คุณสามีแห่งปาฏิหาริย์ - บทที่ 1630
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1630
ตอนนั้นอีเวตต์ก็ยิ้มและบอกว่า “เสด็จแม่ นี่ยังหัวค่ำอยู่เลย ให้แดร์ริลไปเถอะค่ะ”
เมื่อเธอพูดแบบนั้นอีเวตต์ก็ยิ้มให้ดอนน่าและเกือบจะหัวเราะออกมา
ตั้งแต่ที่พวกเขามาที่นิกายเมธาสวรรค์ ดอนน่าก็ดูแลพวกเขามาตลอด ดังนั้นจึงไม่ถูกต้องที่จะให้แดร์ริลรู้สึกผิดเมื่อตอนนี้ดอนน่าต้องการให้แดร์ริลช่วยบ้าง
ที่สำคัญแดร์ริลก็สัญญากับดอนน่าว่าจะสอนเทคนิคพากย์เสียงให้เธอ เขาจะไม่รักษาสัญญาได้อย่างไร
จักรพรรดินีไม่พูดอะไรอีกเมื่ออีเวตต์พูดมาแบบนั้น
แดร์ริลยิ้ม เขามองดอนน่าก่อนบอกว่า “ศิษย์พี่หญิง ไปกันเถอะ!”
แดร์ริลสามารถไปได้อย่างสบายใจเมื่อรู้ว่าอีเวตต์นั้นเข้าใจ
ขณะที่พูดเขาก็เดินออกไปข้างนอก
เมื่อพวกเขาไปถึงลานด้านหลังภูเขา แดร์ริลก็รู้สึกมีความสุขมากเมื่อได้เห็นภาพยามค่ำคืนตรงหน้า
เขาเห็นดวงจันทร์กลมโต ท้องฟ้าที่มีดาวพร่างพราย เทือกเขาสลับซับซ้อน เมฆหนา และลมยามค่ำคืนที่พัดมาแผ่วเบา เขารู้สึกผ่อนคลายราวกับได้อยู่บนสรวงสวรรค์
คงจะดีถ้าเขาได้ชื่นชมภาพทิวทัศน์ที่สวยงามนี้พร้อมอีเวตต์
แต่ว่าเขาก็มีศิษย์พี่คนงามอยู่ด้วย ซึ่งก็ดีเหมือนกัน
ขณะที่แดร์ริลกำลังชื่นชมบรรยากาศนั้น ทันใดก็มีเสียงดังของนกมาจากยอดเขาที่มีเมฆบดบัง จากนั้นนกอินทรีสองตัวก็บินวนเป็นวงกลมอยู่กลางอากาศ
‘เวร นกอินทรีอะไรกันล่ะนั่น?’
แดร์ริลอดไม่ได้ที่จะหยีตามองให้ชัดขึ้น เขาตกใจมาก
เขาเห็นนกอินทรีตัวใหญ่สองตัว กางปีกกว้างได้ประมาณห้าฟุต ขนเป็นสีขาวดุจหิมะและมีสีเงินด้วย นกอินทรีคู่นั่นดูแจ่มกระจ่างราวดวงดาว ดูสูงส่งและเลอค่ามาก
นกอินทรีทั้งสองตัวนั้นดูเหมือนพญาอินทรีหิมะที่แดร์ริลมีในจักรวาลโลก แต่กลิ่นอายของมันกลับต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง!
