนสั่นเทา เขาไม่เคยมองเธอด้วยสายตาแบบนี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรก!
“น่ารังเกียจ…” คำพูดเย็นชาหลั่งไหลออกมาจากริมฝีปากบางของเขา ราวกับน้ำแข็งในฤดูหนาวอันหนาวเหน็บในเดือนสิบสอง
รังเกียจ ร่างกายของหยาดฝนสั่นไหวมากขึ้นเรื่อยๆอย่างห้ามไม่อยู่ เบ้าตาก็ค่อยๆเปียกชื้น น้ำตาค่อยๆไหลออกมาจากหางตา
ออกัสกลับไม่มองเธออีกต่อไปแล้ว ไม่แม้แต่จะเหลือบมองเธอ
เพราะไม่อยากมองหรือไม่คู่ควรให้มอง หรือยิ่งไปกว่านั้นอาจเป็นเพราะเขารังเกียจเธอมากจนหากมองเธออีกครั้งจะทำให้ตาของเขาสกปรก?
นี่เป็นครั้งแรกที่ออกัสพูดกับเธออย่างโหดเหี้ยม โหดจนเจ็บเข้ากระดูก หยาดฝนไม่เคยคิดเลยว่าจะมีสักวันที่เธอจะได้ยินคำที่วิจารณ์ตัวเธอเองว่าน่ารังเกียจจากปากของออกัส!
รังเกียจ ในเมื่อรังเกียจไปแล้ว ทำไมไม่ทำให้เขารังเกียจให้ถึงที่สุด?
หยาดฝนย่อตัวลงข้างหน้าเขา
เขาทนไม่ได้อีกต่อไป เขายกมือขึ้นผลักหยาดฝนออกไปแล้วก้าวออกจากอ่างอาบน้ำ
เขาก้าวไปข้างหน้าทันที ต้องการจะเปิดประตูห้อง แต่พบว่าประตูถูกล็อค ส่วนโทรศัพท์ก็ไม่ได้พกมา เขาจ้องหยาดฝน ยิ้มเยาะ ยิ้มเย้ยหยัน
เห็นได้ชัดว่าเธอพยายามจะบีบเขาให้เจอทางตัน…
ทันใดนั้นหยาดฝนรู้สึกหนาว หนาวมาก เธอลุกขึ้น เข้าหาเขาอีกครั้ง แล้วกอดเขาแน่น
ถ้าหากกอดเธอไว้ ความทรมานก็จะคลายลง…
ออกัสกัดฟันผลักเธอออกไปอีกครั้ง สติของเขาก็ค่อยๆหายไป ขณะที่สายตากวาดมองผ่านมีดหั่นผลไม้ที่อยู่บนโต๊ะ เขาจับมันไว้ในฝ่ามือแล้วกรีดลงไปที่แขนซ้าย
ความเจ็บปวดทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและสามารถทำให้เขายังมีสติ ขณะเดียวกันก็ช่วยเบนความสนใจ เพียงแต่เลือดก็ไหลออกมาอย่างรวดเร็ว
หยาดฝนตกใจ เธอตกใจกลัวจริงๆ ออกัสในเวลานี้ทำให้เธอรู้สึกกลัว ความบ้าคลั่งของเขาก็ทำให้เธอรู้สึกกลัว
เธอวิ่งเข้าไปต้องการจะแย่งมีดไปจากเขา แต่เขาไม่ให้โอกาสเธอ ปลายมีดแหลมกรีดลงอีกครั้ง เลือดสดไหลออกมาอีก
หยาดฝนกำลังจะเป็นบ้า กำลังจะถูกเขาบีบบังคับจนเป็นบ้า ถูกเขาทำให้ตกใจกลัวจนเป็นบ้า ขณะเดียวกันก็เจ็บจนหายใจไม่ออก รักเชอร์รีนมากขนาดนั้นจริงๆเลยเหรอ?
