คุณสามีแห่งปาฏิหาริย์ - บทที่ 1362
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1362
“ผมอยู่นี่แล้วไง” แดร์ริลยิ้มขณะพูดปลอบโยนเธอเบา ๆ “คุณเป็นเจ้าหญิงและพ่อของคุณก็รักคุณมาก และคุณก็สามารถท่องไปทั่วโลกได้ตามที่คุณต้องการ”
ในขณะที่แดร์ริลกล่าวเช่นนั้น เขาก็จ้องมองอีเวตต์ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้สึกเสียใจเช่นกัน
เขาไม่ได้เจออีเวตต์เพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น แต่ใบหน้าของเธอกลับดูซีดเซียวและไม่สดใสเหมือนเมื่อก่อน
“ฉัน…” อีเวตต์ส่ายหน้าด้วยใบหน้าที่ดูขมขื่น “ฉันสูญเสียอิสรภาพไปแล้ว คุณรู้ไหมว่าพ่อของฉันกำลังจะเปิดการประลองเพื่อคัดเลือกสามีให้กับฉัน และฉันก็ยังถูกกักบริเวณอีกด้วย…”
เมื่อพูดจบ น้ำตาก็ไหลลงมาอาบแก้มของเธอทันที
นับตั้งแต่วันที่อีเวตต์กลับมาจากทวีปโมอาน่าเหนือ เธอก็ถูกกักบริเวณอยู่ในพระราชวังเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน
อีเวตต์เป็นคนรักอิสระภาพมาโดยตลอด ดังนั้นการถูกกักบริเวณจึงทำให้เธอเกือบจะเป็นบ้า เช้าวันนี้ เมื่อทหารกำลังจะเปลี่ยนเวรยามอีเวตต์จึงปลอมตัวเป็นผู้ชายและใช้โอกาสนั้นหนีออกมาจากพระราชวัง
เมื่ออีเวตต์เข้ามาถึงในเมืองหลวงเธอก็ได้พบกับแดร์ริลทันที
‘อะไรนะ? การประลองเพื่อคัดเลือกสามี?’ จิตใจของแดร์ริลรู้สึกปั่นป่วนเมื่อได้ยินเช่นนั้น ‘ไม่แปลกเลยที่เธอปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อหนีออกมาจากวังหลวงเพียงลำพัง’
แดร์ริลจ้องหน้าอีเวตต์และพูดขึ้นว่า “คุณไม่ได้บอกพ่อของคุณเหรอว่าเรารักกัน?”
ในขณะที่ถามเช่นนั้น แดร์ริลก็รู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย เขารู้ว่าคำถามของเขาเป็นคำถามที่โง่มาก เขาได้สร้างความเสียหายให้กับพระราชวังแห่งทวีปโลกใหม่เป็นอย่างมาก แล้วจักรพรรดิแห่งโลกใหม่จะยอมยกลูกสาวให้เขาได้อย่างไร?
“ใครรักคุณ?” ใบหน้าของอีเวตต์เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ แต่ถึงแม้ว่าเธอจะพูดเช่นนั้น แต่เธอก็หลงรักเขาจริง ๆ
อีเวตต์กัดริมฝีปากแน่นและพูดต่อว่า “อันที่จริง พ่อของฉันรู้ว่าฉันชอบคุณ แต่เขาไม่ต้องการให้ฉันคบกับคุณ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาต้องการจัดการประลองเพื่อคัดเลือกสามีให้กับฉัน”
จากนั้น เธอก็หันมองเขาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและพูดต่อว่า “แดร์ริล ฉันไม่อยากแต่งงานกับคนอื่น ฉันอยากจะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต คุณจะพาฉันไปกับคุณด้วยได้ไหม?”
ในขณะที่กล่าวเช่นนั้น ดวงตาของอีเวตต์ก็เต็มไปด้วยความหวัง
“แน่นอน!” แดร์ริลตอบโดยไม่คิดแม้แต่วินาทีเดียว
อีเวตต์ต้องทะเลาะกับพ่อของเธอเพื่อเขา ถ้าหากเขาทำให้เธอผิดหวังแล้วเขาจะยังเรียกตัวเองว่าลูกผู้ชายได้อีกเหรอ?
