คิงดราก้อน - บทที่ 23 ไปกับฉันสักรอบ
บทที่ 23 ไปกับฉันสักรอ
เซียวหยางไม่อยากให้ความวัวไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรก แสร้งร้องด้วยความประหลาดใจ “ปืนสไนเปอร์ไรเฟิลเหรอ? เจ้าหน้าที่ คุณดูผิดหรือเปล่า ตอนเช้าฉันนึกว่ามีใครเอาปืนลูกซองมายิงนก ก็เลยขับเร็วแบบนั้น”
“ฉันว่าคุณไปตรวจสอบคนที่ถือปืนลูกซองสิ คุณดูเป้าหมายผิดแล้ว”
เจียงเซิ่งหนานอดไม่ได้ที่จะกลอกตา ล้อเล่นอะไร เธอยังแยกไม่ได้แม้กระทั่งรอยกระสุนปืนลูกซองกับปืนไรเฟิลเหรอ?
เธอจดจำสัญลักษณ์รอยกระสุนได้เก่งที่สุดในทีมตำรวจโอเคไหม
และตอนนี้เธอสงสัยว่าตัวตนของเซียวหยางมีปัญหา คนขับรถต๊อกต๋อยคนหนึ่ง จะสามารถหลบกระสุนปืนไรเฟิลได้อย่างไร
“คุณพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ คุณเป็นคนที่เกี่ยวข้อง ต้องช่วยฉันตรวจสอบเงื่อนงำนี้ ตามหานักฆ่าปืนไรเฟิล ตอนนี้คุณต้องไปกับฉันสักรอบ”
เจียงเซิ่งหนานไม่พูดอะไร จับมือเซียวหยางไว้ทันที
เซียวหยางกำลังจะพูดอะไร เย่หยุนซูแย่งพูดขึ้น
“เจ้าหน้าที่เจียง เซียวหยางยังต้องทำงาน เขาไม่รู้รายละเอียดของสถานการณ์ คุณพาเขากลับไปที่สถานีตำรวจ มันก็ไม่มีประโยชน์อ่า”
ท่าทางเจียงเซิ่งหนานแข็งกร้าวมาก “ไม่ได้ เรื่องนี้ร้ายแรงมาก ต้องตรวจสอบทันที”
เซียวหยางครุ่นคิดอีกครั้งว่าควรทำอย่างไรดี
ถ้าไม่ไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงคนนี้ ตำรวจก็จะออกหมายเลขตัวไป ตำรวจหญิงอาจตามตัวเองอย่างลับๆ การถูกตำรวจเฝ้าระวัง ตัวตนของตัวเองอาจจะถูกเปิดเผย
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าตำรวจคนนี้เจอต้นตอปัญหานี้ นั่นคือองค์กรนักฆ่าชั้นนำของโลก ในฐานะตำรวจหญิงหนึ่งคนเธอไม่สามารถรับมือได้
ถึงแม้เขาจะไม่รู้จักตำรวจหญิงคนนี้ แต่ก็อย่าเอาไปเกี่ยวข้องกับคนบริสุทธิ์
“ก็ได้ ฉันจะตามคุณไป”
ต่อมา เซียวหยางก็หันตัวกลับมาพูดกับเย่หยุนซู “เธอกลับไปก่อนเถอะ ฉันไม่เป็นไรหรอก”
เย่หยุนซูกัดปาก ภายในใจอารมณ์เสียและทำอะไรไม่ถูกนิดหน่อย
เห็นสีหน้าเย่หยุนซูเหม่อลอยนิดๆ เซียวหยางก็ลูบศีรษะเธออย่างเอาอกเอาใจแล้วพูดขึ้น “รอฉันกลับมา ก่อนฉันจะกลับมา อย่าออกไปจากห้องทำงาน รู้ไหม?”
“อืม”
เย่หยุนซูพยักหน้าตอบตกลง
เป็นครั้งแรกที่เย่หยุนซูรู้สึกว่า มีเซียวหยางอยู่เคียงข้าง มันรู้สึกปลอดภัยมาก
เห็นลิฟต์มาถึงชั้นห้องทำงานประธานอย่างปลอดภัย เซียวหยางก็วางใจ เดินตามเจียงเซิ่งหนานไปที่หน้ารถมอเตอร์ไซค์สุดเท่ของเธอ
“ดูเหมือนคุณจะเกี่ยวข้องกับประธานของพวกคุณมาก ฉันได้ยินมาว่าเย่หยุนซูแต่งงานแล้ว แต่งกับคนไม่เอาไหนคนหนึ่ง คุณหมดหวังแล้ว”
เซียวหยางพูดไม่ออกอย่างช่วยไม่ได้ แม้แต่ตำรวจสาวสวยก็รู้ว่าตนเป็นคนไม่เอาไหน ดูเหมือนตนจะมีชื่อเสียงมากจริงๆ
“ไอ้คนไม่เอาไหนคนนั้นคงไม่ใช่นายหรอกมั้ง?”
