ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง - บทที่ 332 ทำไมถึงปรากฏใบหน้าของเธอ
แต่แล้ว เธอก็หัวเราะออกมาเบาๆ วางมือไปที่หน้าท้อง แล้วลูบไล้ไปมา ช่างเป็นเด็กน้อยที่ทรมานคนได้เก่งจริงๆ ไม่รู้ว่าเป็นลูกชายหรือลูกสาว ทำแด๊ดดี้กับหม่ามี๊ได้แสบสันซะขนาดนี้ อยากให้เขาคลอดออกมาเร็วๆจริง
เสียงน้ำไหลในห้องน้ำยังคงไม่หยุด ยู่ยี่มองตาม ความง่วงงุนเริ่มถามหา เธอทนไม่ไหว หลับตาลง และผล็อยหลับไปในที่สุด……
เช้าวันรุ่งขึ้น
ตอนที่ยู่ยี่ตื่นขึ้นมา ที่นอนข้างๆก็ว่างเปล่าแล้ว ภายในห้องพักก็ไม่มีร่างของเขาอยู่ เห็นชัดว่าไปทำงานแล้ว
แม่บ้านกำลังยุ่งกับการทำความสะอาด เธอก็ไม่มีอะไรทำ จึงไปที่ห้องหนังสือ เปิดคอมพิวเตอร์ในห้อง และเข้าเว็บการทำอาหาร
ในนั้นมีอาหารหลากหลายชนิด วิธีและขั้นตอนในการทำก็บอกไว้อย่างละเอียดและชัดเจน เธอเลือกอาหารในส่วนที่เธอชอบ และดูวิธีการทำ
ชีวิตหลังการตั้งครรภ์นั้นซ้ำซากจำเจ น่าเบื่อ และไร้สีสันเล็กน้อย มีหลายสิ่งมากมายที่ทำไม่ได้ เพื่อฆ่าเวลา เธอก็จึงต้องหาอะไรมาทำบ้าง
ในตอนนี้ เธอรู้สึกว่าการทำอาหารก็ไม่เลวเหมือนกัน สามารถเรียนรู้ได้จากอินเทอร์เน็ต แล้วยังให้แม่บ้านสอนเธอได้ด้วย เชอร์รีนก็สอนเธอด้วยเช่นกัน
หลังจากทานอาหารมื้อเช้าเสร็จ ยู่ยี่ก็อยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปไหน ให้แม่บ้านสอนเธอทำอาหารง่ายๆ
แม่บ้านคีบเห็ดหูหนูที่ยู่ยี่ยำเสร็จแล้วขึ้นชิม“ พัฒนาการของคุณนายดีมากเลยค่ะ พูดได้ว่ามีฝีมือในด้านนี้เอามากๆ ”
ยู่ยี่ยิ้มร่า ยิ้มจนดวงตาโค้งเป็นเสี้ยวพระจันทร์“ ฟังคำชมนี้แล้วหน้าฉันก็ร้อนไปหมดเลยค่ะ!”
“ฉันพูดความจริงค่ะ” แม่บ้านที่กำลังทำความสะอาดครัวอยู่ ก็ยกยิ้มตาม
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ยู่ยี่มองไปยังสายที่โทรเข้ามา เป็นพ่อของเธอ ที่โทรมาคงไม่พ้นเรื่องเงิน เธอไม่รับสาย
หากเธอยังทำงานอยู่ และมีเงินเก็บ จะซื้อบ้านให้พวกเขาสักหลังก็ไม่เป็นปัญหา แต่นี่เธอไม่ได้เป็นแบบนั้น เธอไม่ได้ทำงานมานานมากแล้ว !
เมื่อก่อนก็เคยใช้หนี้แทนพวกเขา เงินที่เอามาจากหัสดิน ตอนนี้ไม่ว่าจะพูดยังไงก็จะไม่ช่วยอะไรแล้วทั้งนั้น
อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า เธอนั่งดูทีวีที่โซฟา ตัวคนเดียวก็สบายเหมือนกัน แม่สามีก็เปิดกว้างพอในเรื่องแบบนี้
ไม่อยากจะอาศัยอยู่ที่บ้านตระกูลภูษาธรก็ได้ แต่วันสำคัญของตระกูลภูษาธรต้องกลับไปที่บ้านใหญ่ ห้ามมีเหตุผล หรือข้ออ้างใดๆ
ยู่ยี่ต้องขอยอมรับว่า แม่สามีนั้นเป็นคนฉลาดหลักแหลมมาก ไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ มีเหตุมีผล และมองการณ์ไกล
เวลาราวๆสองทุ่ม หัสดินกลับมาถึงที่ห้องพัก ทันทีที่เดินเข้ามาได้ก็จงใจโยนเสื้อสูทลงบนใบหน้าของยู่ยี่ และหัวเราะเบาๆ
เอื้อมมือ เธอดึงเสื้อสูทออกจากศีรษะ จ้องเขม็งมองเขา “นิสัย!”
