คิงดราก้อน - บทที่ 129 ตายทั้งเป็น
“แกทำเกินไปแล้วนะ!” เสิ่นอ้าวจุนคิดไม่ถึงว่าเจ้าของบ้านจะไม่มีเหตุผลขนาดนี้
ที่จริงเธอค่อนข้างชอบบ้านหลังนี้ แต่เจ้าของบ้านทำเกินไปจริง ๆ
ตาอ้วนดูเหมือนจะจับจุดอ่อนของเธอได้ จึงเอ่ยพูด : “คุณเสิ่น ขอแค่เธอตอบรับเงื่อนไขของฉันหนึ่งเรื่อง ฉันจะพิจารณาไม่ขึ้นค่าเช่า”
“เงื่อนไขอะไร?”
“อิอิ ง่ายมาก ขอแค่เธอช่วยพี่ชายคนนี้ให้คลายเหงาในยามค่ำคืน พูดคุยเรื่องราวในชีวิต เอาใจฉันให้มีความสุข ฉันก็ไม่ขึ้นค่าเช่าเธอแล้ว ว่าไงล่ะ?”
ที่จริงตาอ้วนคิดไม่ซื่อกับเสิ่นอ้าวจุนตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่เขาขี้ขลาด ปกติไม่กล้าลงมือ แต่วันนี้ดื่มเหล้ามานิดหน่อย พอเหล้าเข้าปากก็ขาดสติ เลยกล้ามาลองเสี่ยงดวงดู
“ไม่ว่ายังไงทั้งนั้น ฉันไม่มีทางตอบตกลง ถ้าแกยังไม่ไป ฉันจะแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้!”
เห็นหน้าอกของเสิ่นอ้าวจุนกระเพื่อมขึ้นลง ตาอ้วนก็ตาเป็นประกาย เลียริมฝีปากแล้วเอ่ยพูด : “สมกับที่เป็นสาวงามจริง ๆ ตอนโกรธยังสวยขนาดนี้ เธอวางใจเถอะน่า ขอแค่เธอทำให้ฉันมีความสุขได้ ฉันก็จะลดค่าเช่าให้เธอครึ่งปีไปเลย เป็นไง?”
ในที่สุดเซียวหยางก็ทนไม่ไหวแล้ว
“แกชอบให้คนอื่นเอาอกเอาใจขนาดนี้ ทำไมแกไม่ให้แม่แกมาเอาใจแกล่ะ!”
ตาอ้วนตกใจกระโดดพรวดขึ้นทันที เมื่อหันขวับไปมอง ถึงได้เห็นว่ามีผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น
เวรเอ้ย ทำไมถึงมีผู้ชายอยู่ในบ้านได้ล่ะ
“มึงแม่งเป็นใครกันวะ โผล่มาจากไหน?”
“ฉันเป็นใครไม่สำคัญ ที่สำคัญคือแกแม่งกล้ามาเอาเปรียบแฟนของฉัน วันนี้ฉันต้องจัดการแกซะ!”
เสิ่นอ้าวจุนเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวพักอยู่ด้านนอก จึงถูกคนอื่นรังแกได้ง่าย ดังนั้นเซียวหยางจึงจงใจสวมรอยเป็นแฟนของเสิ่นอ้าวจุน
แต่เสิ่นอ้าวจุนกลับหน้าแดงระเรื่อ แม้จะรู้ว่าเซียวหยางออกหน้าแทนตัวเอง แต่ก็รู้สึกไม่ค่อยชินเท่าไหร่
โชคดีที่วันนี้เซียวหยางอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นอาจเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาก็ได้ คิด ๆ แล้วก็กลัวเรื่องที่จะเกิดขึ้นจริง ๆ
ตาอ้วนหรี่ตาทั้งสองข้าง แล้วพูดอย่างดุดัน : “ตอนที่เซ็นสัญญาฉันพูดไปแล้ว ว่าบ้านหลังนี้ให้เธอสองคนแม่ลูกเช่าอยู่เท่านั้น ไม่สามารถให้คนอื่นมาอยู่ได้ ตอนนี้เธอกลับกล้าพาผู้ชายเข้ามาด้วย?”
เสิ่นอ้าวจุนพูดอย่างไม่ยอมแพ้ :
“แกพูดมั่วอะไร ตอนนั้นแกไม่เคยพูดแบบนี้ อีกอย่าง เขาเป็นเพื่อนของฉัน มาที่นี่ในฐานะแขก ไม่ได้มาพักอาศัย! พฤติกรรมของแกสร้างความลำบากให้ฉันอย่างร้ายแรง ถ้ายังไม่ออกไปฉันจะแจ้งตำรวจ!”
