ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง - บทที่ 522 ถูกรักเหมือนสมบัติล้ำค่า
ยู่ยี่ถอนหายใจเบาๆ ความน่าหลงใหลและมีเสน่ห์ของเขาเธอรู้มาตลอด แต่ในเวลานี้กลับรู้สึกว่าตาของเขาแวววาว
แขนของเธอจับไปที่ช่วงคอของเขา ยู่ยี่เงยหน้าขึ้นแล้วประทับจูบให้เขา
ฉันทัชยังคงคงท่าไว้อย่างนั้น เพียงแต่ว่ามือใหญ่ของเขาได้มาตกอยู่ที่บริเวณด้านหลังของเธอ กอดแน่น รับความรู้สึกนั้นอย่างยินดีปรีดา
จูบนี้ยาวนาน จนกระทั่งความเร่าร้อนได้เกิดขึ้นถึงหยุดลง
ยู่ยี่ยื่นลูกพลับแห้งให้เขาพลางส่ายหน้า
รอกินลูกพลับแห้งหมดแล้วก็ดื่มน้ำ เป็นเวลาใกล้ตีสี่แล้ว เป็นเพราะว่าเรียกร้องอยากที่จะกินลูกพลับแห้งอยู่นาน ยู่ยี่ง่วงมากจริงๆ ตาสะลึมสะลือ
ฉันทัชเอาเธอมาไว้ในอ้อมกอด ลมหายใจที่อบอุ่นนั้นมาสัมผัสที่หน้าผาก “นอนเถอะ….”
บรรยากาศที่นุ่มนวลก็ทำให้คนนั้นเข้าสู่ห้วงภวังค์ เธอหาว กอดเอวเขาแน่น แล้วหลับไป
อีกฟากนึง
เช้าวันถัดมา
เรนนี่ตื่นขึ้นเห็นผู้ชายที่อยู่ข้างกาย เธอมีความรู้สึกรังเกียจน้อยๆว่าทั้งอ้วนทั้งแก่
แต่ใครให้เขามีเงินกันล่ะ!
ตอนนี้เธอต้องการที่พึ่ง แล้วเธอก็จะค่อยปีนป่ายไป จนกระทั่งจะเจอคนที่เธอตีเสมอหัสดินได้
สำหรับหัสดิน ตอนนี้เรนนี่เกลียดอย่างที่สุด ถ้าไม่ใช่เขา เธอก็ไม่เลือกทางเดินสายนี้!
เจ็ดปี เธอใช้เวลาเจ็ดปีในการเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้ได้ใกล้ชิดเขา แต่ผลสุดท้ายที่ได้คืออะไร ไม่ใช่แค่เงินที่ไม่ได้เลยแต่ยังได้รับผลกระทบด้วย!
ผู้ชายในเวลานี้ก็ตื่นขึ้นแล้วหันหน้ามายิ้มให้ ยื่นมือที่อวบอิ่มมาเอาเธอเข้าไปกอด ปากก็เข้ามาประกบใกล้
เรนนี่ระงับความคิดที่อยากจะหลบไม่ให้เกิดขึ้น
ผู้ชายให้รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก ปากก็ร้องเรียกว่าที่รัก
แม้ว่าผู้ชายคนนี้จะอายุเยอะมากแล้ว แต่ความอึดกลับไม่ธรรมดา เช้าตรู่ก็จัดไปสองรอบ เวลาที่ทำนั้นไม่สั้นเลย
สุดท้ายตอนที่จะแยกจากกัน ผู้ชายให้คนขับรถไปส่งเรนนี่แล้วยังให้เช็คเธอหนึ่งใบ เงินไม่ได้เยอะมาก ประมาณล้านนิดๆ
ผู้ชายพูดอย่างชัดเจนตอนที่เธอจะออกไปว่านี่เป็นราคาเปิดตัวครั้งแรก หลังจากนี้จะให้เพิ่มอีก
เนเน่เห็นเธอมีรถหรูมาส่งเธออีก แล้วก็เมื่อคืนไม่ได้กลับมาอีก ก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เธอคิดไม่ตกจริงๆว่าเธอมีทั้งความสามารถและรูปลักษณ์ก็สวย ทำไมไม่เลือกใช้ชีวิตที่ธรรมดา ทำไมต้องเลือก….
ผลสรุปคือเธอกับเรนนี่ทะเลาะกันครั้งใหญ่อีกครั้ง ทะเลาะกันอย่างอารมณ์เสีย จนสุดท้ายก็เลิกรากันไป
ในเวลานี้ความคิดความอ่านของเรนนี่ใช้ข้อเรียกร้องตามคนปกติสามัญทั่วไปใช้ไม่ได้แล้ว เธอถูกควบคุมโดยความเคียดแค้น คิดแค่อยากที่จะแก้แค้นและแก้แค้น!
