คุณสามีแห่งปาฏิหาริย์ - บทที่ 1093
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1093
“เจ้าศักดินาเคนนี่!”
เดนิสสูดหายใจเข้าอยู่หลายครั้งและเดินเข้าไปหาเจ้าศักดินาเคนนี่ด้วยใบหน้าที่มีน้ำตาไหลอาบแก้ม “เจ้าศักดินาเคนนี่ คุณบีบคอฉันจนแทบจะขาดครึ่งเพียงเพราะผู้หญิงอย่างโมนิกา วอห์นอย่างนั้นเหรอ? ฉันเป็นภรรยาของคุณนะ! โมนิก้าทำเรื่องเสื่อมเสียจนทำให้ผู้คนในพระราชวังกวนเป๋งต้องอับอาย! และผู้คนต่างก็เรียกร้องให้แขวนคอเธอ! แต่ทำไมคุณถึงยังปกป้องเธอเช่นนี้! ฉันจะไม่เชื่อฟังคำพูดของคุณอีกต่อไปถึงแม้ว่าวันนี้คุณจะฆ่าฉันให้ตายก็ตาม!”
“เธออยากตายมากนักเหรอ? ถ้าเช่นนั้นฉันจะทำให้ความปรารถนาของเธอเป็นจริง” เจ้าศักดินาเคนนี่พูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นก่อนจะเดินเข้าไปหาเดนิสด้วยดวงตาที่แดงก่ำ เขาถือกระบี่ยาวเอาไว้ในมือในขณะที่รังสีสังหารแผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเขา!
“เจ้าศักดินาเคนนี่…”
เดนิสสั่นเทาเมื่อได้เห็นสายตาที่น่าสะพรึงกลัวของเขา เธอไม่คิดว่าเจ้าศักดินาเคนนี่จะมีเจตนาฆ่าเธอจริง ๆ!
“เลดี้เดนิส!” เจ้าศักดินาเคนนี่ยกกระบี่ขึ้นมาและจ่อไปที่คอของเดนิสก่อนจะพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “มีเพียงฉันเท่านั้นที่รู้ว่าโมนิก้าเป็นคนแบบไหนและเธอเป็นคนแบบไหน! เธอบอกว่าโมนิก้าล่อลวงคนเลี้ยงม้าที่ตายไปใช่ไหม? ถ้างั้นฉันขอถามเธอหน่อยว่าคนเลี้ยงม้าตายยังไง? มองหน้าฉันแล้วตอบฉันมาเดี๋ยวนี้!”
รังสีที่แข็งแกร่งปะทุออกมาเมื่อเจ้าศักดินาเคนนี่พูดเช่นนั้น
มีความกระวนกระวายในสายตาของเดนิส เธอตื่นตระหนกจนแทบจะไม่กล้าสบตาเจ้าศักดินาเคนนี่ อย่างไรก็ตาม เธอยังคงแสร้งทำเป็นไม่กลัวและตอบเขาว่า “เธอล่อลวงเอียน แม็กซ์เวลล์จนทำให้เขารู้สึกผิดต่อเจ้าศักดินาเคนนี่ เบรด ดังนั้นเขาจึงฆ่าตัวตายเพราะไม่กล้าสู้หน้าคุณและผู้คนในพระราชวังกวนเป๋ง”
เจ้าศักดินาเคนนี่ถามกลับด้วยเสียงต่ำและดวงตาที่แดงก่ำ “ฆ่าตัวตายเหรอ? ช่างเป็นเหตุผลที่ดีจริง ๆ! ถึงแม้ว่าเราจะเป็นสามีภรรยากันแต่ฉันก็จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเธออีก! วันนี้ฉันจะช่วยให้เธอตายอย่างไม่ทรมาน! และจงจำเอาไว้ว่าชาติหน้าอย่าได้มารุกรานโมนิก้าอีก!”
เมื่อพูดจบเจ้าศักดินาเคนนี่ก็ยกกระบี่ขึ้นมาและกำลังจะโจมตีเดนิส!
‘แต่ว่าเธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายของเขา! ดังนั้นเจ้าศักดินาไม่ควรจะฆ่าเธอเพราะเธอรังแกโมนิก้า!’
“เจ้าศักดินาเคนนี่ อย่าทำเช่นนั้นเลยครับ!”
