คุณสามีแห่งปาฏิหาริย์ - บทที่ 1406
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1406
หลังจากดื่มไวน์แล้ว อีเวตต์ก็ใช้ตะเกียบคีบถั่วลิสงขึ้นมาป้อนให้แดร์ริลและพูดขึ้นว่า “อ้าปากสิฉันจะป้อนคุณเอง”
“คุณช่างดีกับผมเหลือเกิน ผมจะรินไวน์ให้คุณเอง!”
ใบหน้าของอีเวตต์กลายเป็นสีแดงเล็กน้อย “ฉันเป็นผู้หญิงของคุณ ปล่อยให้ฉันได้ปรนนิบัติคุณเถอะ…”
พวกเขาพูดจากระหนุงกระหนิง จนพวกเขาเกือบจะลืมไปว่าสโลนก็อยู่ที่นั่นกับพวกเขา
แน่นอนว่าพวกเขากำลังตั้งใจแสดงให้สโลนดู
แค่มองตาก็รู้ใจ ดังนั้นพวกเขาจึงเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย แดร์ริลและอีเวตต์ยังคงทำตามแผนต่อไปโดยการแสดงความรักราวกับคู่แต่งงานใหม่ และเมื่อเป็นเช่นนั้น สโลนจะได้ปล่อยให้พวกเขาได้อยู่กันสองต่อสอง
“พวกคุณสองคน…”
สโลนกระทืบเท้าด้วยความโกรธเมื่อได้เห็นว่าแดร์ริลและอีเวตต์ปฏิบัติราวกับว่าเธอเป็นอากาศ
สโลนทนดูพวกเขากอดกัน รินไวน์ให้กันและป้อนกับแกล้มให้กันไม่ได้!
“แดร์ริล!”
สโลนกล่าวขึ้นอย่างหมดความอดทน “หมดเวลาแล้วแดร์ริล! คุณในฐานะประมุขสำนักประตูสุราลัย ดังนั้น คุณควรจะรักษาคำพูด! กรุณาออกไปเดี๋ยวนี้ก่อนที่จะมีใครมาเห็น”
“ใจเย็น ๆ ก่อนสิสโลน! เธอจะรีบไล่ฉันไปไหน? ฉันเพิ่งดื่มไวน์ไปแค่สองแก้วเอง ทำไมเธอไม่มานั่งดื่มกับพวกเราล่ะ?”
แดร์ริลกล่าวในขณะที่แขนของเขาโอบรอบเอวที่บอบบางของอีเวตต์เอาไว้แน่น “มาดื่มด้วยกันสิ เราทั้งคู่ไม่รังเกียจหรอก จริงไหมอีเวตต์?”
แดร์ริลหัวเราะเบา ๆ
‘เธอคงจะทนไม่ไหวแล้วใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นเธอก็ควรจะออกไป และปล่อยให้พวกเราได้อยู่กันสองต่อสองสิ!’
“ใช่แล้ว! มาดื่มกับพวกเราสิสโลน” อีเวตต์กล่าวพร้อมพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
แม้ว่าอีเวตต์จะพูดด้วยรอยยิ้ม แต่ภายในใจเธอกลับรู้สึกเป็นกังวล
‘ทำไมสโลนถึงไม่ยอมออกไปและปล่อยให้พวกเราได้อยู่ด้วยกันตามลำพังนะ? แล้วแบบนี้ฉันจะหนีออกไปกับแดร์ริลได้ยังไง?’
“ฉัน…”
สโลนกัดริมฝีปากแน่น จากนั้นเธอก็กล่าวปฏิเสธ “ฉันไม่ดื่ม”
แดร์ริล เอนตัวลงบนที่นอนและพูดขึ้นว่า “เฮ้อ! ผมเมามากเลย! อีเวตต์ เตียงของคุณนุ่มมากจนผมอยากจะนอนอยู่ที่นี่จริง ๆ”
จากนั้น แดร์ริลก็ยกมือตบลงบนเตียงและกล่าวขึ้นว่า “อีเวตต์มานอนข้าง ๆ ผมสิ!”
อีเวตต์รู้ว่าแดร์ริลกำลังเล่นละคร ดังนั้นเธอจึงนอนลงข้าง ๆ เขาอย่างไม่ลังเล “ได้เลย! มาให้ฉันนวดให้คุณนะ!”
เมื่อพูดจบ อีเวตต์ก็ยกมือขึ้นและนวดไหล่ทั้งสองข้างให้แดร์ริลอย่างอ่อนโยน
สโลนรู้สึกกระอักกระอ่วนจนใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง
‘อะไร? นี่พวกเขาจะทำอะไรมากกว่านี้อีกหรือเปล่า?’
สโลนรู้สึกกระวนกระวายจนไม่สามารถนั่งนิ่ง ได้อีกต่อไป เธอไม่เคยคิดเลยว่าอีเวตต์จะร้อนแรงมากเช่นนี้
มันน่าอายเกินไป!
‘ฉันควรจะอยู่ดูพวกเขาทำอะไรกันงั้นเหรอ?’
สโลนกัดริมฝีปากแน่นและกำลังจะเดินจากไป
“จักรพรรดิเสด็จ!”
ทันใดนั้น เสียงของขันทีผู้หนึ่งก็ดังขึ้นจาก ข้างนอกก่อนที่เสียงฝีเท้าจะค่อย ๆ ก้าวเข้ามาใกล้ห้องนอนของอีเวตต์
‘อะไรนะ?’