คุณสามีแห่งปาฏิหาริย์ - บทที่ 1
บทที่ 1
”แดร์ริล เอาน้ำล้างเท้าของพวกฉันไปทิ้งไปแล้ว”
สตรีสามนางกำลังนั่งอยู่บนโซฟา ซึ่งกำลังแช่เท้าและทำความสะอาดมัน แม้มองจากที่ไกลๆ สาวงามสามคนนี้ก็ยังปล่อยมวลความรู้สึกยั่วยวนและมีระดับออกมา แต่ละคนต่างก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง หนึ่งในสามคนนี้คือภรรยาของแดร์ริล ส่วนอีกสองคือเพื่อนรักของเธอ
ภายใต้คำสั่งของผู้เป็นภรรยา แดร์ริลเทน้ำสกปรกในอ่างทิ้งด้วยความเชื่อฟัง เขาไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากบ่นแม้แต่นิดเดียว เพราะยังไงก็ตาม เขาก็เป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านเธอ แม้จะเป็นเวลาสามปีของชีวิตแต่งงานแล้ว เขาก็ยังไม่มีที่ยืนหรือมีสิทธิอะไรในครอบครัวนี้เลย ภรรยาของเขาและแม่ยาย ทั้งคู่มักจะตำหนิและดุด่าเขาแม้แต่เรื่องเล็กน้อยที่สุด ขนาดสุนัขพันธุ์ทางยังมีตำแหน่งในครอบครัวนี้สูงกว่าเขาเลย
แดร์ริลและลิลี่เป็นสามีภรรยากันมากกว่าสามปีแล้ว แต่ก็แค่ในนาม พวกเขาไม่เคยเติมเต็มชีวิตแต่งงานเลย เขาไม่เคยได้แตะแม้แต่มือของเธอด้วยซ้ำ! ในทุกๆค่ำคืน แดร์ริลต้องนอนบนพื้นเพราะลิลี่เกลียดเขา
ซักผ้าเอย ทำอาหารเอย ทำความสะอาดห้องเอย ทุกๆงานบ้านล้วนเป็นงานของแดร์ริล มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาเกิดเผลอทำชามตกแตกในระหว่างที่กำลังทำอาหาร และนั่นทำให้เขาถูกลิลี่ต่อว่ายาวถึงครึ่งชั่วโมง
ครั้งหนึ่งในตอนกลางคืน แดร์ริลต้องลุกไปเข้าห้องน้ำและเผลอทำให้ลิลี่ตื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอถึงกับตบหน้าของเขาอย่างแรงโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
นั่นเป็นครั้งแรกในชีวิตของแดร์ริล ที่เขาถูกตบ ตั้งแต่สมัยเด็กๆ พ่อแม่ของเขาไม่เคยจะแตะเขาแม้แต่ปลายนิ้ว! เขาโกรธ แต่เขาก็ต้องระงับความโกรธนั้นไว้ สิ่งที่เขาทำได้มีเพียงกล่าวอ้อนวอนขอโทษกับลิลี่ แต่ในที่สุดเขาก็โดนลงโทษโดยการนั่งคุกเข่าไปตลอดทั้งคืน
มันผ่านมาถึงสามปีแล้วตอนนี้ และแดร์ริลก็เริ่มชินกับวิถีชีวิตแบบนี้แล้วด้วย เขาจะไปโทษใครได้นอกจากตัวเองสำหรับการที่เขาต้องมาเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านภรรยา ที่แย่ไปกว่านั้น การใช้ชีวิตอยู่กับลิลี่ทุกวันนานถึงสามปี เขาพบว่าตัวเองเริ่มตกหลุมรักลิลี่ไปโดยไม่รู้ตัว แม้เขาจะรู้อยู่แก่ใจว่าเธอเกลียดเขาขนาดไหนแถมยังปฏิบัติต่อเขาเหมือนกับขยะ!
