ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง - บทที่ 81 ใครโทรศัพท์มา
อยู่ไกลมาก ดังนั้นจึงไม่เห็นสีหน้าของทั้งสองคน แต่ดูออกถึงความดุเดือดที่เกิดขึ้น
ในตอนนั้นเอง ใจที่ปวดร้าวราวกับโดนมีดแทง เลือดที่ไหลออกราวกับถูกยิง เหมือนกับว่ามีมีดนับพันได้ทิ่มแทงหัวใจของเธออยู่ที่เดียว
ภาพแบบนั้น ทำไมเธอต้องมาเห็นด้วย?
หรือว่า วันนี้ทั้งวัน เรื่องที่แย่ๆที่เธอเจอมามันยังน้อยเกินไป?
เป็นวันส่งท้ายปีที่อบอุ่นครึกครื้นแท้ๆ แต่เธอกลับรู้สึกหนาวเหน็บอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เงียบเหงา และเจ็บปวด
อีกเรื่องคือ ก่อนที่เธอจะเห็นทั้งสองจูบกัน ก็ได้โทรศัพท์หาเขา แต่ก็ได้ยินแต่เสียงรอสายไม่มีคนรับ
ในตอนนั้น พวกเขาทำอะไรอยู่ในห้องพักอีกนะ?
เธอนั่งอยู่ตรงนั้น คิดเดาอยู่ในใจไม่ได้หยุด อดคิดมากไม่ได้เลย ชีวิตแบบนี้ทำให้เธอแทบจะเป็นบ้า
ไม่เคยควบคุมตัวเองไม่ได้แบบนี้มาก่อน ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เธอจะต้องบ้าตายจริงๆแน่
เป็นคืนหนึ่งที่ไม่ได้นอนเลยทั้งคืน ความคิดของหยาดฝนสับสนวุ่นวายไปหมด หงุดหงิด สงบสติอารมณ์ไม่ได้ ไม่มีอารมณ์จะทำอะไร
ในอีกฝั่งหนึ่ง
งานเลี้ยงปีใหม่ของปีนี้จัดได้ไม่เลวเลย โดยเฉพาะทอล์คโชว์ครอสทอล์คและการเล่าเรื่องสั้น ทำให้ เชอร์รีนหัวเราะไม่หยุด
จากนั้น ก็ได้ยินเสียงหายใจที่สงบนิ่งเข้ามาในหู เธอก้มลงมอง ที่แท้ ผู้ชายที่หนุนอยู่บนขาไม่รู้ว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาดูนุ่มนวลกว่าปกติมาก เส้นผมที่ร่วงลงมา ปิดตาของเขาเล็กน้อย แต่ก็ดูเป็นธรรมชาติขึ้น
บนร่างใส่เพียงแค่เสื้อเชิ้ตผ้าไหมสีดำ ภายใต้แสงไฟที่ส่องลงมา ยิ่งทำให้ดูเรียบเนียนแวววาวยิ่งขึ้น รู้สึกดีมากเมื่อได้สัมผัส
กระดุมหน้าอกติดอยู่เพียงแต่สองสามเม็ด หน้าอกสีบรอนซ์ทองถูกเผยออกมา ทำให้เธอหน้าแดง
เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่หลับสนิท เชอร์รีนก็ยกมือขึ้น ค่อยๆไล่ไปตามคิ้ว สันจมูกตรง และริมฝีปากสีแดงราวกับใบเมเปิล
เขาเป็นราวกับผลงานชิ้นเอกที่สมบูรณ์แบบที่สุดของพระเจ้า สง่างามและมีรสนิยมที่ลึกซึ้งในทุกๆอณู จะทำให้ผู้หญิงไม่หลงใหลได้อย่างไร?
