ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง - บทที่ 301 แบบนี้ยังอยากจะเลิกกันอยู่ไหม
เพลงนี้เป็นเพลงของผู้หญิง แต่เมื่อเขาร้องมันจากปาก แต่มันกลับมีให้รสชาติความรู้สึกที่เคลิบเคลิ้ม กลมกล่อม มีเสน่ห์ น่าดึงดูด ซาบซึ้งกินใจที่แตกต่างกัน
เชอร์รีนฟังอย่างตั้งใจ ละเอียด ไม่เต็มใจที่จะข้ามประโยคแม้เพียงประโยคเดียว ที่จริงแล้วเธอแค่อยากจะได้ยินเสียงของเขาให้มากๆ ต้องการเก็บเสียงของเขาไว้ในส่วนลึกๆในใจ
รอบตัวเงียบมาก สิ่งที่ก้องอยู่ในหูล้วนเป็นเสียงลมและเสียงที่ฝังลึกของเขา
เวลาผ่านไปนานเธอตัดใจวางสายไม่ลง แล้วเสียงของเขาก็ดังขึ้น “ลงมาสิ ผมอยู่หน้าโรงพยาบาล”
ทันใดนั้นน้ำตาก็ไหลทะลักออกมา เธอกลัวว่าเขาจะได้ยินเสียงร้องไห้ เธอกัดฟันแน่นไม่ให้ตัวเองส่งเสียงออกมา “ฉันยังค่อนข้างยุ่ง ไม่ได้ลงไปหานะ”
“ผมขับรถมารอคุณ คุณก็ควรให้ผมได้เห็นคุณสักนิดหนึ่งจริงไหม?” เสียงของออกัสนั้นลึกแต่มีความนุ่มนวล
“ฉันยุ่งมากจริงๆ ปลีกตัวไปไม่ได้เลย ตอนนี้ที่โทรหาคุณก็มีเวลาไม่มาก พรุ่งนี้ละกัน พรุ่งนี้เราเจอกันที่ร้านกาแฟตรงข้ามโรงพยาบาล ฉันจะรอคุณ”
เสียงของเขาต่ำลงมาก ร้อนรนราวกับจะฆ่าคน “ลงมา!”
“คุณรีบกลับไปเถอะ ดึกมากแล้วซารางอยู่บ้านคนเดียว ฉันไม่สบายใจ” เธอส่ายหัว เกือบจะกัดริมฝีปากตัวเองแตก ในใจรู้สึกแย่เอามากๆ
ไม่กล้าลงไป ไม่กล้าเจอเขา ไม่กล้าให้เขาเห็นน้ำตาอาบใบหน้าของเธอ กลัวว่าความโลภที่มีต่อเขาจะรุนแรงขึ้น
“ลงมา ผมจะพูดซ้ำอีกครั้ง!” ความอดทนของเขาค่อยๆหายไป มันเหลือไม่มากแล้ว
“ไม่ คุณรีบกลับไป ถ้าซารางตื่นมาไม่เจอใครจะร้องไห้ รีบไป เดินทางปลอดภัย ฉันวางสายล่ะ!”
หลังจากวางสาย เธอล้มลงกับพื้น น้ำตาไหลราวกับลูกปัดที่เชือกขาด ห้ามไม่อยู่อีกต่อไป เจ็บปวดใจ เจ็บปวดใจเหลือเกิน เหมือนถูกมีดกรีด…
ชั้นล่าง
ออกัสนั่งอยู่ในรถ สูบบุหรี่มวนแล้วมวนเล่า ไม่นานบุหรี่ทั้งกล่องก็หมดไป สีหน้าของเขาหม่นราวกับควันดำของบุหรี่
ทันทีที่เธอโทรมา เขาก็รีบมาหาทันทีอย่างเป็นห่วง แต่เธอกลับไม่ยอมลงมา
นัยน์ตาลึกหรี่ลง แสงแห่งความมืดริบหรี่ ในนั้นแสงที่เย็นยะเยือกยิ่งเย็นลงกว่าเดิม เสียงของเธอเศร้าขึ้นแถมยังปนด้วยเสียงสะอื้นอีกเล็กน้อย ทำไมเขาจะฟังไม่ออก?