เริ่มแรกนั้น แดร์ริลเป็นลูกชายคนที่สองของตระกูล ดาร์บี้ รู้จักกันในนามของตระกูลที่ใหญ่โตที่สุดในมณฑลเจียงหนาน สามปีก่อน เขาเคยใช้เงินสดไปกว่าแปดล้านดอลลาร์เพื่อซื้อหุ้นแปดเปอร์เซ็นของบริษัทที่ชื่อ เซาธ์อีสต์ ปิโตรเลียม
ในตอนนั้น สมาชิกตระกูลดาร์บี้นับร้อยคนถึงกับรุมต่อว่าแดร์ริล บางคนว่าเขาบ้า บางคนถึงกับกล่าวหาเขาว่ามีเจตตาปิดบังแผนชั่ว ต้องการที่จะขโมยโชคของครอบครัวไปเป็นของตัวเอง ในท้ายที่สุด ทางตระกูลจึงมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ให้ขับไล่แดร์ริลรวมถึงพ่อแม่ของเขาออกจากตระกูล ทั้งยังลบพวกเขาออกจากผังตระกูลอย่างสิ้นเชิงด้วย!
ตลอดสามปีที่ผ่านมา แดร์ริลได้รับรู้ถึงความไม่แน่นอนในความสัมพันธ์ เพื่อนเก่าที่เคยสนิทสนมก็พลันตีตัวออกห่าง เขาไม่มีทางเลือกใดๆอีกนอกจากการเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านภรรยาเพื่อที่จะดำรงชีวิตอยู่ต่อ เขาไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใครสักคน ไม่แม้แต่กับลิลี่
“ลิลี่ที่รัก เธอค่อนข้างฝึกสามีมาได้ไม่เลวเลยนะ” เจดกล่าว ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของลิลี่
ลิลี่หัวเราะเสียงเย็น “นี่เธอจะพูดถึงแดร์ริลทำไม? แค่เห็นหน้าเขาฉันก็ขยะแขยงแล้ว ผู้หญิงคนอื่นคงเลือกแต่งเข้าตระกูลรวยๆ แต่มันคงเป็นโชคร้ายของฉัน ที่ต้องมาติดอยู่กับเศษขยะแบบเขา ดูความเซ่อซ่าของเขาสิ แค่แวบเดียวก็รู้แล้วว่าเขาเป็นพวกชาวบ้านจากบ้านนอก ฉันต้องอับอายแค่ไหนถ้าต้องพาเขาไปงานรวมญาติของตระกูลลินดันพรุ่งนี้”
เจดช่วยไม่ได้ที่จะต้องแอบเหลือบมองไปที่แดร์ริล สิ่งที่เขาพอจะมีคือหน้าตาโทรมๆที่พอไปวัดไปวาได้ เจดหัวเราะ “เอาล่ะ ลิลี่ เลิกพูดเรื่องเขา แล้วมาสนใจเรื่องสำคัญก่อน ฉันได้ยินมาว่า มีปัญหาอะไรบางอย่างเกิดขึ้นในบริษัทของเธอ”
“ลิลี่ที่รัก ใครหนอจะหาเงินห้าล้านในอาทิตย์เดียวเพื่อช่วยเธอได้?” เจดถอนหายใจ
ลิลี่ไม่ตอบ ตรงกันข้าม เธอเพิ่งสังเกตได้ว่าแดร์ริล ผู้ที่เสร็จหน้าที่ของเขาแล้ว กำลังแอบฟังพวกเธอคุยกันอยู่ เธอจ้องเขาตาเขม็งแล้วกล่าวเสียงเย็น “แดร์ริล ใครบอกให้นายอยู่ที่นี่?ไสหัวแล้วไปซักเสื้อผ้าของฉันซะ”
“ซักกางเกงยีนส์ของฉันด้วยสิ มันอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้าน่ะ” เจดโพล่งออกมาเช่นกัน
แดร์ริลไม่กล้าเถียง เขารีบนำเสื้อผ้าของพวกเธอไปโยนใส่เครื่องซักผ้าพร้อมกับเสื้อผ้าของเขาเอง วันพรุ่งนี้มีงานรวมรุ่นของชั้นมัธยมปลายของเขา อย่างน้อยที่สุดเขาก็ต้องพยายามดูเรียบร้อยหน่อย ในขณะที่เขากำลังคิดเรื่องงานรวมรุ่น เขาก็ถูกขัดจังหวะด้วยโทรศัพท์ที่กำลังสั่น เขาหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาตรวจดู และพบว่าเขาได้รับข้อความจากเบอร์โทรศัพท์ที่ลงท้ายด้วย หกแปด ชายหนุ่มย่นคิ้วทันทีที่เห็นเบอร์มือถือนั้น ‘นี่มันเบอร์ของตระกูลดาร์บี่ไม่ใช่รึไง’ เขาคิด
แดร์ริลเปิดอ่านข้อความด้วยความฉงน แล้วเขาก็ต้องตกตะลึงเมื่ออ่านมัน
‘โอ นายน้อยรองของพวกเรา ได้โปรดช่วยตระกูลของพวกเราด้วย ขณะนี้ตระกูลดาร์บี้ต้องการเงินทุนอย่างมาก และเราก็ต้องการเงินสนับสนุนจากท่าน!’
