คิงดราก้อน - บทที่ 55 ขอความรัก
เซียวหยางส่งเย่วั่นเหนียนลงไปชั้นล่าง ระหว่างทางทั้งสองคนก็ได้คุยกันถึงเรื่องอื่น
ในตอนที่เซียวหยางหันหลังกลับนั้น ก็เห็นรถโรลส์รอยซ์รุ่นลิมิเต็ดคันหนึ่งจอดอยู่ที่ประตูตึก บอดี้การ์ดคนหนึ่งเดินมาที่ประตูหลัง แล้วเปิดประตูให้คนผู้หนึ่งได้เดินลงมา
ใส่สูทผูกเนกไทดูเนียนเรียบ บุคลิกท่าทางไม่ธรรมดา ไม่มีรอยยับบนชุดสูทนั้น แม้แต่เส้นผมก็ยังถูกจัดแต่งอย่างประณีต
เขามองไปรอบๆ แล้วสั่งงานกับบอดี้การ์ดอยู่สองสามคำ จากนั้นจึงเดินเข้าไปในตึก
เซียวหยางเลิกคิ้ว คนที่เห็นทำไมถึงได้คุ้นหน้าคุ้นตายังไงไม่รู้
เขาหยิบรูปถ่ายออกมาจากกระเป๋าแล้วมองดู แม่งเอ๊ย ไอเด็กคนนี้มันถังเทียนหวาไม่ใช่เหรอ ?
มุมปากเซียวหยางยกยิ้มอย่างมีนัยแอบแฝง ดูเหมือนถังเทียนหวาจะไม่ตัดใจปล่อยเย่หยุนซูไปจริงๆ
จะโทษก็คงต้องโทษที่เย่หยุนซูสวยเกินไป เป็นคนที่มีความสวยจัดอยู่ในลำดับต้นๆของเมืองหยินโจว ผู้ชายเจ้าชู้มากหน้าหลายตาต่างก็แวะเวียนเข้ามาขายขนมจีบ จ้าวฟางสงก็เป็นหนึ่งในนั้น และถังเทียนหวาก็อีกคน
ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้ายังจะมีใครหน้าไหนเข้ามาอีก
เซียวหยางส่ายหน้า เดินเข้าไปในลิฟต์ กดไปยังชั้นที่ยี่สิบเจ็ดทันที
พอมาถึงที่ประตูหน้าห้องทำงาน ก็สังเกตเห็นบอดี้การ์ดสองคนรูปร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู
คนหนึ่งสูงราว180 เซนติเมตร บอดี้การ์ดที่ไว้ทรงสกินเฮดคนหนึ่งขวางเซียวหยางเอาไว้
“คุณชายถังคุยธุระอยู่ด้านใน บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องไม่อนุญาตให้เข้าไปเด็ดขาด”
พูดจบ ยังมีการผลักเซียวหยางไปด้วย
เซียวหยางกล่าวอย่างเรียบนิ่งไปว่า
“อันดับแรก ที่นี่คือบริษัทหยุนซู ฉันเป็นพนักงานของที่นี่ ฉันไม่ใช่คนที่ไม่เกี่ยวข้อง!
“อันดับต่อไป เย่หยุนซูเป็นภรรยาของฉัน แล้วพวกนายเป็นใคร กล้าดียังไงไม่ให้ฉันเข้าไป ? ”
บอดี้การ์ดยิ้มร้าย “เป็นภรรยาของคุณแล้วยังไง ?”
“ต่อให้เป็นแม่ของคุณก็ไม่มีประโยชน์ คำสั่งของคุณชายถัง คือคำขาด”
ดวงตาของเซียวหยางหรี่เล็กลง ดูแล้วถังเทียนหวาน่าจะจองหองไม่น้อย แม้แต่สุนัขรับใช้ยังจองหองได้ขนาดนี้
“หลีกไป”
“เหอะๆ โมโหเหรอ ? ได้ยินมานานแล้วว่าประธานเย่แต่งงานกับพวกสวะ ที่พูดนี่ก็เป็นตัวคุณเองหรอกเหรอ ? ”
“รอคุณชายถังของเราจัดการกับธุระให้เสร็จก่อน คุณก็จะได้ไสหัวไป ทำไม ไม่พอใจเหรอ ? ไม่พอใจก็ไปกระโดดตึกสิ ”
เมื่อบอดี้การ์ดทรงผมสกินเฮดได้ยินที่เซียวหยางพูดว่าเย่หยุนซูเป็นภรรยา ก็รู้ฐานะของเซียวหยางแล้ว ลูกเขยตระกูลเย่
เศษสวะที่ไร้ประโยชน์
บอดี้การ์ดทั้งสองราวกับผู้เหนือกว่า จ้องมองเซียวหยางอย่างดูหมิ่น
ภรรยาถูกหมายปองจากชายอื่น แต่สามีกลับทำอะไรไม่ได้ บอดี้การ์ดเห็นศีรษะของเซียวหยางที่เขียวมันวาวราวกับจะเรืองแสงได้
“ฉันจะพูดอีกอย่าง หลีกไป”เซียวหยางใบหน้าเรียบนิ่งไร้อารมณ์ความรู้สึกใดๆ
“ไอ้ฉิบหาย ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไงวะ คุณชายถังทำธุระอยู่ด้านใน หากยังวุ่นวายไม่เลิก พวกเราไม่เกรงใจแล้วนะ”
บอดี้การ์ดทรงผมสกินเฮดพูดอย่างเยือกเย็นแล้วนวดคลึงกำปั้นที่ใหญ่เท่าหม้อดินไปมา
ปัง!
