ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง - บทที่ 304 เขามีผู้หญิงคนอื่นแล้ว
ความจริงในบางครั้งการจะสามารถคิดได้นั้นก็เกิดขึ้นเพียงชั่วขณะ ราวกับว่าท้องฟ้าที่ปกคลุมไปด้วยเมฆสีดำในที่สุดก็มีแสงสว่างขึ้น
ความหนักอึ้ง ความกดดันที่ทำให้เธอหายใจไม่ออกมาหลายวันนั้นค่อยๆหายไป ต่างจากเธอที่เป็นเหมือนวิญญาณที่หลงทางเมื่อกี้อย่างเป็นคนละคน
เธอรู้สึกตื่นเต้น สีหน้าก็สดใส แต่แล้วเธอกลับมองไปที่จุดไหนสักแห่งนิ่ง จ้องมองอย่างเลื่อนลอย
สีหน้าเหล่านั้นล้วนไม่สามารถหลบพ้นสายตาของนาโนไปได้ เธอหันกลับมา มองเห็นออกัสและหญิงสาวนั่งอยู่ในรถด้วยกันผ่านกระจกใส “ต่อให้เปลี่ยนใจไปรักคนอื่นก็คงไม่เร็วขนาดนี้หรอก เธอลองดูสายตาไม่พอใจของเธอสิ แน่ใจนะว่าจะปล่อยเขาไปได้จริงๆ?”
เชอร์รีนเก็บสายตากลับช้าๆมองมาที่เธอ หลอดถูกเธอกัดจนแบน “เธอไม่คิดว่าการกระทำของผู้หญิงคนนั้นมันน่ารำคาญตาบ้างเหรอ?”
“ฉันแค่รู้สึกว่ากลิ่นความหึงมันลอยขึ้นไปบนฟ้า ยัยคนใจแคบ ผู้หญิงคนนั้นก็อยู่ของเขาดีๆแล้วจะไปรำคาญตาเธอได้ยังไง แต่เธอต่างหาก คิดหาวิธีแก้ไขได้แล้วเหรอ?”
“เกือบแล้ว…”
นาโนเอาปลายนิ้วเรียวจิ้มหน้าผากของเธออย่างโกรธเคือง “ฉันรู้สึกว่าเธอกำลังรนหาที่ตาย! ในเมื่อเธอคิดหาวิธีได้แล้ว แล้วทำไมถึงผลักไสเขาไปอีก แล้วยังทรมานตัวเองให้เหมือนตายทั้งเป็น!”
“เพิ่งคิดได้…”ความคิดเพิ่งจะสว่างวาบขึ้นมาจริงๆ
“แล้วทำไมเธอไม่คิดได้ตั้งแต่เมื่อสองวันก่อน?”
“แม่ทำฉันตกใจกลัวน่ะสิ ไม่มีเวลาไปคิดมาก รู้สึกแค่เพียงว่าตัวเองเจ็บปวด กดดัน ดิ้นรนมากๆ ชีวิตเหมือนตายซะยังดีกว่ามีชีวิตอยู่” พูดจบเธอก็มองไปรอบๆห้างอีกครั้ง พูดเยาะเย้ย “อันที่จริงการช็อปปิ้งนั้นก็ดีจริงๆ แม้ว่าเป็นการใช้จ่ายเงิน แต่กลับสามารถกระตุ้นคนได้”
“…” นาโนเยาะเย้ย “การช็อปปิ้งกระตุ้นคนได้ ฉันว่าออกัสกับผู้หญิงคนนั้นกระตุ้นเธอสินะ?”
