คุณสามีแห่งปาฏิหาริย์ - บทที่ 1099
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1099
เจ้าศักดินาเคนนี่ส่ายศรีษะและยิ้มอย่างขมขื่น “ยอดรัก ผมไม่เป็นไร ผมจะไม่ไปจักรวาลโลกกับคุณ เพราะว่าเขา…เขาอยู่ที่นั่น ผมเชื่อว่าแดร์ริลจะดูแลคุณเป็นอย่างดี ยอดรักของผม คุณไม่ต้องกังวลนะ เพราะว่าฝ่าบาทยังต้องพึ่งพาอาศัยผมในหลาย ๆ เรื่อง ดังนั้นฝ่าบาทจะไม่ลงโทษผมหนัก”
เจ้าศักดินาเคนนี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาพยายามอดกลั้นต่อความเจ็บปวดที่อยู่ภายในใจก่อนจะหันไปพูดกับแอมโบรสว่า “แอมโบรส พ่อจะไม่ได้อยู่เคียงข้างลูกอีกแล้ว ลูกต้องเป็นเด็กดีและปกป้องแม่ของลูกเมื่อโตขึ้นเข้าใจไหม?”
“อื้ม!” แอมโบรสจ้องหน้าเจ้าศักดินาเคนนี่และ พยักหน้าอย่างไร้เดียงสา
ในเวลานั้น ราวกับว่าแอมโบรสนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เด็กชายกอดขาของเจ้าศักดินาเคนนี่และพูดขึ้นว่า “พ่อครับ ไปกับพวกเราเถอะครับ ผมยังต้องการให้คุณพ่อซื้อลูกอมให้ผมกินอยู่”
เจ้าศักดินาเคนนี่ตกตะลึง!
เมื่อได้ยินคำพูดที่ไร้เดียงสาเหล่านั้น น้ำตาของเจ้าศักดินาเคนนี่ก็ไหลออกมาจากดวงตาทันที
เจ้าศักดินาเคนนี่ก้มหน้าลงด้วยใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาและรอยยิ้มก่อนจะพูดว่า “แอมโบรส เมื่อลูกกลับไปถึงจักรวาลโลก ลูกจะได้พบกับพ่อที่แท้จริง…เขาจะซื้อลูกอมให้ลูกกิน…”
‘พ่อที่แท้จริง’ แอมโบรสสับสนกับคำพูดเหล่านั้น
เจ้าศักดินาเคนนี่ไม่พูดอะไรอีก เขาปาดน้ำตาและยืนขึ้นก่อนจะตะโกนสั่งองครักษ์ที่อยู่ด้านนอกว่า “พาไทเลอร์ กิลล์มาที่นี่!”
ผ่านไปครู่หนึ่ง ไทเลอร์ก็เข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็วและกล่าวด้วยความเคารพว่า “เจ้าศักดินาเคนนี่ มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ?”
ไทเลอร์ กิลล์เป็นคนสนิทของเจ้าศักดินาเคนนี่และเป็นคนที่เขาไว้ใจที่สุด
เจ้าศักดินาสั่งเขาด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “ไทเลอร์ พาโมนิก้าและแอมโบรสไปยังจักรวาลโลก ปกป้องพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะได้พบกับแดร์ริล!”
‘อะไรนะ’ ไทเลอร์ตัวสั่นและตกตะลึงในเวลาเดียวกัน
‘เจ้าศักดินาเคนนี่หวงแหนโมนิก้ามาก แต่แล้วทำไมเขาถึงต้องการส่งเธอกลับไปอยู่กับแดร์ริล ดาร์บี้? เกิดอะไรขึ้น?’
เมื่อไทเลอร์สังเกตุเห็นสีหน้าที่เศร้าหมองของเจ้าศักดินาเคนนี่ เขาก็ไม่กล้าถามอะไร เขากำมือแน่นและตอบเจ้าศักดินาเคนนี่ด้วยความเคารพ “เจ้าศักดินาเคนนี่ ผมจะปกป้องพวกเขาด้วยชีวิต!”
