คุณสามีแห่งปาฏิหาริย์ - บทที่ 1226
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1226
“แดร์ริล นายได้เข่นฆ่าผู้คนของโลกใหม่ไปนับไม่ถ้วนแล้ว นายจะยอมปล่อยความคับข้องใจนี้ไปไม่ได้หรอ?” อีเวตต์กระทืบเท้าอย่างกระวนกระวาย
แดร์ริลยังคงนิ่งเงียบ
อีเวตต์กระวนกระวาย เมื่อเธอนึกบางอย่างขึ้นมาได้เธอจึงพูดขึ้นว่า “แดร์ริล นายจำตอนที่ลีรอยดูดกลืนพลังวิญญาณของอีวอนน์เมื่อสิบปีก่อนได้ไหม? ฉันได้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้และนายก็ได้ให้สัญญาว่านายจะตอบแทนบุญคุณฉัน”
จากนั้น อีเวตต์ก็พูดต่อว่า “และในตอนนี้ฉันต้องการให้นายไว้ชีวิตพ่อของฉันเพื่อตอบแทนบุญคุณของฉัน!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น แดร์ริลก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ หลังจากเงียบไปหลายนาที จากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า “ก็ได้!”
แดร์ริลตอบด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูหงุดหงิด
แดร์ริลต้องรักษาคำพูดถึงแม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจทำเช่นนั้น นอกจากนั้นเขาก็ได้ฆ่าเลขาธิการแคว้นโลกใหม่เพื่อแก้แค้นให้กับอาจารย์ของเขาแล้ว
แดร์ริลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมวางมือ
เมื่อเห็นว่าแดร์ริลยอมตกลงทำตามเงื่อนไข เธอก็รู้สึกดีใจและพูดขึ้นว่า “ดี! นายรับปากฉันแล้ว และนายก็ไม่สามารถกลับคำพูดได้”
ในที่สุดอีเวตต์ก็รู้สึกโล่งใจ
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้แดร์ริลยอมตกลงทำตามคำขอร้องของเธอ เพราะเธอไม่เคยได้เปรียบเขาเลย
จากนั้นอีเวตต์ก็เดินเข้าไปหาแดร์ริลด้วยรอยยิ้ม เธอจับแขนและขาของเขาจากนั้นเธอก็แบกร่างของเขาขึ้นไว้บนหลังและพูดขึ้นว่า “นายกำลังบาดเจ็บ ฉันได้ไปในเมืองเพื่อตามหายามารักษาอาการบาดเจ็บของนายแต่ก็ไม่มี ดูเหมือนว่าเราจะต้องขึ้นไปเก็บสมุนไพรที่บนภูเขาเท่านั้น”
จากนั้นอีเวตต์ก็แบกแดร์ริลเอาไว้บนหลังและเดินไปยังภูเขาที่อยู่ใกล้ ๆ ทันที
แดร์ริลพิงศีรษะลงบนไหล่ของอีเวตต์ เขาสัมผัสได้ว่าร่างกายของเธอมีกลิ่นที่หอมหวานจนทำให้หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะ
แดร์ริลรู้สึกประทับใจ เขาเกือบจะฆ่าพ่อของเธอไปแล้ว แต่เธอก็ยังช่วยเขาเอาไว้
อีเวตต์ค่อย ๆ เดินขึ้นไปที่บนภูเขาโดยมีแดร์ริลอยู่บนหลังของเธอ พวกเขาทั้งสองช่วยกันมองหาโสมและสมุนไพรที่ต้องใช้ในการรักษามาเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่เจอโสมและสมุนไพรดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกหดหู่ และดูเหมือนว่าพวกเขาจะหลงทางอีกด้วย
บนเทือกเขาถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และต้นไม้แต่ละต้นนั้นก็มีขนาดสูงมากกว่าสิบเมตรจนบดบังท้องฟ้า ดังนั้นจึงทำให้พวกเขามองหาทิศทางได้ยาก
อีเว็ตต์เวียนหัวเล็กน้อย แม้แต่แดร์ริลที่คุ้นชินกับการเดินทางในป่าก็ยังรู้สึกสับสน
พวกเขาทั้งคู่เพิ่งจะเคยมายังทวีปโมอาน่าเหนือ เป็นครั้งแรก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของที่นี่
ไม่เพียงแต่พวกเขาจะไม่พบสมุนไพรใด ๆ แต่พวกเขายังหลงทางอยู่ในป่าอีกด้วย
แดร์ริลยิ้มอย่างขมขื่นและพึมพำเบา ๆ ว่า “นี่ก็ใกล้จะมืดแล้วเราไปหาที่พักกันก่อนเถอะ พรุ่งนี้เราค่อยไปตามหาสมุนไพรและโสมกันต่อ”
“แต่ว่า…”
อีเวตต์กัดริมฝีปากแน่น เธอรู้สึกเป็นกังวล “นายจะรอถึงพรุ่งนี้ได้เหรอ?”
อีเวตต์สัมผัสได้ถึงลมหายใจที่อ่อนแรงของแดร์ริล เขาแทบไม่มีเรี่ยวแรงที่จะพูดเลย
ถึงแม้ว่าบาดแผลบนร่างกายของแดร์ริลจะไม่ถึงแก่ชีวิต แต่ถ้าหากว่าไม่รักษาโดยเร็ว อาการของเขาอาจจะต้องแย่ลงไปมากกว่านี้
แดร์ริลสูดหายใจเข้าเต็มปอดและฝืนยิ้มอย่างอ่อนแรง “ฉันทนไหว…”
“ไม่ ฉันจะต้องหาสมุนไพรให้ได้!” อีเวตต์กัดฟันแน่น เธอเป็นคนดื้อรั้น ดังนั้นเธอจึงมองหาสมุนไพรในป่าใหญ่ต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ
“ฉันกระหายน้ำ…มีถ้ำอยู่ใกล้ ๆ เราไปพักผ่อนที่นั่นกันเถอะ พรุ่งนี้เราค่อยออกตามหาสมุนไพรต่อ” ในขณะที่แดร์ริลพูดเช่นนั้น เขาก็ชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง เขาเหลือไปเห็นถ้ำที่อยู่ใกล้ ๆ โดยที่ทางเข้าถ้ำนั้นมีขนาดเล็ก ถ้าหากไม่สังเกตให้ดีก็จะไม่เห็นว่ามีถ้ำอยู่ตรงนั้น
แดร์ริลเหนื่อยมาก เขาอยากจะเข้าไปในถ้ำและนอนหลับให้สบาย
อีเวตต์หันกลับมามองแดร์ริล ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเลือดและมีบาดแผลมากกว่าหนึ่งร้อยแผลบาดที่เริ่มอักเสบ
อีเวตต์ถอนหายใจอย่างสิ้นหวังขณะที่เธอแบกแดร์ริลเข้าไปในถ้ำ จากนั้นเธอก็พูดว่า “ฉันจะปล่อยให้นายพักผ่อนอยู่ในถ้ำ จากนั้นฉันจะออกไปหาสมุนไพรและน้ำดื่มมาให้”
จากนั้นทั้งสองคนก็เข้าไปในถ้ำ
เส้นทางยาวและแคบได้พาพวกเขาเข้าไปในถ้ำที่ยาวและลึก อีเวตต์แบกแดร์ริลเอาไว้บนหลังของเธอและเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง