คุณสามีแห่งปาฏิหาริย์ - บทที่ 1177
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1177
“รีบออกไปจากที่นี่กันก่อน” เซเลสเต้พูดเบา ๆ
ขณะที่พูดเช่นนั้น เซเลสเต้ก็กระตุ้นพลังภายในเพื่อทำลายโซ่โลหะบนร่างกายของเจ้าศักดินาเคนนี่ จากนั้นเธอก็พาเขาบินขึ้นไปในอากาศอย่างรวดเร็ว
เพชฌฆาตตะโกนขึ้นด้วยความตื่นตระหนก “รีบตามพวกเขาไปเดี๋ยวนี้! เร็วเข้า!”
จากนั้น ทหารที่เหลือก็รีบวิ่งตามเซเลสเต้และเจ้าศักดินาเคนนี่ไป แต่พวกเขาจะตามเซเลสเต้ด้วยความสามารถที่อ่อนแอเช่นนี้ได้อย่างไร? ในไม่ช้า ร่างของเธอและเจ้าศักดินาเคนนี่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว
ฝูงชนต่างก็ตกตะลึงกับภาพที่เห็น
“เธอเป็นเทพธิดาหรือเปล่า?”
“เจ้าศักดินาเคนนี่ช่างโชคดี ที่มีผู้หญิงที่งดงามเช่นนั้นมาช่วยเอาไว้!”
“หากเธอเป็นเทพธิดาจากสรวงสวรรค์ นั่นก็ถือเป็นการตายที่คุ้มค่า”
ในเวลานั้น เซเลสเต้พาเจ้าศักดินาเคนนี่บินขึ้นไปบนยอดเขาแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของเมืองหลวง ฝนที่โปรยลงมาก่อนหน้านี้ได้หยุดลง เหลือเพียงลมหนาวที่ผ่านพัดมาเท่านั้น
เจ้าศักดินาเคนนี่มองดูเซเลสเต้อย่างสงสัย “คุณเป็นใคร? ทำไมคุณถึงช่วยผม?”
เซเลสเต้มองดูเจ้าศักดินาเคนนี่อย่างใจเย็นและพูดขึ้นว่า “คุณไม่จำเป็นต้องรู้ชื่อฉัน ฉันเป็นเจ้าสำนักสุญตา ส่วนเหตุผลที่ฉันช่วยชีวิตคุณนั้น…”
เซเลสเต้ถอนหายใจก่อนจะพูดต่อว่า “ในตอนนั้นคุณได้ใช้เงินจำนวนมากเพื่อจ้างวานสำนักสุญตาของเราในการลอบฆ่าแดร์ริล ดาร์บี้ แต่พวกเรากลับทำภารกิจไม่สำเร็จ ดังนั้นพวกเราจึงเป็นหนี้บุญคุณคุณ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ฉันช่วยเหลือคุณ และตอนนี้ก็ถือว่าเราหายกันแล้ว”
เจ้าศักดินาเคนนี่เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างขมขื่น เขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจ ก่อนหน้านี้เขาได้พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อฆ่าแดร์ริล เพราะเจ้าศักดินาเคนนี่ต้องการให้ทำเขาหายไปจากชีวิตของโมนิก้า
แต่ถึงอย่างนั้น โชคชะตาก็ได้กำหนดเอาไว้แล้วว่าเจ้าศักดินาเคนนี่และโมนิก้าจะต้องแยกจากกัน!
‘โชคดีที่แดร์ริลยังไม่ตาย ถ้าไม่อย่างนั้นยอดรักของฉันคงจะไม่มีใครให้พึ่งพา’ เจ้าศักดินาเคนนี่ครุ่นคิด
จากนั้นเจ้าศักดินาเคนนี่ก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้
“เจ้าสำนักสุญตา คุณช่วยทำตามคำขอของผมสักอย่างได้ไหม?” เขากล่าวขอร้องด้วยดวงตาที่ดูสิ้นหวัง
‘เจ้าศักดินาเคนนี่ต้องการอะไร?’ เซเลสเต้สงสัย
เซเลสเต้ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นเธอก็พยักหน้าก่อนจะพูดขึ้นว่า “คุณอยากขอร้องอะไรล่ะ?”
“ผมไม่สนใจว่าผมจะมีชีวิตอยู่ต่อหรือไม่ เพราะผมสามารถแลกชีวิตของผมกับคนคนหนึ่งได้ เพราะว่าคนคนนั้น เขาเป็นเพียงแค่เด็กและมีอายุเพียงแค่สองขวดเท่านั้น เด็กคนนั้นมีชื่อว่าแอมโบรส ดาร์บี้ ตอนนี้เขาถูกกักขังอยู่ในห้องขังภายในพระราชวัง ถ้าหากคุณยอมช่วยผม ผมจะทำทุกอย่างตามที่คุณต้องการ!” เขาพูดด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น
‘อะไรนะ? เด็กคนนั้นมีนามสกุลดาร์บี้?’