ตาอ้วนเบ้ปาก ไม่มีทีท่าเกรงกลัวเลยสักนิด
“แจ้งความใช่ไหม เธอแจ้งสิ แจ้งตอนนี้เลย จะบอกเธอไว้นะ ผู้กำกับสถานีตำรวจแถวนี้เป็นลุงของฉันเองแหละ ถึงตอนนั้นฉันจะดูสิว่าเขาจะเข้าข้างใคร!”
เซียวหยางพูดขึ้นมาอย่างหมดความอดทน :
“พูดพล่ามอะไรอยู่ได้ คนแบบนี้แจ้งความไปก็เท่านั้น แม่งอยากโดนอัดนักใช่ไหม ฉันให้เวลาแกหนึ่งนาที ถ้ายังไม่ไสหัวไป ฉันจะให้แกได้ลิ้มรสความเจ็บปวดของการเกิดมาเป็นคน!”
“แม่งเอ้ย แกมันบ้าใช้ได้เลยนี่ เชื่อไหมว่าฉันแค่โทรศัพท์กริ๊งเดียวก็เรียกพักพวกมาจัดการแกจนขาหักได้! บอกแกไว้เลยนะ ตอนฉันหนุ่ม ๆ น่ะเป็นอันธพาลคนหนึ่งนะโว้ย!”
โง่เง่าจริง ๆ เซียวหยางความดันขึ้นทันที
“อ้าวจุน เรื่องนี้เธอไม่ต้องยุ่งแล้ว เธอรับผิดชอบถูพื้นก็พอ”
“ถูพื้น?”
“อืม เดี๋ยวจะมีเลือดนองเต็มพื้น”
ตาอ้วนได้ยินประโยคนี้ก็ขำพรืดออกมา ยกแขนพับแขนเสื้อขึ้น ท่าทางอยากลองดูสักตั้ง
“ตอนกูทะเลาะวิวาท มึงยังฉี่รดกางเกงเล่นดินเล่นทรายอยู่เลย มึงไม่ออกไปสืบดูบ้าง ว่าตาอ้วนอย่างกูเก่งเรื่องชกต่อยแค่ไหน!”
“ไปหาแม่มึงเหรอ!”
เซียวหยางยกมือขึ้น ฟาดมือเข้าไปหนึ่งฉาด ตาอ้วนหมุนติ้วอยู่กับที่สามรอบทันที มองเห็นดาวระยิบระยับอยู่ตรงหน้า
เลือดกำเดาไหลออกมา ฟันสองซี่หักกระเด็นลอยกลางอากาศ
ตบครั้งนี้เซียวหยางถือว่าออมมือแล้วนะ ไม่อย่างนั้นไอ้เวรนี่สมองกระทบกระเทือนแน่นอน
ตาอ้วนดูท่าทางอ้วนท้วน แต่กลับอ่อนแอ ปกติได้แต่กินดื่มเที่ยวผู้หญิงเล่นพนัน ร่างกายจึงอ่อนแอมาก
ทันใดนั้น ตาอ้วนนี่ก็ถูกตบจนมึนงง ส่ายหัวไปมาหลายครั้ง รู้สึกได้ยินเสียงวิ้งวิ้งในหู เหมือนกับมีผึ้งหลายตัวบินไปบินมา
แต่เซียวหยางไม่ปล่อยเขาไป ยื่นขาไปดักไว้ จนตาอ้วนนี่ล้มลง แล้วตบซ้ายตบขวาติดต่อกันหลายครั้ง
เซียวหยางพลางตบพลางด่า :
“มึงแม่งเป็นอันธพาลใช่ไหม บ้านของมึงแล้วยังไง ปล่อยให้คนอื่นเช่าแล้วยังเข้าออกตามอำเภอใจ? ยังแม่งหาเหตุผลอีก ไอ้โรคจิต วันนี้กูจะจัดการมึงให้ตายเลยคอยดู!”
เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ!
เสียงตบดังสนั่น กึกก้องไปทั่วห้อง เห็นหน้าของตาอ้วนบวมเป่งขึ้นมา เหมือนหัวหมูไม่มีผิด
เสิ่นอ้าวจุนกำหมัดสองข้างจนแน่น ราวกับคนที่ฟาดมือตบเป็นเธอเองอย่างงั้นแหละ มองดูด้วยความสะใจมาก
คนแบบนี้ควรถูกตบนานแล้ว ตบได้สุดยอดไปเลย!
