ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง - บทที่ 344 หิวไม่ได้เร็วธรรมดา
ซารางดื่มน้ำผลไม้แล้วเลื่อนดวงตามา “หม่ามี๊ เทพบุตรคืออะไรคะ?”
เชอร์รีนรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย เธอเอามือแตะที่หน้าผาก ไม่รู้จะอธิบายคำที่ลึกซึ้งเกินไปให้เธอฟังยังไง
ยู่ยี่ก็ไม่สามารถอธิบายได้เช่นกัน เธอหัวเราะแห้งๆ ซารางกลับร้องอ๋อออกมา จากการได้ข้อสรุปของตัวเอง “เทพบุตรคือเทวดาชายในท้องฟ้า!”
ทั้งสองมองหน้ากัน กลั้นหัวเราะไม่ไหว ช่างเป็นเด็กที่น่ารักจริงๆ!
บนโต๊ะมีซองสีขาววางอยู่ มือขวาของฉันทัชถือกาแฟ นิ้วของมือซ้ายถือซองเล่นอย่างตามใจ
เมื่อเห็นว่าเขาเล่นเช่นนั้น อาคิระก็สนใจ เขาเลิกคิ้วขึ้น “อะไรน่ะ จดหมายรักเหรอ?”
“ไม่ เงิน…” ฉันทัชเลิกคิ้วอย่างเกียจคร้าน เขาสะบัดมือซ้าย ซองก็ตกลง
“นี่นายน่าเบื่อถึงขนาดนี้เลยเหรอ?”
“คนอื่นคืนให้ฉัน…”
อาคิระหัวเราะเบาๆ “โอ้ ใครกันแน่นะที่สามารถใช้วิธีแบบนี้คืนเงินของคุณฉันทัชของเราได้ ฉันล่ะอยากเจอจริงๆ”
“พูดมาก…” ริมฝีปากบางขยับพูดสองคำออกมาอย่างแผ่วเบา ฉันทัชลุกขึ้น ใส่ซองจดหมายลงในกระเป๋ากางเกงสูทของเขาลวกๆ “ไปห้องน้ำนะ”
นาโนถือกาแฟยืนอยู่ข้างหลังเขา กำลังคิดว่าจะใช้วิธีไหนและจังหวะอะไรที่จะไปชนใส่พอดี แล้วยังทำให้เธอยังดูสวยอยู่บ้าง
เธอยังคิดแผนไม่ทันออก ฉันทัชก็ถอยหลังหนึ่งก้าวพอดี รองเท้าส้นสูงของนาโนจึงเอียง กาแฟทั้งแก้วก็หกลงบนเสื้อคลุมของเธอพอดี ยังมีกาแฟอีกไม่น้อยหกลงบนขาของเธอ เธอกรีดร้อง มันร้อนเกินไปจริงๆ!
เขาหยุดก้าวถอยหลังทันที ฉันทัชหันกลับมา สายตาสบเข้ากับนาโน เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดด้วยเสียงต่ำ “ขอโทษครับ นั่งลงเองได้ไหมครับ?”
นาโนพยักหน้าพยายามนั่งลง ฉันทัชหยิบกระดาษทิษชู่ส่งให้ จากนั้นมองไปที่อาคิระ “ไปที่แผนกต้อนรับ เรียกพนักงานผู้หญิงมาคนหนึ่ง แล้วก็เอาน้ำเย็นกับยาทามาด้วย รีบไปเอามาล่ะ!”
สักพักพนักงานก็ถูกพาตัวมา พร้อมกับอ่างน้ำเย็น
“นั่งยองๆลง ใช่ ช่วยเธอล้างบริเวณที่ถูกน้ำลวกหน่อยครับ น้ำเย็นมาก อย่าล้างนานเกินไป แค่ไม่กี่นาทีก็พอ รอถ้าเธอไม่รู้สึกร้อนแล้วก็ค่อยทายา…”
ร่างโปร่งของฉันทัชก้มโค้งเล็กน้อย กรามล่างโค้งอย่างเย่อหยิ่ง เสียงของเขาลึกและช้า แหบเล็กน้อย แต่กลับน่าฟังมาก
สายตานาโนมองเงยขึ้นสบเข้ากับสายตาของเขาโดยบังเอิญ เขาพยักหน้าให้เธอเบาๆ จากนั้นส่งสัญญาณให้พนักงานว่าทำอย่างไร
เขาดูเป็นคนฉลาด มีกลิ่นอายของผู้ชายที่ดูเป็นผู้ใหญ่อย่างมาก ความสุขุม ความสง่าของเขาทำให้คนใจเต้นอย่างมาก
หัวใจของนาโนเต้นแรง ในใจก็แอบกรีดร้องว่า ให้ตายสิ ทำไมผู้ชายคนนี้น่าดึงดูดขนาดนี้นะ!