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซเลสเต้ก็อดไม่ได้ที่จะถามเจ้าศักดินาเคนนี่ว่า “คุณมีความเกี่ยวข้องกับเด็กคนนั้นยังไง?”
เจ้าศักดินาเคนนี่ยิ้ม “เด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของผม แต่ผมรักเขาเหมือนลูกของผมเอง”
‘ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเขางั้นเหรอ?’
ใบหน้าที่สวยงามของเซเลสเต้เต็มไปด้วยความสับสน “เจ้าศักดินาเคนนี่ คุณต้องการเอาชีวิตของคุณเข้าแลกกับเด็กที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับคุณอย่างนั้นเหรอ?”
เจ้าศักดินาเคนนี่ไม่ต้องการพูดอะไรอีก เขารีบคำนับเซเลสเต้ทันที “ได้โปรดช่วยผมด้วยเจ้าสำนักสุญตา”
เมื่อเห็นว่าเขามีความมุ่งมั่นและจริงใจมากเพียงใด เซเลสเต้ก็พยักหน้าและพูดขึ้นว่า “ก็ได้ ฉันจะช่วยคุณเอง คุณรอฉันอยู่ที่นี่ ถ้าหากว่าฉันสามารถช่วยเขาออกมาได้ คุณก็ไปกับเขาได้เลย แต่ถ้าไม่ ฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้”
เมื่อพูดจบ เซเลสเต้ก็กระโดดขึ้นและลอยไปในอากาศเพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงทันที
“ขอบคุณเจ้าสำนัก!” เจ้าศักดินาเคนนี่ดีใจมาก เขารีบคุกเข่าลงบนพื้นทันที
ทั้งชีวิตของเขา เขาจะคุกเข่าต่อสรวงสวรรค์ ผืนดินและองค์จักรพรรดิเท่านั้น! อย่างไรก็ตาม เขาเต็มใจที่จะสละศักดิ์ศรีทั้งหมดของเขาเพื่อชีวิตของแอมโบรส!
ผ่านไปไม่นาน เซเลสเต้ก็กลับมาด้วยใบหน้าที่มืดมนขณะที่เธอถือกระดาษแผ่นหนึ่งอยู่ในมือ
“เป็นยังไงบ้างเจ้าสำนัก?” เจ้าศักดินาเคนนี่รีบเดินไปข้างหน้าและถามเธออย่างกระวนกระวาย
เซเลสเต้ถอนหายใจเบา ๆ จากนั้นเธอก็ส่งกระดาษในมือให้เจ้าศักดินาเคนนี่ก่อนจะพูดขึ้นว่า “เด็กคนนั้นได้รับการช่วยเหลือไปแล้ว เมื่อคืนนี้ เจ้าหญิงอีเวตต์บุกเข้าไปในห้องขังและพาเขาหนีออกไป ตอนนี้ทั้งเมืองกำลังตามหาพวกเขาทั้งคู่โดยการติดประกาศภาพวาดของพวกเขาที่ในเมืองหลวงหลายแห่ง”
‘อะไรนะ? เจ้าหญิงอีเวตต์ช่วยแอมโบรสงั้นเหรอ?’ หัวใจของเจ้าศักดินาเคนนี่เต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อได้ยินเช่นนั้น
จากนั้นเขาก็รับกระดาษมาและอ่านดู มันเป็นการประกาศจับโดยมีภาพวาดใบหน้าของอีเวตต์และแอมโบรสอยู่ โดยที่ใต้รูปภาพถูกเขียนเอาไว้ว่า ‘ต้องการ! ผู้ใดพบเห็นจะได้รับเงินรางวัลนำจับ 20,000 เหรียญ!’
“เจ้าศักดินาเคนนี่ ในเมื่อเด็กคนนั้นปลอดภัยแล้วถ้าเช่นนั้นฉันต้องขอตัวก่อน โปรดดูแลตัวเองด้วย!” เซเลสเต้พูดกับเขาก่อนที่เธอจะเดินจากไป
เจ้าศักดินาเคนนี่ยังคงตกตะลึง เขามองดูการจากไปของเซเลสเต้อย่างเหม่อลอย ไม่นานเขาก็เงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้าและหัวเราะออกมาทันที
‘แอมโบรสปลอดภัยแล้ว! เมื่อแอมโบรสปลอดภัยแล้ว ฉันก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลอีก!’
เจ้าศักดินาเคนนี่คิดบางอย่างขึ้นมาได้ภายในใจ จากนั้นเขาก็เดินต่อไปทันที
สิบกว่าปีที่ผ่านมา เขาจงรักภักดีต่อราชวงศ์มาโดยตลอด แต่เขาต้องกลับกลายมาเป็นเช่นนี้ได้!