คิงดราก้อน - บทที่ 69 กำจัดคนเลวให้สิ้นซาก
เซียวหยางหายใจหอบ แล้วพูดว่า“ถอดก็ถอด!”
ไม่นาน เซียวหยางก็ช่วยเย่หยุนซูถอดชุดราตรีออก
ร่างกายที่ขาวนวล ไร้ซึ่งร่องรอยใด ๆ ราวกับเคยแช่น้ำนมมาก่อน อีกทั้งมีกลิ่นหอมละมุนอย่างบอกไม่ถูกโชยออกมา
เพียงแต่ว่ามือสวยคู่นั้นไม่ยอมปล่อยเซียวหยางไปสักที ลูบคลำอยู่บนตัวเซียวหยางไม่หยุด ทำท่าทางวาบหวิวติดเรท
เซียวหยางหัวเราะอย่างขมขื่น ได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนกดไฟชั่วร้ายที่อยู่ก้นบึ้งหัวใจเอาไว้ จากนั้นล้วงเอากระเป๋าเข็มเงินออกมาจากหน้าอกอีกครั้ง วางลงบนเตียงแล้วหยิบเข็มเงินออกมา
พลังเทพมังกร วิชาการฝังเข็มถอนพิษเก้าวัง!
จุดหรู่เกิง จุดเหอหยาง จุดเฉิงฮวน……
เข็มเงินถูกแทงลงบนเรือนร่างของเย่หยุนซูอย่างรวดเร็ว ทั้งปั่นเข็ม แทงเข็ม ใช้เวลาร่วมสิบนาที เย่หยุนซูถึงค่อย ๆ กลับเป็นปกติ
หลังจากขับพิษออกจนหมดเกลี้ยงแล้ว เซียวหยางก็หมุนตัวไปเข้าห้องน้ำ ใช้ผ้าขนหนูอุ่น ๆ เช็ดตัวให้เย่หยุนซูครู่ เช็ดเหงื่อออกให้จนสะอาด แล้วห่มผ้าให้เธอ
เย่หยุนซูฝันถึงเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องที่น่าอับอายมาก เธอฝันว่าตัวเองและเซียวหยางกำลังเล่นซุกซนกันอยู่……และตัวเองเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
สุดท้ายเซียวหยางทนการยั่วยวนไม่ไหว ทั้งสองคนจึงได้ดิ่งเข้าสู่ห้วงแห่งความรักไปด้วยกัน……
ขณะที่เซียวหยางและเย่หยุนซูกกำลังพักผ่อนอยู่ที่โรงแรม ก็มีเงาประหลาดเงาหนึ่งปรากฏขึ้นบนเรือยอชต์ Queen Anna
กล้องวงจรปิดทั้งหมดถูกทำลายในทุกที่ที่ผ่านไป
ตอนที่เงานั้นปรากฏขึ้นอีกครั้ง ก็ได้มาอยู่ในห้องดีลักซ์แล้ว ถังเทียนหวาที่ค่อย ๆ ฟื้นขึ้นมาจากความเจ็บปวด กำลังจะร้องเรียกหาคน ก็พบว่าตรงหน้ามีคนคนหนึ่งยืนอยู่
ใส่ชุดสูทสีชมพูสดใส สวมรองเท้าหนังสีเขียว เมื่อเขาแหงนหน้ามอง ก็เกือบจะช็อกหมดสติไป
“แก……แกคือคนวันนั้น……”
“แนะนำตัวอย่างเป็นทางการสักหน่อยแล้วกัน ฉันชื่อกาเบรียล เป็นหนึ่งในทูตสวรรค์เสราฟิมทั้งสี่ท่านของสำนักดราก้อน”
กาเบรียลหยิบกล้อง Full HD ขึ้นมาเล่น แล้วใช้นิ้วบีบกล้องจนแตกละเอียดกลายเป็นผุยผง
“สำนักดราก้อน ทูตสวรรค์เสราฟิม……องค์กรลึกลับที่ใหญ่สุดในยุโรป คุณ……คุณเป็นคนของที่นั่น!”
ถังเทียนหวาไปเรียนต่อที่ยุโรป จึงรู้เรื่องอำนาจในยุโรปเป็นอย่างดี เขาอาจจะไม่รู้ว่าคนที่ร่ำรวยสุดในยุโรปเป็นใคร แต่ไม่มีทางไม่รู้จักสำนักดราก้อนเด็ดขาด!
ในยุโรป สำนักดราก้อนดำรงอยู่เหมือนกับเทพเจ้า ไม่ว่าในโลกการเมืองหรือโลกธุรกิจ ต่างรู้สึกเกรงกลัวต่อสำนักดราก้อนทั้งนั้น
เขาไม่คิดไม่ฝันเลยจริง ๆ ว่าผู้ชายที่โผล่มาในคฤหาสน์ของตัวเองในวันนั้น จะเป็นหนึ่งในทูตสวรรค์เสราฟิมทั้งสี่ท่านของสำนักดราก้อน
“เหมือนฉันจะเคยเตือนแกไปแล้วนะ ว่าอย่าหาเรื่องเซียวหยางกับตระกูลเย่” กาเบรียลพูดด้วยท่าทางแสยะยิ้ม
“ท่านทูตสวรรค์ครับ ผม……ผมไม่ทราบฐานะของท่าน ได้โปรดยกโทษให้กระผมด้วย ผม……ผมไม่กล้าอีกแล้วครับ!”
