ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง - บทที่ 334 การประเมินของเธอสูงเกินไป
ยิ่งรีบร้อนมือไม้ก็ยิ่งลนลาน ใบหน้าของยู่ยี่แดงก่ำราวกับมะเขือเทศสุก ปิดหน้าเว็บเหล่านั้นทั้งหมดอย่างรวดเร็ว แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่รู้ว่าเปิดเว็บต่างๆขึ้นมามากมายขนาดนี้เอาไว้ ในใจคิดแค่อยากจะตายอย่างเดียวในตอนนี้!
ไม่ทันได้ระวัง ขากระแทกเข้ากับขาเก้าอี้ที่แข็งเป๊ก เธอโน้มตัวลงอดไม่ได้ที่จะซูดปาก และศีรษะก็กระแทกเข้ากับขอบโต๊ะอีกครั้ง ชนจนเธอน้ำตาเล็ด
พฤติกรรมแย่ๆของเธอทำเอาคิ้วที่ได้รูปของชายหนุ่มขมวดขึ้น ริมฝีปากบางขยับเล็กน้อย น้ำเสียงที่ชวนหลงใหลพูดปลอบเธอเบาๆ“ไม่ต้องรีบ คุณค่อยๆทำ ผมจะหันมองไปทางอื่นเอง……”
“……”ความคิดที่อยากจะตายของยู่ยี่ก็ทวีความรุนแรงขึ้นอีก !
และชายหนุ่มคนนั้นก็หันไปทางอื่นจริงๆ แผ่นหลังอยู่ตรงหน้าเธอ และหันหน้าไปทางประตูของห้องรับรอง เขาวางสายแล้ว และเก็บมือถือเข้าในกระเป๋ากางเกงอย่างตามแต่ใจ
มือไม้เป็นระวิง เพียงครู่เดียว หน้าเว็บทั้งหมดที่เธอเปิดค้างเอาไว้ก็ถูกปิดจนหมด แน่นอนว่าห้องรับรองนี้เธอคงอยู่ต่อไม่ได้อีกแล้ว
ขบริมฝีปากเล็กน้อย เธอก้มหน้าลง มองเพียงทางเท้าที่ก้าวเดินไป สายตาไม่ได้หันมองไปทางไหนเลยแม้แต่น้อย
เธอราวกับพายุทอร์นาโดที่พัดผ่านชายหนุ่มคนนั้น เพียงชั่วพริบตา ก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย
น่าขายหน้าจริงๆ!น่าอายมากๆ!ชีวิตนี้คงไม่มีหน้าจะไปเจอใครอีกแล้ว!
ในตอนนี้เองนาโนก็แต่งหน้าเสร็จแล้ว ทักษะการแต่งหน้าของที่นี่ถือว่าดีเยี่ยมมากจริงๆ แต่งได้สวยงามมาก และทันสมัยด้วย
ใช้เวลาแต่งหน้าไปกว่าหนึ่งชั่วโมง นาโนนั่งจนปวดเมื่อยเนื้อตัวไปหมด อยากจะไปพักผ่อนที่ห้องรับรอง แต่ยู่ยี่กลับไม่ยอมให้ไป ที่ตรงนั้นพักผ่อนไม่ได้ แต่ก็ยังดึงดันจะไป จึงทั้งดึงและลากนาโนออกไป
“พระเจ้าดูสิ นี่มันช่างน่าทึ่งมากจริงๆ!” ทันใดนั้น นาโนก็ส่งเสียงร้องออกมา
หน้าประตูของคลินิก มีชายคนหนึ่งเดินออกมา เขาสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มกับเสื้อสูทสีดำและเสื้อคลุมสีดำยาวถึงเข่า ใบหน้าที่หล่อเหลาสาดส่องด้วยแสงยามเช้าที่ทำให้ดูเร้นลับ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มือขวาถือโทรศัพท์และกำลังคุยสายอยู่ ส่วนมือซ้ายก็ถือกล่องที่ประณีตและสวยงาม เดินลงจากบันได ร่างทั้งร่างมีประกายของความภูมิฐานและสง่างาม
“เธอดูใบหน้านั้น แล้วดูหุ่นเขาสิ ไม่มีใครที่ไหนสู้ได้แล้ว!”ดวงตานาโนเป็นประกาย“ ขาที่เรียวยาวกับกล้ามเนื้อที่เป็นมัดๆ สะโพกงามงอน แผ่นหลังที่หนาและกว้าง รูปร่างที่สมบูรณ์แบบ ราวกับเป็นไม้แขวนเสื้อชั้นดีเลย”
ในตอนนี้เองที่ยู่ยี่รู้สึกคุ้นเคย ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ เธอก็ถึงได้นึกออก นั่นมันชายหนุ่มที่อยู่ในห้องรับรองคนนั้นไม่ใช่เหรอ ?