ตัวเธอเองก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดีและตรงไปตรงมาแบบนี้มาก่อน ได้แต่คิดว่าจะได้แต่งงานกับผู้ชายธรรมดาๆและใช้ชีวิตแบบธรรมดา
ผู้ชายแบบนี้ ล้อมรอบไปด้วยผู้หญิงจำนวนมาก
เขามีผู้หญิงที่รักนั้นเธอเข้าใจ แต่ตอนนี้ทั้งสองคนได้แต่งงานกันแล้ว ความรักในใจของเขาก็ยังไม่ได้หายไป นี่เป็นสิ่งที่ใครก็ไม่อาจจะหยุดยั้งและบังคับได้
เมื่อก่อนไม่เคยคิดเลยว่าจะรักเขา ตอนนี้ กลับรักอย่างจริงๆจังๆเข้าให้แล้ว
เธอไม่สามารถเข้าไปหยุดและเข้าไปมีส่วนร่วมในความสัมพันธ์ในอดีตของเขาได้ แต่นับจากนี้ต่อไป เธอจะเป็นส่วนหนึ่งอย่างแน่นอน
ในเมื่อรักไปขนาดนี้แล้ว งั้นก็ต้องลองดูสักตั้ง พยายามเอาชนะใจของเขา ลบร่องรอยผู้หญิงคนนั้นในจิตใจของเขาไปให้หมด
ความรู้สึกที่เขามีให้หยาดฝนยังอยู่ แต่ก็ไม่เคยทำเรื่องอะไรอย่างนอกใจเลย ไม่ใช่หรอ?
ดังนั้น สู้ดูสักตั้งเถอะ
เธอพูดกับตัวเองในใจ
ในขณะนั้นนั่นเอง ก็มีข้อความเข้ามา เชอร์รีนหยิบมือถือขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อ อ่านข้อความ
ทุกข้อความล้วนเป็นคำแสดงความยินดี มีทั้งเพื่อน ทั้งคุณครูที่โรงเรียน เยอะไปหมดกว่ายี่สิบข้อความ
อ่านข้อความทุกๆข้อความ เธอทัดเศษผมไปข้างหลังหู ในเวลาเดียวกันก็กดตอบข้อความ
หวังจริงๆว่าในปีใหม่นี้ จะเป็นดั่งคำอวยพรของพวกเขา มีความสุข สมปรารถนา……
เช้าวันรุ่งขึ้น
ฟ้ายังไม่สาง เสียงประทัดก็ดังขึ้น ทำให้ทุกคนตื่น
ลืมตาขึ้นมา สิ่งที่เชอร์รีนเห็นกลับเป็นเตียง คนข้างๆดันไม่อยู่แล้ว เอามือถือออกมาดูเวลา ตีห้า
วันปีใหม่ มักจะตื่นเร็วกว่าปกติ ตอนที่อยู่บ้าน พ่อกับแม่ก็จะตื่นมาตั้งแต่ตีสี่ จากนั้นก็เริ่มทำเกี๊ยว
แต่เธอจำได้ว่าเมื่อวานนอนบนโซฟา ต้องเป็นเขาที่ตื่นมากลางดึกแล้วอุ้มเธอมานอนบนเตียงแน่
ตื่นแล้ว เธอก็บิดขี้เกียจ ลุกขึ้นจากเตียง ล้างหน้า จากนั้นก็ลงไปข้างล่าง
คนในบ้านสิริไพบูรณ์ตื่นกันหมดแล้ว ตอนนี้พวกเขากำลังนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก
ออกัสกัเลอแปง กำลังเล่นหมากกันอยู่ คนรับใช้กำลังทาเล็บให้สุนันท์ หยาดฝนกำลังดูโทรทัศน์
ทักทายสุนันท์เสร็จเชอร์รีนก็เดินไปนั่งข้างๆออกัส นั่งดูเขาและเลอแปง เดินหมาก
เลอแปง ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาจริงๆ แพ้อย่างราบคาบ
เธอทนนั่งดูต่อไปไม่ไหว จึงพูดกับเลอแปง ว่า “มา ฉันช่วย”
เพราะอยากชนะมาก เลอแปง ก็รีบย้ายออกไปนั่งข้างๆ ออกัสขมวดคิ้วเล็กๆ จ้องไปที่เธอ
เชอร์รีน ก็มองตอบ จากนั้นก็จัดหมากวางให้ดี สองต่อหนึ่ง เริ่มเล่น เธอกับเลอแปง ทีมหนึ่ง ออกัสคนเดียวเป็นอีกทีมหนึ่ง
ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบนี้ แต่ทั้งสองคนก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แพ้สี่ในห้าเซต รุกฆาตได้ในแป๊ปเดียว
แต่เชอร์รีนยิ่งเล่นยิ่งท้าทาย เลอแปง ที่อยู่ข้างๆหมดอารมณ์เล่นลงไปเรื่อยๆ นั่งอยู่ตรงนั้น หาวไม่ได้หยุด บิดขี้เกียจ
สายตาของหยาดฝนราวกับมีอะไรบางอย่าง มักจะมองลงมาที่ทางนี้ แต่ว่าเธอกำลังมองอะไรอยู่กันแน่นนั้น ไม่มีใครรู้ได้
กินเกี๊ยวเสร็จ ก็ตามมาด้วยอาหารเช้า สุนันท์ออกไปเล่นกอล์ฟกับเพื่อนที่นัดกันไว้ล่วงหน้าเลอแปง ก็ไปทำงานพาร์ทไทม์ต่อ
เหมือนกับว่าหยาดฝนจะกลับไปที่ห้องแล้ว ในห้องรับแขกเหลืออยู่สองคน
เชอร์รีนออกความเห็น “ออกไปเดินกันมั้ยคะ?”