เหอะๆ ที่มุมปากปรากฏรอยยิ้มเย้ยหยันแผ่ออก เขาเปิดกระจกรถ ปล่อยให้ลมหนาวที่หนาวจนทิ่มแทงกระดูกพัดเข้ามา…
บางเรื่อง ไม่ต้องให้เธอพูด ในใจเขาก็รู้ดีอย่างชัดเจน
บนระเบียงทางเดินของโรงพยาบาล เชอร์รีนนั่งยองๆกับพื้น เธอนั่งยองๆมาเป็นเวลานานจนสองขาของเธอรู้สึกชา ไม่กล้าขยับ
ในท้ายที่สุดนางพยาบาลที่เดินผ่านมาก็ช่วยพยุงเธอลุกขึ้น เมื่อเห็นหน้าเธอเต็มไปด้วยน้ำตา ก็ตกใจเล็กน้อย และโทรศัพท์ในมือเธอก็ยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่เธอกลับไม่ยอมรับสาย
ส่วนชั้นล่าง มือซ้ายของออกัสคีบบุหรี่ มือขวาก็ถือโทรศัพท์กดหมายเลขนั้นซ้ำๆ สุดท้ายก็ไม่มีใครรับสาย
เธอนอนไม่หลับทั้งคืน เขาก็เช่นกัน เขานั่งสูบบุหรี่อยู่ภายในรถทั้งคืน…
เช้าวันต่อมาเชอร์รีนลงไปชั้นล่างเพื่อซื้ออาหารเช้าให้กนกอร ครั้งนี้เธอไม่ปฏิเสธหรือทะเลาะด้วย ปล่อยให้เธอป้อนโจ๊กอย่างตามใจ
ผ้าก๊อซที่แขนจำเป็นต้องเปลี่ยน เธอจึงเรียกหมอ กนกอรอาศัยจังหวะที่กำลังเปลี่ยนผ้าก๊อซเรียกเธอให้ไปแก้ปัญหาเรื่องที่ควรแก้
แก้ปัญหาเรื่องที่ควรแก้…
เรื่องที่ควรแก้ที่เธอพูดจะหมายความว่าอย่างไรไปได้อีก หัวใจของเชอร์รีนเต็มไปด้วยความขมขื่นและความเจ็บปวดที่ไม่อาจบรรยายได้ ทั้งหมดที่เธอทำได้มีเพียงพยักหน้า
จากนั้นเธอโทรหาออกัสต่อหน้ากนกอร นัดเขาไปเจอกันที่ร้านกาแฟฝั่งตรงข้าม
หลังจากเก็บของเสร็จ ขณะที่เธอเตรียมตัวกำลังจะออกไป กนกอรยังคงเตือนเธออย่างไม่วางใจ ขู่เธอด้วยสีหน้าที่ลึกและจริงจัง
เชอร์รีนกลับรู้สึกเพียงแค่เหนื่อย ดูเหมือนว่าอาการหวาดระแวงของเธอจะแย่ลงเรื่อยๆ แม้ตอนนี้ตกลงกันแล้ว เธอยังกังวลอะไรอยู่?
ร้านกาแฟ
ทั้งสองนัดเจอกันตอน 10 โมง เชอร์รีนมาถึงร้านกาแฟตอนเก้าโมงสี่สิบ สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือออกัสมาถึงแล้ว
เขาดูเหมือนเพิ่งจะรีบออกจากบริษัท ชุดสูทสีดำโอบรอบร่างกายสูง หล่อเหลาของเขา ใบหน้าที่หล่อเหลาดูเหนื่อยล้า ในดวงตาแดงเห็นเส้นเลือดสีแดง
เธอเดินไปนั่งที่ฝั่งตรงข้าม ลืมตาขึ้นเล็กน้อย “ทำไมคุณมาไวจัง?”
ออกัสโน้มตัวเข้าใกล้เธอ นิ้วมือจับปอยผมของเธอ ลูบแก้มของเธออย่างปวดใจ ริมฝีปากบางขยับ “ผมตัดใจให้คุณรอไม่ลง เมื่อคืนนอนไม่หลับหรอ หืม?”
