คุณสามีแห่งปาฏิหาริย์ - บทที่ 1183
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1183
“เจ้ากล้าดียังไงถึงได้ไปยั่วยุเจ้าหน้าที่ สแตนลีย์! เจ้าช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”
จักรพรรดินีหันมองแดร์ริลและพูดอย่างอ่อนโยนว่า “แดร์ริล ทำไมเจ้าไม่ลองแต่งบทกวีให้ข้าฟังดูบ้างล่ะ? ในเมื่อเจ้าบอกว่าบทกวีของสแตนลีย์ฟังดูธรรมดา ๆ เท่านั้น”
น้ำเสียงอันอ่อนโยนของเธอฟังดูมีอำนาจอย่างไม่ต้องสงสัย!
ในเวลานั้น จักรพรรดินีกำลังสงสัยในตัวแดร์ริล ขันทีผู้นี้สามารถใช้มดในการร้อยด้ายแดงได้ นั่นหมายความว่าเขาจะต้องมีพรสวรรค์บางอย่างเมื่อเขากล่าวว่าบทกวีของสแตนลีย์ฟังดูธรรมดา หรือว่าเขาจะมีความสามารถในการแต่งบทกวี?
เมื่อจักรพรรดินีพูดเช่นนั้น บรรยากาศทั้งพระราชวังเมฆารุ่งโรจน์จึงตกอยู่ในความเงียบงันทันที
“เอ่อ…” แดร์ริลเกาหัวและพูดกับจักรพรรดินีอย่างสุภาพว่า “ถ้าอย่างนั้นขอผมคิดดูก่อน”
ในจักรวาลโลกมีบทกวีเกี่ยวกับหิมะมากมาย แต่ถึงอย่างนั้นจักรพรรดินีอาจจะได้อ่านบทกวีโบราณของจักรวาลโลกแล้ว เนื่องจากม่านเวทมนต์ระหว่างเก้าแผ่นดินใหญ่ได้หายไป ดังนั้นแดร์ริลจึงไม่ควรจะท่องบทกวีเหล่านั้นให้เธอฟัง
แต่ถึงอย่างนั้นแดร์ริลก็ไม่ได้ตื่นตระหนก เนื่องจากภายในเจดีย์เจ็ดมหาสมบัติของเขามีผู้ที่มีความสามารถมากอยู่ตั้งมากมาย
แดร์ริลแสร้งทำเป็นขมวดคิ้วและทำท่าครุ่นคิดก่อนที่เขาจะแอบสื่อสารกับผ่างตงที่อยู่ในเจดีย์ เจ็ดมหาสมบัติ
“ผ่างตง ฉันแน่ใจว่าการแต่งบทกวีนิพนธ์ไม่ใช่เรื่องที่ท้าทายสำหรับคุณ เพราะคุณเป็นถึงนักยุทธศาสตร์ที่มีชื่อเสียงจากยุคสามก๊ก” แดร์ริลกล่าว
ในไม่ช้า น้ำเสียงที่ฟังดูมั่นอกมั่นใจของผ่างตงก็ดังขึ้น “แน่นอนนายท่าน แต่ถึงแม้ว่าผมจะรู้เกี่ยวกับบทกวีนิพนธ์ แต่ผมก็ไม่สามารถคิดผลงานชิ้นเอกออกมาได้ในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้นขอเวลาผมคิดสักครู่หนึ่ง แต่มั่นใจได้เลยว่าบทกวีที่ผมแต่งนั้นจะต้องฟังดูไพเราะเสนาะหูอย่างแน่นอน”
ไม่มีใครได้ยินการสนทนาระหว่างแดร์ริลและผ่างตง ดังนั้นทุกคนจึงคิดว่าเขาไม่สามารถแต่งบทกวีได้เมื่อพวกเขาเห็นว่าเขายังยืนอยู่ที่นั่นอย่างงุนงง
จากนั้นเสียงหัวเราะจากผู้คนก็ระเบิดขึ้นทันที
“ฮ่าฮ่า! ขันทีผู้นี้หาเรื่องใส่ตัว”
“ใช่! เขาเป็นเพียงแค่ขันที แล้วเขาจะสามารถแต่งบทกวีได้ยังไง?”