การทำงานไม่มีความน่าสนใจ มีความรักก็ไม่น่าสนใจ แต่งงานก็ยิ่งไม่น่าสนใจเข้าไปใหญ่ สิ่งที่น่าสนใจคือการไต่เต้าขึ้นไป แล้วทำให้หัสดินได้เห็นดี!
เวลาถัดมาต่อจากนั้น เนเน่ก็ยากที่จะเห็นเรนนี่จะอยู่ที่บ้าน เธอมักจะออกไปข้างนอกแล้วกลับบ้านมาดึกมาก จนบางครั้งก็ไม่กลับเลยตลอดทั้งคืน
พอคนทั้งสองทะเลาะเสร็จ ความสัมพันธ์ก็แข็งกระด้าง ดังนั้นเนเน่ก็เลยไม่ได้ถาม เธออยากทำอะไรก็ตามใจเธอ ยังไงขาก็อยู่ที่เธอ ใครจะห้ามเธอได้?
ยู่ยี่อยู่ที่ฮ่องกงก็ค่อยๆชินกับการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่แล้ว ที่นี่กับเมืองSแตกต่างกัน เมืองSคนน้อย ที่นี่ฮ่องกงคึกคักมาก เสียอย่างไรก็เป็นวงศ์ตระกูลใหญ่
คุณท่านเป็นคนตลก ไม่เหมือนกับผู้สูงวัยทั่วไป คำโบราณกล่าวไว้ว่าสูงวัยแต่หัวใจเด็ก หัวใจเด็กจริงๆ
ตอนเช้าเธอกับคุณแม่ธันยวีร์ไปสวนดอกไม้ด้วยกัน อากาศในสวนดอกไม้ยามเช้านั้นสดชื่น คนที่ออกมาสูดรับลมก็ให้รู้สึกปลอดโปร่ง
ช่วงบ่ายคุณท่านมาหาเธอเพื่อที่จะดูหนังด้วยกันหรือเล่นหมากรุก แต่ก่อนยังมาชวนเธอเล่นปิงปอง แต่ว่าตอนนี้ท้องของเธอยิ่งใหญ่ขึ้นทุกวัน เขาก็เลยตัดมันออกไป
หมอบอกว่าหลังจากที่ตั้งครรภ์ก็ยังต้องออกกำลังกายให้เหมาะสม จะมีประโยชน์ต่อเด็ก
หลังจากอาหารค่ำเธอก็ไปเดินเล่น คุณแม่ธันยวีร์ก็ไปเป็นเพื่อนเธอ แต่ทว่าฉันทัชกลับพูดอย่างตำหนิและไม่พอใจว่า “ช่วงเวลาเช้าแม่กับปู่เอาเวลาไปแล้ว ช่วงเวลาค่ำเหลือไว้ให้ผมจะได้มั้ย?”
คุณแม่ธันยวีร์ตกลง แล้วบอกว่าช่วงเช้าจะพาเธอเดินเล่น ส่วนกลางคืนก็เป็นหน้าที่ของเขา
“ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นสมบัติล้ำค่า” ยู่ยี่กลั้นขำไม่ได้ “เวลาในทุกวันของฉันไม่มีเหลือ”
“งั้นหลังจากนี้ผมต้องทำตารางนัดหรอ?” ฉันทัชส่ายหน้าช้าๆ “ผมรับไม่ได้ แม่กับปู่จะเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้”
ยู่ยี่ทำได้แค่หัวเราะคิคิ ไม่พูดอะไร ตอนนี้เธอตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนกว่าๆแล้ว ท้องนับวันยิ่งใหญ่ขึ้น เดินเหินก็ไม่ค่อยสะดวก
ฉันทัชยื่นมือไปลูบท้องของเธอ “ลูกจะคลอดแล้ว ช่วงเวลานี้คุณลำบากหน่อยนะ…..”
“ฉันไม่รู้สึกลำบากเลย กลับมีความสุขเสียด้วยซ้ำ” ยู่ยี่พูดความจริง
เขาปกป้องดูแลเอาใจใส่เธอมาก เพียงแค่อยากกินลูกพลับแห้งนั้น เขาก็ลุกขึ้นดึกดื่นเที่ยงคืนไปหาทั่วฮ่องกงเพื่อซื้อมาให้เธอ ได้เจอผู้ชายอย่างนี้เป็นความโชคดีของเธอ ได้ตั้งท้องลูกให้เขาเป็นเรื่องที่เธอทำแล้วมีความสุขที่สุด
ภายใต้แสงจันทร์ สองมือจับไว้แล้วค่อยๆก้าวเดินไป พูดถึงเรื่องรัก พระจันทร์ก็เต็มใจ…..