เมื่อได้ยินว่าแดร์ริลยอมตกลงให้เธอติดตามเขาไปด้วย อีเวตต์ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นเธอก็จูบลงบนแก้มของเขาและพูดขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของคุณก่อน เพราะคุณคงไม่สามารถพาฉันไปกับคุณในสภาพเช่นนี้ได้”
“แต่ว่า…” สีหน้าของแดร์ริลมืดลงเล็กน้อยจากนั้น เขาก็กัดฟันแน่นและพูดขึ้นว่า “คุณคงไม่สามารถช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้ผมได้ เพราะเจ้าสำนักสหพันธ์สวรรค์ได้ใช้เทคนิคพิเศษในการหักแขนทั้งสองข้างของผม ดังนั้น ถ้าหากไม่มียาวิเศษที่สามารถรักษากระดูกที่แตกหักได้ ก็คงเป็นเรื่องยากที่แขนของผมจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ แม้แต่ดีไวน์ ฟาร์เมอร์ก็อาจจะช่วยรักษาผมไม่ได้”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น อีเวตต์ก็รู้สึกตื่นตระหนกทันที ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความวิตกกังวล “แล้วเราควรจะทำยังไงกันดี?”
อีเวตต์กำหมัดแน่นและพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงว่า “สำนักสหพันธ์สวรรค์! ถ้าไม่ใช่เพราะว่าฉันมีปัญหากับพ่อ ฉันจะขอให้เขาส่งกองทัพหลวงไปทำลายสำนักสหพันธ์สวรรค์ให้สิ้นซาก!”
เมื่อเห็นว่าอีเวตต์โกรธเพราะเขา เขาก็รู้สึกดีขึ้นมาและเกลี้ยกล่อมเธอเบา ๆ ว่า “อย่าโกรธเลยนะอีเวตต์ การที่ผมยังมีชีวิตอยู่ก็ถือเป็นพรที่ประเสริฐแล้ว ถ้าหากว่าแขนที่หักของผมไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ แต่ผมก็จะไม่โทษใคร แค่มีคุณอยู่ข้าง ๆ ผมก็พอแล้ว”
“ไม่!” อีเวตต์ตั้งใจแน่วแน่ “ฉันจะต้องรักษาคุณให้หายดี! ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับโอสถวิเศษที่เรียกว่า โอสถฟื้นฟูกระดูกมหัศจรรย์ และฉันก็มั่นใจว่ามันจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของคุณได้”
อีเวตต์รู้สึกตื่นเต้นเมื่อเธอกล่าวเช่นนั้น
โอสถฟื้นฟูกระดูกมหัศจรรย์ เป็นโอสถวิเศษที่ราชวงศ์แห่งโลกใหม่มีไว้ในครอบครอง อีเวตต์ยังจำได้ดีว่า เมื่อตอนที่เธอยังเป็นเด็ก เจ้าชายหนุ่มตกจากหลังม้าจนขาหัก ในตอนนั้น พวกเขาได้ใช้โอสถฟื้นฟูกระดูกมหัศจรรย์เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าชาย ต่อมาวันรุ่งขึ้น ขาของเจ้าชายก็หายจนกลับมาเดินได้ตามปกติ โอสถฟื้นฟูกระดูกมหัศจรรย์เป็นสมบัติอันล้ำค่าของราชวงศ์แห่งโลกใหม่ ดังนั้น เธอจึงมั่นใจว่าเธอจะใช้โอสถฟื้นฟูกระดูกมหัศจรรย์เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของแดร์ริลได้
“แดร์ริลรอฉันอยู่ที่นี่นะ ฉันจะกลับไปที่วังสักพัก แล้วฉันจะรีบกลับมาหาคุณทันที”
เมื่อพูดจบ อีเวตต์ก็ยกมือขึ้นจับแก้มของแดร์ริลเบา ๆ และเดินจากไปทันที
แดร์ริลถอนหายใจเฮือกใหญ่
เขาหลงใหลไปกับกลิ่นหอมบนใบหน้าของเธอชั่วขณะ เมื่อเธอออกจากห้องไปแล้ว เขาก็กลับมามีสติทันที
ในเวลานั้น แดร์ริลไม่รู้ว่าเขาจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาทั้งรู้สึกตื้นตันและเป็นกังวล อีเวตต์เพิ่งจะหนีออกจากวังมาได้ไม่นาน แต่แล้วเธอก็ยอมเสี่ยงเดินทางกลับไปที่หวังเพราะเขา
ขณะที่คิดเช่นนั้น แดร์ริลก็สวดภาวนาให้เธอกลับมาหาเขา
‘อีเวตต์ เธอจะต้องกลับมาหาฉันอย่างปลอดภัย’
หลังจากที่เขาสวดภาวนา แดร์ริลก็นั่งขัดสมาธิลงบนเตียงและพยายามฟื้นฟูพลังภายในของเขา
ถึงแม้ว่าแขนทั้งสองข้างของเขาจะหักและได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้ส่งผลต่อความพยายามในการฟื้นฟูพลังภายในของเขาเลย