ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง - บทที่ 5 เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน
เขาเงยหน้าขึ้นเอ่ยถามอีกครั้ง “แล้วคำตอบของคุณครูเชอร์รีนล่ะ”
“ฉันยังคงปฏิเสธ” มองตรงไปยังเขา เธอตอบเน้นทีละคำ
ออกัสค่อยๆ หรี่ตาจ้องเธอโดยไม่พูดอะไร เป็นแบบนี้ไปชั่วขณะ เหมือนต้องการมองเธอให้ทะลุปรุโปร่ง
นานมากก็ไม่ได้ยินเสียงของเขา เชอร์รีนเงยหน้ามองด้วยความประหลาดใจ ทันทีที่ตกสู่ห้วงดวงตาที่ลึกล้ำและคาดเดาไม่ได้ของเขา หัวใจก็พลันเต้นอย่างบ้าคลั่งผิดปกติ
บรรยากาศเงียบงันรอยล้อมระหว่างทั้งคู่ จู่ๆ ออกัสก็พูดขึ้นมา น้ำเสียงทุ้มต่ำเจือความสงสัย “การปฏิเสธของคุณครูเชอร์รีนเกี่ยวข้องกับเรื่องคืนนั้น……”
เชอร์รีนใบหน้าเปลี่ยนสีทันที ค่อนข้างหวาดหวั่นผู้ชายตรงหน้า เขาเป็นเหมือนเสือชีต้าที่สง่างาม ดูเหมือนเดาสุ่ม แต่กลับเป็นกลยุทธ์ที่ร้ายแรง
ทว่า มันเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ เธอไม่ได้ถอย แต่พยักหน้า
“สำหรับคืนนั้น ผมมีบางอย่างอยากจะพูด……” ออกัสชำเลืองมองเธอ “เป็นเจตนาดีจริงๆ ที่ผมเสนอให้คุณครูเชอร์รีนรีแพร์เยื่อพรหมจรรย์ แต่ชัดเจนว่าคุณครูเชอร์รีนเข้าใจผิด……”
เลือดในกายพุ่งขึ้นศีรษะ เชอร์รีนกดเสียงต่ำลอดไรฟัน “เรื่องนั้นฉันหวังว่าคุณออกัสจะลืมมันไปให้หมด! ไม่ว่าจะด้วยเจตนาดีหรืออะไรก็ตาม!”
“ผมลืมไปแล้ว แต่คุณครูเชอร์รีนยังแคร์มันอยู่ ก็เท่านั้น……”
ดวงตาของเขาคมดั่งลูกศร สังเกตสีหน้าท่าทางเธอตลอดเวลา
เธอลดสายตาลงเลี่ยงสายตาที่เจาะลึกจิตใจคนของเขา แล้วตอบโต้ว่า “ฉันเปล่า!”
“ในเมื่อเปล่า ทำไมไม่เป็นครูสอนพิเศษล่ะ” ออกัสเลิกคิ้ว ไล่บี้ทีละก้าว
ความหงุดหงิดใจร้อนที่บางเบาในที่สุดก็ถูกเขากระตุ้นสำเร็จ เธอลุกขึ้นพรวด พูดอย่างหยาบคายดื้อรั้น “ไม่เป็น! ไม่เป็นก็คือไม่เป็น! คุณออกัสได้ยินชัดไหม”
ริมฝีปากบางของออกัสกระตุกยิ้มเล็กน้อย เอ่ยเตือนเธอว่า “ดูเหมือนคุณครูเชอร์รีนจะตื่นเต้นอีกแล้ว…..”
“ฉันตื่นเต้นแล้วยังไง ไม่ว่ายังไง ฉันจะไม่เป็นครูสอนพิเศษ ตอนบ่ายฉันมีสอน คุณออกัสตามสบาย!”