“แม่งเอ้ย ตบจนมือกูเจ็บแล้วเนี่ย”
เห็นตาอ้วนไม่ตอบโต้แล้ว เซียวหยางก็หยุดตบ
ตัวใหญ่ขนาดนี้วางไว้ที่นี่ก็ขวางหูขวางตา เซียวหยางจึงหันไปมองห้องน้ำ แล้วดึงผมของตาอ้วนนี่ ลากเขาไปที่ห้องน้ำ เปิดชักโครก แล้วกดหัวตาอ้วนนี่ลงไป
เสียงกดชักโครกดังขึ้น
น้ำที่กดชักโครกไหลพุ่งออกมา ท่วมหน้าตาอ้วน
ตาอ้วนสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ไอ้อ้วน ตอนนี้สำนึกผิดหรือยัง?”
ตาอ้วนถูกเซียวหยางตบจนเวียนหัว ยังไม่ทันรู้สึกตัวก็สลบไปก่อน ตอนนี้ถึงได้รู้ว่าหัวตัวเองถูกยัดอยู่ในชักโครก จึงรู้สึกขยะแขยงเป็นอย่างมาก
“ไอ้เวร มึงแม่งกล้าทำกับกูอย่างนี้เลยเหรอ ผู้กำกับสถานีตำรวจเป็นลุงกูนะ เชื่อไหมว่ากูจะเรียกให้เขามาจับมึงไปเดี๋ยวนี้!”
“ไอ้หยา ยังกล้าท้าทายกูเหรอ งั้นจะทำให้มึงมีสติอีกครั้ง!”
เซียวหยางกดคอตาอ้วนนี่ไว้ ไม่ว่าเขาจะดิ้นยังไง มือของเซียวหยางก็จับเขาไว้แน่นเหมือนกรงเล็บอินทรี ไม่มีโอกาสที่เขาจะได้ตอบโต้
ตาอ้วนถูกน้ำในชักโครกท่วมหน้าอีกครั้ง สะบัดหัวไปมาไม่หยุด แต่เซียวหยางกลับไม่ขยับตัวแม้แต่น้อย
ผ่านไปสักพักใหญ่ ตาอ้วนไม่ขยับตัวแล้ว
เสิ่นอ้าวจุนร้องตกใจ “เซียวหยาง เล่นใหญ่เกินไปหรือเปล่า?”
“ไม่หรอก ฉันมีขอบเขต”
เซียวหยางรู้ดีเรื่องขีดจำกัดในการขาดอากาศหายใจของคน ถึงแม้ร่างกายของคนเราจะไม่เหมือนกัน แต่โดยทั่วไปภายในสองนาทีไม่มีทางเป็นอะไรไปได้
และในขณะนั้น ตาอ้วนที่ถูกกดอยู่ในชักโครก ก็รู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น แม้แต่เรี่ยวแรงที่จะดิ้นก็ไม่มีแล้ว สุดท้ายก็เกิดภาพหลอนขึ้นมา ราวกับว่าประตูนรกกำลังเปิดรอเขาอยู่ และเขากำลังจะกระโดดเข้าไปแล้ว
ทันใดนั้น เขาก็ถูกจับขึ้นมา ตาอ้วนลืมตาพรวดพราดขึ้นมา แล้วสูดหายใจอย่างกระเสือกกระสน
“ไอ้โง่ มีปัญญาแค่นี้ยังมาท้าทายกูอีก ผู้กำกับเป็นลุงของมึงใช่ไหม? ต่อให้เป็นพ่อแท้ ๆ ของมึงกูก็ไม่กลัวหรอก มึงลองพูดอะไรที่กูไม่อยากฟังดูอีกสิ กูจะจับมึงกดน้ำให้ตายไปตอนนี้เลยมึงเชื่อไหม?”
ตาอ้วนนั่งไร้เรี่ยวแรงอยู่บนพื้น ตัวสั่นระริกไปทั้งตัว เมื่อครู่นี้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้าอยู่กับความตายจริง ๆ
ไอ้เวรนี่ โรคจิตชัด ๆ!
“มึง……มึงกล้าฆ่าคนหรือยังไง?” ตาอ้วนโวยวายด้วยความตกใจหวาดผวา
เซียวหยางแสยะยิ้ม “ไม่ถึงกับต้องฆ่าคนหรอก แต่กูมีวิธีทำให้มึงตายทั้งเป็น อ้าวจุน เอาน้ำยาล้างห้องน้ำบ้านเธอมาหน่อยสิ!”
ห๊ะ? น้ำยาล้างห้องน้ำ?
ตาอ้วนได้ยินดังนั้น ก็เงยหน้าหันขวับไปทันที