ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง - บทที่ 329 บ้านและความสุข
“บอกหม่ามี๊มาซิ ช่วงนี้ทำอะไรกับคุณอา” เชอร์รีนรู้สึกว่าเลอแปงมีความอดทน สามารถดูแลเด็กเพียงลำพังได้ถึงเจ็ดแปด
“ทำเยอะมากค่ะ คุณอาพาหนูไปเที่ยว ซื้อของเล่นให้ พาหนูกินของกิน แล้วก็ไปเยี่ยมคุณย่า”
เสียงของซารางอ้อแอ้ เธอไม่รู้เรื่องความรักความเกลียดระหว่างผู้ใหญ่ แล้วก็ไม่รู้เรื่องความพัวพันพวกนั้นด้วย เธอเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง
“คุณอายังเอาของไปให้คุณย่ากิน เอารูปวันแต่งงานของแด๊ดดี้กับหม่ามี๊ให้คุณย่าดู แล้วคุณย่าก็ร้องไห้ ร้องไห้อย่างน่าสงสารมาก!”
เชอร์รีนไม่ได้พูดอะไรออกมานอกจากมองชายข้างกาย
ถึงเขาจะสงบ นุ่มนวล แต่ก็ไม่ได้ดูผ่อนคลายเหมือนก่อนหน้านี้ เขาดูคิดอะไรบางอย่าง
“จริงด้วย ตอนออกมาพวกเราบังเอิญชนกับพี่สาวตำรวจ ไอติมของหนูตกไปใส่หน้าอกของพี่เขาพอดี คุณอาเลยยื่นมือไปเช็ด สุดท้ายโดนตบมาหนึ่งรอบ เสียงดังมาก!”
เธอสามารถจินตนาการถึงฉากที่ซารางพูดได้ จึงหัวเราะเสียงเบา จากนั้นก็ลูบหลังกล่อมเธอหลับ
ง่วงมากจริงๆ ระหว่างกล่อมซารางไป เธอก็หลับไปด้วยอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหน อาจจะเป็นสองชั่วโมง หรือสามชั่วโมง เธอรู้สึกคอแห้งจึงลืมตาลุกขึ้นมานั่ง เผื่อจะเทน้ำกิน
ก่อนจะเห็นร่างสูงยืนอยู่ตรงหน้าต่างภายใต้ความมืด เขายืนอยู่ตรงนั้น เหมือนต้องการปิดบังตัวเองในความมืด ในมือมีบุหรี่มวนนึง
ดวงตาของเธอสั่นไว้เล็กน้อย เธอหยิบผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ซาราง และเดินไปยืนข้างหลังเขาเสียงเบา พร้อมกับกางมือออกไปกอดเอวเขา
เขาคิดไม่ถึงว่าเธอจะตื่นขึ้นมา จึงรีบดับบุหรี่ด้วยความตกใจ “ตื่นขึ้นมาทำไม กลิ่นบุหรี่รบกวนหรือเปล่า”
“เปล่า คุณน่าจะตามน้ำหน่อยนะ อย่างน้อยก็แกล้งร้องตกใจออกมาก็ได้” แกเมของเธอถูบนแผ่นหลังอุ่นและกว้างของเขา และพูดติดตลก
“ในเมื่อรู้ว่าเป็นคุณ จะกลัวได้ยังไง”
“ฉันชอบฟังประโยคนี้ มันรู้สึกอบอุ่น” เธอยืนอยู่ข้างหน้าเขา มองเขาด้วยสายตาลึกซึ้ง “ไปเยี่ยมเธอสิ”
ไม่ต้องบอกว่าเธอที่พูดถึงคือใคร ในใจของเธอรู้ดี ในใจของเขาก็รู้เหมือนกัน
เขามองเธออย่างลึกซึ้งและไม่ได้พูดอะไรออกมา เชอร์รีนจึงยื่นมือออกมาลูบแก้มเขา “พวกเราปลอดภัยมีความสุขกันแล้วนะ ไม่ใช่หรอ”
ออกัสกระเดือกสั่น ดึงเธอเข้าไปไว้ในอ้อมกอด เขาก็เธอแน่นมาก ราวกับจะฝังเธอไว้ในตัวของเขา
“โชคดีที่พวกเราปลอดภัยมีความสุข ถึงได้มีโอกาสให้อภัย ไม่อย่างนั้นชาตินี้ก็คงมีโอกาสได้ให้อภัยใคร พรุ่งนี้ฉันจะไปกับคุณ”
“อืม….” เขาตอบเสียงเบาในลำคอ
ที่จริงที่เธอพูดคำพูดเหล่านี้ออกมา ก็เพราะไม่อยากเห็นเขาสูบบุหรี่กลางดึก เธอไม่อยากให้เขาเป็นอย่างนั้น
สำหรับสุนันท์ ความโกรธในใจของเธอยังไม่ได้หายไปจนหมด ดังนั้นถึงเธอจะไป ก็ไปเพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น
วันถัดไป
ทั้งสองคนไปเรือนจำ เมื่อสุนันท์เดินออกมา น้ำตาของเธอก็หยดลงมาทันที เพราะความรู้สึกผิดในใจที่สุดของเธอก็มาจากออกัส
ตอนนี้เขาเต็มใจที่จะปรากฏตัวต่อหน้าเธอ ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นมาก!