อีกด้านหนึ่ง
หญิงสาวนั่งอยู่ในรถอย่างระมัดระวัง เธอแอบมองออกัสที่กำลังขับรถอย่างระมัดระวัง
เมื่อครู่หลังจากลงบันได เธอพบว่าเขาจ้องมองพี่สาวคนสวยคนนั้น สีหน้าเขาไม่ค่อยดีนัก เธอรู้สึกแม้กระทั่งว่ารถดูเหมือนจะแล่นไปข้างหน้า
“คุณชอบพี่สาวคนนั้นใช่ไหม?” เธอกระซิบเบาๆ เด็กที่โตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามักจะช่างสังเกตและอ่อนไหวกว่าคนทั่วไป
ทันใดนั้นรถก็หยุดลง ออกัสโทรหาผู้ช่วยเตโช ขยับริมฝีปากบางออกพูดอย่างเย็นชา “ลงจากรถ เดี๋ยวจะมีคนมารับเธอ”
สีหน้าของเขาเย็นชา หญิงสาวมองออกว่าเขาอารมณ์ไม่ดี เธอไม่กล้าพูด จึงเปิดประตูลงจากรถอย่างเชื่อฟัง
เหอะๆ เห็นเขาเดินกับผู้หญิงอื่น แต่เธอกลับไม่แยแส…
ความโกรธ ความยั่วยวน และการแสดงเหล่านั้น เขาทำให้ใครดู? ยิ่งทำให้เขาดูน่าขันไปใหญ่!
เขากลับรถขับแล่นไปทางสวนกัน…
ครั้งนี้เธอจะดื้อรั้นกับเขาได้นานแค่ไหน เขาจะรอดู อยากให้เขาแยกจากเธอไป เว้นแต่ว่าเขาจะตายหรือเธอตาย!
พอเขากลับมาที่ห้อง เผชิญกับห้องที่เยือกเย็นและเงียบเหงา จู่ๆเขาก็หัวเราะเยาะ ไม่ต้องการเธอ ประโยคนี้กำลังโกหกเธอหรือโกหกเขา!
สามีหนึ่งคำหลุดออกจากปาก สี่ม้ายากตามกลับคืน แต่เมื่อไปถึงเธอก็เหลือเพียงสามีที่อะลุ้มอล่วยได้!
แต่ว่าครั้งนี้เขาจะไม่ไปตามหาเธอก่อนอีก เขาจะทำให้เธอหันหลังกลับและทำให้เธอยอมรับความผิด!
ความไม่เจียมตัวของเขาออกัสจะใช้กับเธอทั้งหมด!
เธอกลับมาที่โรงพยาบาลไปที่เคาน์เตอร์เพื่อชำระค่าธรรมเนียมการรักษาในการนอนโรงพยาบาลในช่วงเวลานี้ พยาบาลไม่แม้แต่จะตรวจสอบประวัติก็พูดออกมาว่า “ค่ารักษาพยาบาลมีคนชำระไปแล้วค่ะ”
ได้ยินเช่นนี้เชอร์รีนก็หายใจเร็วขึ้น ตรงนั้นของหน้าอกเธอรู้สึกเหมือนถูกเข็มทิ่มแทงจนเจ็บจี๊ดๆ มือเท้าทำอะไรไม่ถูก แม้แต่เสียงก็สั่นเทาอย่างควบคุมไม่อยู่ “ใครเป็นคนจ่ายคะ?”
“ประธานออกัสค่ะ บิลทั้งหมดล้วนเป็นชื่อของประธานออกัส คุณออกัสได้สั่งไว้ล่วงหน้าแล้วค่ะ” พยาบาลยิ้ม
เธอกลับไม่สามารถแม้แต่จะยิ้มออกมาได้ สีหน้าของเธอดูน่าเกลียดยิ่งกว่าการร้องไห้เสียอีก เล็บจิกลงไปในเนื้อนุ่มในฝ่ามือ
คนโง่!
เธออยากจะร้องไห้ แต่ในใจเธอกลับรู้สึกซาบซึ้ง ทั้งสองอารมณ์ปะปนกัน ในที่สุดเชอร์รีนก็หัวเราะออกมาเบาๆ
ในเวลานี้ ความคิดนั้นผุดขึ้นในใจเธอแล้วแผ่ขยายขึ้นไปอย่างบ้าคลั่ง เธอคิดถึงเขา คิดถึงเขา คิดถึงเขา ทุกเซลล์ในร่างกายกำลังกรีดร้อง!