‘น่าขัน!’ แดร์ริลขมวดคิ้ว เขาคิดกับตัวเอง ‘สามปีที่แล้วฉันถูกตระกูลขับไล่ แล้วตอนนี้คนตัวเปล่ากับเงิน 20 ดอลลาร์ในกระเป๋า พวกเขาจะขอให้ฉันช่วยเรื่องเงินทุน? ฉันจะไปช่วยอะไรพวกเขาได้?’
ความคิดของแดรร์ริลถูกขัดจังหวะอีกครั้งจากแรงสั่นของโทรศัพท์ของเขา มันคือข้อความใหม่ที่เข้ามา
‘นายน้อย ได้โปรด เราขอร้องท่าน โปรดช่วยตระกูลของท่านเองด้วย หุ้นที่ท่านลงทุนไปเมื่อสามปีก่อนตอนนี้ทำกำไรได้มหาศาล ได้โปรด…พวกเราแย่แน่ถ้าไม่มีการสนับสนุนจากท่าน…’
‘อะไรนะ!?’
แดร์ริลถึงกับผงะถอยหลังจากข้อความนั้น เขารีบหยิบแบล็คการ์ดของธนาคารอเมทิสต์ออกมาด้วยความเร็วที่เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะทำได้ บัตรใบนี้ไม่ได้ใช้มานานกว่าสามปีแล้วมันคือสัญลักษณ์ของความร่ำรวย บัตรทุกใบจะมีตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้าประจำอยู่ เขารีบโทรติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของธนาคารทันที
“สวัสดีค่ะ คุณดาร์บี้ มีอะไรให้เรารับใช้คะวันนี้?” เสียงหวานใสตอบกลับมาจากปลายสาย
“เร็วเข้า! บอกยอดเงินในบัญชีให้ผม”
“ด้วยความยินดีค่ะท่าน โปรดรอสักครู่” หญิงสาวตอบกลับ และในไม่กี่วินาทีต่อมา เธอก็ตอบกลับอีกครั้ง “คุณดาร์บี้ ยอดเงินรวมของท่านมีจำนวนมหาศาลเกินเพดานยอดเงินที่เราตรวจสอบได้ค่ะ หากท่านยินดีที่จะมาที่ส่วนวีไอพีของธนาคารเราพร้อมกับหลักฐานยืนยันตัวตนที่ถูกต้อง เรายินดีที่จะดูแลท่านค่ะ”
ก่อนที่หญิงสาวจะกล่าวจบประโยค แดร์ริลก็วางสายโทรศัพท์ไปก่อนเสียแล้ว
“ด้วยความยินดีค่ะท่าน โปรดรอสักครู่” หญิงสาวตอบกลับ และในไม่กี่วินาทีต่อมา เธอก็ตอบกลับอีกครั้ง “คุณดาร์บี้ ยอดเงินรวมของท่านมีจำนวนมหาศาลเกินเพดานยอดเงินที่เราตรวจสอบได้ค่ะ หากท่านยินดีที่จะมาที่ส่วนวีไอพีของธนาคารเราพร้อมกับหลักฐานยืนยันตัวตนที่ถูกต้อง เรายินดีที่จะดูแลท่านค่ะ”
ก่อนที่หญิงสาวจะกล่าวจบประโยค แดร์ริลก็วางสายโทรศัพท์ไปก่อนเสียแล้ว
‘ยอดเงินรวมมีจำนวนมหาศาล!?’ แดร์ริลหัวเราะขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับความคิดของตัวเขาเอง เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าการลงทุนเมื่อสามปีก่อน ซึ่งทำให้เขาถูกขับไล่จากตระกูล จะนำมาซึ่งความน่าประหลาดใจในอีกสามปีให้หลัง! ยิ่งปริศนาที่เพิ่มเข้ามาในเรื่องยอดเงินที่มากจนตรวจสอบไม่ได้นั้นยิ่งเติมเชื้อไฟให้ความตื่นเต้นของเขา
