คุณสามีแห่งปาฏิหาริย์ - บทที่ 1667
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1667
ใบหน้าเมแกนสงบนิ่งไร้อารมณ์ใดขณะที่เธอหลบเลี่ยงการโจมตีของกิเลนไฟก่อนที่จะมองบรรดาสำนักของจักรวาลโลกและพูดอย่างเย็นชาว่า “พวกคุณยังยืนกันอยู่ทำไม? เข้ามาช่วยกันสิ”
ที่จริงแล้วเมแกนคงไม่ใจดีที่จะออกมาช่วยประมุขราล์ฟแบบนี้แต่ว่าการกระทำทุกอย่างของเธอนั้นอยู่ใต้การใคร่ครวญในฐานะของหัวหน้าพันธมิตรของจักรวาลโลก เป็นธรรมดาที่เธอต้องทำเป็นตัวอย่างในสถานการณ์แบบนี้
ที่สำคัญกว่านั้น กิเลนไฟก็อยู่มานานหลายพันปีด้วยพลังระดับเทพยุทธ์ แกนพลังภายในของมันต้องมีค่ามากแน่นอน
เมแกนตัดสินใจที่จะช่วยประมุขราล์ฟและฉวยโอกาสฆ่ากิเลนไฟ เมื่อถึงตอนนั้นแกนพลังก็ต้องตกอยู่ในมือของเธอแน่
“ครับ ท่านหัวหน้าพันธมิตร” ผู้บ่มเพาะของจักรวาลโลกต่างก็ขานรับคำสั่งและรีบปล่อยพลังภายในออกมาก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่กิเลนไฟ
‘อะไรนะ?’ แดร์ริลอึ้งจนพูดไม่ออกเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า
‘เมแกนเป็นหัวหน้าพันธมิตรของจักรวาลโลกเหรอ? เธอมีความสามารถขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไรกัน?’
เฮือก
วินาทีต่อมาแดร์ริลก็ยิ่งอึ้งเมื่อได้รู้สึกถึงพลังของเธอที่ปล่อยออกมา
‘จักรพรรดิยุทธขั้นห้าเหรอ? ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่สุสานลิโป้พลังของเมแกนก็ไม่ได้สูงมาก นี่เธอขึ้นเป็นจักรพรรดิยุทธขั้นห้าได้ในเวลาสั้น ๆ เหรอ?’
แดร์ริลนิ่วหน้าและรู้สึกสับสน
โอ้ว!
ตอนนั้นผู้บ่มเพาะที่อยู่รายรอบต่างก็ส่งเสียงฮือฮาเมื่อได้เห็นเมแกนนำบรรดาสำนักของจักรวาลโลกเข้าไปช่วยสำนักหยาดน้ำฟ้า
“จักรวาลโลกเข้าไปช่วยแล้ว เราควรต้องไปด้วยไหม?”
“ฉันว่า… เราน่าจะไปนะ ถ้าตามตำนาน กิเลนที่มีพลังขนาดนี้ต้องมีพลังแกนกลางที่เรียกว่าแกนเปลวเพลิงแห่งสวรรค์นอกเหนือไปจากเปลวเพลิงสวรรค์อินทนิลของมัน ซึ่งถือว่าเป็นสมบัติล้ำค่า อีกอย่าง เห็นสิ่งของที่เหมือนหยดน้ำรอบคอของมันไหม? นั่นเรียกว่าน้ำตาเทพธิดา ตำนานบอกว่าเจ้าแม่หนี่วาใช้พลังภายในของพระองค์ทั้งหมดสร้างมันขึ้นมาเนิ่นนานมาแล้ว และมันมีพลังปลุกชีพได้…”
“ให้ตายสิ…”
หลายคนต่างก็มองกิเลนไฟขณะที่สนทนากันและได้เห็นสิ่งที่มีรูปร่างเหมือนหยดน้ำตารอบคอของมันจริงตามคาด มันแวววาว เปล่งประกายและดูมีเวทมนตร์
พวกเขาต่างก็พากันตื่นเต้นอย่างมากเมื่อได้เห็น
“กิเลนไฟมีขุมทรัพย์ติดกายมากขนาดนั้นเลยหรือ?”