เซียวหยางไม่ต่อปากต่อคำด้วยอีก เหวี่ยงหมัดไปที่บอดี้การ์ดทรงผมสกินเฮดนั้นจนกระเด็นไปที่ปลายทางเดิน
บอดี้การ์ดทรงผมสกินเฮดเจ็บปวดจนลุกไม่ขึ้น บอดี้การ์ดอีกคนฝีมือก็ไม่เท่าไร เพียงไม่นานก็ล้มซ้อนทับไปกับบอดี้การ์ดทรงผมสกินเฮดนั่น
พวกเขามองไปที่เซียวหยางอย่างไม่อยากเชื่อ แม่งเอ๊ย นี่มันไอ้เศษสวะเซียวหยางจริงเหรอ ?
ทำไมฝีมือถึงได้ดีอย่างนี้ ?
เซียวหยางหันหลังกลับไปที่ประตู ในตอนนี้เองก็ได้ยินบทสนทนาที่ดังอยู่ภายในห้อง
ภายในห้องทำงาน
ถังเทียนหวาที่สูงหล่อ กับท่าทีที่น่าเกรงขาม สวมใส่ชุดสูทที่ทันสมัย ก็ยิ่งเสริมสไตล์การแต่งตัวของเด็กนักเรียนนอกมากขึ้นไปอีก
ถังเทียนหวา ทายาทผู้ร่ำรวย เด็กนักเรียนนอก ผู้สืบทอดบริษัทตระกูลถังกรุ๊ปในอนาคต
เมื่อสามปีก่อนเพราะหน้าที่อันเร่งรีบของครอบครัวถูกส่งไปต่างประเทศ และสามปีให้หลังก็กลับมาอย่างสมเกียรติ
ในตอนที่เขารู้ว่าเย่หยุนซูแต่งงานนั้น ก็อยากจะกลับเมืองหยินโจวในทันที แต่เพราะงานของครอบครัวที่สำคัญกว่า อีกทั้ง เขาเช็กมาแล้วว่าเซียวหยางเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้าน เย่หยุนซูก็คงไม่ให้ค่าอะไร จึงได้ปล่อยไปไม่ใส่ใจ
สามปีมานี้ เย่หยุนซูไม่เคยยุ่งเกี่ยวอะไรกับเซียวหยาง หรือพูดง่ายๆก็คือ เย่หยุนซูยังบริสุทธิ์
และเย่หยุนซูที่ยืนอยู่ตรงหน้าของถังเทียนหวา ในตอนนี้มีใบหน้าที่ขมขื่น เธอไม่คิดว่า ถังเทียนหวาจะโผล่มาเร็วขนาดนี้
สวบ!
ถังเทียนหวาราวกับเล่นมายากลได้ หยิบดอกกุหลาบช่อโตออกมาจากด้านหลัง สีแดงสด บนดอกกุหลาบนั้น ยังโรยด้วยผงทองคำ ดูแล้วช่างน่าหลงใหลนัก
“เย่หยุนซู ผมกลับมาแล้ว ผมกลับมาที่เมืองหยินโจวแล้ว !”
ถังเทียนหวายื่นดอกกุหลาบให้กับเย่หยุนซูอย่างภาคภูมิและกระตือรือร้นพร้อมกับพูดว่า “เย่หยุนซู เราพบกันอีกแล้ว ”
“ผมไม่มีทางเลือก ไปทำธุรกิจที่ต่างประเทศถึงสามปี แม้ว่าตัวจะไป แต่ใจผมก็ยังคงคิดถึงแต่คุณ”
“ผมเพิ่งกลับจากต่างประเทศ คนที่บ้านก็ยังไม่ได้เห็นหน้าเลย สิ่งแรกที่ทำเลยก็คือมาหาคุณ !”