“ลิลี่ ดูดาร์ริลสิ! เขาตรวจดูยอดเงินในบัญชีอยู่ในมือถือแหละ” เจดหลุดหัวเราะออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
ลิลี่เองก็หัวเราะเช่นกัน “ฉันให้เบี้ยเลี้ยงเขาวันละ 200 ดอลลาร์ ฉันคิดว่าเขาน่าจะเก็บเงินได้เยอะพอสมควรใน 3 ปีที่ผ่านมา”
“โห ลิลี่ นี่เธอเลี้ยงเขาเหมือนเลี้ยงหมาเลยนะเนี่ย” เจดกล่าว และนั่นทำให้หญิงสาวทั้งสามคนหัวเราะออกมาพร้อมกัน
แดร์ริลวิ่งเข้ามาหาภรรยาของเขาด้วยความตื่นเต้นก่อนจะกล่าวออกมา “บริษัทของคุณขาดเงินห้าล้านดอลลาร์ใช่ไหม! แล้วถ้า….แล้วถ้าผมสามารถแก้ปัญหานี้ได้ล่ะ?”
เจดระเบิดเสียงหัวเราะออกมาโดยที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เธอจ้องไปที่แดร์ริลแล้วกล่าว “แดร์ริล นีนายเข้าใจมูลค่าของเงินห้าล้านไหมเนีย? ลิลีให้เงินนาย 200 ดอลลาร์ต่อวัน ถ้านายสะสมพวกมันได้ห้าล้าน บางที่ฉันคงจะเรียกนายว่าป๊ะป่าแล้ว”
“โอ้ จริงเหรอ?” แดร์ริลกล่าวพร้อมแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ในกรณีนี้ ฉันว่าเธอควรจําไว้ให้ดีนะ ว่าเธอพูดอะไรออกมา”
ลิสีทนเขาไม่ไหวอีกแล้ว แคร์ริลต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ เจ้าบ้านนอกที่อยู่อยู่ตรงหน้าพวกเธอนีทําให้ลิลีหงุดหงิด เธอปัดมือไปมาอย่างหมดความอดทน
“ออกไปซะไป หยุดทําให้พวกเราเสียสายตาสักที” “โอ้” เขาตอบสนองด้วยการเดินออกไปโดยไม่กล่าวอะไรอีก แดร์ริลนอนไม่หลับในคืนนั้นเพราะความตื่นเต้น เขาแทบไม่อยากเชื่อว่าข่าวดีแบบนี้จู่ๆก็เกิดขึ้นแบบไม่มีปีไม่มีขลุ่ย เขาวางแผนแล้วว่าจะไปธนาคารด้วยตัวเองเพื่อตรวจยอดเงินในบัญชี แดร์ริลกลึงไปกลงมาจนกระทั่งเกือบเช้าถึงจะเคลิ้มหลับ ยังไงก็ตาม ” จู่ๆความฝันอันแสนหอมหวานของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นเสียงดังอันก้องของแม่ยายของเขามาจากห้องนั่งเล่น
“แดร์ริล ตีนสักที แล้วไปส่งลูกสาวฉันไปทํางาน , แดร์ริลได้ยินเสียงแม่ยายของเขา ซาแมนธา ในความฝัน เขาเข้าใจว่ามันเป็นเพียงความฝันและพยายามพลิกตัวเพื่อจะกลับเข้าไปสู่ฝันหวานต่อ ในตอนนั้นเอง ประตูห้องนอนก็เปิดออก พร้อมกับลูกถีบของซาแมนธาที่หมดความอดทน “นี่แกหูหนวกหรือโง่กันแน่? ไม่ได้ยินที่ฉันพูดรึไงว่าให้ไปส่งลิลีไปทํางาน?” ซาแมนธากล่าวด้วยความเย็นชา