ถังเทียนหวาไม่เหลือซึ่งอารมณ์โกรธใด ๆ อีกแล้ว เดิมทีเขาคิดว่าเชิญคุณเฟิงมาแล้ว ก็ไม่ต้องเกรงกลัวเซียวหยางกับกาเบรียลอีก แต่คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าแม้แต่เซียวหยางก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณเฟิง
กาเบรียลมองศพที่อยู่บนพื้น ก็ส่ายหน้าแล้วพูดว่า“ดูท่าทางเจ้าสำนักจะใจดีเกินไปแล้ว”
“เจ้าสำนัก? เจ้าสำนักอะไรกัน! ?”
ถังเทียนหวาตกตะลึงอย่างมาก ถึงขั้นลืมความเจ็บปวดตรงเป้ากางเกงไปเสียสนิทเลย
กาเบรียลยิ้มยิงฟัน “งั้นก็จะให้แกได้เข้าใจก่อนตายแล้วกัน เซียวหยาง เจ้าสำนักแห่งสำนักดราก้อน ควบคุมอำนาจและความมั่งคั่งส่วนใหญ่ของยุโรป เป็นราชาที่แท้จริง เป็นราชาที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก!”
“ส่วนแก หาเรื่องราชาของพวกเราครั้งแล้วครั้งเล่า แกว่า ฉันควรพิพากษาแกยังไงดี?”
ถังเทียนหวาตะลึงงันจนทำอะไรไม่ถูก ตัวสั่นไปหมดทั้งตัว “ไม่……เป็นไปไม่ได้ เซียวหยางจะเป็นเจ้าสำนักแห่งสำนักดราก้อนไปได้ยังไง ฉันไม่เชื่อ แกกำลังหลอกฉัน!”
“งี่เง่าสิ้นดี!”
“ตั้งแต่แกเป็นศัตรูกับเจ้าสำนักครั้งแรก ก็หมายความว่าแกเป็นคนที่ต้องตาย”
“ต้องกำจัดให้สิ้นซาก แต่ไหนแต่ไรก็เป็นเรื่องที่บริวารอย่างพวกเราควรจัดการอยู่แล้ว ไอ้หนุ่ม จำไว้นะว่าชาติหน้าอย่าหาเรื่องคนอื่นซี้ซั้ว”
กาเบรียลยิ้มยิงฟัน ล็อกคอของเขาเอาไว้ แล้วออกแรงหักคอ
กร๊อบ
ถังเทียนหวาคอหัก สิ้นลมหายใจ
กาเบรียลสูบบุหรี่หนึ่งครั้ง แล้วเอาไวน์ที่เหลือจากบนโต๊ะมาเทราดลงบนพื้นและผ้าม่าน จากนั้นก็จุดไฟเผา แล้วกระโดดออกจากหน้าต่างไปอย่างรวดเร็ว
ตอนที่ไฟในห้องดีลักซ์ถูกดับลง สองคนที่อยู่ในห้องก็ถูกไฟไหม้จนจำเค้าโครงเดิมไม่ได้ สถานที่เกิดเหตุไม่มีข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์เลย
เรื่องแบบนี้ที่กาเบรียลทำ ถือเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างมาก
……
เช้าตรู่วันถัดมา แสงแดดสาดส่องมาที่เตียง เย่หยุนซุ่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น แล้วบิดขี้เกียจ รู้สึกมีชีวิตชีวาอย่างมาก
“หืม? ที่นี่ที่ไหนกัน?”
มองดูสภาพแวดล้อมที่แปลกตา เย่หยุนซูก็ตกใจ ทั้งห้องน้ำ พรม ผ้าห่มสีขาว ล้วนแต่เป็นการตกแต่งแบบโรงแรมที่ได้มาตรฐาน
ที่นี่คือโรงแรม?
เย่หยุนซูเพิ่งรู้ตัวว่า ทั้งตัวของตัวเอง สวมเพียงชุดชั้นในเท่านั้น!
เมื่อเธอพลิกตัว ก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียงอีกเตียงหนึ่ง เปลือยท่อนบน นอนฉีกแข้งฉีกขาหลับอย่างสบาย
กล้ามเนื้อที่ดูแข็งแรงกำยำ ไหล่ที่ดูกว้าง แต่บนร่างกายกลับมีรอยกระสุนที่เห็นชัดอยู่หลายจุด!
“เซียวหยาง!”
พรึบ! ความทรงจำเมื่อคืนค่อย ๆ โผล่เข้ามาในหัวของเย่หยุนซู
ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงความฝันนั้นขึ้นมา เป็นฝันที่น่าอับอาย!