เชอร์รีนหลบการกระทำของเขาอย่างไร้ร่องรอยด้วยการยกกาแฟบนโต๊ะ อันที่จริงไม่จำเป็นต้องซ่อนเลย คำพูดเหล่านั้นกำลังจะพูดออกมาแล้ว จะปิดบังไปทำไม?
เพียงแต่เขาอ่อนโยน นุ่มนวลมากเกินไป ซึ่งทำให้หัวใจที่ฉีกขาดเจ็บปวดรุนแรงขึ้นกว่าเดิม
การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยนี้ กลับฉีกหัวใจของออกัสโดยไม่ได้ตั้งใจ ดวงตาของเขาหรี่ลง หรี่ลงแน่นมาก
“ออกัส พวกเราเลิกกันเถอะ” มุมปากของเธอถูกกาแฟลวก เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ พูดอย่างช้าๆ แต่กลับชัดเจน
“พูดอีกทีสิ!” ออกัสมองเธออย่างเย็นชา ราวกับจะแทงทะลุร่างกายของเธอไปทั้งตัว
เชอร์รีนหายใจเข้าลึกๆ เงยหน้าขึ้นสบตาเขาแล้วพูดออกมาทีละคำ “เลิกกันเถอะ คุณกับฉัน”
ที่แท้ความรู้สึกของการถูเกลือบนบาดแผลมันเป็นแบบนี้นี่เอง ความเจ็บปวดแสบอย่างรุนแรง เจ็บเข้าไปในเนื้อและกระดูก
คราวนี้ออกัสกลับเงียบลง มีสีหน้าหนักใจ เขย่าแก้วกาแฟในมือเบาๆ โดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
ความเงียบและบรรยากาศเงียบสงัดไหลผ่านระหว่างคนทั้งสองเช่นนี้ จนแทบจะหายใจไม่ออก เจ็บปวด
หลังจากเวลาผ่านไปนาน ขณะที่เธอทนกับความเงียบที่หายใจไม่ออกไม่ไหว ต้องการที่จะทำลายมันนั้น เสียงของเขากลับไหลออกมา “ตัดสินใจตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว?”
เธอรู้ดีว่าเขาหมายถึงเรื่องที่เลิกกัน เธอพยักหน้า นิ้วเธอกำแน่นจนเปลี่ยนเป็นสีขาว
มุมปากของเขายกโค้งขึ้นอย่างเย็นชาและเย้ยหยัน “ผมนึกว่าความอบอุ่นของผมจะละลายความดื้อรั้นของคุณได้ ดูเหมือนว่ายังคงเป็นไปไม่ได้…”
เขาสัมผัสถึงเงื่อนงำได้จากสายที่เธอโทรมาเมื่อคืนนี้ ในใจรู้ดีว่าตาชั่งในหัวใจของเธอมันเอียงลงแล้ว
หรือยิ่งกว่านั้นตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ที่เธอดุเขาเรื่องที่เขาไปโรงพยาบาล เขารู้สึกและรับรู้ล่วงหน้าแล้ว
ดังนั้นก่อนที่สายนั้นจะวางสายลง เขาจึงรีบไปที่โรงพยาบาล ขอให้เธอลงมาคุยกันอีกครั้ง แต่เธอไม่ทำ ไม่ให้โอกาสนี้
“คุณช่างโหดร้ายจริงๆ และอำมหิต…” ออกัสกล่าว
เธอปวดใจ พอหายใจความเจ็บปวดก็แผ่ออกไป “สำหรับเหตุผลที่บอกเลิกฉันไม่จำเป็นต้องพูดมันอีกแล้ว มีเหตุผลมากมายที่เกี่ยวโยง คุณย่อมเข้าใจ”
“แม้ว่าเมืองsจะไม่ใหญ่ แต่ถ้าผมก็ไม่อยากตั้งใจปรากฏตัวต่อหน้าคุณ แม้ใน 1 ปีคุณก็จะไม่เห็นผมแม้แต่ครั้งเดียว แบบนี้ ยังอยากเลิกกันอยู่ไหม?” เขามองเธออย่างลึกซึ้ง พูดออกมาอย่างช้าๆ
เธอหลับตาลง หัวใจเหมือนมีไฟแผดเผา เชอร์รีนพยักหน้า พูดออกมาเพียงคำเดียว “ใช่!”