เมื่อสิ้นเสียง เชอร์รีนก็หยิบกระเป๋าถือเดินออกจากห้อง เพิ่งสองก้าว ประตูก็ถูกผลักเปิด เลอแปงเดินเข้ามา
ออกัสเลิกคิ้ว สายตาตกที่ตัวเลอแปง แล้วเปิดปากพูดว่า “ในเมื่อคุณครูเชอร์รีนไม่ตกลง ก็อย่าบังคับมากเกินไป จริงสิ ให้คนขับรถเจตไปส่งคุณครูเชอร์รีนกลับโรงเรียนด้วย”
แต่คิ้วของเลอแปงกลับขมวดแน่น จ้องเชอร์รีนเขม็ง “ทำไมครูไม่ตกลงครับ”
“ครูยังมีงานที่ต้องทำอีกมาก ไม่มีเวลาเป็นครูสอนพิเศษ” เชอร์รีนมองเลอแปงอย่างขอโทษ
เธอเดินผ่านเลอแปงไปทันที แล้วตรงออกจากร้านอาหารตะวันตกไปเลย……
ร่างสูงของออกัสยืนขึ้น และก็เดินออกไป แต่เห็นเลอแปงยังยืนอยู่กับที่ไม่ยอมขยับ เขาจึงเลิกคิ้วถาม “ไม่ไป?”
“พี่ใหญ่ คุณเชื่อไหมว่าผมมีทางทำให้เธอตกลง” สติฟื้นคืน เลอแปงยกมุมปากยิ้มสดใส “ผมเองก็มีเรื่องต้องทำอีกมาก ไม่มีเวลาไปโรงเรียน……”
เห็นได้ชัดว่าออกัสไม่ได้สนใจคำพูดของเขามากนัก เวลานี้ลดสายตาลงไปมองยังรถเบนท์ลีย์สีดำ
ส่วนเชอร์รีนกลับถึงโรงเรียนแล้ว เพิ่งถึงห้องพักครู ก็ถูกครูใหญ่เรียกไป
ในบทสนทนาเป็นไปอย่างเรียบง่าย ให้เธอทำตามคำขอของตระกูลสิริไพบูรณ์โดยไม่มีเงื่อนไข โดยเฉพาะกับออกัส!
ท้ายสุดก่อนที่จะออกมา ครูใหญ่ยังกำชับตักเตือนสั่งสอนเธอ ว่าต้องใส่ใจการเรียนของคุณชายรองเลอแปงอย่าให้ขาดตกบกพร่อง!
เชอร์รีนส่งเสียงจิ๊จ๊ะเล็กน้อยกับคำประจบสอพลอยกยอตำแหน่งของเขา รู้สึกว่าคนคนนี้ไม่ได้เรื่องเลย!
ยิ่งกว่านั้นคือ อีกหลายวันต่อมาในชั้นเรียน เลอแปงไม่เข้ามาอีกเลย และติดต่อก็ไม่ได้ด้วย
เห็นได้ชัดว่าจงใจ
ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ใหญ่อายุยี่สิบกันแล้ว แต่พอโกรธก็ทำตัวเหมือนเด็กน้อยไร้เดียงสา
ทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ เธอไม่เข้าใจเลย แค่เพราะเธอไม่ตกลงเป็นครูสอนพิเศษให้เขาเท่านั้นเองเนี่ยนะ
ถอนหายใจอย่างหมดหนทาง เชอร์รีนเอารายชื่อนักเรียนออกมา เริ่มหาที่อยู่บ้านที่เลอแปงกรอกเอาไว้
อีกสองวันเป็นการสอบปลายภาค เขาต้องมาโรงเรียนเพื่อสอบปลายภาค!
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ก็มาถึงยังบ้านตระกูลสิริไพบูรณ์
เชอร์รีนหยุดอยู่หน้าประตูห้อง แต่สิ่งที่เธอค่อนข้างแปลกใจคือ ประตูห้องกลับไม่ได้ล็อค มันเปิดอ้าออกเล็กน้อย
หลังจากตรวจสอบที่อยู่หลายครั้งดีแล้ว เธอเอื้อมมือไปเปิดประตู แล้วเข้าไปข้างใน
เดินไปไม่กี่ก้าว เชอร์รีนก็ต้องตกตะลึงนิ่งอึ้งอยู่กับที่ ฝ่าเท้าราวกับมีสารตะกั่วถ่วงหนัก……ขยับไม่ได้
เสียงคลุมเครือของชายหญิงดังเข้ามาในโสตประสาท……
พวกเขากำลังดูหนังแอคชั่นกันเหรอ……