ออกัสหรี่ตามอง เป็นตามที่เลอแปงบอก เธอดำ ผอม แต่ยังมีกำลังใจดี เห็นอย่างนี้เขาก็สบายใจแล้ว…
“ออกัส….” สุนันท์พูดเสียงแหบ และมองเขาผ่านกระจก เพียงแค่เขายอมมา ทุกอย่างต้องดีขึ้นแน่นอน
“เป็นยังไงบ้าง” ปากบางเปร่งเสียงออกมา สิ่งที่เขาพอจะพูดได้ก็มีเท่านี้
“แม่สบายดี สบายดีมาก แค่ลูกไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ไม่เป็นไรก็ดี….” น้ำตาของเธอไหลอาบหน้า เมื่อเห็นเชอร์รีนยืนอยู่ข้างหลังจึงพูด “ขอโทษนะ ขอโทษ ขอโทษจริงๆ!”
เชอร์รีนก็ไม่พูดอะไรออกมาเช่นกัน เธอมีกำแพงในใจกับสุนันท์ ยังไม่สามารถยิ้ม หรือแกล้งทำเป็นใจกว้างลืมเรื่องที่ผ่านมาได้
เธอแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา ไม่ชอบเสแสร้งแกล้งทำ ในใจคิดยังไงก็แสดงออกอย่างนั้น
“ฉันรู้แล้ว เรื่องพวกนั้นเป็นความผิดของฉัน เป็นเพราะฉันตาบอด ไม่มีเหตุผล และไม่มีหน้าจะขอให้เธอยกโทษให้ แค่วันนี้เธอมาเยี่ยมฉันก็ซึ้งใจมากแล้ว เข้ามาอยู่ในคุกตั้งนาน ก็ไม่เคยมีความสุขแบบนี้มาก่อน”
สุนันท์ยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตา แล้วมองเชอร์รีน “ขอโทษจริงๆนะ ที่ทำเรื่องต่างๆกับเธอเหล่านั้น นอกจากจะขอโทษแล้ว ฉันยังอยากจะขอบคุณเธอ ขอบคุณที่ยังอยู่เคียงข้างเขา ไว้รอฉันออกไป ฉันจะพยายามทำให้เธอให้อภัยฉันให้ได้”
เชอร์รีนยังคงเงียบเหมือนเดิม เธอมีปมในใจ มันไม่ใช่ว่าพูดเพียงแค่สองสามประโยคแล้วจะหายได้
แต่การที่เธอมาเยี่ยม ก็ถือว่าเป็นการยอมให้มากแล้วสำหรับเธอ
สุนันท์ก็รู้ดีอยู่แก่ใจ ก่อนหน้านี้เธอทำเกินไป การที่เธอจะมีปฏิกิริยากับต้นแบบนี้ก็เป็นเรื่องปกติ คนเราไม่ควรโลภหรือคาดหวังมากเกินไป
แม้จะได้เจอกันแค่เวลาสั้นๆ แต่สุนันท์ก็ยิ้มไม่หุบ จนเมื่อถึงเวลากลับเข้าไปในคุก เธอก็ยังยิ้มออกมาเล็กน้อย
ทั้งสองคนเดินจับมือกันออกมา แล้วชมนกชมไม้ตามถนน
ต้นไม้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้ว แล้วเริ่มจะร่วงแล้ว เมื่อเดินเหยียบก็เริ่มจะมีเสียงกรอบ
….
หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ ออกัสก็ซื้อที่ตรวจครรภ์มา และกำลังจะเป็นคนตรวจให้เธอด้วยตัวเอง แต่เชอร์รีนก็ดันเขาออกไปด้วยความอาย จนหน้าแดง
เธออยู่ในห้องน้ำ ส่วนเขารออยู่ข้างนอก
ผ่านไปพักใหญ่เธอก็เดินออกมา เขาจึงถามผลลัพธ์ของเธอทันทีอย่างไม่รีรอ
เธอส่ายหน้า “ไม่ท้อง หมอบอกว่าฉันมีโอกาสท้องน้อยมาก การจะท้องไม่ใช่เรื่องง่าย”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นออกัสก็พูดอย่างไม่เห็นด้วย “ผมไม่ใช่ผู้ชายปกติ ทั้งขนาดและความอึด ไม่มีใครสู้ผมได้ ตั้งแต่วันนี้ต่อไปพวกเราต้องวางแผนร่วมกัน”
“แผนอะไร”
“วันละหนึ่งครั้ง….”
อะไรคือวันละหนึ่งครั้ง เมื่อนึกออกเธอก็ตกใจทันที วันละหนึ่งครั้งเธอก็ตายพอดี!
แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่าเธอจะว่ายังไง เขาตัดสินใจแล้ว ตอนนี้รอแค่ทำตามแผน
หลังจากพูดประโยคนั้นออกมา เขาก็พยายามอย่างหนัก และหลังจากนั้นหนึ่งเดือน ในที่สุดเธอก็ท้อง เธอรู้สึกว่าบรรยากาศดีขึ้นมาทันทีทันไร
การท้องหมายความว่าเขาจะไม่รังแกเธออีก เธอทั้งรู้สึกสบายใจ สบายตัวและอารมณ์ดี
ออกัสยังไม่ยอมแพ้ เขาซื้อหนังสือคู่มือการตั้งครรภ์มาหลายเล่ม นอกจากอ่านเอกสารแล้ว เขาก็จะอ่านหนังสือพวกนี้
ซารางเริ่มรู้สึกงอน “แด๊ดดี้ได้ใหม่แล้วลืมเก่า พอมีลูกคนใหม่ ก็ไม่ต้องการเธอแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ส่งเธอให้ไปเป็นลูกคุณอาเลยก็ได้ ปล่อยพวกเราสองคนกันเลย”
เขาเคาะนิ้วเบาๆลงบนหน้าผากของเธอ แล้วเชยคางเธอขึ้นมาสั่งสอน “พูดมาก ยังไม่ได้ทำการบ้านไม่ใช่รึไง”
สำหรับลูกคนนี้ ออกัสใช้ความพยายามอย่างหนักมาก เพราะลูกคนนี้แบกรับอะไรมามากมาย เขาจึงรู้สึกผิด
ส่วนซารางที่เขาไม่ได้ดูแล เมื่อเห็นเธอเติบโตขึ้นมาด้วยสายตาของเขา และการสูญเสียลูกคนก่อนไป ทำให้เขารู้สึกผิดต่อเธอมาก
แต่สำหรับเรื่องลูกคนใหม่ ไม่ว่าจะเล็กหรือจะใหญ่ เขาจะเป็นคนลงมือทำเอง ไม่ขอให้ใครทำให้
ชีวิตยังคงเรียบง่าย และมีความสุข หอมหวาน เชอร์รีนลาออกจากงานที่โรงเรียน และทำหน้าที่ไปส่งซารางที่โรงเรียนกับออกัสทุกวัน จากนั้นก็ไปที่บริษัทของเขา เธอช้อปปิ้ง หรือไม่ก็ไปตัดดอกไม้ที่สวนหลังบ้าน
ช่วงที่ลูกยังไม่คลอด เธอจะอยู่ที่คฤหาสน์ตลอด รอให้ลูกคลอดออกมา เธอถึงจะกลับไปทำงานต่อ
ขณะที่เธอกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ก็มีสายเข้า “สามี”
เมื่อวันเวลาผ่านไป การเรียกเขาว่าสามีก็ไม่ได้ขัดเขินอีกต่อไป เธอเรียกเขาจนชินปาก
“อยากกินอะไร ผมจะซื้อไปให้….”