ทันใดนั้น องครักษ์ที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็คุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรียงกัน ก่อนที่องครักษ์ผู้หนึ่งจะพูดกับเจ้าศักดินาเคนนี่ด้วยความเคารพว่า “เจ้าศักดินาเคนนี่ นายหญิงเดนิสเป็นภรรยาของคุณ ถ้าหากว่าคุณฆ่าเธอเพราะโมนิก้า ผู้คนทั่วทั้งเมืองหลวงก็จะต้องประณามคุณถึงสิ่งที่เกิดขึ้น!”
“เจ้าศักดินาเคนนี่ ได้โปรดคิดทบทวนอีกครั้งด้วยครับ!”
เมื่อเสียงวิงวอนของเหล่าองครักษ์ดังขึ้น เจ้าศักดินาเคนนี่ก็ขว้างกระบี่ลงบนพื้นด้วยความโกรธ จากนั้นเขาก็จ้องหน้าเดนิสก่อนจะพูดขึ้นว่า “วันนี้ฉันจะปล่อยเธอไป แต่ถ้ามีครั้งหน้า จะไม่มีใครมาหยุดฉันได้อีก จำเอาไว้!”
จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นมาตบหน้าเดนิสอีกครั้งอย่างไร้ความปราณี!
เพี๊ยะ!
แรงตบของเขาหนักจนเลือดพุ่งออกมาจากปากของเดนิส ก่อนที่ร่างของเธอจะกระเด็นออกไปหลายสิบเมตรและตกลงบนพื้นอย่างรุนแรง วินาทีต่อมาเดนิสก็หมดสติลงทันที
เจ้าศักดินาเคนนี่ไม่แม้แต่จะชายตามองเดนิสที่หมดสติไปเลยด้วยซ้ำ เขาเดินกลับมาหาโมนิก้าก่อนจะพูดกับเธอเบา ๆ ว่า “ยอดรัก เรากลับวังกันเถอะ”
โมนิก้าพยักหน้าอย่างอ่อนแรง
โมนิก้าถูกทรมานและทำร้ายร่างกายจนไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะพูด เธอกล่าวขอบคุณเขาอย่างซาบซึ้งอยู่ภายในใจเมื่อเธอเห็นว่า เจ้าศักดินาเคนนี่เกือบจะฆ่าเดนิสที่เป็นคนบงการเรื่องทั้งหมดเพื่อเธอ
“เจ้าศักดินาเคนนี่” โมนิก้าปาดน้ำตาและมองไปที่เจ้าศักดินาเคนนี่ก่อนจะถามอย่างแผ่วเบาว่า “ที่คุณทำทั้งหมดเพื่อฉัน มันคุ้มค่าแล้วเหรอ?”
เจ้าศักดินาเคนนี่สูดหายใจเข้าเต็มปอด ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่โมนิก้าอย่างอ่อนโยน จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “ยอดรัก จนถึงตอนนี้คุณยังไม่เข้าใจความรู้สึกของผมอีกเหรอ? ผมสามารถเป็นศัตรูกับคนทั้งโลกได้อย่างไม่เกรงกลัวเพื่อปกป้องคุณ”
เขาเหลือบมองโมนิก้าอีกครั้งและพูดต่อว่า “ไม่ต้องพูดอะไรแล้วยอดรักของผม ผมจะพาคุณกลับไปพักที่วัง”
จากนั้นเจ้าศักดินาเคนนี่ก็อุ้มโมนิก้าขึ้นมาและพาเธอกลับไปยังพระราชวังกวนเป๋งท่ามกลางสายฝนที่ยังคงโปรยลงมาอย่างต่อเนื่อง
โมนิก้านอนอยู่ในอ้อมแขนของเขาด้วยความรู้สึกที่สับสนปนเป เธอซบหน้าลงบนหน้าอกของเจ้าศักดินาเคนนี่และรู้สึกได้ถึงความปลอดภัยที่สุด
ฝูงชนที่ขว้างปาข้าวของใส่โมนิก้าก่อนหน้านี้ถูกทหารของเขาจับกลุ่ม
“เจ้าศักดินาเคนนี่ ผมถูกใส่ร้าย!”
“เจ้าศักดินาเคนนี่ ฉันไม่ได้ทำร้ายเธอ!”
เกิดความโกลาหลขึ้นในฝูงชนเมื่อพวกเขาถูกจับกุม
แม้จะได้ยินเช่นนั้น เจ้าศักดินาเคนนี่ก็ยังคงเดินต่อไปด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยและไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เลยแม้แต่น้อย