แคร์ริลต้องยอมรับ ซาแมนธายังคงสวยแม้เธอจะอายุสามสิบกว่าแล้ว เธอดูแลรูปร่างเธอดีทีเดียว แคร์ริลลุกขึ้นมาจากพื้นด้วยความงัวเงีย ก่อนจะมองไปที่ซาแมนธาด้วยความสีหน้าอธิบายไม่ถูก “หลังจากสามปีที่แต่งงานมา ไม่มีเลยสักครั้งที่ฉันจะออกไปข้างนอกกับลิลี เพราะเธอมองว่าเขามันเป็นตัวน่าอับอาย แต่ตอนนี้จู่ๆ เธอกลับจะให้เขาส่งเธอไปทํางาน?”
แคร์ริลครุ่นคิดในใจ ขณะที่เขากําลังครุ่นคิดอยู่ ลิลีก็เดินเข้ามาในห้อง เธออยู่ในชุดทํางาน แล้วเธอก็กระทืบเท้าลงด้วยความเร่งรีบ “หูหนวกรีไง? เร็วสิ หรือว่านายไม่อยากไปส่งฉัน?”
“แน่นอนผมอยาก! ผมจะไป!” แคร์ริลตอบพร้อมกับพยักหน้าไม่หยุด เขารีบเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ของเขา ก่อนจะไปส่งลิลีที่ออฟฟิศของเธอ ลิลีเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธเนื่องจากบริษัทของเธอกําลังขาดเงินทุนและต้องการเงินลงทุนห้าล้านดอลลาร์เป็นการเร่งด่วน ยังไงก็ตาม เธอไม่สามารถหานักลงทุนได้เลย และตอนนี้บริษัทของเธอกําลังเผชิญหน้ากับการล้มละลาย! การประชุมฉุกเฉินของบรรดาผู้ถือหุ้นถูกเปิดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ในฐานะผู้จัดการทั่วไปของบริษัท เธอจําเป็นต้องเข้าร่วมการประชุมโดยหน้าที่อยู่แล้ว เพราะว่าเมื่อเช้า ทันทีที่เธอก้าวออกจากประตูบ้าน เธอก็นึกได้ทันทีว่าเธอให้เจดยืมรถไป ทางเลือกสุดท้ายของเธอเหลืออยู่อย่างเดียว เธอไม่มีทางเลือกนอกจากให้แคร์ริลมาส่งเธอที่ทํางาน
*************************************
เจดระเบิดเสียงหัวเราะออกมาโดยที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เธอจ้องไปที่แดร์ริลแล้วกล่าว “แดร์ริล นีนายเข้าใจมูลค่าของเงินห้าล้านไหมเนีย? ลิลีให้เงินนาย 200 ดอลลาร์ต่อวัน ถ้านายสะสมพวกมันได้ห้าล้าน บางที่ฉันคงจะเรียกนายว่าป๊ะป่าแล้ว” “โอ้ จริงเหรอ?” แดร์ริลกล่าวพร้อมแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ในกรณีนี้ ฉันว่าเธอควรจําไว้ให้ดีนะ ว่าเธอพูดอะไรออกมา” ลิสีทนเขาไม่ไหวอีกแล้ว แคร์ริลต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ เจ้าบ้านนอกที่อยู่อยู่ตรงหน้าพวกเธอนีทําให้ลิลีหงุดหงิด เธอปัดมือไปมาอย่างหมดความอดทน “ออกไปซะไป หยุดทําให้พวกเราเสียสายตาสักที” “โอ้” เขาตอบสนองด้วยการเดินออกไปโดยไม่กล่าวอะไรอีก