คุณสามีแห่งปาฏิหาริย์ - บทที่ 1033
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1033
เทพธิดาตัวน้อยรู้ดีว่าคืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายของเธอแล้ว ดังนั้นเธอจึงอยากดูดาวกับแดร์ริล
10 นาทีผ่านไปแดร์ริลก็พาเทพธิดาตัวน้อยมาถึงยังหุบเขานรก
หุบเขานรกเป็นที่ที่แดร์ริลเคยต่อสู้กับผู้ร้ายและเอาชนะพวกเขาได้ และหุบเขาแห่งนี้ก็ยังเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเมืองมิดอีกด้วย
สายลมยามค่ำคืนพัดโชยมา แดร์ริลและเทพธิดาตัวน้อยกำลังมุ่งหน้าไปบนยอดเขาด้วยพลังภายในของแดร์ริล เขาอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนและไต่ขึ้นไปอย่างช้า ๆ
ใบหญ้าเขียวขจีปกคลุมไปทั่วทั้งยอดเขา เวลานี้ก็ดึกแล้ว ดังนั้นที่บนยอดเขาจึงค่อนข้างเงียบสงบ
แดร์ริลและเทพธิดาตัวน้อยนั่งอยู่บนพื้นหญ้าสีเขียวขณะเงยหน้าขึ้นมองดวงดาวที่สองสว่างเต็มท้องฟ้า
สีหน้าของเทพธิดาตัวน้อยดูตื่นเต้นราวกับเด็กตัวเล็ก ๆ “ดูสิแดร์ริล ดาวดวงนั้นสว่างมากเลย เมื่อตอนเป็นเด็ก ท่านอาจารย์เคยบอกฉันว่า คนที่ตายไปแล้วจะกลายเป็นดวงดาวที่อยู่บนท้องฟ้านั่น แดร์ริล เมื่อฉันตายไปแล้วนายคิดว่าฉันจะกลายเป็นดวงดาวด้วยหรือเปล่า?”
แดร์ริลรู้สึกเจ็บปวดภายในหัวใจ “หยุดพูดแบบนั้นสักทีภรรยาตัวน้อย…”
เทพธิดาตัวน้อยหัวเราะก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ จากนั้นเธอก็ยิ้มด้วยใบหน้าที่อ่อนล้าก่อนจะพูดกับเขาว่า “งั้นเรามาพูดเรื่องอื่นกันดีกว่า นายยังจำครั้งแรกที่เราเจอกันได้ไหม? ตอนนั้นฉันอยากจะฆ่านายให้ตายแค่ไหน แต่นายก็ยังคงทำหน้าทะเล้นและแกล้งฉันไม่เลิก นายรู้ไหมว่าตอนนั้นฉันโกรธมากจริง ๆ
“กับอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ค่ายทหารของโลกใหม่ นายลักพาตัวพวกพี่สาวของฉันไปและขังพวกเธอไว้ในเต็นท์ ตอนนั้นฉันก็โกรธนายมากเหมือนกัน แต่พอมาคิดดูแล้ว ถึงแม้ว่านายจะชอบทำตัวเจ้าชู้ยังไง แต่นายก็ไม่เคยทำร้ายพวกเราเลย
“แล้วหลังจากเหตุการณ์นั้น พี่สาวของฉันจับตัวนายไปขังไว้ที่หอคอยหลังความตาย ในตอนนั้นฉันเป็นกังวลมาก ฉันก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าฉันเริ่มตกหลุมรักนายตั้งแต่เมื่อไหร่
“หลังจากที่ฉันเห็นนายเอาตัวรอดออกมาจากหอคอยหลังความตายได้ ฉันก็รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก ฉันมีความสุขมากจริงๆ…”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแดร์ริลก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจและรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย
แต่มันก็ยังเป็นความเศร้าท่ามกลางความอบอุ่น
เทพธิดาตัวน้อยมองเห็นความโศกเศร้าบนใบหน้าของเขา เธอจึงพูดปลอบเขาอย่างอ่อนโยน “แดร์ริล ฉันไม่อยากให้นายรู้สึกเสียใจ ฉันพอใจมากแล้วที่ฉันได้ใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิตอยู่เคียงข้างนาย”
แดร์ริลพยักหน้าและยิ้มบาง ๆ แต่เขาก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ “ไอรีน ฉันขอโทษ มันเป็นความผิดของฉันเอง…”
เทพธิดาตัวน้อยเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของแดร์ริลก่อนจะพูดขึ้นอย่างอ่อนโยนว่า “ไม่ต้องร้องไห้นะ ฉันคงจะรู้สึกแย่ไปกว่านี้ถ้าหากว่านายร้องไห้ไม่หยุด พูดตามตรง ฉันรู้ถึงผลที่จะตามมาเมื่อฉันใช้ตะเกียงไร้มลทินเพื่อช่วยชีวิตนายแล้ว แต่ตราบใดที่ฉันสามารถช่วยชีวิตนายได้ มันก็คุ้มค่ามากจริง ๆ”
เทพธิดาตัวน้อยยิ้มและพูดต่อว่า “และถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดไป แต่ฉันก็มีความสุขมากที่มีนายอยู่เคียงข้างฉันในวันนี้ นายยังไม่ตอบฉันเลยว่า เมื่อฉันตายไปแล้ว นายคิดว่าฉันจะกลายเป็นดวงดาวบนท้องฟ้าด้วยหรือเปล่า?”