“อยากกินเค้กลูกพลับ แล้วก็ลูกพลัมเปรี้ยว” เธอวางหนังสือและลุกขึ้น “คุณจะกลับมากี่โมง อยากกินอะไร”
“คุณเตรียมชามไว้ก็พอ ผมอยู่ระหว่างทางไปรับซาราง เดี๋ยวก็กลับไปแล้ว….” เสียงทุ้มต่ำของเขาอ่อนโยน
“ค่ะ”
ใกล้จะได้เวลาหกโมงเย็นแล้ว เชอร์รีนไปยืนรอนอกคฤหาสน์ ทุกวันเธอจะรอเขากับซารางกลับบ้าน มันเป็นความคุ้นเคยไปแล้ว
หกโมงสิบนาที รถเบนท์ลีย์สีดำก็ปรากฏสู่สายตา เมื่อหยุดรถร่างสูงใหญ่ก็อุ้มซารางลงมา
“ทำไมดื้อ มายืนอยู่ตรงนี้ได้ยังไง” เขาขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด แล้วโอบเข้าไปในบ้าน
“คุณบอกว่าใกล้จะกลับมาแล้ว ฉันก็ทนนั่งรอไม่ไหว”
“คิดถึงคำนึงหาขนาดนั้นเลย….” ออกัสยกริมฝีปากขึ้นอย่างอารมณ์ดี
ซารางที่อยู่ในอ้อมกอดก็ไม่น้อยหน้า หันไปจุ๊บแด๊ดดี้หนึ่งที และหันไปจุ๊บหม่ามี๊หนึ่งที แล้วถึงรู้สึกพอใจ
เชอร์รีนรับกล่องของขวัญ ลูกพลับแห้ง ลูกพลัมเปรี้ยว และองุ่นในมือเขามาถือไว้ พร้อมซุกตัวเข้าไปในอ้อมกอดเขา แล้วเดินตามเขาไปทีละก้าว ข้างหน้าไม่ไกลคือบ้านของพวกเขา สถานที่อันแสนอบอุ่น
ชีวิตมีทั้งช่วงที่ตื่นเต้น ช่วงที่สงบ เมื่อผ่านช่วงที่ตื่นเต้นมาแล้ว ชีวิตส่วนใหญ่ก็มีแต่ความสงบสุข แต่ความสงบสุขอย่างนี้ถึงเป็นสิ่งที่ทำให้ทั้งสองคนคบกันได้ยาวนาน สิ่งนี้ถึงจะเรียกว่าชีวิต
แสงอาทิตย์ส่องมาที่หลังของทั้งสามคน จนเกิดเงาบางๆ เต็มไปด้วยความอบอุ่นและสวยงาม
ในร้านกาแฟ
ยู่ยี่นั่งตรงข้ามกับเชอร์รีน แต่ทั้งสองคนไม่ได้สั่งกาแฟ ตรงหน้ามีเพียงแค่แก้วนมหนึ่งแก้ว
“อยู่ร้านกาแฟกินนม ดึงดูดสายตาทุกคนดีจริง” ยู่ยี่ยิ้มแล้วยกแก้วกาแฟขึ้นมา
เชอร์รีนก็ยิ้มอยู่เหมือนกัน “ก็ท้องไม่ใช่หรอ วันนี้เดินจนเหนื่อยเลย”
“เหนื่อยจริง ท้องเริ่มใหญ่แล้ว ทำอะไรก็ไม่สะดวก” ยู่ยี่ลูบท้องของเธอเบาๆด้วยลักษณะของความเป็นแม่
“ตอนนี้ห้าเดือนแล้ว อยู่ไฟสิ้นเดือนพอดี อากาศยังหนาวอยู่ ดีมาก”
ยู่ยี่พยักหน้า แต่มีปัญหาหนึ่งที่คอยกวนใจเธออยู่ “ตอนเธอตั้งท้องซารางท้องลายมั้ย ทำไมของฉันมีขนาดนี้”
“แต่ละคนไม่เหมือนกัน คลอดลูกเสร็จเดี๋ยวมันก็หายไปเอง ฉันหาดูในเน็ตแล้ว ตอนฉันตั้งท้องซารางไม่แพ้ท้อง ฉันว่าเธอก็ไม่แพ้ท้องนะ”
“เธอพูดก็ถูก” เพิ่งพูดได้เท่านี้เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ยู่ยี่หยิบขึ้นมารับสาย เป็นสายจาหัสดิน “สามี”
“คืนนี้ผมจะกลับดึกหน่อย ประมาณสามทุ่มครึ่ง คุณรีบนอนเลย ไม่ต้องรอผม”
ยู่ยี่ตอบรับ “มีงานที่บริษัทหรอ”
“คืนนี้มีงานเลี้ยง”
เชอร์รีนคิดว่าทั้งสองคนมีเรื่องต้องจัดการ เธอจึงไม่อยากรบกวน คิดได้อย่างนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาคนขับรถให้มารับ
ยู่ยี่รั้งเธอไว้ “หลังคุณออกัสดื่มเหล้า เธอจะทำอะไรให้เขากิน”
“ทำบะหมี่ซุปไข่มะเขือเทศ ถึงจะหนักไปหน่อย แต่ปกติตอนกินเหล้าเขาจะกินตอนท้องว่าง ซึ่งมันทำลายสุขภาพ เพราะเขากลับมาก็ร้องหิวทุกที