แดร์ริลนอนไม่หลับในคืนนั้นเพราะความตื่นเต้น เขาแทบไม่อยากเชื่อว่าข่าวดีแบบนี้จู่ๆก็เกิดขึ้นแบบไม่มีปีไม่มีขลุ่ย เขาวางแผนแล้วว่าจะไปธนาคารด้วยตัวเองเพื่อตรวจยอดเงินในบัญชี แดร์ริลกลึงไปกลงมาจนกระทั่งเกือบเช้าถึงจะเคลิ้มหลับ ยังไงก็ตาม ” จู่ๆความฝันอันแสนหอมหวานของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นเสียงดังอันก้องของแม่ยายของเขามาจากห้องนั่งเล่น “แดร์ริล ตีนสักที แล้วไปส่งลูกสาวฉันไปทํางาน , แดร์ริลได้ยินเสียงแม่ยายของเขา ซาแมนธา ในความฝัน เขาเข้าใจว่ามันเป็นเพียงความฝันและพยายามพลิกตัวเพื่อจะกลับเข้าไปสู่ฝันหวานต่อ ในตอนนั้นเอง ประตูห้องนอนก็เปิดออก พร้อมกับลูกถีบของซาแมนธาที่หมดความอดทน “นี่แกหูหนวกหรือโง่กันแน่? ไม่ได้ยินที่ฉันพูดรึไงว่าให้ไปส่งลิลีไปทํางาน?” ซาแมนธากล่าวด้วยความเย็นชา แคร์ริลต้องยอมรับ ซาแมนธายังคงสวยแม้เธอจะอายุสามสิบกว่าแล้ว เธอดูแลรูปร่างเธอดีทีเดียว แคร์ริลลุกขึ้นมาจากพื้นด้วยความงัวเงีย ก่อนจะมองไปที่ซาแมนธาด้วยความสีหน้าอธิบายไม่ถูก “หลังจากสามปีที่แต่งงานมา ไม่มีเลยสักครั้งที่ฉันจะออกไปข้างนอกกับลิลี เพราะเธอมองว่าเขามันเป็นตัวน่าอับอาย แต่ตอนนี้จู่ๆ เธอกลับจะให้เขาส่งเธอไปทํางาน?” แคร์ริลครุ่นคิดในใจ ขณะที่เขากําลังครุ่นคิดอยู่ ลิลีก็เดินเข้ามาในห้อง เธออยู่ในชุดทํางาน แล้วเธอก็กระทืบเท้าลงด้วยความเร่งรีบ “หูหนวกรีไง? เร็วสิ หรือว่านายไม่อยากไปส่งฉัน?” “แน่นอนผมอยาก! ผมจะไป!” แคร์ริลตอบพร้อมกับพยักหน้าไม่หยุด เขารีบเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ของเขา ก่อนจะไปส่งลิลีที่ออฟฟิศของเธอ ลิลีเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธเนื่องจากบริษัทของเธอกําลังขาดเงินทุนและต้องการเงินลงทุนห้าล้านดอลลาร์เป็นการเร่งด่วน ยังไงก็ตาม เธอไม่สามารถหานักลงทุนได้เลย และตอนนี้บริษัทของเธอกําลังเผชิญหน้ากับการล้มละลาย! การประชุมฉุกเฉินของบรรดาผู้ถือหุ้นถูกเปิดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ในฐานะผู้จัดการทั่วไปของบริษัท เธอจําเป็นต้องเข้าร่วมการประชุมโดยหน้าที่อยู่แล้ว เพราะว่าเมื่อเช้า ทันทีที่เธอก้าวออกจากประตูบ้าน เธอก็นึกได้ทันทีว่าเธอให้เจดยืมรถไป ทางเลือกสุดท้ายของเธอเหลืออยู่อย่างเดียว เธอไม่มีทางเลือกนอกจากให้แคร์ริลมาส่งเธอที่ทํางาน