ฉันทัชควักกระเป๋าเงินออกมาหยิบแบงก์ร้อยออกมาสองใบแล้วยื่นให้กับพนักงานที่กำลังนั่งยองๆอยู่บนพื้น แล้วพูดเบาเรียบๆว่า “รบกวนแล้ว”
พนักงานสาวหน้าแดง เธอส่ายหน้า ไม่ยอมรับ ฉันทัชจึงยิ้มออกมา “คุณสมควรที่จะได้รับมัน”
สุดท้ายเขามองไปอาคิระอีกครั้ง “อยู่เป็นเพื่อนคุณผู้หญิงคนนี้แทนฉันหน่อย เดี๋ยวฉันมา”
พูดจบร่างสูงของเขาก็หายไปนอกร้านอาหาร นาโนโล่งอก ฮอร์โมนเพศชายของชายผู้นี้แรงเกินไปจนทำให้คนหายใจลำบาก
สิบนาทีต่อมาฉันทัชเดินเข้ามาพร้อมกับถุงบรรจุที่แสนประณีตในมือ “ผมคิดว่าขาของคุณไม่เหมาะกับการใส่ถุงน่องอีกแล้ว เปลี่ยนมาสวมกระโปรงตัวนี้เถอะครับ…”
ที่แท้เขาก็ไปซื้อเสื้อผ้า นาโนประหลาดใจเล็กน้อย แต่ยู่ยี่ก็เดินเข้ามาในตอนนั้นแล้วแอบเอื้อมมือไปบีบเธอทีหนึ่ง และพยักหน้าให้ฉันทัช “คุณฉันทัช”
ดวงตาที่ลึกล้ำของฉันทัชแสดงอาการประหลาดใจเล็กน้อย “คุณอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ?”
ยู่ยี่พยักหน้า ชี้ไปที่นาโน เธอรู้สึกขายหน้า “เธอเป็นเพื่อนของฉัน”
“แบบนี้นี่เอง…” ริมฝีปากบางของฉันทัชยกยิ้มอย่างขอโทษบางๆ นิ้วเรียวยาวนวดบริเวณหน้าผาก “ผมบังเอิญชนเพื่อนของคุณ รบกวนคุณช่วยเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อยได้ไหม?”
“ย่อมได้อยู่แล้ว!” ยู่ยี่พยุงนาโนเดินไปที่ห้องน้ำ ระหว่างทางยังดุนาโนด้วยความโกรธ “เธอมันไม่มีสมอง!”
นาโนส่ายหัว “ไม่ได้ ผู้ชายผู้นั้นอันตรายเกินไป ฉันเกือบจะหายใจไม่ออก!”
กระโปรงที่ฉันทัชซื้อมาเป็นกระโปรงยาว ด้านนอกยังมีเสื้อคลุมที่เข้าชุดกัน นาโนจำคุณสมบัติและสไตล์ของเสื้อผ้าได้อย่างรวดเร็ว มันเป็นแบรนด์ฝรั่งเศส ชุดนี้มีราคาหลายหมื่น
พอเธอหาจนทั่วก็ไม่พบป้ายของเสื้อผ้า เธอรู้ทันทีว่าเขาต้องฉีกป้ายออกแล้ว
นาโนสะบัดเสื้อผ้าแล้วพูดว่า “ชุดนี้ต้องใช้เงินเยอะ แต่เขากลับฉีกป้ายออก ถ้าฉันยังไม่แต่งงาน ฉันจะต้องเอาเขามาไว้ในมือให้ได้”
ยู่ยี่ยิ้มอ่อนๆไม่พูดอะไร คุณธรรมและบุคลิกความเป็นคนชนชั้นสูงของเขาเธอได้มาก่อนแล้ว
เธอพานาโนเดินออกมา ขณะผ่านแผนกต้อนรับ ขาของยู่ยี่ก็หยุด เมื่อเดินไปดูก็พบว่าบิลของทั้งสองโต๊ะถูกชำระหมดแล้ว
ตอนที่พวกเขากลับมาเชอร์รีนกำลังคุยอะไรสักอย่างกับฉันทัช ราวกับว่าพวกเขากำลังคุยกัน ซารางก็ย่อมปีนขึ้นไปบนตักเขาอย่างเคยชิน
ระหว่างนั้นเชอร์รีนได้รับสายจากออกัสที่ให้เธอพาซารางกลับบ้าน นาโนก็ต้องกลับไป จึงโทรให้คนขับรถมาหา
“ให้ผมส่งพวกคุณกลับเถอะครับ ขาของเธอไม่น่าจะเดินสะดวก…” ฉันทัชหันหน้าไปมองอาคิระ “ฉันจะไปส่งพวกเธอกลับ”
“โอเค!” อาคิระทำมือ
ยู่ยี่อยากจะปฏิเสธ แต่เชอร์รีนกับนาโนได้เดินตามเขาไปแล้ว เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตามไป
ฉันทัชไปที่แผนกต้อนรับเพื่อชำระเงิน พนักงานบอกเขาด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อว่าผู้หญิงคนนั้นจ่ายเงินแล้ว ทางที่เธอชี้ไปคือยู่ยี่
ฉันทัชหรี่ตาลงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ปิดบังการเพ่งมองและการสังเกตของสายตาข้างล่าง การเคลื่อนไหวของเขาดูสบายๆ แต่ความสูงศักดิ์และความสง่างามในไม่อาจปกปิดได้
บ้านของนาโนอยู่ใกล้ที่สุด เธอลงจากรถมองฉันทัชสองสามครั้งแล้วกระแอม ช่างโชคดีจริงๆ!