เจ้าศักดินาเคนนี่พยักหน้า จากนั้นเขาก็หันมายิ้มให้โมนิก้า “ยอดรัก ผมเกรงว่าฝ่าบาทจะส่งคนมาตรวจสอบในอีกไม่ช้า ดังนั้นคุณควรจะรีบพาแอมโบรสไปจากที่นี่เสียตอนนี้…” เมื่อพูดจบเจ้าศักดินาเคนนี่ก็หันหลังและเดินจากไปทั้งน้ำตา
อะไรคือเหตุผลของการเป็นเจ้าศักดินา หากเขาไม่สามารถแม้แต่จะปกป้องผู้หญิงของตัวเองได้!
“เจ้าศักดินาเคนนี่…” โมนิก้าสะอื้นไห้ในขณะที่เธอเรียกเขา เธอมองตามหลังเขาและพูดขึ้นว่า “ดูแลตัวเองด้วยเจ้าศักดินาเคนนี่…”
แม้แต่แอมโบรสเองก็ร้องไห้เมื่อเขาได้ยินคำล่ำลาจากเจ้าศักดินาเคนนี่ “คุณพ่อครับ ผมไม่อยากจากคุณพ่อไป…”
เจ้าศักดินาเคนนี่ไม่ตอบและไม่ได้หันกลับมา เพราะเขากลัวว่า ถ้าหากเขาหันหลังกลับมา เขาจะทนคิดถึงพวกเขาไม่ไหว
ไม่นานไทเลอร์ก็พาโมนิก้าและแอมโบรสออกทางประตูหลังของพระราชวังกวนเป๋ง
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของพวกเขาค่อย ๆ หายไป เจ้าศักดินาเคนนี่ก็หันกลับมาทันที วินาทีต่อมา เขาก็สะอื้นไห้อย่างควบคุมไม่ได้
‘ยอดรัก! แอมโบรส! โปรดดูแลตัวเองด้วย!’
…
อีกด้านหนึ่ง ณ คฤหาสน์ของฟลอเรียน ดาร์บี้
ภายในห้องโถง ฟลอเรียนและยูมิกำลังนั่งอยู่ที่นั่นด้วยใบหน้าที่ตรึงเครียด
คนรับใช้กำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าของพวกเขา
“มาสเตอร์ดาร์บี้ โมนิก้าและลูกชายของเธอกำลังออกจากพระราชวังกวนเป๋งไป และดูเหมือนว่าพวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังจักรวาลโลก!” เขาเป็นคนรับใช้ที่ติดตามฟลอเรียนและยูมิมานานหลายปี ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าพวกเขาเกลียดแดร์ริลมากแค่ไหน
“อะไรนะ?” ใบหน้าสวยของยูมิเดือดดาลทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น “ทุกคนก็ได้ยินว่าจักรพรรดิแห่งโลกใหม่เพิ่งจะออกคำสั่งให้เจ้าศักดินาเคนนี่ประหารชีวิตนังนั่น แต่เจ้าศักดินาเคนนี่กลับแอบปล่อยนังนั่นและลูกชายของมันหนีไปงั้นเหรอ?”
ยูมิเดือดดาล เธอตัวสั่นเทาเพราะความโกรธและความเกลียดชัง
บัดซบ!
ยูมิต้องใช้ความพยายามในการจัดการกับโมนิก้าเป็นอย่างมาก แต่แล้วผู้หญิงของแดร์ริลก็ยังมีชีวิตรอดมาได้ และสิ่งที่เธอคาดไม่ถึง คือการที่เจ้าศักดินาเคนนี่ยอมต่อต้านคำสั่งของจักรพรรดิแห่งโลกใหม่เพื่อช่วยเหลือเธอ โมนิก้าเป็นเพียงผู้หญิงชั่ว แต่ทำไมเธอถึงมีชีวิตรอดไปได้
คนรับใช้กล่าวต่อด้วยความเคารพ “นายหญิง ผมจำได้แน่นอน คนที่พาโมนิก้าและลูกชายของเธอออกไปคือไทเลอร์ กิลล์ องครักษ์ส่วนตัวของเจ้าศักดินาเคนนี่ เบรด!”
