คิงดราก้อน - บทที่ 48 ลูกสาวของเสิ่นอ้าวจุนป่วย
ตอนที่เซียวหยางกลับมาที่ฝ่ายขาย ก็เลยเวลาทำงานแล้ว แต่ว่าเขากลับพบอะไรแปลกๆ เพราะที่ของจูเจียนเฉียงนั้นไม่มีใครอยู่
เขาถามเพื่อนร่วมงานด้านข้าง เพื่อนร่วมงานก็บอกว่าไม่เห็นจูเจียนเฉียง
“คนคนนี้ไปไหนแล้วเนี่ย เมื่อวานยังบอกว่าอยากได้รางวัลขยันแข็งขันเลย วันนี้หนีงานแล้วเหรอ?”
ว่างๆ เซียวหยางเลยโทรหาแผนกโลจิสติกส์ เพื่อถามสาวของแผนกโลจิสติกส์ สุดท้ายเธอตอบกลับมาว่าจูเจียนเฉียงลางานในวันนี้
เซียวหยางเองก็ไม่ได้สนใจ ก่อนจะเล่นเกมในคอมพิวเตอร์ต่อ
เพียงไม่นานก็ถึงเวลาตอนกลางคืนแล้ว เย่หยุนซูทำงานล่วงเวลาอยู่ที่ชั้น27 ครั้งนี้เย่หยุนซูเรียนรู้แล้ว เลยซื้ออาหารดีลิเวอร์รีมา แต่สิ่งที่น่าเศร้าคือ ไม่มีของของเซียวหยาง
เซียวหยางเอามือลูบท้อง ก่อนจะเดินลงไป แล้วก็มาที่ร้ายปิ้งย่างอย่างช้าๆ โดยไม่รู้ตัว
เมื่อภรรยาเจ้าของร้านของเสิ่นอ้าวจุนเห็นเซียวหยาง ก็นึกถึงท่าทีที่ดูคลุมเครือกับเซียวหยาง ใบหน้าก็ดูไม่ธรรมดาเท่าไหร่
“ยังเหมือนเดิมไหม?บะหมี่เกี๊ยวหรือเปล่า? “
“ยังไม่เอาบะหมี่เกี๊ยวละกัน เอาเนื้อย่างละกัน แล้วก็เบียร์เย็นๆ สองขวดด้วย”
ยังเหลือเวลาก่อนเย่หยุนซูจะเลิกงานสักพัก เซียวหยางคิดว่าจะไปสูดอากาศสักหน่อย
“ทำไมคุณอยู่คนเดียวตลอดเลย เมื่อไหร่จะพาแฟนมา เดี๋ยวฉันจะเลี้ยงข้าวเอง” เสิ่นอ้าวจุนยิ้มอย่างสดใสพลางพูด
“ฉันกลัวว่าถ้าพาเธอมา แล้วคุณจะหึงน่ะสิ” เซียวหยางยิ้มร้ายๆ ขึ้นมา
“บ้า พูดไปเรื่อยตลอดเลย” เสิ่นอ้าวจุนกลอกตามองบน พลางยิ้มแล้วไปกำชับพ่อครัว
ในตอนนี้ เสิ่นอ้าวจุนได้รับสาย ใบหน้าที่หล่อเหลาก็ตึงเครียดขึ้นมาในทันที
เหมือนรู้เรื่องอะไรที่มันไม่ดีเท่าไหร่ เซียวหยางก็ได้เห็นภาพนั้นพอดี
“ฮัลโหล สวัสดี ฉันชื่อเสิ่นอ้าวจุน”
“สวัสดี คุณคือผู้ปกครองของหลี่เมิ่งนีหรือเปล่า เมิ่งนีเป็นลมที่หอพัก คุณรีบมาดูเถอะ” ปลายสายเป็นเสียงของครูผู้หญิง พูดด้วยความร้อนใจ
อะไรนะ?
เสิ่นอ้าวจุนสีหน้าเปลี่ยนไป ก่อนจะโซเซจนเกือบจะล้มลง เซียวหยางเลยรีบเข้ามาพยุง
เป็นไปตามคาด!
