คิงดราก้อน - บทที่ 85 หวงความรู้
หลี่เป่าเหนิงกำหมัดแน่น แล้วพูดเสียงแข็งว่า : “เป็นไปไม่ได้ เขาเพิ่งอายุเท่าไหร่เอง จะเก่งขนาดเอาเข็มเงินฝังไม้ได้ยังไง ฉันไม่เชื่อ!”
เขาสงสัยว่าเซียวหยางแอบเล่นตุกติก!
“จริงด้วย นี่ไม่ใช่เข็มเงินฝังไม้แน่นอน!” ประธานเจิ้งจู่ ๆ ก็หน้านิ่วคิ้วขมวด แล้วพูดออกมาเสียงดัง ขณะเดียวกันสายตาก็จ้องเขม็งไปที่เข็มเงินหลายเล่มนั้น
“ฮ่าฮ่า ฉันบอกแล้ว ว่าเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด นี่ไม่ใช่เข็มเงินฝังไม้ ขนาดประธานเจิ้งยังพูดเองเลย!” หลี่เป่าเหนิงหัวเราฮ่าฮ่าออกมาเสียงดัง
“ของปลอม ปลอมทั้งนั้น ไอหนุ่มนี่เล่นตุกติกจนถูกจับได้ เขาก็แค่คนหลอกลวง กล้ามาหลอกคนที่นี่ ใช้ชีวิตจนเบื่อแล้วใช่ไหม รีบไปให้พ้น ๆ ซะ!”
หลี่เป่าเหนิงรีบพูดใส่ร้าย ยุแยงให้เข้าใจผิดทันที
ลูกศิษย์สองคนของซุนจ้าวเหนียงได้ยินคำพูดนี้ ก็รู้สึกโล่งใจ เมื่อครู่นี้พวกเขาตกใจแทบแย่ คนที่ชอบเอาตัวเองไปเปรียบคนอื่นนี่มันน่าโมโหจริง ๆ พวกเขาเกือบจะคิดว่าเซียวหยางเป็นอัจฉริยะแล้ว
และทันใดนั้น ซุนจ้าวเหนียงก็จ้องเขม็งไปที่เข็มเงินนั่น แล้วพูดอย่างตกตะลึงว่า : “ถูกแล้ว นี่ไม่ใช่เข็มเงินฝังไม้จริง ๆ ไม่ใช่! ไม่ใช่เด็ดขาด!”
เขาถอนหายใจออกมายาว ๆ แล้วเผยสีหน้าเคร่งขรึมอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“นี่คือเข็มสั่น คือเข็มสั่นล่ะ!”
น้ำเสียงของซุนจ้าวเหนียง ดังก้องไปทั่วห้องประชุม น้ำเสียงที่ฟังดูตื่นเต้นและสั่นเครือ ตื่นเต้นจนไม่สามารถอธิบายออกมาได้
อะไรนะ?
นี่คือเข็มสั่น?
หมอทุกคนในห้องที่ได้ยินคำว่าเข็มสั่น ก็พากันเงียบหมด
เหตุผลก็คือเข็มสั่นปรากฏแค่ในคัมภีร์แพทย์แผนจีนโบราณเท่านั้น ในวงการแพทย์แผนจีนยุคนี้ ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน
เข็มเงินฝังไม้ ก็ยังมีคนสามารถทำได้สำเร็จบ้าง แต่เข็มสั่น ยังไม่มีใครเคยทำได้มาก่อนเลย!
ถึงขั้นมีคนสงสัยขึ้นมา ว่าเข็มสั่นที่ถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์แพทย์แผนจีนโบราณนั้น ไม่มีอยู่จริง!