“ตามใจคุณหญิงเชอร์รีนเลยครับ”เขายิ้มบางๆ ท่าทีแบบนี้ ดูเป็นปกติอยู่นะ……
ทั้งสองคนเริ่มเดินจากสวนดอกไม้หลังบ้านสิริไพบูรณ์ เดินผ่านสวนหลังบ้าน จากนั้นก็เดินออกมาจากบ้านสิริไพบูรณ์เดินไปทางซ้ายจะเป็นป่าที่มีทางเดินยาวอยู่ตรงกลาง
เดินอยู่ในทางเดินตรงกลาง อากาศสดชื่นกว่าปกติมาก หายใจเข้าลึกๆ ปอดและหัวใจสูบฉีดกว้าง
เหมือนกับว่าทางเดินจะไม่มีที่สิ้นสุด ไม่รู้ว่าจะไปโผล่ออกที่ไหน ก็เดินไปตรงๆแบบนั้น สุดท้าย ตรงหน้าตอนนี้ก็คือลำธาร
ไหลเบา และตื้น เสียงของน้ำไหลเหมือนกับเสียงของการเคลื่อนไหวที่สวยงาม
เธอไม่รู้เลยว่าเดินทะลุผ่านป่ามาจากเป็นสถานที่ที่สวยงามแบบนี้ ราวกับสรวงสวรรค์ บางครั้งจะมีเสียงนกร้องกังวานบ้าง แต่นอกนั้นก็เงียบงัน
วันนี้อากาศไม่เลวเลย แดดจ้าอบอุ่น
เอากระดาษกางลงบนหิน จากนั้นก็นั่งลง เธอพิงไปที่ต้นไม้ อาบแดดอุ่นอย่างสบายใจ
ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อยออกัสนั่งลงข้างๆเธอ เหยียดขาออกไปวางขาซ้อนกันอย่างสง่างาม ความเหนื่อยล้าก็หายไปไม่น้อย
จากนั้น วันที่แสนสุขสบายแบบนี้ก็อยู่ได้ไม่นาน ก็มีเสียงมือถือดังขึ้นเชอร์รีนรับสาย เป็นนาโนเองที่โทรมา
“เธออยู่ไหน?”
น้ำเสียงของเธอดูรีบร้อน และแฝงไปด้วยความโมโห เชอร์รีนค่อนข้างสงสัย “อยู่บ้านสิริไพบูรณ์น่ะ น้ำเสียงเธอดูไม่ดีเลย เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอ?”
“เชี่ย!แม่งเอ้ย!หัสดินนอกใจจริงๆ ถูกยู่ยี่เห็นเข้า ตอนนี้กำลังร้องไห้อยู่แหนะ เธอรีบมา!”น้ำเสียงของนาโนแย่ผิดปกติ
“ได้ ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้”วางสายไป เธอก็ลุกขึ้น
มือและสายตาที่ไว ออกัสก็จับแขนเธอไว้ สายตาดูไม่สบายใจนัก “ใครโทรมาหรอ ?นายตำรวจองค์ชายคนนั้นหรอ?”
เชอร์รีนส่ายหน้า “ไม่ใช่ค่ะนาโนโทรมา ”