เมื่อครู่มันน่าอับอายเกินไป สถานการณ์ก็กระอักกระอ่วน เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองว่าเขาหน้าตายังไง พอตอนนี้มองไป ก็เพิ่งจะสังเกตเห็นว่าชายหนุ่มคนนี้หน้าตาหล่อเหลาและดูดีมาก
ดูเหมือนว่าสายตาของนาโนจะร้อนแรงและโจ่งแจ้งเกินไปเสียจนทำให้ชายหนุ่มรับรู้ได้ เขาเดินลงบันได สายตาก็หันไป มองไปที่ยู่ยี่
ดวงตาของเขาดำขลับ และลุ่มลึกมาก แม้จะอยู่ห่างกันไกลพอสมควร แต่ก็ไม่สามารถต้านทานสายตาที่เย้ายวนและมีเสน่ห์ของชายหนุ่มได้ เมื่อสองสายตาประสานกัน ยู่ยี่ก็ทั้งขัดเขินและรู้สึกอาย อีกทั้งความอึดอัดก็ตามมา
เมื่อเทียบกับความเขินอายที่เธอมี ชายหนุ่มกลับสงบนิ่งและสุภาพ แม้จะยังติดสายอยู่ แต่ก็พยักหน้าให้เธออย่างสง่าและไว้ตัว
ยู่ยี่ตะลึงงันเล็กน้อย ไม่คิดว่าเขาจะทักทายเธอ ทักทายกันก็มีแต่จะยิ่งทำให้อับอายมากขึ้นเท่านั้น ไม่ทักก็เหมือนจะไม่มีมารยาท เธอดึงหน้าตึง แล้วก้มหน้าให้อย่างสุภาพ ทักทายกลับเช่นกัน
สายตาของหญิงสาวหลายคนบริเวณโดยรอบจ้องมองมายังชายหนุ่ม ต่างพากันประหลาดใจ และถูกเขาดึงดูด
รายละเอียดนี้ไม่รอดพ้นสายตาที่แหลมคมของนาโน“เธอไปรู้จักกับคนที่รูปลักษณ์หน้าตาดีแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ไป ให้ฉันได้คุยกับเขาสักสองสามคำ !”
ยู่ยี่รีบคว้าไปที่ข้อมือของเธอ เรื่องที่เกิดขึ้นในห้องรับรองนั้นย่อมเล่าสู่กันฟังไม่ได้ เธอบอกเพียงแค่ว่าเมื่อครู่พวกเขาทั้งสองคนเจอหน้ากันโดยบังเอิญในห้องรับรองเท่านั้น
“งั้นดูๆไปแล้วผู้ชายคนนี้ก็น่าจะเป็นคนที่วางตัวดีมากคนหนึ่ง……”นาโนยังคงมองสำรวจ“สายตาของฉันที่มองผู้ชายไม่เคยพลาด ผู้ชายคนนี้มีความเป็นผู้ใหญ่และเปิดเผย สุขุมและผ่านโลกมาอย่างโชกโชน ไม่ยึดติดในกรอบและเก็บเนื้อเก็บตัว ชีวิตอิสระไร้ขีดจำกัด ไหลเอื่อยไปตามน้ำ และยังมีเสน่ห์ที่เหลือร้ายที่สุด คนประเภทนี้เป็นเหมือนยาพิษ แตะต้องไม่ได้ มิเช่นนั้นแล้วจะเสพติด สรุปง่ายๆก็คือชื่นชมได้แค่ไกลๆ แต่อย่าเข้าใกล้เลย……”
วางตัวดี คำพูดนี้ยู่ยี่ไม่ปฏิเสธ เรื่องเมื่อครู่กับในตอนนี้ก็ได้ยืนยันแล้ว เขาเป็นคนที่วางตัวดีจริงๆ
“เพิ่งจะเจอกันครั้งแรก เธอประเมินเขาสูงไปหรือเปล่า ?”