แดร์ริลอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจลึกเมื่อเขารู้สึกถึงพลังของอินทรียักษ์ทั้งสองตัวนั้น
พวกมันเป็นถึงจักรพรรดิยุทธ์ระดับห้า
แดร์ริลถึงกับตื่นตะลึง
นิกายเมธาสวรรค์นั้นมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 10,000 ปี และทุกที่ต่างก็เต็มไปด้วยเสือหมอบมังกรซ่อน แม้แต่สัตว์เทพก็ยังมีพลังสูงส่ง
ตอนนั้นดอนน่าก็ยิ้มน้อย ๆ ขณะที่เธอมองอินทรียักษ์ทั้งสองตัวบินวนในท้องฟ้าไม่ไกล และพูดว่า “ศิษย์น้อง นายแปลกใจใช่ไหม? พวกมันดูเหมือนอินทรีตัวใหญ่ก็จริงแต่ว่าเป็นสัตว์เทพที่หาได้ยากเรียกว่าอินทรีปีกเงิน รังของพวกมันอยู่บนยอดเขา ว่ากันว่าพวกมันอยู่ที่นั่นมาเป็นพันปีแล้ว”
ดอนน่าพูดต่ออย่างเศร้าเสียใจ “เขาบอกว่าเมื่อพันปีก่อน ตอนที่ท่านปรมาจารย์ยังเด็กอยู่ ท่านเคยเกือบตกหน้าผาตอนที่ประลองกับคนอื่น ๆ แต่จังหวะเป็นตายนั้นเองนกอินทรีใหญ่สองตัวก็มาช่วยท่านไว้ จากนั้นท่านปรมาจารย์ก็สั่งไม่ให้คนของนิกายไปรบกวนพวกมันอีก ดังนั้นคนของนิกายจึงนับถืออินทรีปีกเงินและไม่ไปรบกวนพวกมันเลย”
ดอนน่าพูดถูก อินทรีปีกเงินทั้งสองนั้นมีตำแหน่งสำคัญในนิกายเมธาสวรรค์ ไม่เพียงแต่คนทั่วไปของนิกายเท่านั้นที่นับถือพวกมันแต่ หัวหน้าแท่นบูชาทั้งห้าก็นับถือพวกมันด้วย ไม่ว่าอย่างไรมันก็ช่วยชีวิตท่านปรมาจารย์ไว้ ผู้ซึ่งเป็นประมุขของสำนักนิกายเมธาสวรรค์ด้วย
“แบบนี้นั่นเอง” แดร์ริลถอนใจเมื่อได้ยิน และเขาก็พยักหน้าเงียบ ๆ
ดอนน่ายิ้มและบอกว่า “ศิษย์น้อง ได้โปรดเริ่มสอนเทคนิคการพากย์เสียงฉันเถอะ”
“ได้เลยครับ” แดร์ริลตั้งสติและยิ้มพร้อมพยักหน้า เทคนิคการพากย์เสียงที่ผมเรียนมานั้นพิเศษ มันต้องให้ผมรวบรวมกำลังจากช่องท้องเพื่อที่จะสร้างเสียง…”
ขณะที่แดร์ริลกำลังอธิบายเทคนิค เขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากที่ซึ่งไม่ไกลออกไป
“นั่นใครน่ะ? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ดึก ๆ ดื่น ๆ?”
พวกเขามองไปตามเสียงและเห็นเงาร่างรุดเข้ามาหาพร้อมสีหน้าทำมึน เย่อหยิ่งจองหอง
นั่นก็คือศิษย์พี่ใหญ่ ฮาร์วีย์ เวฟ!
‘เวร ทำไมไอ้โง่นี่ถึงมาที่นี่ได้ล่ะเนี่ย’
แดร์ริลขมวดคิ้วเมื่อเห็นฮาร์วีย์
ตอนที่เขาถูกทิ้งอยู่บนเกาะและเมื่อตอนที่แดร์ริลเพิ่งเรียกไดอาน่า โอลเซ่นเป็นประมุข ฮาร์วีย์เตะเขา และยืนกรานให้แดร์ริลคุกเข่าเพราะถือสิทธิ์ว่าตนเป็นศิษย์พี่ใหญ่ เขามักกลั่นแกล้งแดร์ริล เพราะแบบนี้แดร์ริลเลยมีไม่ค่อยมีความประทับใจต่อฮาร์วีย์เท่าไร
“ศิษย์พี่ใหญ่เหรอ?” ดอนน่าอึ้งไป และถามว่า “ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?”
ฮาร์วีย์พูดนิ่ง ๆ “ผมก็เดินตรวจตราบริเวณโดยรอบ ผมอยากรู้ว่ามีคนของสำนักคนไหนแหกกฎบ้าง”
ฮาร์วีย์จ้องแดร์ริลและตะคอก “ดาร์เรน นายมาทำอะไรที่นี่? นี่มันดึกดื่นแล้ว ทำไมถึงยังไม่นอนอีก? สำนักนิกายสวรรค์ของเรามีกฎว่าห้ามออกมาเตร็ดเตร่ตอนกลางคืน นายต้องยืนเข้ามุมผนังเป็นการลงโทษครึ่งเดือนตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป”
ในฐานะของศิษย์พี่ใหญ่ ฮาร์วีย์นั้นมีอำนาจที่จะลงโทษใครก็ตามที่ทำผิดกฎได้
‘เวร’
เมื่อได้ยินดังนั้น แดร์ริลก็ฉุนขาด