“ฮ่าๆ ฉันไม่ใช่คนไม่เอาไหน”
“อืม เห็นแล้วก็ไม่คิดเลย อย่างน้อยก็ขับรถได้ไม่เลว”
บรึ้นๆ !
เจียงเซิ่งหนานมีทักษะการขับมอเตอร์ไซค์ดีมาก ขับตรงไปสถานีตำรวจเมืองหยินโจว
ตำรวจสาวสวย ขี่มอเตอร์ไซค์คันเท่ หุ่นร้อนแรงเหลือเกิน โดยเฉพาะส่วนที่อวบอิ่ม เกือบจะทำให้ผ้าขาด ดึงดูดสายตาคนขับรถและคนเดินเท้านับไม่ถ้วน
เมื่อมองไปที่เซียวหยางด้านหลัง ทุกคนก็เผยแววตาอิจฉาและเกลียดชังออกมา
เซียวหยางน้อยมากที่จะได้นั่งเบาะหลัง แถมคนขับมอเตอร์ไซค์ยังเป็นผู้หญิงคนหนึ่งอีกด้วย
ขี่มอเตอร์ไซค์ท่ามกลางยานพาหนะต่างๆ มุมใบหน้าของเซียวหยาง ปล่อยให้ลมพัดผ่านไป
สีหน้าเจียงเซิ่งหนานจริงจังอย่างมาก เธอแค่อยากขับไปสถานีตำรวจเร็วๆ สืบสวนคดีนี้ให้กระจ่าง
แต่กลับไม่รู้ว่า เซียวหยางอยู่ใกล้เธอมาก ระหว่างปีกจมูก เจียงเซิ่งหนานได้กลิ่นกายโชยมาจางๆ
เซียวหยางเลียปาก หัวใจเต้นเร็วขึ้นนิดหน่อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสองคนอยู่แนบชิดกัน มือเซียวหยางทำได้แค่วางไว้ที่เอวเรียวของเจียงเซิ่งหนาน ทั้งสองคนค่อนข้างนอนราบ ศีรษะโน้มไปข้างหน้า เซียวหยางมองเห็นทิวทัศน์ภายในคอเสื้อหน้าอกอย่างเป็นธรรมชาติ
สีแดง สไตล์ลูกไม้
เจียงเซิ่งหนานสังเกตเห็นสายตาที่จ้องมาทางด้านหลังทันที ขมวดคิ้วและพูดขึ้น “มองอะไรน่ะ เชื่อไหมว่าฉันจะควักลูกตาคุณออก”
“เอามือออก!”
เซียวหยางหัวเราะฮ่าๆ พูดขึ้นอย่างไร้เดียงสา “โทษฉันไม่ได้นะ คุณขับมอเตอร์ไซค์เร็วขนาดนั้น ฉันไม่จับคุณไว้ ถ้าเลี้ยวเร็วๆ ฉันก็ตกลงไปสิ”
“เฮอะ ทางที่ดีทำตัวดีๆ หน่อยนะ ถ้ากล้าทำอะไร ฉันไม่ปล่อยคุณไปแน่”
เซียวหยางยักไหล่อย่างไม่สนใจ ไม่ได้พูดอะไร
ในตอนนี้ รถมอเตอร์ไซค์ขับผ่านถนนบาร์แห่งหนึ่ง
เซียวหยางมองดูบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาของถนนบาร์อย่างเบื่อหน่าย ในขณะนี้ ก็เลิกคิ้วขึ้น
เขาเห็นผู้ชายสองสามคนรีบเดินเข้าไปในบาร์แห่งหนึ่ง ในมือพวกเขาถือกระเป๋าเดินทาง ซิปกระเป๋าเดินทางของคนหนึ่งในนั้นไม่ได้ปิด เผยให้เห็นปากกระบอกปืนสีเข้มในกระเป๋าเดินทาง
กลางวันแสกๆ ไม่คิดว่าจะมีกลุ่มคนถือปืน หรือว่าเป็นกลุ่มอิทธิพลมืด?
ดวงตาเซียวหยางกลอกไปมา เกิดความสนใจ มุมปากเผยยิ้มขี้เล่น ลูบไหล่สวยของเจียงเซิ่งหนาน
“เจ้าหน้าที่เจียง จอดรถหน่อย บาร์นั้นมีปัญหา”
เจียงเซิ่งหนานแค่นหัวเราะ เธอไม่ได้หลงกล เดี๋ยวจะถึงสถานีตำรวจแล้ว เซียวหยางจะต้องคิดทำอะไรไม่ดีแน่ๆ
“บาร์มันจะมีอะไรได้?”