หรือว่า นั่นไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ตัวเองถูกวางยาปลุกอารมณ์ทางเพศ ฤทธิ์ยารุนแรงมาก เซียวหยางทำเพื่อถอนพิษให้ตัวเอง จากนั้นทั้งสองคนก็เกิดเรื่องที่ไม่สามารถบรรยายได้!
นี่เป็นการอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้อย่างสมเหตุสมผลที่สุดแล้ว
เซียวหยางได้ยินเสียงร้องเรียก ก็ลืมตาขึ้น
“เซียวหยาง นาย……นายทำอะไรฉันกันแน่?” เย่หยุนซูชี้ไปที่จมูกของเซียวหยาง ท่าทางทั้งโกรธและอายมาก
เซียวหยางพูดไม่ออกไปชั่วขณะ “หยุนซู เช้า ๆ ไม่ต้องตกใจตื่นตูมขนาดนี้ มีอะไรค่อย ๆ พูดกัน”
ค่อย ๆ พูดบ้านนายสิ!
“เซียวหยาง เมื่อคืน เมื่อคืนนายกับฉัน……กันหรือยัง”
เซียวหยางดีใจขึ้นมาทันที “เมื่อคืนเหรอ มีผู้หญิงคนหนึ่งมือเท้าอยู่ไม่เป็นสุข ฉันเลยช่วยเธอถอดเสื้อผ้า แล้วก็ช่วยรักษาให้ ช่วยเธอเช็ดตัว แต่จะว่าไปแล้ว รูปร่างไม่เลวเลยจริง ๆ”
เย่หยุนซูทั้งอายทั้งโกรธขึ้นมา หน้าแดงระเรื่อขึ้นมาจนลามไปถึงหู
“เซียวหยาง นอกจากเรื่องพวกนี้ นายยังทำอะไร……นายไม่ได้ทำเรื่อง……เรื่องอย่างว่ากับฉันใช่ไหม?”
เซียวหยางหัวเราะแหะแหะ รู้สึกว่าท่าทางแบบนี้ของเย่หยุนซูดูน่ารักมากเหลือเกิน น่ารักกว่าตอนเป็นประธานสาวที่เย็นชาสูงส่งอยู่ในบริษัทเสียอีก
“เธอก็ใช้ความรู้สึกตัวเองสิ ตกลงฉันทำอะไรไปหรือเปล่าเดี๋ยวก็รู้เองแหละ”
ใช้ความรู้สึกตัวเอง?
เย่หยุนซูแทบกระอักเลือดออกมา แล้วบิดขาทั้งสองขาดูเล็กน้อย เอ๊ะ?
เหมือนไม่มีอะไรผิดปกตินะ ไม่ใช่พูดกันว่าครั้งแรกจะเจ็บหรอกเหรอ?
ดูท่าเจ้าหมอนี่ไม่ได้ทำเรื่องเลวทรามกับตัวเอง แต่ถึงจะเป็นอย่างนี้ ร่างกายของเธอก็ถูกเจ้าหมอนี่เห็นจนหมดเปลือกแล้ว คิด ๆ แล้วก็แทบอยากจะมุดหนีไปที่ไหนสักที่
ท่าทางที่ตัวเองโดนยาปลุกอารมณ์ทางเพศเมื่อคืน ไม่รู้ว่าน่าขายหน้ามากแค่ไหน
“หยุนซู เป็นสามีภรรยากันมาตั้งนานแล้ว เธอไม่ต้องทำท่าทางอึดอัดไม่สบายใจขนาดนั้นหรอก ทำเหมือนพวกเราสองคนเพิ่งคบกันงั้นแหละ”
“ไอสารเลว ใครเป็นสามีภรรยากับนายมานานแล้ว ใครเพิ่งคบกับนายกัน!”
เย่หยุนซูกลอกตาใส่ จากนั้นก็พูดอย่างจริงจัง :
“ไม่ว่ายังไงก็ตาม เรื่องนี้นายต้องเก็บเป็นความลับ ถ้านายกล้าพูดออกไป ฉันจะจับนายฉีกปากแน่นอน!”
เซียวหยางรู้สึกหมดคำพูดไปเลย นิสัยดื้อรั้นกลับมาอีกแล้ว
เซียวหยางยกสองมือขึ้นทำท่าทางยอมจำนน “ก็ได้ ก็ได้ ฉันรับปากเธอโอเคไหม?”
“งั้นนายออกไปก่อน ฉันจะเปลี่ยนเสื้อผ้า” เย่หยุนซูกัดปากแล้วพูดออกมา
เซียวหยางสวมเสื้อคลุม จากนั้นก็ยิ้มหวานแล้วเดินออกไป
ระหว่างที่รอเย่หยุนซู เซียวหยางก็ล้วงโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วพบว่ามีข้อความที่ยังไม่ได้อ่านอยู่ข้อความหนึ่ง
กาเบรียล“ลูกพี่ ถังเทียนหวาตายแล้ว!”