ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง - บทที่ 357 เวลาเจ็ดปีก็แค่นั้น
เมื่อถึงร้านเหล้า ฉันทัชก็พาเธอไปที่ห้องวีไอพี เมื่อเห็นแก้วเหล้า เธอลังเลไปห้าวินาที จากนั้นก็ยกขึ้นมาดื่มทีเดียวหมดแก้ว
มีบางอย่างตายไปแล้ว ตายไปจากหัวใจเธอแล้ว……
ฉันทัชยกแก้วไวน์แดงไว้ ทว่าไม่ได้ดื่ม แค่จ้องมองเธอที่ดื่มติดต่อกันสามแก้ว จากนั้นก็เมาเป็นที่เรียบร้อย
ฉันทัชสั่งให้บริกรเปลี่ยนเหล้ายี่ห้อที่ดีกรีสูงที่สุด หากไม่สูง เธออาจจะดื่มไปถึงสิบแก้ว ส่วนยี่ห้อที่มีดีกรีสูงแค่สามแก้วก็พอ
ให้แอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกายเธอยิ่งน้อยยิ่งดี……
เธอเริ่มมึน ๆ เบลอ ๆ ไม่ได้โวยวายจะดื่มเหล้าแล้ว สองมือฉันทัชอุ้มเธอเดินออกจากร้านเหล้า
ยู่ยี่ซุกอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างเชื่อฟังและแน่นิ่ง สายตาของเธอจ้องไปยังท้องฟ้า จากนั้นน้ำตาก็ไหลพรั่งมาแผดเผามือของเขา
เจ็ดปี……อยู่ด้วยกันมาเจ็ดปีก็แค่นั้น……
ฤทธิ์แอลกอฮอล์แรงมาก เมื่ออุ้มเธอขึ้นรถ เธอก็ไม่ได้อยู่นิ่ง เริ่มร้องรำทำเพลงขึ้นมา ครื้นเครงอย่างผิดปกติ
ฉันทัชให้โชเฟอร์ขับไปยังคฤหาสน์ เธอที่อยู่ในอาการเมามายนั่งอยู่บนโซฟา แล้วมองเครื่องตกแต่งภายในบ้านอย่างเหม่อลอย
ด้านในคฤหาสน์เปิดเครื่องให้ความร้อนไว้ ฉันทัชถอดเสื้อกันหนาวสีกาแฟออก เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวนวล พลางเผยร่างกายกำยำแข็งแรงออกมา
หุ่นของเขาดีเลิศมาก ประหนึ่งเสือชีตาห์ที่แข็งแรงและสง่างาม
ยู่ยี่นั่งที่รถ จ้องมองเขา เอ่ยปากพูดด้วยกลิ่นเหล้าฉุน“ฉันจะเอาคุณ……”
ฉันทัชหรี่ตาเล็กน้อย รู้สึกประหลาดใจกับข้อเรียกร้องของเธอ กล่าวเสียงที่เจือรอยยิ้มไว้ “คุณเมาแล้ว นอนดี ๆ……”
“ฉันจะเอาคุณ ฉันมีเงิน……”เธอกลอกตา ซึ่งนัยน์ตาใสมาก ส่วนร่างกายนั้นโยกเยกไปมา
ส่ายหัว เขานั่งลงที่โซฟา ยู่ยี่ตามติดด้านหลังเขา“ฉันจะยั่วคุณ ฉันจะเอากับคุณ……”
ฉันทัชกำลังคิดว่าเมื่อครู่ไม่น่าให้เธอดื่มเหล้าเลย เขาไม่รู้ว่าหลังเธอดื่มเหล้าแล้วจะทำเช่นนี้ ……
เธอรู้สึกหงุดหงิดที่เขาไม่แยแส ตัดสินใจไปนั่งบนตักเขา แล้วฉีกกระชากเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขา
กล้ามเนื้อล่ำสันของเขาพลันเผยออกมา หน้าอกแกร่งสีบรอนซ์สวยงามสะดุดตายิ่ง ผิวพรรณเรียบเนียนเงางาม เขามีร่างกายที่เพอร์เฟคเย้ายวนใจ
มือของเธอไม่รู้จักคำว่า หยุด จากนั้นก็เคลื่อนย้ายลงมาที่เข็มขัด เพื่อจะถอดออก