แดร์ริลมีสีหน้าเมินเฉยในขณะที่เสียงเยาะเย้ยยังคงดังขึ้นจากฝูงชน
สามนาทีต่อมา แดร์ริลก็หันมองไปยังจักรพรรดินีด้วยรอยยิ้มและพูดขึ้นว่า “ฝ่าบาท ผมมีบทกวีบทหนึ่ง!”
‘อะไรนะ? เขาแต่งบทกวีได้จริง ๆ เหรอ?’
พวกเขาทั้งตกใจและตกตะลึง
‘นี่…นี่มันเร็วมาก! ขันทีผู้นี้สามารถแต่งบทกวีได้ในเวลาอันสั้นเช่นนี้ได้ยังไง?’
จากนั้นพวกเขาก็เหลียวมองหน้ากันด้วยสีหน้าที่ งุนงง แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็สงบสติอารมณ์ได้ในไม่ช้า เพราะพวกเขาคิดว่า ถึงแม้ว่าขันทีผู้นี้จะสามารถแต่งบทกวีได้ในระยะเวลาอันสั้น แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าบทกวีของเขาจะน่าฟัง เพราะแม้แต่อัจฉริยะทางวรรณกรรมผู้ยิ่งใหญ่ ก็ยังไม่สามารถแต่งบทกวีอันไพเราะออกมาได้ในเวลาอันสั้น ดังนั้นบทกวีของขันทีผู้นี้ก็คงฟังไม่ได้’
จักรพรรดินี้ไม่ได้พูดอะไร เธอเพียงพยักหน้าเพื่อส่งสัญญาณให้แดร์ริลเริ่มท่องบทกวี
แดร์ริลกระแอมในลำคอเบา ๆ จากนั้นเขาก็ยืนขึ้นและยกมือไขว้หลังอย่างสง่าราวกับว่าเขากำลังท่องบทกวีอันยิ่งใหญ่
“หิมะร่วงโรยโปรยปรายทุกทางทิศ
“เปลี่ยนผืนฟ้าและโลกกว้างให้เป็นสีขาว
“ข้าเดินย่ำลงบนมวลหิมะอย่างแผ่วเบา
“เพื่อสัมผัสกับลมหนาวในดินแดนสีขาวอันบริสุทธิ์”
เมื่อท่องบทกวีจบ แดร์ริลก็เหลือบมองไปยังสแตนลีย์และถามขึ้นว่า “มาสเตอร์สแตนลีย์ บทกวีของผมเป็นยังไงบ้าง?”
ทุกคนตกตะลึง!
ในเวลานั้นบรรยากาศทั้งพระราชวังเมฆารุ่งโรจน์ตกอยู่ในความเงียบสงบอีกครั้งจนได้ยินแม้แต่เสียงเข็มหล่น!
พวกเขายังคงหลงใหลอยู่ในบทกวีของแดร์ริล
สแตนลีย์ยืนตัวแข็งทื่อและพูดไม่ออกอยู่นานขณะที่เขาจ้องหน้าแดร์ริลด้วยความงุนงง
จักรพรรดินียิ้มให้แดร์ริล ในเวลานั้นเธอก็อดไม่ได้ที่จะท่องบทกวีของแดร์ริลอย่างแผ่วเบา
“หิมะร่วงโรยโปรยปรายทุกทางทิศ
“เปลี่ยนผืนฟ้าและโลกกว้างให้เป็นสีขาว
“ฉันเดินย่ำลงบนมวลหิมะอย่างแผ่วเบา
“เพื่อสัมผัสกับลมหนาวในดินแดนสีขาวอันบริสุทธิ์”
บทกวีนี้ช่างเป็นบทกวีที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ!