คุณสามีแห่งปาฏิหาริย์ - บทที่ 1483
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1483
ตั้งแต่ที่เธอได้ยินข่าวว่าแดร์ริลนั้นตายไปแล้วที่คูน้ำในเมือง อีเวตต์ก็รู้สึกราวกับว่า ทั้งโลกของเธอได้ล่มสลายไปแล้ว
แม้ว่าเธอจะถูกขอให้เข้าร่วมชมการแข่งขันร่วมกับสมาชิกราชวงศ์คนอื่น ๆ ในช่วงหลายวันมานี้ แต่ใจของเธอก็ว่างเปล่าเคว้งคว้าง เธอคิดถึงเพียงแดร์ริลตลอดเวลา
เมื่อมาถึงวันรอบรองชนะเลิศของศึกประลองยุทธ จักรพรรดิแห่งโลกใหม่และบรรดาเสนาบดีต่างก็ไม่สามารถเข้าร่วมชมที่สถานที่จัดการแข่งขันได้ ดังนั้นอีเวตต์จึงมีเวลาว่างได้พักผ่อน
เธอไม่ได้ทานอะไรเลยทั้งวัน เพราะว่าเธอนั้นคิดถึงแดร์ริลมากเหลือเกิน
“เจ้าหญิง” ตอนนั้นเองสาวสวยเย้ายวนก็เดินเข้ามาให้ห้องนอนของเธอ หล่อนดูฉลาดและสวยยั่วยวนนัก… เธอคือสโลนนั่นเอง
สโลนถือรายชื่อผู้ชนะอยู่ในมือพร้อมยิ้ม
เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงตัวอีเวตต์และเห็นว่าอีเวตต์ดูโศกเศร้าแค่ไหน สโลนก็อดถอนใจไม่ได้ เธอปลอบองค์หญิงอย่างนุ่มนวล “องค์หญิง พระองค์ยังทรงคิดถึงแดร์ริลอยู่หรือเพคะ?”
ขณะที่พูดเช่นนั้น ตัวสโลนเองก็ดูเศร้าและรู้สึกหม่นหมองในใจเช่นกัน
สโลนเองก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่ว่าทุกครั้งที่เธอพบแดร์ริล เธอจะต้องรู้สึกหงุดหงิดใจและอยากจะสั่งสอนบทเรียนให้เขา แต่เมื่อได้รู้ว่าแดร์ริลตายไปแล้วเธอก็รู้สึกเศร้าอย่างไม่น่าเชื่อ
อีเวตต์ไม่ตอบอะไร ได้แต่เพียงเหม่อมองไปยังท้องฟ้าเบื้องหน้า
อึดใจต่อมาอีเวตต์ก็หันหน้ามาจ้องมองสโลนใกล้ ๆ “พี่สโลน เสด็จพ่อทรงพูดปลดใช่ไหม? แดร์ริลยังไม่ตายใช่ไหม? เขาคงไม่ตายจากไปง่ายดายเพียงนี้?”
เธอผ่านความเป็นความตายกับชายคนนั้นมาหลายครั้งหลายหน เขาหลบเลี่ยงจากอันตรายได้ทุกครั้งแล้วเขาจะมาตายในคูน้ำแบบนั้นได้อย่างไรกัน?
เพราะความเจ็บปวดและความโศกเศร้าของเธอ อีเวตต์ดื้อดึงไม่ยอมรับว่าแดร์ริลนั้นตายจากไปแล้ว
“องค์หญิงเพคะ” สโลนรู้สึกปวดใจเมื่อได้เห็นความเจ็บปวดของอีเวตต์ เธอจับมืออีเวตต์ไว้และปลอบ “ทรงอย่าเป็นเช่นนี้เลย แดร์ริลตายแล้ว หม่อมฉันไปตรวจดูด้วยตัวเองกับลีโอนาร์โดก่อนหน้านี้ เขาเห็นแดร์ริลตกไปในคูน้ำด้วยตาตัวเอง แล้วแดร์ริลก็ไม่โผล่ขึ้นมาอีกเลย องค์หญิงเพคะ เขาตายไปแล้วและไม่มีทางกลับคืนมาได้อีก ได้โปรดลืมเขาเถิดเพคะ!”
สโลนดูผ่อนคลายเมื่อเธอยิ้ม “หม่อมฉันนำรายชื่อผู้ชนะของรอบรองชนะเลิศวันนี้มา ลองทอดพระเนตรเถิดเพคะ พระองค์จะได้ทรงเห็นบางอย่างที่น่าสนใจ”
สโลนยื่นรายชื่อผู้ชนะมาให้
แม้ว่าเธอจะยังรู้สึกเสียใจกับการตายของแดร์ริล แต่ทุกคนต่างก็ต้องเดินต่อไปข้างหน้า เธอเองก็ไม่อยากให้อีเวตต์ต้องใช้ชีวิตจมอยู่กับความทุกข์
อีกอย่างมีชั้นสูงมากมายในการประลองยุทธเลือกคู่นี้
“ฉันไม่อยากดู” อีเวตต์ส่ายหน้าโดยไม่คิดขณะที่เธอผลักรายชื่อผู้ชนะออกไป “ไม่ว่าพวกผู้เข้าร่วมประลองจะเป็นใคร ฉันก็ไม่อยากจะได้ยินอะไรเกี่ยวกับพวกเขาทั้งนั้น!”
ไม่ว่าผู้เข้าร่วมประลองจะเก่งกาจแค่ไหน พวกเขาก็ไม่มีทางดีเท่าแดร์ริลได้ในใจเธอ
สโลนยิ้มอย่างขมขื่นแล้ววางรายชื่อผู้ชนะไว้ด้านข้างก่อนบอกอย่างอ่อนโยนว่า “มีอยู่คนหนึ่งชื่อว่าลูก้า มูนไลท์ ที่ผ่านรอบรองชนะเลศวันนี้ เขาอยู่แค่ขั้นปราชญ์ยุทธเท่านั้นแต่ว่าเขาได้ลำดับที่สาม พระองค์จะไม่ทรงดำริว่ามันแปลกไปหน่อยหรือเพคะ?”
สโลนจ้องมองดูการเปลี่ยนแปลงของสีหน้าอีเวตต์
ความสัมพันธ์ระหว่างสโลนและอีเวตต์นั้นเป็นเหมือนพี่สาวน้องสาว เธอไม่อยากให้อีเวตต์จมอยู่กับความทุกข์ ดังนั้นเธอจึงพยายามหาเรื่องน่าสนใจมาดึงดูดหล่อน
‘แค่ระดับปราชญ์ยุทธแต่ว่าได้ลำดับสามในรอบรองชนะเลิศเหรอ?’ อีเวตต์เลิกคิ้วและกล่าวอย่างไม่จริงจัง “เขาโกงหรือเปล่า?”
สโลนหัวเราะและส่ายหัวพร้อมบอกว่า “จะเป็นไปได้อย่างไรกันเพคะ? หม่อมฉันได้ยินมาว่า เขาเก็บโอสถเล่นแร่แปรธาตุของราชาหมาป่ามาได้ อีกอย่างตอนช่วงแรกของการแข่งขัน เขาก็คว่ำไวแอตต์ของสำนักบู๊ตึ๊งด้วยกลยุทธ์ดาบ ตั้งแต่ตอนนั้นหม่อมฉันก็คิดว่าลูก้าคนนี้ไม่น่าจะใช่คนธรรมดา”
สโลนมองอีเวตต์และพูดต่อ “องค์หญิง พระองค์ไม่ทรงสนใจคนแบบนี้หรอกหรือเพคะ?”