ทว่าถอดยากมาก เธอจึงร้องไห้ ไม่รู้ว่าสาเหตุที่ร้องไห้เกิดจากการที่ถอดเข็มขัดไม่ออกหรือร้องเพราะสาเหตุอื่น แต่เท่าที่เห็นคือร้องไห้ด้วยความเสียใจอย่างยิ่งยวด
เธอนั่งอยู่บนตักเขา มือข้างหนึ่งดึงเสื้อเชิ้ตของเขา อีกข้างถอดเข็มขัดออก ส่วนบนใบหน้าก็มีน้ำตาไหลริมไม่หยุดหย่อน
ฉันทัชหรี่ตาเล็กน้อย สายตาวูบไหว มือใหญ่เช็ดน้ำตาเธอออก “ตอนนี้คุณกำลังท้องอยู่ เอาผมไม่ได้……”
เธอไม่อยากฟังเขาพูด เอาแต่ต่อสู้กับเข็มขัดอย่างดุเดือด เขาโดนกระชากเสื้อและกระชากเสื้อและกางเกงสูทจนยุ่งเหยิง แต่ความเซ็กซี่ก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลง
ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่หนักเอาการ ผ่านไปไม่นานเธอก็เมาสลบในอ้อมกอดของเขา
คฤหาสน์หลังนี้หรูหราละลานตาและกว้างใหญ่มาก ฉันทัชอุ้มเธอไปที่ห้องนอนที่อยู่ฝั่งทะเล จากนั้นก็ไปอาบน้ำ ร่างกายเขามีกลิ่นเหล้าฉุนมากเช่นกัน
……
เช้าวันถัดมา
ยู่ยี่ตื่นมาเห็นทะเลสีครามที่เป็นทิวทัศน์แสนสวยงาม ทว่าก็ไม่ทำให้หัวใจที่หดหู่ของเธอจางหายเลย
จากนั้นสติของเธอก็กลับมา นี่ไม่ใช่คอนโดของเธอ
เธอรีบเดินลงไปที่ชั้นล่าง ก่อนจะเห็นผู้ชายที่โดดเด่น สูงศักดิ์ นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อย่างสง่างาม
เธอจำเรื่องเมื่อคืนได้น้อยมาก เมื่อหยุดเดิมแล้วเธอก็กล่าวคำขอบคุณ “ขอบคุณที่ให้ฉันพักที่นี่นะคะ รบกวนคุณแล้ว”
“อืม……”ฉันทัชวางหนังสือพิมพ์ลง ไม่ได้เอื้อนเอ่ยถึงเรื่องเมื่อคืน “จะดื่มน้ำผลไม้หรือน้ำเต้าหู้ดี?”
ยู่ยี่ส่ายหัว เธอไม่อยากกินอะไรทั้งนั้น เธอกินไม่ลง เธอรู้สึกว่ากระเพาะอิ่มแปล้ตลอดเวลา
“ผมคิดว่าคุณควรอ่านหนังสือพิมพ์นี่นะ……”ร่างกายสูงโปร่งของฉันทัชก้มลงเล็กน้อย ก่อนจะยื่นหนังสือพิมพ์ออกไป
ในหนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวเรื่องเธอกับหัสดิน ซึ่งมีรูปถ่ายตอนเธอตบหน้าหัสดินต่อหน้าผู้คน และยังมีนาโนตบหน้าเรนนี่ในห้องคนไข้ด้วย ……
เรื่องเมื่อวานกลายเป็นข่าวเด่นข่าวดังเสียแล้ว……
เรื่องใหญ่ขึ้นก็ช่าง เธอไม่สนใจ สิ่งเดียวที่เธอไม่ชอบก็คือ คนอื่นวิพากษ์วิจารณ์เรื่องชีวิตแต่งงานของเธอ
ทว่าเธอไม่อาจห้ามปากและความคิดคนอื่นได้ ……
ต้นรักที่ปลูกกันมาเจ็ดปี อยู่ด้วยกันมาเจ็ดปี เธอยังไม่อาจคว้าหัวใจสามีตัวเองได้เลย แล้วจะควบคุมคนอื่นได้เช่นไร
ฉันทัชหยิบเสื้อกันหนาวขึ้นมา“ผมต้องออกไปข้างนอก ไปด้วยกันไหม?”