ยูมิรู้สึกเศร้าใจและท้อแท้เมื่อได้ยินเช่นนั้น
“คุณจะโมโหไปทำไมที่รัก…” ฟลอเรียนยิ้มและพูดต่อ “เราก็แค่จัดการกับสองแม่ลูกนั่นก่อนที่พวกเขาจะกลับไปถึงยังจักรวาลโลกยังไงล่ะ! การเดินทางไปยังจักรวาลโลกต้องใช้เวลานาน ดังนั้นเราก็แค่ส่งคนไปฆ่าพวกเขาซะ!”
ความโหดร้ายปรากฎขึ้นในดวงตาของฟลอเรียน จากนั้นเขาก็พูดต่อ “มีเพียงไทเลอร์ที่ติดตามสองแม่ลูกนั้นไป เขาอาจจะแข็งแกร่งแต่เขาก็ไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้หลายคนได้หรอกจริงไหม?”
เมื่อได้ยืนเช่นนั้น ดวงตาของยูมิก็เป็นประกายขึ้นทันที “เป็นแผนการที่ไม่เลว!”
ในเวลานั้น ยูมิก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เธอจึงพูดหยอกล้อฟลอเรียนว่า “แต่ว่าลูกของผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของแดร์ริล เพราะฉะนั้น เขาก็มีสายเลือดของตระกูลดาร์บี้ และเขาก็จะต้องเรียกนายว่าคุณลุง นายแน่ใจแล้วหรือว่านายเต็มใจที่จะทำโหดเหี้ยมกับเด็กคนนั้น?”
“ตระกูลดาร์บี้เหรอ?”
ฟลอเรียนเย้ยหยัน “ผมตัดความสัมพันธ์กับพวกดาร์บี้ไปนานแล้ว ตั้งแต่ที่ผมถูกนิกายพวกนั้นไล่ตามที่หอคอยดาวปรารถนา ความสัมพันธ์ของผมกับแดร์ริลก็จบลงแล้ว เพราะฉะนั้น ผมจึงเต็มใจที่จะฆ่าลูกของเขา ขอเพียงแค่คุณมีความสุข!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ยูมิก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ปากหวานดีหนิ!”
จากนั้นฟลอเรียนก็สั่งให้คนสนิทของเขานำคนไปฆ่าโมนิก้าและลูกชายของเธอ
รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของยูมิ
‘แดร์ริล โดน็อก ดิกสันทรมานฉันเพราะแก! ถึงตาฉันเอาคืนแกบ้างแล้ว’
…
ที่ถนนบนภูเขานอกเมืองหลวง
โมนิก้าจับมือแอมโบรสเดินไปภายใต้การคุ้มครองของไทเลอร์
ตลอดการเดินทาง โมนิก้ารู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก เธอเคยคิดว่าเธอคงจะรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อเธอได้กลับไปยังจักรวาลโลก แต่โมนิก้าไม่คิดเลยว่า เธอจะไม่เต็มใจจากไปเช่นนี้
โมนิก้ารู้สึกผิดต่อเจ้าศักดินาเคนนี่เป็นอย่างยิ่ง เขาปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดีแต่เธอกลับสร้างปัญหาให้กับเขามาตลอด
แอมโบรสร้องไห้ตลอดทาง เขาเติบโตขึ้นในพระราชวังกวนเป๋งและไม่เคยเดินทางไกลเช่นนี้มาก่อน และคำร่ำลาของเจ้าศักดินาเคนนี่ก่อนหน้านี้ ก็ทำให้จิตใจของเด็กชายโศกเศร้าเป็นอย่างมาก