รอยกรีดแล้วรอยกรีดเล่า หยาดฝนส่งเสียงกรีดร้องออกมาจากปาก แล้วรีบวิ่งไปใส่เสื้อผ้าที่เตียงอย่างรวดเร็ว เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาด้วยมือที่สั่นเทา โทรหาผู้ช่วยเตโช
เมื่อเห็นสภาพของทั้งสองคน ผู้ช่วยเตโชก็ตกใจเอามากๆ รีบช่วยหยาดฝนพยุงเขาออกจากห้อง เมื่อเข้าไปนั่งในเบนท์ลีย์สีดำ รถก็ขับไปข้างหน้า
พอมาถึงหน้าอาคารที่อยู่อาศัย หยาดฝนไม่ได้ลงไปที่ชั้นล่าง ผู้ช่วยเตโชส่งเขาขึ้นไปชั้นบน
เชอร์รีนตกใจกับสภาพของเขามาก เธอรีบหยิบกล่องยาออกมาพันแผลที่แขนให้เขา ผู้ช่วยเตโชกลับกระแอมไอสองสามครั้ง “ยังไงผมก็รบกวนคุณเชอร์รีนช่วยดับไฟให้ประธานออกัสด้วยนะครับ”
“เขาเป็นร้อนในหรอ? ต้องทายาแก้ร้อนในไหม?” เชอร์รีนเงยหน้าขึ้น ถามด้วยความประหลาดใจ
ผู้ช่วยเตโชไม่พูดอะไรอีก เขารีบลงไปข้างล่างและจากไปอย่างรวดเร็ว เชอร์รีนส่ายหัว ขณะจะทานยา แขนของฝ่ายชายก็วางลงบนไหล่ของเธอแล้วผลักเธอลงกับพื้นทันที
เธอยังไม่ทันตั้งตัว แต่ชายหนุ่มก็พลิกมานั่งคล่อมบนตัวเธอแล้ว…
ลำคอเชอร์รีนกรีดร้องจนเสียงแทบแหบแล้ว เธอไม่รู้ว่านี่มันเป็นครั้งที่เท่าไรแล้ว แต่รู้เพียงว่าตอนนี้ทั้งคู่เหงื่อท่วมตัว
สุดท้ายเชอร์รีนก็ถูกเขาเอาจนสลบไป
เธอไม่รู้ว่าตัวเองสลบไปนานแค่ไหนแล้ว แต่เมื่อเธอลืมตาขึ้น เขายังคงทำมันอยู่ ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาก็มีเม็ดเหงื่อผุดออกมา
ด้านนอกอาคารที่อยู่อาศัย หยาดฝนยังคงนั่งอยู่ในรถเบนท์ลีย์สีดำ น้ำตาของเธอร่วงหล่นราวกับลูกปัดที่ด้ายขาด…
ผ่านไปนาน เธอเงยหน้าขึ้น เอื้อมมือปาดน้ำตาจากหางตา หลับตาลง เอนหลังพิงรถ แล้วสั่งให้รถขับออกไป
การนอนครั้งนี้กินเวลาอย่างยาวนาน เมื่อตื่นขึ้นก็เป็นเช้าของวันรุ่งขึ้นแล้ว
ความเจ็บปวดทั่วร่างกายของเธอยังไม่หายไป เชอร์รีนอยากจะกัดเขาให้ตายไปเลยจริงๆ เธอไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัว
“สายตาของคุณคืออยากให้ผมทำอีกเหรอ?” เสียงเขายังคงแหบไม่หาย เขามองมาที่เธอพร้อมบีบคางเธอ
เชอร์รีนถอนหายใจเบาๆ นอนตะแคงข้าง สองมือเธอโอบรอบเอวเขาไว้ “ทำไมคุณถึงโง่ขนาดนี้!”
ออกัสดึงริมฝีปากยิ้มบางๆไม่ส่งเสียง แล้วจูบลงบนคอของเธอ “ซึ้งหรอ?”
“ไม่จริง!” เธอพูดอย่างอารมณ์ดี พอนึกถึงสภาพตอนที่เขากลับมา ตอนนั้นเธอกลัวจริงๆ เสื้อเชิ้ตสีขาวของเธอก็ถูกเลือดเขาย้อมเป็นจนสีแดง