ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง - บทที่ 315 ไม่มีคนสั่งสอนและไม่มีมารยาทจริงๆ
กนกอรที่อยู่ข้างหลังยิ้มออกมา พร้อมคิดว่าการตัดสินใจของเธอถูกต้องแล้วจริงๆ “ออกไปได้หรือยัง”
แต่ปลายทางกลับเป็นสนามบินไม่ใช่สถานีรถไฟ พี่ให้ผู้ช่วยเตโชยกเลิกตั๋วรถไฟแล้ว และเปลี่ยนเป็นตั๋วเครื่องบิน
ผู้ช่วยเตโชรออยู่ที่สนามบินแล้ว เมื่อเปลี่ยนตั๋วเครื่องบินเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาตรวจสอบกระเป๋าเดินทาง เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดี และเครื่องได้ออกไปแล้ว ทั้งสามคนจึงกลับ
ตอนเช้าตื่นเช้าเกินไป แถมฝนเริ่มตกห่าใหญ่ เมื่อมาถึงคอนโด เชอร์รีนก็สะลืมสะลือ และหลับไปบนโซฟา ส่วนซารางก็หลับมาตลอดทาง ไม่ตื่นเลย
เมื่อออกัสมาส่งสองแม่ลูกที่คอนโดแล้ว เดิมทีเขาก็คิดจะกลับไปที่บริษัท แต่เมื่อหันมาเห็นสองแม่ลูกที่หลับฝันหวานอยู่ เขาก็อดไม่ได้ที่จะลุ่มหลง และรู้สึกเหนื่อยล้า พร้อมทั้งเกิดความง่วงขึ้นมา
ทั้งสามคนนอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่สีดำ เสียงเดียวที่ดังอยู่ในห้องคือเสียงหายใจผสมปนเปกันเบาๆ เงียบมาก มากจริงๆ
….
สุนันท์ไปที่บริษัท แต่ใครจะไปรู้ว่าในห้องผู้บริหารนั้นว่างเปล่า
“ออกัสล่ะ” เธอมองไปที่ผู้ช่วยเตโช
ผู้ช่วยเตโชลำบากใจ เขาไม่รู้จะตอบคำถามนี้อย่างไรดี สีหน้าลังเลและยุ่งเหยิงของเขาทำให้สุนันท์เดาออกในทันที “เขาอยู่กับเชอร์รีนหรอ”
ผู้ช่วยพยักหน้า สุนันท์ขมวดคิ้วสูงแล้วถามต่อว่า “ไปไหน”
“พักผ่อนที่คอนโดครับ”
หึหึ เจ้าเล่ห์จริงๆ ถึงขนาดพาลูกชายเธอเสียคนขนาดนี้ได้ แม้แต่บริษัทก็ไม่สนใจ เอาแต่นอนหลับอยู่ในคอนโด
ความโกรธเริ่มปะทุขึ้นมาอีกครั้ง แม้แต่ผู้ช่วยเตโชก็สัมผัสได้ถึงความร้อนระอุที่เกิดขึ้น รองเท้าส้นสูงที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเธอกระแทกพื้นเสียงดัง ก่อนจะเดินออกไปด้วยความโกรธ
เธอจะไม่มีทางปล่อยนางสาระเลวนั่นต่อไป ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปตกุลศิริไพบูรณ์ทั้งหมดต้องตกไปอยู่ในกำมือเธอแน่
นังเจ้าเล่ห์ คงจะภูมิใจมากสินะที่สามารถจับผู้ชายได้ คอยดูสิว่าถ้าโดนฉีกหน้าแล้ว เธอจะเชิดหน้าชูตายังไงได้อีก!
ความคิดของสุนันท์กลายเป็นความหวัดระแวงจนแทบบ้าอย่างแยกไม่ออก เธอไม่รู้เลยว่าความคิดที่เธอกำลังคิดในเวลานี้ช่างน่าสะพรึงกลัวขนาดไหน
ตราบใดที่ทำตามขั้นตอนนี้ ถึงจะรู้สึกเสียใจในอนาคต แต่วันเวลาก็ไม่อาจย้อนกลับไปเหมือนสายน้ำ
…..