เข็มสั่นที่กล่าวถึงนั้น เป็นการกระตุ้นจุดฝังเข็มของผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง แต่ปกติแล้วผู้ป่วยต้องใช้เข็มเงินเป็นจำนวนมาก ซึ่งหมอเองก็ไม่สามารถกระตุ้นจุดฝังเข็มด้วยตัวเองได้พร้อมกันทุกจุด จึงต้องทำให้เข็มเงินทุกเล่มเกิดการสั่นไหวเพื่อกระตุ้นจุดฝังเข็ม
เมื่อหมอปล่อยมือจากเข็มแล้ว เข็มเงินยังคงสั่นไหวด้วยตัวเองได้ จนทำให้เกิดการกระตุ้นจุดฝังเข็ม นั่นจึงเป็นที่มาของเข็มสั่น
เทคนิคเข็มสั่นแบบนี้ มีบันทึกอยู่ในวิชาการฝังเข็มสิบสามสำนักผี ดึงนิ้วมือออกเบา ๆ เข็มเงินก็จะสั่นด้วยตัวเองตามลำดับ เหมือนลูกปัดเม็ดใหญ่เม็ดเล็กร่วงหล่นลงบนจานหยก ซึ่งอาจมีเสียงดังขึ้นมาเป็นจังหวะดนตรีด้วย!
แต่วันนี้ เข็มสั่นที่กล่าวถึงในตำนานกลับปรากฏให้เห็นแล้ว ปรากฏต่อหน้าพวกเขา
เมื่อทุกคนได้ยินว่านี่คือเข็มสั่น ต่างก็เพ่งมองอย่างใจจดใจจ่อ และพบว่าเข็มเงินกำลังสั่นเองอยู่จริง ๆ
ความถี่เร็วมาก ถ้าหากตั้งใจฟัง จะได้ยินเสียงเข็มเงินแต่ละเล่มมีเสียงที่ต่างกันออกไป บางเล่มเสียงทุ้มต่ำ บางเล่มเสียงก้องกังวาน เหมือนเสียงดนตรีจริง ๆ ด้วย!
“ไม่ผิดแน่ ไม่ผิดแน่ นี่แหละคือเข็มสั่น! เหมือนกับที่บันทึกไว้ในคัมภีร์แพทย์แผนจีนโบราณไม่มีผิด!”
“ไม่อยากจะเชื่อเลย เหมือนกับฝันเลยล่ะ!”
“ได้เห็นเข็มสั่นตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ตายไปก็ไม่เสียดาย ถึงตายไปก็ไม่เสียดายแล้ว!”
“ได้เห็นว่าแพทย์แผนจีนยังมีความหวัง ชีวิตนี้ก็มีความสุขแล้ว!”
“เข็มสั่นยังดำรงอยู่ แพทย์แผนจีนยังไม่สูญสลาย แพทย์แผนจีนจงเจริญ!!”
เสียงร้องอุทานดังระงมไปทั่วห้องประชุม เสียงชื่นชม เสียงตกใจ ดังขึ้นมาต่อเนื่องไม่ขาดสาย ถึงขนาดมีหมอบางคนน้ำตาไหลออกมาด้วยความตื้นตันใจ!
และในตอนนี้ ใบหน้าของหลี่เป่าเหนิงก็ร้อนผ่าวขึ้นมา เหมือนกับถูกคนตบเข้าที่หน้าอย่างจังหลายครั้ง
เพราะเมื่อครู่นี้เขาด่าแรงที่สุด และความจริงก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว ว่าเซียวหยางใช้ทักษะเข็มเงินฝังไม้เป็นจริง ๆ และยังใช้ทักษะการฝังเข็มที่เรียกว่าเข็มสั่นที่สูญหายไปนานแล้วเป็นอีกด้วย
เขาคอหดลงทันที ถ้าตอนนี้มีหลุมสักหลุม เขาจะมุดลงไปโดยไม่ลังเลเลยสักนิด
เซียวหยางพูดขึ้นมาอย่างเฉยชาว่า : “ตอนนี้พิสูจน์ได้หรือยัง?”
ตอนนี้ลูกศิษย์ทั้งสองคนของซุนจ้าวเหนียงก็หน้าร้อนผ่าว ๆ เช่นกัน ได้แต่พยักหน้าอย่างอับอาย พูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว
“แพทย์แผนจีนที่ยิ่งใหญ่มากความสามารถไม่ได้มีเพียงความสามารถเท่านี้ ต่อไปอย่ามองข้ามคนอื่น คนที่เป็นหมอมีมากมายนับไม่ถ้วน คนที่มีความสามารถพิเศษในโลกนี้มีตั้งไม่รู้เท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าพวกเธอจะคาดเดาเรื่อยเปื่อยได้โดยไม่มีหลักฐานเพียงพอ!”
