คิงดราก้อน - บทที่ 118 สาวสวยชุดดำ
อู๋จื้อเหวินกำหมัดแน่นสองมือ เขาเคยเจอเรื่องแบบนี้เมื่อไหร่กันล่ะ แต่วันนี้กลับถูกไอ้คนจน ๆ คนหนึ่งรังแกบนท้องถนน!
“แกมันก็แค่สวะ!”
เซียวหยางยิ้มพลางเอ่ยพูดอย่างไม่ใส่ใจ “นายบอกว่านี่คือของที่จูหยวนจางสั่งทำพิเศษให้จูเปียวลูกชายของเขา งั้นฉันถามนายหน่อย จูเปียวตายเมื่อไหร่?”
อู๋จื้อเหวินมีสีหน้าสับสนทันที เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์พวกนี้เลย เขารู้เพียงว่าสร้อยเงินเส้นนี้มีมูลค่าสูงมาก เป็นของที่ของที่จูหยวนจางสั่งทำพิเศษให้ลูกชายของเขา นอกเหนือจากนี้เขาก็ไม่รู้อะไรอีกเลย!
หน้าเขาแดงก่ำขึ้นมา ตอบคำถามไม่ได้ มองดูลูกน้องที่อยู่รอบตัวก็ดูไม่รู้เรื่องกันเลย
อู๋จื้อเหวินเตะไปที่ขาของลูกน้องคนหนึ่ง “คำถามแค่นี้ยังตอบไม่ได้ ปกติที่คอยเลี้ยงดูพวกมึงกินอะไรกันเข้าไปห๊ะ?”
“ไร้ประโยชน์!”
“ไอ้โง่!”
ลูกน้องเอามือกุมท้องน้อยไม่กล้าพูดอะไรออกมา พวกเขานอกจากคอยตามรับใช้อู๋จื้อเหวินแล้ว ก็ทำอะไรไม่เป็นอีกเลย!
เซียวหยางเอ่ยถามต่ออีกว่า “นายว่าสร้อยเส้นนี้จนถึงปัจจุบันมีอายุพันกว่าปีแล้ว ราชวงศ์หมิงก่อตั้งขึ้นเมื่อไหร่? แล้วจูเปียวตายได้ยังไง?”
คำถามพวกนี้เหมือนกระสุนปืนใหญ่ที่ระเบิดเสียงดังอยู่ในหัวของอู๋จื้อเหวิน แต่คุณชายตระกูลร่ำรวยอย่างเขาไม่ต่างอะไรกับคนไม่รู้หนังสือเลยสักนิด ปกติออกนอกบ้านถ้าไม่ออกมาหาผู้หญิงก็ออกมาซิ่งรถ ที่มาซื้อวัตถุโบราณก็แค่อยากออกหน้าอยากมีหน้ามีตาเท่านั้น
“มึงแม่งจะถามหาเรื่องพวกนี้จากกูทำไม มันเกี่ยวอะไรกับสร้อยเงินของกู?” อู๋จื้อเหวินถามกลับด้วยความโกรธและอาย
เซียวหยางสีหน้าเปลี่ยนไป ด่าออกไปด้วยความโมโห “ฉันว่าแกนั่นแหละที่ไร้ประโยชน์! และโง่!”
“สร้อยเงินเส้นนี้เป็นของที่จูหยวนจางสั่งทำพิเศษให้จูเปียวลูกชายของเขาก็จริง แต่น่าเสียดายที่หลังจากฮองเฮาหม่าเสียชีวิตไป จูเปียวก็ป่วยหนักจนลุกไม่ไหว ไม่นานก็สิ้นใจ! ต่อมาสร้อยเงินเส้นนี้ก็ถูกส่งต่อจนมาอยู่ในมือของจูจี้ แต่น่าเสียดายที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยวัยไม่ถึงเจ็ดขวบ!”
“จูจี้เสียชีวิตได้เจ็ดวัน จูเจี้ยนกวงพ่อของเขาก็เสียชีวิตอย่างกะทันหัน ภายในเจ็ดวัน สองพ่อลูกเสียชีวิตติดต่อกันกะทันหัน สร้างความโกรธแค้นอย่างใหญ่หลวง!”
“ต่อมาภายหลังสุสานจักรพรรดิถูกโจรกรรม ศพของสองพ่อลูกจูเจี้ยนกวงถูกโยนทิ้งในป่ารกร้าง สร้อยเงินเส้นนี้ได้ดูดซับความโกรธแค้นของทั้งสองคนเอาไว้ แต่แกกลับชอบมันจนวางไม่ลง ความโกรธแค้นที่อยู่บนสร้อยเส้นนี้จะซึมแทรกเข้าสู่ร่างกายของแก ถ้าไม่ใช่เพราะบรรพบุรุษของแกคอยปกปักรักษาแกไว้ ตอนนี้หญ้าที่ขึ้นคลุมหลุมศพแกคงสูงสองเมตรกว่าไปแล้ว”
ผู้คนโดยรอบต่างพากันตกใจ มองเซียวหยางที่พูดจาดีมีเหตุผล ส่วนอู๋จื้อเหวินกลับมีสีหน้าแย่ลง แววตาที่พวกเขามองเซียวหยางดูเกรงขามเขามากขึ้น!