เมื่อตื่นมาในตอนเที่ยง เชอร์รีนเห็นชายหนุ่มข้างกาย ถึงจะรู้ตัวว่าเขาก็โดดงานเหมือนกัน!
เขาเป็นถึงประธานบริษัท ทำไมไม่มีความยับยั้งชั่งใจ มานอนแบบนี้ได้ยังไง!
เมื่อเห็นว่าเขานอนหลับสบาย เธอจึงไม่ส่งเสียงรบกวนเขา เธอยกแขนที่พาดบนร่างเธอออก และลุกจากเตียงไปที่ห้องครัว
ตอนนี้ซารางเอาแต่ร้องจะกินบะหมี่ เธอให้เชอร์รีนทำบะหมี่ผัด ออกัสกินซุป ส่วนตัวเองกินบะหมี่แห้ง
ซารางผู้อย่างเชื่อฟัง ”หม่ามี๊เจ๋งสุดๆ! ถ้าแด๊ดดี้ไม่เอาหม่ามี๊ จะต้องมีคุณลุงมากมายมาจีบแน่ๆ”
ออกัสที่เพิ่งเข้ามาในครัวเมื่อได้ยินก็หน้ามืดทันที “เด็กน้อย ฉันเป็นแด๊ดดี้แท้ๆของเธอนะ”
“หนูรู้ ครูบอกว่าอย่างนี้เรียกภรรยาที่ดีและแม่ที่ดี ตอนนี้ผู้ชายหลายคนกำลังมองหาภรรยาที่ดีและแม่ที่ดีอยู่” เด็กน้อยพูดเหมือนผู้ใหญ่
“หม่ามี๊ก็รู้สึกอย่างนั้น หม่ามี๊หาแด๊ดดี้ให้ใหม่ซักคนเอาไหม ในเมื่อตอนนี้หม่ามี๊ของหนูก็กำลังเนื้อหอม ถ้าหาล่ะหาง่ายแน่นอน” เธอพูดสนับสนุนเด็กน้อย
ในบรรดาทั้งสามคน มีเพียงชายหนุ่มที่ใบหน้าเข้มขึ้น ดุขึ้น ยังไม่ทันได้กินอะไร เขาก็ยกหญิงสาวขึ้นไปบนบ่า เชอร์รีนรู้สึกหัวหมุนไปครู่หนึ่ง ยังไม่ทันได้ร้องออกมา มือใหญ่ก็ตบลงที่ก้นของเธอจนเกิดเสียงดัง
เธอโกรธเล็กน้อย ตอนนี้ผมเผ้าตกลงปรกหน้าจนกระเซอะกระเซิงเหมือนผีแล้ว “ปล่อยฉันลงไป!”
“จะหาแด๊ดดี้ให้ลูกไม่ใช่หรอ หาสิตอนนี้…” เมื่อพูดจบเขาก็ตบก้นอีกสองสามที
ฝ่ามือของเขาใหญ่และแข็งแรง เมื่อตีลงบนก้นเธอ เธอก็รู้สึกชา และรู้สึกร้อนด้วยความเจ็บขึ้นมา
“นี่!” เธอโกรธแล้ว จึงตะคอกเขา “ปล่อยฉันลง ฉันเริ่มมึนแล้ว ดาวเต็มหน้าเลยเนี่ย”
ซารางนั่งมองดูทั้งคู่บนโซฟาแล้วยกขาขึ้นมานั่ง “แด๊ดดี้รังแกแม่ได้ยังไง หนูว่าสังคมสมัยนี้ ผู้ชายไม่ควรรังแกผู้หญิงที่ซักชั้นในให้! เมื่อวานหนูเห็นหม่ามี๊ซักกางเกงในให้แด๊ดดี้!”