จากนั้นก็เป็นบ้านตระกูลสิริไพบูรณ์ เชอร์รีนอุ้มซารางลง ซารางยิ้มตาหยี “บ๊ายบายค่ะลุงสุดหล่อ”
“บ๊ายบายครับ…” เขาหัวเราะเบาๆ ที่มุมปากประดับด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน มือใหญ่บีบหน้ากลมของเธอเบาๆ
ออกัสรออยู่ข้างนอกบ้านตระกูลสิริไพบูรณ์แล้ว หลังจากเชอร์รีนและยู่ยี่กล่าวลาเสร็จ เชอร์รีนก็เดินไปหาออกัส
ในรถจึงเหลือคนเพียงสองคน ยู่ยี่รู้สึกว่ารถกลับมาเงียบอีกครั้ง เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยจึงไอเบาๆ
สายตาของฉันทัชกวาดมองเธอผ่านกระจก ริมฝีปากบางขยับ “คุณมานั่งข้างหน้าไหม?”
ยู่ยี่ส่ายหน้าแล้วพูดอย่างอึดอัดว่า “ฉันคิดว่านั่งที่นี่ดีแล้ว กว้างขวางดี”
ฉันทัชโค้งตัวหันตัวมาเล็กน้อย มองดูเธออย่างสบายๆ “ผมไม่ชินกับการที่ที่นั่งด้านหน้าว่างเปล่าแล้วมีคนนั่งอยู่เบาะหลัง ต้องขอโทษด้วย…”
เมื่อพูดแบบนี้แล้ว หากยู่ยี่จะนั่งเบาะหลังก็ไม่สุภาพ เธอจึงต้องเปิดประตูแล้วเดินอ้อมไปนั่งที่นั่งข้างคนขับ
ขณะที่รถกำลังจะออกตัว ขาสั้นน้อยๆของซารางก็วิ่งกลับมาอีกครั้งตามด้วยคนขับรถ ร่างน้อยของเธอเอาตัวอิงตรงหน้าต่าง “คุณน้าคะ คุณลุงสุดหล่อ ทับทิมเหล่านี้คือแด๊ดดี้กับหม่ามี๊ของหนูเก็บมา คุณน้าคุณลุงเอามันไปกินนะคะ มันอร่อยมากเลย!”
“ซารางน่ารักมากจริงๆ!” ยู่ยี่หอมแก้มน้อยสีชมพูของเธอ ซารางไม่ไปไหน เธอขยับตัวมาตรงหน้าฉันทัชอย่างได้คืบจะเอาศอก มองเขาด้วยแววตาที่สดใสราวกับลูกหมาปั๊กตัวน้อย!
ฉันทัชดึงเข็มขัดนิรภัยออก เอนตัวลงมาหอมแก้มน้อยของเธอเบาๆ ขณะนั้นเองท้องของยู่ยี่ก็ส่งเสียงร้องออกมา
เสียงนั้นดังมาก สามารถได้ยินได้ชัดเจน ซารางหัวเราะคิกคัก ฉันทัชเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยมองมาที่เธอ
แก้มของยู่ยี่แดงก่ำ เธอรู้สึกอาย ตอนเที่ยงเธอยังไม่ได้กินข้าว บวกกับว่าเธอกำลังท้อง จึงหิวเร็วกว่าคนทั่วไป…