กลับมาที่ห้อง เธอหายใจอย่างค่อนข้างเหนื่อย ฉันทัชให้รู้สึกสงสาร “ถ้าหลังจากนี้พวกเขายังมากวนคุณอีก คุณก็หาเหตุผลมาปฏิเสธนะ”
เขาหมายถึงคุณท่านและคุณแม่ธันยวีร์
“ไม่เหนื่อยมากหรอ ปกติก็พูดคุยดูหนังด้วยกัน เหนื่อยที่ไหน? ถ้าพูดว่าเหนื่อยจริงๆ งั้นก็คงเป็นคุณที่พาฉันเดินจนเหนื่อยนี่แหละ ถ้าว่าตามที่คุณบอก ฉันคงต้องหาเหตุผลมาปฏิเสธคุณแล้วหรือเปล่า?”
ร่างที่สูงของเขากำลังคิดอยู่นั้นแล้วตาก็จับจ้องมามองที่เธอ และพูดว่า “คนอื่นปฏิเสธได้ แต่กับผมแค่คนเดียวนั้นห้าม….”
“ทำไม?” ยู่ยี่จงใจถาม
“ผมไม่เหมือนกับคนอื่น…” ฉันทัชไปที่ห้องน้ำ ยกกะละมังที่มีน้ำอุ่นๆมา
“ทำไมจะไม่เหมือน?” เธอถามอีก ดวงตากลมโตนั้นสว่างสไว ถามอย่างสนใจใคร่รู้
มุมปากของเขายกขึ้นอย่างรู้สึกจนใจ นิ้วเรียวยาวมาจับที่ข้อเท้าที่บอบบางของเธอเอาลงไปในน้ำอุ่น “เด็กดื้อ แช่เท้า…”
ร่างของยู่ยี่สั่นเทาเล็กน้อย นิ้วมือขอผู้ชายนั้นมีความร้อน เธอพูดว่า “คุณไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นจริงๆ ฉันรักคุณ เป็นความรักที่ผู้หญิงให้ผู้ชาย แล้วฉันก็รักคนอื่นๆที่ดีต่อฉันด้วย ความรักสองแบบไม่เหมือนกัน คุณกับคนอื่นไม่เหมือนกัน…”
ฉันทัชยิ้มอย่างแช่มชื่นเหมือนดอกไม้บาน เขาพูดว่า “นี่รู้หรือเปล่าว่าผมชอบฟังที่คุณพูดอย่างนี้?”
“รู้สิ ตอนนี้สีหน้าคุณเบิกบานสุดๆ” ยู่ยี่เอามือเท้าคาง แล้วคิดอย่างไตร่ตรองและพูดขึ้นว่า “ฉันรู้สึกว่าฉันทำให้คุณผิดหวังไม่ได้!”
มือเขายกสูงขึ้น สายตาจ้องมองไปทางเธอ
“ถ้าพลาดจากคุณไปแล้วฉันคิดว่าคงหาผู้ชายมาล้างเท้าให้ฉันเป็นคนที่สองไม่ได้แล้ว” เธอถอนหายใจเบาๆ
บรรยากาศอย่างนี้ดีจริงๆ ซาบซึ้งจริง แต่เธอก็พูดทำลายบรรยากาศว่า “แล้วก็เมื่อกี้ลืมบอกว่าฉันเป็นโรคกลากเกลื้อนที่เท้า!”
“……” ฉันทัชกลืนน้ำลาย “ทำลายบรรยากาศเป็นจุดเด่นของคุณหรอ?”
แม้จะพูดมาอย่างนี้แต่มือก็ไม่ได้หยุดลง เขาไม่ถือสาโรคกลากเกลื้อนอะไรที่เธอว่ามาเสียด้วยซ้ำ
ยู่ยี่หรี่ตายิ้ม เขาล้างเท้าให้เธอ เธอโอบใบหน้าของเขาแล้วหอมไม่หยุด “ฉันคิดว่าถ้าฉันทำให้ผู้ชายที่ล้างเท้าให้ฉันผิดหวัง ฉันคงจะถูกฟ้าผ่าตาย!”
ริมฝีปากของเขาร้อน เสียงทุ้มต่ำเล็ดลอดมาจากไรฟันที่สบเข้ากัน “ใช่แล้ว งั้นก็ทำดีกับผม!”
“…..” ยู่ยี่ “มีคนเคยบอกมั้ยว่าคุณเป็นคนได้ทีขี่แพะไล่เอามากๆ?”
“ไม่มีเลย คุณเป็นคนแรกและคนเดียว ปฏิบัติต่อคนอื่นผมสุภาพเรียบร้อยตลอด ไม่เคยเกินเลย….”