เชอร์รีนตะลึง หันไปมอง “ซาราง ใครสอนมา”
โอ้โห! ผู้ชายไม่ควรรังแกผู้หญิงที่ซักชั้นในให้ ประโยคนี้เธอเรียนมาจากไหน!
“เรื่องแบบนี้ต้องเรียนด้วยหรอคะ ในทีวีก็เห็นมีแสดงอยู่ทุกวัน!” ซารางมุ่ยปาก ใบหน้าสีอมชมพูของเธอเต็มไปด้วยความไม่พอใจและรังเกียจ “ข่องมีเยอะแยะ ช่องที่ฉายการ์ตูนก็มีแค่สองช่อง ที่เหลือก็เป็นละครรักกันหมด นี่ไม่เคารพเด็กกันเลย!”
“แฮ่มๆๆ….” เธอกะแอมออกมาอย่างอดไม่ได้ ท้องของเธอกดทับไหล่ของเขา ถึงมันจะไม่สบาย แต่เธอก็อยากหัวเราะออกมา
ออกัสก็คิดไม่ถึงว่าลูกสาวของเขาจะพูดประโยคน่าตกใจแบบนี้ออกมา เขาจึงขมวดคิ้วพูด “ต่อไปห้ามดูทีวีอีก!”
“หนูมีสิทธิ์ดูทีวีนะ ชิ!” ซารางสะบัดตูดงอน มือเล็กหยิบชามบะหมี่ขึ้นมา นั่งลงบนโซฟา จากนั้นก็เปิดทีวีราวกับเป็นผู้ใหญ่
“ดูลูกสาวที่คุณสอนสิ” ออกัสอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วกระตุ้น เรื่องที่ควรเรียน เรื่องที่ไม่ควรเรียน ดันเรียนไปหมด!
เชอร์รีนพูดด้วยความโกรธ “ฉันสอนเอง แล้วคุณจะทำไม”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นออกัสจึงรู้ตัวว่าคิดผิด จึงพูดเสียงอ่อน “ผมผิดเอง ผมสอนไม่ดีเอง ยังโกรธอยู่ไหม จะตีผมไหม”
เขาตั้งใจจะล้อเล่น แต่กลัวเธอจะขุดเรื่องเมื่อสี่ปีก่อน ดังนั้นเขาจึงเป็นวีรบุรุษ ยอมรับผิดแต่โดยดี
สี่ปีนั้น เขาเป็นหนี้พวกเธอสองแม่ลูกจริงๆ นั่นคือสิ่งที่เขาเสียใจและเป็นตราบาปในใจมาโดยตลอด…
“ไปสอนลูกคุณสิ ไม่ต้องมาขวางหน้าฉัน ฉันจะหาของกิน”
รอยยิ้มอ้อนปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา ออกัสนั่งอยู่ตรงข้ามเธอ พร้อมง้อไม่หยุดไม่หย่อน
ตอนเย็น เชอร์รีนพาซารางลงมาข้างล่าง แต่ทันใดนั้นเธอก็ได้พบกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญ นอกจากสุนันท์แล้ว ก็ไม่มีใครที่ได้ชื่อว่าเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญอีก
“มาหาฉันมีอะไรคะ” เชอร์รีนไม่อ้อมค้อม เธอเปิดปากพูดตรงไปตรงมา
กนกอรไม่ใช่คนธรรมดา ถ้าเป็นคนปกติ เธอสุภาพกับเขา เขาก็จะสุภาพกับเธอ แต่สุนันท์ไม่เหมือนกัน ยิ่งเธอสุภาพมาก อีกฝ่ายก็จะยิ่งเย่อหยิ่ง ประเด็นคือเธอไม่มีเหตุผล
“ในเมื่อผู้ใหญ่มาหาเธอ เธอจะไม่เชิญไปจิบชาในบ้านหน่อยหรอ เป็นคนไม่ได้รับการสั่งสอนและไม่มีมารยาทจริงๆด้วย” สุนันท์พูดอย่างเย็นชา