“อย่างเมืองชิงหยวนที่อยู่ตามแนวชายฝั่งของจีน มีหมอท่านหนึ่งชื่อเย่เห้าซวน สามารถใช้ทักษะการฝังเข็มเงินได้หลากหลายรูปแบบ ความรู้และฝีมืออยู่ในระดับสุดยอด พวกเธอก็ไม่มีทางรู้ได้!”
เซียวหยางพูดทิ้งท้าย แล้วก้าวยาว ๆ เดินจากไป
ส่วนคนที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคน ต่างตกอยู่ในความเงียบ
ซุนจ้าวเหนียงทำท่าจะพูดแล้วหยุดหลายครั้ง ก่อนหน้านี้ เขาคิดว่าทักษะทางการแพทย์ของเซียวหยางยอดเยี่ยมมาก มุมมองความคิดเห็นแตกต่างมีเอกลักษณ์
แต่ตอนนี้ เซียวหยางใช้ทักษะเข็มเงินฝังไม้ได้สามส่วน ทักษะเข็มสั่นที่ทำให้คนตกตะลึง เพียงแค่ทักษะนี้ ก็เพียงพอให้หมอมากมายในจีนคารวะเขาได้แล้ว
ส่วนผลงานเล็กน้อยของเขา ต่อหน้าเซียวหยางก็เป็นเพียงการไม่ประมาณตนเองเท่านั้น
“หยุนซู พวกเราไปกันเถอะ” เซียวหยางมาหยุดตรงหน้าเย่หยุนซู แล้วพูดด้วยความรู้สึกผิด : “ขอโทษนะ วันนี้ช่วยเธอไม่ได้”
เย่หยุนซูส่ายหน้า “ไม่เลย นายทำดีมากแล้วล่ะ คนเราไม่เพียงแต่ต้องทะนงตนเท่านั้น แต่ต้องหยิ่งในศักดิ์ศรีด้วย เรื่องนี้นายไม่ผิดเลยสักนิด”
เซียวหยางยิ้มอย่างเรียบ ๆ แล้วหันเล็กน้อยไปพูดว่า : “แต่น่าเสียดาย ที่คนในวงการแพทย์แผนจีนหลายคนไม่รู้จักมองการณ์ไกล มีความทะนงตนเต็มเปี่ยม แต่กลับไม่มีศักดิ์ศรีในตัวเองเลยแม้แต่น้อย ยากที่จะประสบความสำเร็จ”
ความหยิ่งในศักดิ์ศรีที่แท้จริง คือต้องกล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด ต้องกล้าละทิ้งสิ่งที่เรียกว่าศักดิ์ศรี รู้จักถ่อมตัวขอคำชี้แนะจากผู้อื่น แต่คนพวกนี้กลับไม่มีสิ่งที่พูดมาเลย
คนกลุ่มหนึ่งเดินไปทางด้านนอก
และในขณะนั้นเอง ก็ได้มีเสียงตะโกนดังขึ้นมา
“รอก่อน!”
เฉียนโหย่วฉายเรียกพวกเขาเอาไว้ แล้วมองไปที่เซียวหยางและคนอื่น ๆ อย่างเย็นชา
“พวกนายไม่รู้สึกว่ามันดูเสแสร้งไปหน่อยเหรอ?”
“เมื่อกี้ใครบางคนพูดเต็มปากเต็มคำว่ามีเทคนิคทางการแพทย์ขั้นสูง แต่ตอนนี้ กลับทำเสแสร้ง ทำเป็นแสดงฝีมือแล้วก็จะกลับไป?”
“หรือว่าใครคนนั้นหวงความรู้ ไม่คิดจะทำประโยชน์เพื่อสังคมเหรอ แล้วยังเสแสร้งเป็นนักบุญอะไรอีก พูดซะเป็นคนดีมีคุณธรรม น่าขำชะมัด!”