“แน่นอน…” เขาฝืนยิ้มก่อนจะตอบเธอพร้อมกับแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้อย่างเต็มที่และกล่าวต่อว่า “ภรรยาตัวน้อยของฉันสวยมาก เธอจะต้องกลายเป็นนางฟ้าที่งดงามยิ่งนัก และเมื่อเธออยู่บนนั้นแล้ว เธอก็จะได้พบกับเทพเจ้าของท้องฟ้าทั้งหมด เธอจะได้เห็นทั้งจักรพรรดิหยก เทพมารดร คนเลี้ยงวัวและสาวทอผ้าอีกด้วย…”
เมื่อพูดจบ แดร์ริลก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้อีก
“คนเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้าเหรอ?”
ทันใดนั้น เทพธิดาตัวน้อยก็รู้สึกตื่นเต้น เธอเหลียวมองแดร์ริลและถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า “ใครคือคนเลี้ยงวัวและสาวทอผ้าเหรอ? เล่าให้ฉันฟังหน่อยสิ”
เทพธิดาตัวน้อยเติบโตขึ้นในพระราชวังฟูเหยา เธอจึงไม่ค่อยได้ใช้เวลาร่วมกับผู้คนในสังคม ดังนั้นเธอจึงไม่เคยได้ฟังนิทานเลยสักครั้ง
เมื่อแดร์ริลได้เห็นความอยากรู้อยากเห็นบนใบหน้าของเธอ เขาก็ยิ้มและเริ่มเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคนเลี้ยงวัวและสาวทอผ้าให้เธอฟัง
เมื่อเล่ามาถึงตอนจบของเรื่อง แดร์ริลก็สูดหายใจเข้าเต็มปอดและเล่าต่อด้วยใบหน้าที่เศร้าโศก “ในเทศกาลวันวาเลนไทน์จีนของทุก ๆ ปี นกกางเขนทุกตัวบนโลกจะสร้างสะพานที่บนทางช้างเผือกเพื่อให้คนเลี้ยงวัวและสาวทอผ้าได้มาพบกัน”
“ช่างเป็นเรื่องราวความรักที่น่าเศร้าแต่งดงามยิ่งนัก”
เทพธิดาตัวน้อยพูดพร้อมเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
วินาทีต่อมา เทพธิดาตัวน้อยก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาของเธอเอาไว้ได้อีกแล้ว เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นและสวมกอดแดร์ริลแน่นก่อนจะพูดขึ้นว่า “ขนาดคนเลี้ยงวัวและสาวทอผ้ายังกลับมาพบกันได้ปีละครั้งเลย แต่ฉันคงจะไม่มีโอกาสได้มองดวงดาวกับนายอีกแล้ว แดร์ริล ฉันคงจะคิดถึงนายมาก…”
ตั้งแต่ที่เธอรู้ว่าเธอกำลังจะตาย เธอก็ยังไม่หลั่งน้ำตาแม้แต่หยดเดียว จนในที่สุดเธอก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้อีกต่อไป