“เชื่อฉันสิ ที่นี่ต้องมีปัญหาแน่ๆ ฉันไม่เคยโกหก”
เจียงเซิ่งหนานค่อยๆ ชะลอรถ หันไปมองทางนิ้วเซียวหยาง พบว่ามีผู้ชายบางคนลอบเดินเข้าไปในบาร์
ประสบการณ์หลายปีในการจัดการคดีบอกเธอว่า คนเหล่านี้ มีปัญหาอย่างแน่นอน
คิดถึงตรงนี้ เธอก็จอดรถ ทั้งสองคนเดินกันเข้าไป
ไฟในบาร์มืดสลัว เพิ่งเข้ามาก็แทบจะมืด ผ่านไปสักพักดวงตาก็ปรับตัวแล้ว ถึงเห็นสถานการณ์บางอย่างในบาร์
ภายในบาร์มีขนาดกว้างมาก มีพื้นที่อย่างน้อยสองร้อยตารางเมตร บนเวทีกลางมีเสาจำนวนสามเสา มีสาวเปลือยสามคนเต้นบนเสา
ข้างเวทีมีแก๊งสักลายมังกรและเสือต่างโห่ร้อง ธนบัตรจำนวนมากถูกโยนขึ้นเวที
บนเวทีมีเสื้อผ้าไม่กี่ชิ้น ดูเหมือนว่าสาวๆ พวกนั้นจะค่อยๆ ถอดทีละชิ้น ไอ้เหี้ย แม่งน่าตื่นเต้นสุดๆ
แม้ว่าบาร์จะกว้างมาก แต่ธุรกิจก็ไม่เลว รอบๆ แออัดไปด้วยผู้คน เมื่อทั้งคู่เดินเข้าไปก็ถูกเบียดเข้าหากัน
ทันใดนั้นหน้าอกเซียวหยางก็ได้รับความนุ่มของลูกกลมสองลูก มุมปากยิ้ม พูดข้างหูเจียงเซิ่งหนานว่า
“ที่แบบนี้มันมีคนดีคนเลวปะปนกันอยู่ ง่ายมากที่จะซ่อนตัวนักฆ่า ไม่แน่คนพวกนั้นที่เพิ่งเข้ามาอาจจะเป็นกลุ่มของนักฆ่าเมื่อเช้านี้ เราลองสังเกตกันก่อน”
“ก่อนจะพูด ช่วยอยู่ห่างฉันนิดหนึ่งได้ไหม” เจียงเซิ่งหนานเหยียดนิ้วสวยออกมา ผลักหน้าอกเซียวหยางออกไปสองสามเซนติเมตร เผยสีหน้าเบื่อหน่ายออกมา
สถานที่ที่มีควันแบบนี้ ถ้าไม่ใช่ต้องทำงาน เธอคงไม่มา เหตุผลง่ายมาก สถานที่แบบนี้ อัตราที่จะโดนปล้นมีเยอะมากเกินไป
เซียวหยางหัวเราะฮ่าๆ แล้วพูดขึ้น “เจ้าหน้าที่เจียง ทางที่ดีเราอย่างห่างเหินกันนักเลย มาที่นี่ก็เพื่อเที่ยว คุณทำแบบนี้มันง่ายที่จะถูกเปิดเผยนะ ตามฉันมา”
เซียวหยางพาเธอไปที่ซุ้ม สั่งเลเซอร์แก้วหนึ่งอย่างชำนาญ
นายคนนี้ เมื่อมาที่บาร์ทำไมกลายเป็นคนละคน ไม่คิดว่าจะคุ้นเคยกับบาร์แบบนี้ เฮอะ ดูก็รู้แล้วว่ามาเที่ยวบ่อย
ถึงแม้เจียงเซิ่งหนานจะนั่งอยู่บนซุ้ม แต่ก้นเธอเหมือนมีตะปู นั่งไม่ติดเลย อยากให้ผู้ต้องสงสัยปรากฏตัวทันที จับและนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
เซียวหยางเพิกเฉยต่อความลำบากใจของเธอ ส่ายศีรษะ ดูเหมือนตำรวจสาวสวยคนนี้จะตื้นเขินเกินไป
ตอนเขาพาพวกพี่น้องสำนักดราก้อนไปปฏิบัติงานที่ยุโรป นั่นถึงเรียกว่าไม่มีช่องโหว่แม้แต่นิดเดียว
ส่วนเจียงเซิ่งหนาน ใบหน้ามองไปรอบๆ มีคำว่าตำรวจติดอยู่บนหน้าผากของฉัน
ในขณะนี้ หน้าห้องส่วนตัวที่หัวมุมห้องหนึ่ง มีคนสามคนเฝ้าหน้าประตู เฝ้าสังเกตสภาพแวดล้อมอย่างระมัดระวัง
สามคนนี้ คือคนเดียวกับที่เซียวหยางเห็นถือปืนเข้าไปเมื่อครู่นี้