พรุ่งนี้ยังต้องไปถ่ายพรีเวดดิ้ง ไม่มีเวลาที่จะพูดคุยเยอะ ยู่ยี่รีบเข้านอน
ได้ยินมาว่าถ่ายรูปนั้นมันทรมานคนมาก ไม่เก็บแรงไว้ให้ดีจะมีแรงไปสู้ได้ไง?
อีกอย่างยังต้องถ่ายตั้งสองชุด!
……
เนเน่จัดแจงเอกสาร ทำงานต้องใช้เอกสารที่เยอะมาก ต้องทำให้เสร็จก่อนเข้างานวันพรุ่งนี้
เสียงฝีเท้าดังขึ้น เรนนี่ใส่ชุดนอนผ้าไหมเซ็กซี่เดินเข้ามา นั่งเก้าอี้เอียงที่ข้างประตู “พรุ่งนี้ย้ายออกที่นี่เถอะ”
เนเน่ไม่ได้พูดอะไร ตั้งแต่วันที่พวกเธอทะเลาะกัน ความสัมพันธ์ก็แข็งตึง ไม่มีท่าทีที่จะดีขึ้น ผ่านไปครึ่งเดือนนี่เป็นครั้งแรกที่พูดกัน
“ฉันเช่าห้องพักที่คอนโดสุขใจไว้เรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้จะย้ายเข้าไป” เธอพูดต่อ
“ฉันอยู่ที่นี่ก็สบายดี” เนเน่เอ่ยปาก
“ดีงั้นหรอ ขนาดไฟตามถนนยังไม่มีเลย ข้างนอกโจรก็กำเริบเสิบสาน ดีที่ไหน?” เรนนี่พูดเสียงไม่พอใจ “ค่ำนี้เธอจัดแจงของให้เรียบร้อย ถ้าไม่จัดแจง พรุ่งนี้ฉันจะช่วยเธอจัด”
เนเน่หยุดมือลง ชีวิตในตอนนี้เป็นชีวิตที่เธอต้องการจริงๆหรอ? มีรถ มีบ้านหรู แต่กลับขายร่างกายตัวเอง!
เรนนี่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ยกมือขึ้นตบลงที่หน้าของเนเน่ พูดด้วยอารมณ์โกรธว่า “ฉันจะเอา นี่เป็นสิ่งที่ฉันแลกเพื่อให้ได้มา!”
แต่เพียงแค่ใช้แรงเท่านั้น หน้าผากของเรนนี่ก็มีเหงื่อเม็ดเล็กๆปรากฏ มือที่ได้ตบลงไปนั้นก็ไม่มีแรง
“ความตั้งใจของพวกเรามันคนละอย่าง ถนนที่พวกเราเดินไม่เหมือนกัน เธอเดินของเธอ ฉันเดินของฉัน” เนเน่พูด
เรนนี่กลับรู้สึกว่าท้องไม่ค่อยปกติ ยังไม่รอให้เธอได้พูดจบก็กุมท้องไปเข้าห้องน้ำ เธอรู้สึกทรมานและไม่สบายตัว
วันที่สองตอนที่ย้ายบ้าน เนเน่ไม่ได้จะย้ายด้วย มีแค่เรนนี่คนเดียวที่ย้าย มีพนักงานมาย้ายของโดยเฉพาะ เธอไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น
ชายสูงวัยได้ให้บัตรธนาคารกับเธอ เงินที่อยู่ในนั้นไม่น้อย มันเยอะพอที่จะใช้จ่ายตามอำเภอใจ แต่สิ่งที่เธอต้องการนอกสิ่งนี้ก็ยังมี
เธอไม่ได้ขาดเงิน ไม่ได้ต้องการงาน แต่เธออยากยั่วหัสดิน เลยตั้งใจไปที่ภูษาธรกรุ๊ป
เรื่องที่คนทั้งสองหย่ากันพวกสื่อยังไม่รู้และตระกุลภูษาธรก็ไม่ได้ประกาศ ผู้จัดการแผนกยังคิดว่าเธอเป็นคุณนาย เลยได้เข้ามาอย่างง่ายๆ
แต่ก่อนมักจะทำตัวเสแสร้งต่อหน้าเขา ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งแล้ว เธอก็มีบัตร ของทุกอย่างฟุ่มเฟื่อยที่เธอชอบ เธอซื้อหมด
แต่ละวันใส่เสื้อไม่ซ้ำยี่ห้อมาทำงาน ถือกระเป๋าแบรนด์เนมนอก เข้างานออกงานก็มีคนขับรถมารับ เธอต้องการใช้ชีวิตอย่างมีชีวิตชีวา ฉูดฉาด ให้หัสดินมองมาแล้วรู้สึกไม่สบายใจ กระสับกระส่าย