อู๋จื้อเหวินรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที ร้องตกใจเสียงดังแล้วรีบถอดสร้อยเงินที่อยู่บนคอโยนทิ้งลงไปบนพื้น ชี้หน้าเซียวหยางแล้วถามว่า “แกเป็นใครกันแน่?”
เซียวหยางเอามือไขว้หลัง แล้วมองไปข้างหน้า “แกไม่ต้องสนหรอกว่าฉันเป็นใคร แกรู้เอาไว้ว่าฉันเป็นคนที่แกหาเรื่องไม่ได้ก็พอ!”
อู๋จื้อเหวินแก้มแดงทั้งสองข้าง ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้กล้าทำให้เขาอับอายขายหน้าต่อหน้าผู้คนมากมาย “พวกแกจัดการให้กูเดี๋ยวนี้ เอามันให้ตาย กล้าแหย่คนอย่างอู๋จื้อเหวิน มึงคงอยากตายเร็ว ๆ!”
ลูกน้องสี่ห้าคนอดใจรอไม่ไหวอยู่นานแล้ว เพราะเซียวหยางทำให้พวกเขาถูกอู๋จื้อเหวินด่ายกใหญ่ ตอนนี้ได้โอกาสระบายอารมณ์สักที!
หนุ่มฟันทองตื่นเต้นตกใจมาก เขาก็คิดไม่ถึงว่าลูกบอลเหล็กลูกหนึ่งจะสร้างความขัดแย้งได้ใหญ่ขนาดนี้ เขาไม่ได้กลัวว่าเซียวหยางจะถูกทุบตี แต่กลัวว่าถ้ากลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาตัวเขาเองจะเดือดร้อนไปด้วย
ลูกน้องสี่ห้าคนพุ่งเข้าไปหาเซียวหยาง ทุกคนตกใจกลัวจนเอามือปิดตา พวกเขาคิดว่าเดี๋ยวเซียวหยางคงจะถูกพวกเขาซัดจนลงไปนอนกองบนพื้นจนขยับตัวไปไหนไม่ได้
ใครจะไปคิดว่าเซียวหยางจะสุขุมดั่งภูเขาไท่ เขายื่นมือข้างหนึ่งมาจับลูกน้องคนหนึ่งเอาไว้ แล้วหมุนสะบัดออกไป จนลูกน้องที่เหลือต่างล้มลงไปนอนโอดครวญอยู่บนพื้น
เซียวหยางโยนลูกน้องที่เขาจับไว้ในมือออกไป ลูกน้องคนนั้นลอยไปไกลถึงห้าหกเมตรแล้วล้มลงไปนอนกระอักเลือดอยู่บนพื้น
หนุ่มฟันทองตกตะลึงจนอ้าปากค้าง เขาสงสัยในสายตาของตัวเอง ว่าหนุ่มอายุน้อยคนนี้ทำไมถึงได้เก่งกาจนัก!
รับมือคนสี่ห้าคนด้วยมือข้างเดียวโดยไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด ดูท่าคุณชายอู๋จะเจอคู่ต่อสู้จริง ๆ แล้วล่ะ
ผู้คนที่มุงดูอยู่โดยรอบต่างฮือฮากันเป็นแถว แต่ละคนต่างตกตะลึงในฝีมือการต่อสู้ของเซียวหยาง!
อู๋จื้อเหวินตกใจกลัวจนขาทั้งสองข้างสั่นไปหมด ถึงกับฉี่รดกางเกงเล็กน้อยด้วย!
เขาไม่กล้าสบตากับเซียวหยาง หมุนตัวคิดจะวิ่งหนี ทันใดนั้นก็เห็นพี่สาวอู๋ปิงเชี่ยนเดินออกมาจากกลุ่มคน เขาจึงมีสีหน้าดีใจขึ้นมาทันที “พี่ครับ รีบมาช่วยผมด้วย!”
เซียวหยางหันกลับไปมอง เห็นคนที่เดินนำหน้าเป็นชายชราผมขาวคนหนึ่ง ข้าง ๆ มีผู้ชายหนึ่งคนผู้หญิงหนึ่งคนเดินตามมา ทุกคนใส่เสื้อหนังสีดำกันหมด ดูหล่อเท่ห์มาก!
ผู้คนก็เริ่มเสียงดังวุ่นวายกันขึ้นมา “เหมือนว่าจะเป็นนายท่านอู๋กับคุณหนูนะ!”
“เจ้าหนุ่มนี่แหย่รังแตนเข้าแล้วล่ะ!”
……
หนุ่มฟันทองมือสั่นไปหมดทั้งสองมือ คราวนี้เขาเดือดร้อนแล้วจริง ๆ ตอนนี้รู้สึกเสียใจภายหลังที่มาทำงานด้านนี้
อู๋จื้อเหวินรีบวิ่งไปหลบอยู่หลังพี่สาวอู๋ปิงเชี่ยน “พี่ครับ พี่รีบช่วยผมด้วย มันจะทำร้ายผมจนตายนะ!”