เสิ่นอ้าวจุนพูดด้วยความตึงเครียดเป็นอย่างมาก “รีบเรียกรถพยาบาลเร็ว ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เลยล่ะ”
เมื่อมีการบอกผ่านโทรศัพท์แบบนี้ เสิ่นอ้าวจุนก็วางสายไป ก็ไปเรียกรถแท็กซี่บนถนน
แต่ตอนนี้เป็นเวลาที่คนเยอะพอดี เลยเรียกรถยากเป็นอย่างมาก เรียกอยู่นาน ก็ไม่มีรถจอด เสิ่นอ้าวจุนเลยร้อนรนมากกว่าเดิม
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นมาเหรอ?” เซียวหยางถามด้วยความสงสัย
ถึงวันนี้จะเจอนักเลง เธอก็ไม่ได้หน้าถอดสี หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นในบ้านหรือเปล่า?
“ลูกสาวฉันเป็นลมที่โรงเรียน ฉันต้องกลับไปหน่อย แต่เรียกรถไม่ได้เลย ร้อนรนมากเลยล่ะ”
เซียวหยางเลิกคิ้วขึ้น คิดไม่ถึงว่าเสิ่นอ้าวจุนมีลูกสาวแล้ว แต่มันก็ไม่แปลก เพราะจูเจียนเฉียงบอกว่าสามีของเธอเสียแล้ว ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วมีลูกก็ไม่แปลก
การจะช่วยคนก็ต้องรีบช่วย เซียวหยางตบไหล่ของเธอพลางพูด “รอฉันอยู่ที่นี่นะ อย่าไปไหน เดี๋ยวฉันมา”
“เห้อ คุณจะไปไหน?”
เสิ่นอ้าวจุนร้องขึ้นมา เงาของเซียวหยางหายเข้าไปในฝูงชน
ไม่ถึงห้านาที ก็มีเสียงของรถสปอร์ตดังขึ้นมาเป็นอย่างมากก่อนจะมาจอดหน้าเสิ่นอ้าวจุน
เมื่อลดกระจกลง ใบหน้าของเซียวหยางก็โผล่ออกมา ก่อนจะพูด “ขึ้นรถ!”
เสิ่นอ้าวจุนมองเซียวหยางด้วยความซึ้งใจ ก่อนจะรีบขึ้นนั่งข้างคนขับ
บนรถ เสิ่นอ้าวจุนร้อนใจเป็นอย่างมาก มือทั้งสองกำแน่นตลอดเวลา ในใจก็อดรู้สึกไม่สบายใจไม่ได้
ลูกสาวนั้นเป็นเหมือนทุกอย่างของเขา ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาว สำหรับเธอ มันคงจะทำร้ายจิตใจเธอเป็นอย่างมาก
เซียวหยางหันไปมองเสิ่นอ้าวจุน ก็เห็นท่าทีร้อนใจของเธอ เลยรีบเหยียบคันเร่ง เพียงไม่ถึงยี่สิบนาที รถก็ขับมาจอดที่หน้าประตูของโรงเรียนประถมหยินโจว
โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนประจำ ในตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว ประตูใหญ่ที่ปิดสนิทก็เปิดออก แล้วรถพยาบาลที่มีไฟวาบสีแดง ก็มาจอดที่หน้าประตู
เสิ่นอ้าวจุนเห็นดังนั้น ก็รีบวิ่งลงไป เมื่อลงไปก็เห็นกลุ่มคนอยู่
“ครูจ้าว ฉันคือแม่ของหลี่เมิ่งนี ตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง?”