“นิสัยอะไร ? นี่มันกิจกรรมเล็กๆน้อยๆของคนเป็นสามีภรรยานะ……”เดินเข้าไปหา หัสดินยื่นมือไปแล้วโอบเธอมาไว้ในอ้อมแขน หัวเราะร่า
“วันนี้ฉันทำอะไรบางอย่างเอาไว้ด้วยนะ คุณลองชิมดู กำลังร้อนๆเลย” ยู่ยี่ทุบตีไปที่ไหล่ของเขาเบาๆ คลึง และบีบนวดให้
ใบหน้าหัสดินเผยความประหลาดใจ และพูดขึ้นว่า“ ภรรยาผมเก่งกาจแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน ?”
“เพิ่งรู้สึกเหรอ ? อันที่จริงฉันก็เก่งแบบนี้มาตั้งนานแล้วนะ ทำได้ทุกอย่างไม่ว่าจะงานบ้านหรืองานครัว ” เธอพูดสำบัดสำนวน ส่ายหัวไปมา
“เป็นจริงดังว่า ให้แสงแดดหน่อยก็ลุกโชน ให้น้ำนิดหน่อยก็เอ่อท่วม ผมยื่นขอนไม้ให้คุณ คุณก็รีบปีนป่ายขึ้นมา ”เขายักไหล่อย่างเกียจคร้าน มือใหญ่ตีไปที่หน้าขาอย่างสบายอารมณ์ และตีมันเป็นจังหวะ
ยู่ยี่กัดฟันยิ้มแล้วจ้องมองเขา ลุกขึ้นยืน แล้วตีไปที่หน้าผากของเขาด้วยนิ้วชี้ จงใจตีให้เป็นริ้วรอยแดง
ตอนที่คนทั้งสองเรียนอยู่มหาลัย มักจะหาเกมสนุกๆมาเล่นด้วยกัน คิดเกมขึ้นมา จากนั้นก็คิดบทลงโทษ ทั้งสองนั่งอยู่ด้วยกันและสามารถเล่นกันอยู่แบบนั้นได้ตลอดทั้งวัน
ที่เธอทำให้เขามันคือโจ๊กข้าวฟ่าง มีเครื่องเคียงเป็นยำเห็ดหูหนูกับซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน
หัสดินกำลังนั่งทานอาหารอยู่ ยู่ยี่ก็นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเขา มองดูเขาขยับตะเกียบ ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง และถามอย่างร้อนรนไปว่า“เป็นยังไง?”
“ทำเองจริงๆเหรอ ?” หัสดินรู้สึกว่ารสชาติมันดีมาก
“ฉันทำเองแน่นอน รีบพูดสิว่ารสชาติเป็นยังไง”ดวงตาเธอเป็นประกาย ระยิบระยับ
“นี่ภรรยาของผมช่างมีฝีมือจริงๆ ชาติที่แล้วสงสัยจะเป็นแม่ครัวมาก่อน ชาตินี้ความสามารถนั้นก็จึงติดตัวมาด้วย ”
เห็นชัดว่าประโยคนี้มันคือคำชม ยู่ยี่ยิ้มเต็มแก้ม รอยยิ้มที่มุมปากและดวงตาของเธอราวกับแมวที่ขโมยปลาย่างได้
เธอรู้สึกว่า ความสามารถในการทำอาหารของเธอนั้นก็ไม่เลวเหมือนกัน
หัสดินไปเข้าห้องน้ำ ในขณะที่ยู่ยี่นั่งอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งและหันซ้ายหันขวามองดูใบหน้าของตัวเอง เพราะตั้งท้อง ผิวบนใบหน้าก็จึงหยาบกร้าน จุดด่างดำก็มีขึ้นเยอะมาก และใบหน้าก็บวมขึ้นด้วยเล็กน้อย
เคยได้ยินมาว่าบางคนพอท้องแล้วจะยิ่งสวยขึ้น แต่ทำไมเธอถึงได้น่าเกลียดขึ้นล่ะ ?