เฉียนโหย่วฉายพูดแบบนี้ออกมา ก็ทำให้บรรดาหมอทั้งหลายรู้สึกดูถูกขึ้นมาทันที
เข็มสั่นเป็นความลับที่ไม่สามารถแพร่งพรายได้ ต่อให้เป็นคนอื่นก็ไม่มีทางบอกต่อคนอื่นง่าย ๆ หรอก คุณยังหลับไม่ได้สติหรือไง
เซียวหยางมองดูเฉียนโหย่วฉายด้วยความสนใจ คิดจะเอาเรื่องคุณธรรมมาบังคับฉันงั้นเหรอ?
เขาเอ่ยพูดด้วยท่าทางแสยะยิ้ม : “ประธานเฉียน คุณพูดเกินไปหน่อยแล้วมั้ง หัดนึกถึงใจคนอื่นบ้าง เอาแบบนี้แล้วกัน ถ้าคุณยอมบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดให้กับสังคม ผมก็จะเผยแพร่ทักษะเข็มสั่นให้แก่ทุกคน เป็นไง?
เฉียนโหย่วฉายพูดไม่ออกเลยทีเดียว คิดอยู่นานสุดท้ายก็พูดเสียงอึก ๆ อัก ๆ ว่า :
“แก……แกมันเถียงข้าง ๆ คู ๆ!”
“ประธานเจิ้ง คุณอย่าเข้าใจผิดนะ ผมหมายถึงเซียวหยางมันจอมปลอมไม่จริงใจ เหน็บแนมพวกเราเสร็จ ก็ไม่คิดจะเสนอตัวช่วยคน เอาแต่พูดว่าแพทย์แผนจีนในเมืองหยินโจวหมดหนทางเยียวยาแล้ว มีแต่มันที่ทำตัวเป็นคนดีอยู่ฝ่ายเดียว นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?”
ประธานเจิ้งขมวดคิ้ว “เซียวหยางไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น คุณไม่ต้องพูดจาเหลวไหลแล้ว”
เซียวหยางกลับโบกมือไปมาแล้วพูดว่า : “ประธานเจิ้ง ผมไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะเก็บซ่อนทักษะการแพทย์ของผมไว้คนเดียว และก็ไม่ได้พูดว่าจะไม่เอาทักษะการแพทย์เหล่านี้มาช่วยคน ใช่ไหม?”
คำพูดของเซียวหยาง ทำให้บรรดาหมอที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพากันอึ้งไปเป็นแถว แม้แต่หัวใจก็เริ่มเต้นเร็วขึ้น
หรือว่าเซียวหยางจะเอาทักษะการแพทย์ของเขาถ่ายทอดให้กับทุกคนเหรอ ถ้าเป็นแบบนี้จริง ๆ งั้นเมืองหยินโจวคงกลายเป็นแหล่งกำเนิดแพทย์แผนจีนแน่นอน!
จากนั้น เซียวหยางก็พูดอย่างห้าวหาญทรงพลังว่า : “เดิมทีผมตั้งใจไว้ว่า บริษัทหยุนซูลงทุนก่อสร้างโรงพยาบาล จากนั้นผมจะมาถ่ายทอดวิชาความรู้เกี่ยวกับการแพทย์ให้กับทุกคน ผมรับรองว่าผมไม่มีทางหวงความรู้แน่นอน ไม่มีทางหมกเม็ดแน่นอน ยังไงผมก็ต้องการให้แพทย์แผนจีนเจริญก้าวหน้าอยู่แล้ว”
“แต่น่าเสียดายมาก ที่ความร่วมมือครั้งนี้เลือกคนอื่นไปแล้ว”
และทันใดนั้น เย่หยุนซูกับเซียวหยางก็สบสายตากันพอดี
เย่หยุนซูอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็เผยรอยยิ้มออกมา
เธอรู้ดีว่า การร่วมมือครั้งนี้ ยังไงก็ต้องตกเป็นของบริษัทหยุนซูแน่นอน!