เสิ่นอ้าวจุนเห็นครูหญิงที่ร้อนใจอยู่นอกกลุ่มคนก่อนจะถาม
เธอเป็นครูคุมหลี่เมิ่งนี ทุกอาทิตย์เสิ่นอ้าวจุนจะมารับหลี่เมิ่งนี ดังนั้นทั้งสองคนเลยสนิทกันพอตัว
“คุณเสิ่น คุณอย่าเพิ่งร้อนใจไป นักเรียนที่หอบอก ว่าหลี่เมิ่งนีกำลังอ่านหนังสือ จู่ๆ ก็เป็นลมไป พวกเราโทรไปหาโรงพยาบาลก่อนแล้ว รถพยาบาลเลยมารับเมิ่งนีไปส่งที่โรงพยาบาลแล้ว”
พูดไป กู้ภัยก็รีบเข็นเปลช่วยเหลือเข้าไปในหอ บนเปลนั้นมีเด็กอายุราวๆ แปดเก้าปีนอนอยู่ท่าทีน่ารัก มีสีหน้าซีดเซียว กำลังเป็นลมอยู่ พลางปิดปากแน่น
เซียวหยางเห็นเล็กน้อย ก็คิดว่าเด็กสาวคนนี้เหมือนเสิ่นอ้าวจุนเป็นอย่างมาก ดวงตากลมโต ผิวขาวสวย เนียน และดูน่าเอ็นดูตั้งแต่แรกเห็น
คนที่ตามเปลออกมา คือผู้อำนวยการของโรงเรียนหลายคน พยาบาลของโรงพยาบาลแล้วก็มีหมอ
คนต่างพากันจะเอาหลี่เมิ่งนีขึ้นรถไป เพื่อส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล
“เดี๋ยวก่อน”
เปลกำลังยกขึ้นไปบนรถพยาบาล ก่อนจะถูกเซียวหยางขวางเอาไว้
เขาเดินเข้าไปอย่างรีบเร่ง ด้วยใบหน้าจริงจัง ก่อนจะขวางทางเปลเอาไว้
คนที่อยู่ตรงนั้นต่างอึ้งไป คนคนนี้เป็นใคร ทำไมต้องมาขวางเปล?
เขากำลังรบกวนเวลาการช่วยเหลือ เขาบ้าหรือเปล่าเนี่ย
เซียวหยางขวางเปลเอาไว้ แต่กลับไม่ได้สนใจสายตาของคนอื่นๆ เลย แล้วก็เดินมาอยู่ด้านหน้าของเปลของหลี่เมิ่งนีด้วยตัวเอง ก่อนจะยื่นมือมาจับข้อมือของเธอ
“คุณทำอะไร?ใครให้คุณมาโดนตัวคนป่วย รีบปล่อยเร็ว ถ้าเกิดเรื่องขึ้นคุณจะรับผิดชอบได้ไหม?” คนนี้ใส่ชุดกาวน์ และเป็นนายแพทย์ที่ใส่แว่นพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ
“นี่คุณ ต้องรีบส่งเด็กไปโรงพยาบาล คุณรีบปล่อยเถอะ อย่าเสียเวลาเลย” ครูจ้าวเองก็พูดด้วยความขมขื่นใจ
เซียวหยางเหมือนจะไม่ได้ยิน เพราะเอามือขึ้นมาจับชีพจรของหลี่เมิ่งนี แล้วกดลงไปเบาๆ
ในการฝึกวิชาพลังเทพมังกร มีการบันทึกการรักษาโบราณที่น่าแปลกใจมากมาย ไม่เหมือนกับการรักษาในปัจจุบันของทางตะวันตกเลย
แต่ว่าผลของการรักษานั้น มันดีกว่าการรักษาทางตะวันตกเป็นอย่างมาก
ดังนั้น เซียวหยางมีความสามารถในการตรวจอาการป่วยของหลี่เมิ่งนีได้
คนที่ร้อนใจที่สุดก็คือแม่ของหลี่เมิ่งนี คือเสิ่นอ้าวจุน
เมื่อเธอเห็นท่าทีของเซียวหยางก็อยากจะรีบให้เซียวหยางถอย แต่เมื่อเห็นท่าทีที่จริงจังของเซียวหยาง เธอก็ลังเล แต่ก็ไม่ได้ขวาง
เซียวหยางทำให้คนรู้สึก ว่ามองอะไรไม่ออก รอยยิ้มเบาๆ บนริมฝีปากนั้น เหมือนกำลังจะชนะทุกสิ่งอย่างเลยล่ะ
ดังนั้น เธอเลยกำหมัดแน่น แล้วก็กัดริมฝีปากพลางพูดเบาๆ “เขาเป็นเพื่อนของฉัน ให้เขาตรวจดูหน่อยเถอะ”