ขณะกลับไปที่ห้องพักผู้ป่วย กนกอรกำลังดูทีวีอยู่ เธอไม่ได้ดูแต่กลับนั่งลงข้างหน้าต่าง หยิบไหมพรมออกมาถักเสื้อกันหนาวให้ซาราง จากนั้นตาของเธอก็กะพริบ จงใจเปิดทีวีช่องบันเทิง
เวลา 6 โมงเย็น ช่องบันเทิงเริ่มออกอากาศข่าวพาดหัวของวันนี้ คือข่าวที่ออกัสพาผู้หญิงไปซื้อเสื้อผ้าที่ห้างสรรพสินค้า
ข่าวของออกัสเป็นที่นิยมมากที่สุดในเมืองS หลังจากกดช่องนี้แล้ว สิ่งที่น่าแปลกคือกนกอรไม่ได้กดเปลี่ยนช่องอีก มองไปที่ข่าว
เมื่อได้ยินชื่อออกัส เชอร์รีนก็ลืมตาขึ้น มองดูด้วยท่าทางขมขื่น เธอก้มศีรษะลงเริ่มถักเสื้อกันหนาวต่อ ปลายเข็มจิ้มเข้าไปในเนื้อ เธอผ่อนลมหายใจ กัดฟัน ถักนิตติ้งต่อ แต่ดวงตากลับมักจะลอยมองกนกอรเหมือนจะมีอะไรแต่ไม่มีอะไรเสมอ
กนกอรเหลือบมองทีวีแล้วมองไปที่เชอร์รีน ใบหน้าของเธอซีดไร้เลือด มือมีเลือดออก
เมื่อมองผู้หญิงในทีวีอีกครั้ง ในใจกนกอรก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก เธอไอเบาๆสองครั้ง “ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?”
เชอร์รีนเงยหน้ามองแล้วก้มหน้าลง “ไม่รู้ค่ะ”
ความโกรธในใจพุ่งขึ้น กนกอรพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา “อยู่กันมาตั้งนาน ทำไมจะไม่รู้?”
“จะรู้หรือไม่รู้มันต่างกันมากด้วยหรอคะ?” เธอพูดเบาๆ “เขาไม่เกี่ยวอะไรกับหนูแล้ว ไม่ว่าเขาจะอยู่กับผู้หญิงคนไหน มันเป็นอิสระของเขา หนูก็ไม่มีสิทธิ์ถาม”
กนกอรขมวดคิ้วไม่สนใจเธอ แต่ยังคงดูรายงานข่าวใหม่ คิ้วของขมวดตลอดเวลาอย่างไม่รู้ตัว
เชอร์รีนลุกขึ้น เทน้ำอุ่น นั่งหน้าดื่มอยู่ขอบหน้าต่าง ดวงตากวาดมองกนกอร ขณะที่สายตาเธอกำลังจะมองกนกอร เธอก็เบือนสายตาหนีทันที
“แกไม่ได้ถามเขาหรอว่านี่คือแฟนที่คบตอนอยู่กับแก หรือคบหลังจากเลิกกันไปแล้ว?”
“มันไม่ต่างกันแล้วค่ะ เขาจะมีผู้หญิงแล้วก็ดี จะได้ทำให้หนูหยุดคิดถึงมันอีก ยังไงซะข้างกายเขาก็มักจะมีผู้หญิงอยู่รอบตัวเสมอ แต่งงานแล้วมีลูก ต่อจากนี้ไปสิ่งเหล่านี้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับหนูอีก”
น้ำเสียงของเธอเบามาก เย็นชามาก ราวกับว่าลมพัดผ่านใบหน้า เต็มไปด้วยความขมขื่น เธอยืดตัวขึ้นในวินาทีต่อมา เปิดประตูของห้องพักผู้ป่วย ซารางยืนอยู่ตรงนั้น
“คุณลุงไปรับหนูที่โรงเรียนแล้วยังซื้ออมยิ้มให้หนูเยอะมากๆ” เธอกระโดดโลดเต้น หยิบอมยิ้มอย่างภาคภูมิใจ เมื่อมองทีวีก็ตะโกนว่า “แด๊ดดี้!”
จากนั้นเธอก็หันกลับมาดึงเสื้อของเชอร์รีน “หม่ามี๊ ผู้หญิงข้างแด๊ดดี้เป็นใครคะ?”
เชอร์รีนนั่งยองๆลง ยิ้มแล้วพูดอย่างนุ่มนวลว่า “หม่ามี๊กับแด๊ดดี้เลิกกันแล้ว ดังนั้นจากนี้ซารางต้องอยู่กับหม่ามี๊ ถ้าแด๊ดดี้ว่างแด๊ดดี้จะมาหาหนูนะคะ”