เธอพยักหน้า พลางวางหนังสือพิมพ์ไว้บนโต๊ะ แล้วตามเขาออกไป เธอเงียบตลอดทาง ช่วงนี้เธอเก็บตัวเงียบขึ้นเรื่อยๆ
ฉันทัชก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน บรรยากาศภายในรถจึงเงียบงันตลอดทาง
แต่ถึงจะไม่พูด ทว่าฮอร์โมนเพศชายที่แผ่ซ่านออกจากเรือนร่างเขานั้นเข้มข้นมาก ทำให้เธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
“ให้ฉันลงทางข้างหน้าเลยค่ะ……”ยู่ยี่ยื่นมือชี้ไปที่ปากทาง
ฉันทัชเลิกคิ้วขึ้น จ้องมองเธออย่างลุ่มลึก ตอนเธอเมากับตอนมีสตินั้นต่างกันเหมือนคนละคนเลย เขาเปล่งเสียงกล่าวว่า“อืม……”
เมื่อจอดนิ่ง เธอก็ลงจากรถ กล่าวขอบคุณเขาจากใจ“ขอบคุณคุณมากจริง ๆ ค่ะ เมื่อคืนฉันคงไม่ได้พูดอะไรที่ไม่ควรพูดใช่ไหมคะ”
เธอรู้ว่าตัวเองเมา ทว่าจำอะไรไม่ได้เลย
“พูดแล้ว……”เขาจ้องเธออย่างจดจ่อ ดวงตาดำขลับของเขาเสมือนคลื่นน้ำทะเลวูบไหวและมีประกายแสงใส ๆ“คุณยั่วผม แล้วบอกจะเอาผม……”
ยู่ยี่อึ้งอยู่กับที่ เธอไม่รู้ว่าตัวเองจะพูดแบบนั้นออกมา
เธอรู้สึกว่าพูดแบบนี้ จะทำให้ผู้ชายอย่างเขาแปดเปื้อน เธอรีบกล่าวคำขอโทษ “ขอบคุณค่ะ”
“ไม่เป็นไร เมื่อคืนผมปฏิเสธคุณอย่างอ่อนโยนแล้ว……”ฉันทัชหรี่ตาขึ้นเล็กน้อย“ผมบอกว่าตอนนี้คุณท้องอยู่ จะกระทบต่อเด็กในครรภ์ได้ ……”
“นั่นเป็นเพียงคำพูดหลังเมา คุณฉันทัชโปรดเข้าใจและให้อภัยด้วยค่ะ”
เขาไม่ได้พูดอะไร แค่ลดคางลง ซึ่งเป็นอิริยาบถที่สูงศักดิ์และเย่อหยิ่งดุจเดิม ทั้งยังเจือความกดดันไว้ในทีด้วย
เกิดระบบสั่นขึ้นที่มือถือ ยู่ยี่กดรับสายที่มาจากชฎารัตน์ โดยบอกให้เธอกลับคฤหาสน์ภูษาธร
หลังวางสาย ยู่ยี่เดินไปที่ร้านขายผลไม้ด้านข้าง ก่อนจะซื้อกล้วยหอม ส้ม แอบเปิ้ล สตรอเบอร์รี่ จากนั้นก็หมุนกายยื่นให้ฉันทัช
เขารับมา ริมฝีปากบางยกโค้งขึ้น เอ่ยสองพยางค์ออกมาว่า“ขอบคุณ……”
เธอกล่าวคำอำลาเสร็จก็จากไป เมื่อเธอหายลับไปจากสายตา 景承发จึงจะสตาร์ทรถ ขับไปยังทิศทางตรงข้าม
……
ชฎารัตน์รอในคฤหาสน์ภูษาธรเป็นเวลานานแล้ว เมื่อเห็นยู่ยี่ก็ขมวดคิ้วแน่นเป็นปม
“ทำไมจึงทำเรื่องใหญ่โตขนาดนี้?”ชฎารัตน์โยนหนังสือพิมพ์ไปที่เธอ“ตระกูลภูษาธรมีฐานะในเมือง Sขนาดไหน ทำไมพวกเธอถึงทำอะไรไม่คิดเลย”
ยู่ยี่รู้สึกเหนื่อยล้าสุดแสน“เขาทำผิดก่อน”