นาโนส่ายหัว“ไม่หรอก เขาทำให้เรารู้สึกแบบนี้ ผู้ชายบางคนรูปลักษณ์ภายนอกและภายในทำให้เรารู้สึกทึ่งได้ในแวบแรก แต่ผู้ชายแบบนั้นมีน้อยมาก และเขาก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ทำให้ฉันรู้สึกทึ่งผู้ชายที่เข้าไม่ถึง เขาดูเป็นผู้ใหญ่เกินไป ”
เด็กรับรถขับรถมาจอดลงตรงหน้าเขา ยื่นกุญแจให้ เขาพูดขอบคุณเสียงเบา หยิบทิปแล้วยื่นให้กับเด็กรับรถคนนั้นแล้วขึ้นรถไป สตาร์ทรถ รถเบนท์ลี่ย์มูซานสีเทาเงินวาดโค้งที่สวยงาม แล้วขับหายวับไปต่อหน้าสายตาของทุกคน……
“พอแล้ว ตอนนี้คนเขาก็ไปแล้ว ถ้าเธอยังเอาแต่จ้องอยู่แบบนี้ ฉันว่าลูกตาคงได้หลุดออกจากเบ้าแน่”ยู่ยี่พูดแซวเธอ“เรื่องนี้ถ้าดนัยรู้เข้า เขาคงต้องโกรธจนหน้าดำหน้าแดงแน่ๆ ”
“อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ ถ้าหากยังไม่ได้แต่งงาน ฉันคงต้องตามตื๊อผู้ชายคนนั้นแน่ๆ ” นาโนพูดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น “เมื่อครู่หัวสมองของฉันก็เอาแต่คิดถึงผู้ชายคนนั้นซ้ำๆไปมาอยู่หลายครั้ง !”
เมื่อได้ยินดังนั้น ยู่ยี่ก็เตะเข้าให้“ พูดจาอะไรก็ระวังหน่อย!ลูกในท้องกำลังมีพัฒนาการ!อย่าทำให้ลูกของฉันต้องเสียคน!”
จนกระทั่งมานั่งอยู่ในรถ นาโนก็ยังคงพูดพร่ำไม่หยุด“เขาเป็นเทพบุตรในใจฉัน ตอบสนองทุกจินตนาการของฉันที่เกี่ยวกับผู้ชาย”
ยู่ยี่รู้สึกว่าหากคำพูดนี้ดนัยได้ยินเข้า คงจะเป็นลมล้มพับไปแน่ เธอไม่สนใจเท่าไร เอนกายพิงกับกระจกรถ แล้วบิดตัวไปมาอย่างเบื่อหน่าย
“ความแตกต่างระหว่างผู้ชายกับผู้ชายนั้นมันแยกออกง่ายมาก เหมือนหัสดินของเธอเขาคือหนุ่มเจ้าสำราญ เป็นพ่อพวงมาลัย และยังติดขี้เล่นนิดๆ ทำได้แค่ให้พวกเด็กสาวหลงใหลเท่านั้น กับผู้ชายแบบนั้น เขาแค่ยืนอยู่ตรงนั้นก็เป็นอาหารตาชั้นเยี่ยม ผู้หญิงที่อยากจะกระโจนเข้าหาก็ล้อมหน้าล้อมหลังเต็มไปหมด ความมีเสน่ห์ของเขาแบบนั้น ด้วยวุฒิภาวะและประสบการณ์ที่สั่งสมมากับกาลเวลา ทั่วทั้งร่างก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายของการละซึ่งกิเลส……”
ร่างของยู่ยี่ที่พิงกับตัวรถยังคงบิดมันไปมาอย่างเบื่อหน่าย“เธอรู้ได้ยังไงว่าเขาละซึ่งกิเลส ? เขาไม่ใช่พระสงฆ์องค์เจ้าสักหน่อย ”
“ฉันพูดว่ารู้สึกถึงกลิ่นอาย”นาโนรู้สึกเหมือนเธอกำลังสีซอให้ควายฟังอยู่