ถอนหายใจเบาๆ แล้วมองดูเท้ากับน่องที่เริ่มบวมของตัวเอง เธอนั่งอยู่บนโซฟาและเริ่มแช่เท้า นี่เพิ่งจะท้องได้เพียงห้าเดือนเธอก็บวมซะขนาดนี้แล้ว แล้วต่อไปจะขนาดไหนกัน ?
น้ำอุ่นไหลเวียนผ่านฝ่าเท้า ทำให้รู้สึกสบายขึ้นมาไม่น้อย ยู่ยี่ผ่อนลมหายใจอย่างสบายอารมณ์ ราวกับคิดอะไรขึ้นมาได้ พวงแก้มของเธอก็แดงปลั่งขึ้นมา
ตอนที่หัสดินออกมาจากห้องน้ำ เธอได้นอนอยู่บนเตียงแล้ว ชุดนอนเดิมถูกเปลี่ยน จากชุดที่ใส่เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น แต่ตอนนี้ถูกแทนที่ด้วยชุดนอนตัวหลวมโคร่ง เซ็กซี่เล็กน้อย คอเสื้อเว้าลึก แผ่นหลังก็เปลือยเปล่าโชว์หรา
แต่แล้ว เธอในตอนนี้เห็นชัดว่าลืมไปเสียสิ้นว่าตัวเองกำลังท้องอยู่
เอวที่ไม่ได้เรียวบางเหมือนแต่ก่อน อีกทั้งแขนและขาก็ยังอ้วนขึ้นเล็กน้อย สวมใส่ชุดนอนที่คับตัวแบบนั้น ไม่ได้มีความสวยงามอะไรเลยจริงๆ
การตั้งท้องทำให้ร่างกายเธอเปลี่ยนแปลงไปมาก เมื่อก่อนเธอผอมบาง แต่หลังจากที่ตั้งท้องเธอก็เริ่มบวมขึ้น
ยู่ยี่ขยับไปข้างหน้า ร่างกายเธอแนบชิดไปกับแผ่นหลังของเขา สองมือโอบผ่านด้านหลังของชายหนุ่ม แล้วกอดไปที่เอวของเขา
เธอเคยอ่านเจอในหนังสือ ว่าผู้ชายเป็นพวกที่ไม่มีความอดทน
วันนี้ตอนดูวิธีการทำอาหารในยูทูป ช่วงที่ว่างอยู่ เธอได้ค้นข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องอย่างว่า ในช่วงท้องของสามเดือนแรกและหนึ่งเดือนก่อนคลอด นอกเหนือจากนั้นขอแค่ระมัดระวังมากๆ ก็ไม่เป็นปัญหาอะไร
เมื่อนึกถึงเมื่อคืนที่เขามีอารมณ์แล้วแต่ก็ยังอดทนแล้วไปอาบน้ำ เธอก็จึงมีความคิดที่อยากจะเติมเต็มให้เขา
หัสดินเลิกคิ้ว“ตอนนี้คุณกำลังยั่วผมเหรอ ?”
“ใช่……”เธอตอบออกไปตรงๆ ไม่เสแสร้งเลยสักนิด “สามีภรรยา เป็นเรื่องถูกต้อง”
เธอไม่ใช่คนที่ชอบเสแสร้ง เธอคิดว่าการมีอะไรกับคนที่รักนั้นมันเป็นเรื่องปกติ
หันมาหาเธอ หัสดินพลิกตัว แล้วขึ้นคร่อมร่างกายของเธอ
ในขณะเดียวกัน มือใหญ่ของเขาก็ไม่ได้หยุดนิ่งเช่นกัน บนร่างกายเธอก็มีกลิ่นของแอปเปิลเขียวจางๆ สดชื่น และหอมมาก
เมื่อดวงตาเรียวเล็กได้รูปของหัสดินจ้องมองไปยังแก้มที่มีจุดด่างดำและบวมเป่งเล็กน้อยของเธอ สายตาเขาก็ชะงักไปชั่วขณะ และไม่ได้ขยับเคลื่อนไหวอีก
ยู่ยี่มองดูเขาอย่างงงๆ “เป็นอะไร ?”
“เปล่า……”เขาหัวเราะเบาๆ ตรงหน้ากลับมีใบหน้าของเรนนี่ปรากฏขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล จากนั้นหัวสมองก็ขาวโพลน และไม่มีอารมณ์ใดๆอีก
“ที่รักผมขอโทษ……”หัสดินทอดถอนใจเบาๆ แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้ใบหน้าของเรนนี่ถึงได้ปรากฏขึ้น หรือเป็นเพราะถูกปลุกเร้า?