“สามปีแล้ว ที่ปล่อยให้คุณใช้ชีวิตอยู่กับคนไร้ค่าแบบนั้น ความผิดผมเอง เพื่อชดใช้สิ่งที่ผมติดค้างกับคุณ ผมจะให้ไอสวะนั่นหย่าขาดกับคุณ แล้วผมจะขอคุณแต่งงานอย่างเป็นทางการ ”
“เย่หยุนซู ผมจะทำให้คุณมีความสุข ”
เย่หยุนซูสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าสวยงามซีดเผือดเล็กน้อย เพราะเธอรู้ว่า เบื้องหลังใบหน้าที่อ่อนโยนนี้ คือสัตว์ป่าที่โหดร้าย
“คุณชายถัง ดอกไม้กับผู้หญิงสวย คุณควรจะมอบมันให้กับคนที่คุณรัก”
เธอพยายามระวังคำพูด เพราะอำนาจของตระกูลถัง เธอจะไปแข็งข้อด้วยไม่ได้ “ฉันมีสามีแล้ว และในช่วงระยะเวลานี้ก็คงจะไม่แยกทางกับเขาแน่นอน ”
ทันใดนั้นมือของถังเทียนหวาก็สั่นไหว สีหน้าดูแย่ขึ้นมาทันที
“เย่หยุนซู ทั้งเมืองหยินโจว ก็มีแค่คุณเท่านั้นที่คู่ควรกับผม ดอกไม้นี้คุณรับไปก่อน หากผมจัดการเรื่องงานเลี้ยงเสร็จ จะขอคุณแต่งงานอย่างเป็นทางการ”
หลังจากที่พูดจบ ก็กะจะไปคว้าข้อมือของเย่หยุนซู เพื่อยัดดอกไม้ใส่มือหญิงสาว
ในตอนที่เย่หยุนซูยังทำอะไรไม่ถูกนั้น เซียวหยางก็เปิดประตู เดินเข้ามาอย่างยิ้มแย้ม
“ครึกครื้นกันจังเลย ที่รัก เจ้าเด็กนี่ใครกัน แล้วให้ดอกไม้คุณทำไม ? ”
เซียวหยางก้าวเดินไปเบื้องหน้า คว้าดอกไม้เอาไว้แล้วยัดมันลงที่ถังขยะ
“เย่หยุนซูแพ้ดอกไม้ หากเธอเป็นอะไรไป จะชดใช้ไหวเหรอ”
เมื่อเย่หยุนซูเห็นเซียวหยางเดินเข้ามา ทันใดนั้นก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที แล้วรีบเดินไปยืนอยู่ข้างเซียวหยาง
ถังเทียนหวาคิ้วขมวด ในใจก่นด่าบอดี้การ์ดที่เฝ้าหน้าประตู มัวทำอะไรกันอยู่ ไม่ใช่ว่าสั่งเอาไว้แล้วเหรอ ใครก็ห้ามให้เข้ามาทั้งนั้น ?
“นายเป็นใคร ที่นี่ไม่ใช่ที่ของนาย ไสหัวไปซะ !”
เซียวหยางเลิกคิ้วขึ้น กำลังจะพูด เย่หยุนซูก็รีบอธิบายว่า“เขาเป็นสามีของฉันชื่อเซียวหยาง เซียวหยางค่ะ คนนี้ถังเทียนหวาคุณชายถัง”
ถังเทียนหวานิ่งอึ้งไป ไม่คิดว่าคนนี้เหรอคือเซียวหยาง เขาได้ยินชื่อเสียงมานาน
เขามองไปที่เซียวหยางด้วยความสนใจ ยื่นมือออกไปอย่างคาดไม่ถึง “อ๋อ ที่แท้ก็เป็นคุณลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง ยินดีที่ได้รู้จัก ”
ถังเทียนหวาเรียนเทควันโดและมวยไทยมาตั้งแต่เด็ก ร่างกายกำยำแข็งแรง แล้วมองย้อนไปที่เซียวหยาง ทั้งตัวไร้เนื้อหนังมังสา ยกยิ้มมุมปาก กำลังที่มือก็เพิ่มมากขึ้น
เพียงไม่นาน เขาก็พบความผิดปกติบางอย่าง ไม่ว่าเขาจะใช้แรงมากแค่ไหน มือของเซียวหยางก็ราวกับท่อนเหล็ก ไม่ได้ขยับอะไรเลย
“เฮ้ยแม่ง ไอเด็กคนนี้มันแปลกๆ”
ถังเทียนหวากำลังจะชักมือออก แต่เซียวหยางกลับบีบมือเขาเอาไว้ พูดอย่างยิ้มแย้มไปว่า“พี่ถัง ผมกับคุณเจอกันครั้งแรกแต่รู้สึกเหมือนรู้จักกันมานาน คิดว่าเราคงจะต้องพูดคุยกันสักหน่อยแล้วล่ะ ”
จากนั้น สีหน้าของถังเทียนหวาก็เปลี่ยนไป เปลี่ยนเป็นยิ้มยิงฟัน เป็นดุร้าย และเปลี่ยนเป็นเจ็บปวด!
“อ๊าก เจ็บ ปล่อยนะ!”
ในที่สุดถังเทียนหวาก็ทนไม่ไหวจนส่งเสียงร้องออกมา
มือของเขา เหมือนเป็นดินน้ำมัน ถูกเซียวหยางบีบจนเป็นก้อน