อู๋ปิงเชี่ยนมองลูกน้องที่นอนกองอยู่บนพื้น แล้วหันไปมองเซียวหยางพลางเอ่ยถามอย่างเย็นชา “ฝีมือนายเหรอ?”
เซียวหยางพยักหน้า “คุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
“ในเมื่อนายเป็นคนทำ งั้นเลือดก็ต้องชดใช้ด้วยเลือด!” แววตาของอู๋ปิงเชี่ยนดูเยือกเย็นมาก เธอพุ่งเข้าไปเซียวหยางทันที ยกขาขึ้นกวาดอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ
เซียวหยางยิ้มมุมปาก จากนั้นก็กระโดดขึ้นทันที เพื่อหลบการโจมตีจากอู๋ปิงเชี่ยน
อู๋จื้อเหวินยืนอยู่ด้านข้างก็แสยะยิ้มแล้วพูดว่า “ไอ้ชั้นต่ำ กล้าหาเรื่องฉัน วันนี้แกได้เจอดีแน่!”
เขารู้จักพี่สาวเขาเป็นอย่างดี ถึงแม้ตระกูลอู๋ก็เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียง แต่อู๋ปิงเชี่ยนชอบจับปืนจับดาบมาตั้งแต่เด็ก คนเดียวต่อกรกับผู้ชายร่างกำยำนับสิบคนได้โดยไม่มีปัญหา
อู๋ฮุยหวงเห็นอู๋ปิงเชี่ยนที่นิสัยหุนหันพลันแล่นเริ่มลงมือแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า แล้วหันไปพูดกับชายหนุ่มที่อยู่ข้างกายว่า “เป้าจื่อ รีบไปดูหน่อย อย่าให้ปิงเชี่ยนทำร้ายคนจนสาหัส!”
หลานสาวคนนี้นิสัยเหี้ยมโหด เลี้ยงเธอแบบตามใจจนเสียนิสัยไปแล้ว!
เป้าจื่อฝืนยิ้มออกมา คุณหนูโมโหขึ้นมาทีไรเขาห้ามได้ที่ไหนกันล่ะ แต่นายท่านออกคำสั่งแล้ว เขาก็ไม่กล้าขัด
เซียวหยางสีหน้าเย็นชา ยื่นหมัดออกไปชกเข้าที่หน้าอกของอู๋ปิงเชี่ยนด้วยความรวดเร็ว สัมผัสโดนส่วนที่นุ่ม ๆ!
“อ๊ะ!”
อู๋ปิงเชี่ยนร้องออกมา จากนั้นก็ลอยกระเด็นออกไปทั้งตัว
ผู้คนโดยรอบต่างพากันถอยหลังออกไป สถานการณ์แบบนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน!
อู๋ปิงเชี่ยนร่วงหล่นลงบนพื้นอย่างแรง เธอกุมหน้าอกด้วยสีหน้าเจ็บปวด!
อู๋จื้อเหวินและเป้าจื่อต่างตกตะลึงกันหมด!
เป้าจื่อตั้งสติได้ก็หยิบปืนพกออกมา ขณะนั้นเอง รูม่านตาของเซียวหยางหดตัวลง พละกำลังที่แข็งแกร่งถูกกระแทกเข้าที่มือของเป้าจื่ออย่างจัง เป้าจื่อรู้สึกเพียงมือทั้งสองข้างสั่นสะเทือน จากนั้นทั้งตัวก็ล้มลงไปบนพื้นโดยไม่รู้ตัว
เซียวหยางแววตาดุดัน ท่าทางโอหัง “หยุดก่อนที่จะสายไป อย่าบีบให้ฉันต้องฆ่าคน!”
ขณะที่พูด รู้สึกได้เพียงว่ามีพลังที่แข็งแกร่งแผ่ออกมาจากตัวเซียวหยางกระจายไปทั่วสารทิศ ผู้คนที่อยู่โดยรอบต่างพากันถอยหลังไปหลายก้าว
“นี่……หรือว่านี่จะเป็นท่าทำลายกลางอากาศ? เหลือเชื่อเกินไปแล้ว!” ดวงตาสลัวของชายชราเต็มไปด้วยความรู้สึกทึ่ง รู้สึกแสบคอขึ้นมาเล็กน้อย
อู๋ปิงเชี่ยนกุมหน้าอกแล้วลุกขึ้นยืน แววตาที่มองเซียวหยางเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เธอเป็นผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงาน เมื่อครู่นี้เซียวหยางชกเข้าที่หน้าอกของเธอ ต่อไปเธอจะมีหน้าไปพบคนอื่นได้ยังไง!
เธอกำหมัดจะพุ่งเข้าไปหาเซียวหยาง แต่ชายชราตำหนิขึ้นด้วยความโมโห “เชี่ยนเชี่ยน อย่าเสียมารยาท!”
“คุณปู่ อย่ามาห้ามหนู วันนี้ไม่ว่าจะพูดอะไรหนูก็ต้องจัดการไอ้สารเลวนี่ให้ได้!” อู๋ปิงเชี่ยนพูดอย่างไม่ยอมความ