“ทั้งแกนเปลวเพลิงแห่งสวรรค์และน้ำตาเทพธิดาเลยเหรอ? ใครก็ตามที่ได้มันไปต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเก้าทวีปเป็นแน่”
“แล้วเราจะมัวรออะไรอีกล่ะ? ไปเถอะ!”
“โอ้!”
พวกผู้บ่มเพาะต่างก็ไม่ลังเลกันอีกแล้ว พวกเขาต่างก็ปลุกพลังภายในอย่างตื่นเต้นและเข้าโจมตีกิเลนไฟ
ก่อนหน้านี้พวกเขาตกใจและกังวลกับพลังของกิเลนไฟแต่ตอนนี้กลับไม่กังวลอีกแล้วหลังจากที่ได้พบว่ามีสมบัติล้ำค่าสองชิ้นบนร่างของมัน
“แดร์ริล รีบเข้าไปช่วยด้วยสิ”
ควีนนี่เองก็กระตือรือร้นอยากจะลองด้วยตอนนี้ และมองแดร์ริลอย่างตื่นเต้นก่อนที่จะบอกว่า “พวกสำนักหยาดน้ำฟ้าน่าสงสารเกินไปแล้ว พวกเขาเกือบโดนกิเลนไฟกวาดล้างจนเกลี้ยงแล้ว”
คนอื่นต่างก็เข้าไปช่วยเพราะว่าพวกเขาต้องการสมบัติบนตัวของกิเลน แต่ว่าควีนนี่ที่แสนใจดีกลับต้องการจะช่วยเพราะว่าเธอทนเห็นสำนักหยาดน้ำฟ้าต้องบาดเจ็บทรมานไม่ได้
“ไม่ต้องห่วง” แดร์ริลยิ้มก่อนตอบ
ตอนนี้สำนักหยาดน้ำฟ้าไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายเพราะว่ามีคนเข้าไปช่วยมากมาย การคอยสังเกตการณ์ต่ออีกหน่อยน่าจะดีกว่า
ที่จริงแล้วหากว่าเป็นตัวเขาเมื่อก่อนนี้ แดร์ริลคงไม่รีรอที่จะเข้าไปช่วยทันทีโดยไม่คิดอะไรมาก แต่ว่าตอนนี้แดร์ริลได้เรียนรู้ที่จะรอสังเกตการณ์และคิดพิจารณาก่อนที่จะลงมือหลังจากผ่านประสบการณ์มาหลายปี
ลิลี่เดินเข้ามาและพูดกับควีนนี่อย่างกังวล “ควีนนี่ กิเลนไฟมันมีพลังแข็งแกร่งเกินไป เธอไม่ควรเข้าไปนะ”
เซลีนเองก็ส่ายหน้าให้ควีนนี่เหมือนกัน
เธอเห็นได้ว่าสถานการณ์ตรงหน้านั้นเละเทะเหมือนที่แดร์ริลเห็นและคงจะดีกว่าถ้ายังไม่เข้าไปวุ่นวายด้วยตอนนี้
อย่างไรตอนนี้สำนักหยาดน้ำฟ้าก็ไม่อันตรายอีกต่อไปในเมื่อมีหลายสำนักต่างเข้าไปช่วย
“ก็ได้!”
ควีนนี่ทำหน้ามุ่ยด้วยความผิดหวังขณะที่ยอมยืนอยู่ข้าง ๆ แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะขยับไปใกล้ ๆ ฝูงชนที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือดแม้ว่าไม่ได้จะเข้าไปช่วยก็ตาม
การต่อสู้ระหว่างผู้บ่มเพาะและสัตว์เทพกิเลนก็เป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่หาไม่ได้อีกแล้วในชีวิตนี้ เป็นภาพน่าตื่นตามาก ควีนนี่ซึ่งชอบความครึกครื้นก็รู้สึกเพลิดเพลินไปกันการต่อสู้นี้มาก