คุณสามีแห่งปาฏิหาริย์ - บทที่ 1751
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1751
”ทุกคนอย่าตื่นตระหนก จูปาเจี๋ยก็แค่ลำพังตัวคนเดียว เรามาร่วมมือกันโจมตี!” หัวหน้าทหารยามปาดเหงื่อและตะโกนเสียงดัง
ทหารที่เหลือมองหน้ากันละพุ่งเข้าไปรุมพร้อมกัน
จูปาเจี๋ยหัวเราะ “หากว่าเจ้าอยากจะจับข้าก็มาเลย ข้ายินดีจะเอาชนะพวกเจ้าทุกคน” จูปาเจี๋ยไม่ตระหนกสักนิด เขากลับตื่นเต้นแทน เขาตะโกนไปพร้อมกับพลิ้วกายไปกลางฝ่ายตรงข้าม
ปัง ปัง ปัง
เขาเคลื่อนกายไปในหมู่ทหารด้วยพลังการต่อสู้ที่เต็มเปี่ยม ขณะที่เขารับมือทหารทีละคน
ดวงตาจูปาเจี๋ยแดงก่ำ เหมือนกับว่าเขาต้องการที่จะปลดปล่อยโทสะที่เก็บกักไว้ตลอดพันปีที่ผ่านมา เขานั้นยินดีมาก
ภายในพริบตาก็เหลือเพียงแค่หัวหน้าทหารเท่านั้น คนอื่น ๆ ต่างก็นอนจมกองเลือดกันหมด
เฮือก
คนที่คอยเฝ้าดูอยู่ไกล ๆ ต่างก็พากันตกใจอ้าปากค้าง
“พระเจ้า ชายคนนั้นแข็งแกร่งมากจริง ๆ เขาสามารถล้มทหารลงได้มากขนาดนั้น”
“เขาดูหล่อเหลามากแถมพลังก็แกร่งกล้า เขาเรียกตัวเองว่าผู้เฒ่าจู เขาคือจอมพลแห่งสวรรค์ที่เลื่องชื่อเมื่อพันปีก่อนใช่ไหม?”
“ดูเหมือนว่าจะใช่นะ”
ผู้หญิงหลายคนในหมู่คนดูต่างก็ต้องตาความหล่อเหลาของจูปาเจี๋ย
เขานั้นทั้งหล่อเหลาและแข็งแกร่ง
‘สนุกมาก สนุกจริง ๆ’ จูปาเจี๋ยหัวเราะ
เขานั้นรู้สึกพอใจกับคำชื่นชมพวกนั้นมาก
“จูปาเจี๋ยเลิกจองหองได้แล้ว”
ทันใดนั้นก็มีเสียงเกรี้ยวกราดก้องมาจากบริเวณปราสาท มีร่างสีทองทะยานเข้ามาหา เขาดูสูงส่งและมีอำนาจมาก
เขาใส่เกราะสีทองและมีกระบี่สองคมสามแฉกอยู่ในมือ พร้อมสุนัขตัวใหญ่ราว 50 เมตรตามมาด้านหลัง
เขาก็คือสุดยอดปรมาจารย์เอ้อหลาง– จักรพรรดิองค์ใหม่– หยางเจียน
‘ทำไมเขามาอยู่ที่นี่?’
จูปาเจี๋ยอึ้งไปเมื่อเห็นอีกฝ่าย จากนั้นเขาก็ฝืนยิ้มและบอกว่า “สุดยอดปรมาจารย์เอ้อหลาง ไม่เจอกันนานเลยนะ”
เขายังมีอารมณ์ผ่อนคลาย เขารู้ว่าต่างฝ่ายไม่ได้มีเรื่องบาดหมางอะไรกัน หยางเจียนนั้นปกติก็เป็นคนสุขุม และเขามักไม่ค่อยยุ่งกับเรื่องของคนอื่น ดังนั้นจูปาเจี๋ยจึงไม่ได้ตระหนก
“จูปาเจี๋ย” ใบหน้าหล่อเหลาของหยางเจียนว่างเปล่า เขาพูดนิ่ง ๆ ว่า “ข้ากำลังตามหาเจ้าและเจ้าก็มาหาเองถึงที่ ตามข้าไปเข้าคุกและรอการตัดสินเสียเถอะ”
เสียงของเขาไม่ได้ดัง แต่ว่าก็ได้ยินไปทั่วทั้งบริเวณปราสาท น้ำเสียงของเขาเด็ดขาดมาก
‘อะไรนะ? ตัดสินอะไร?’
จูปาเจี๋ยตกใจเล็กน้อย จากนั้นเขาก็หัวเราะและบอกว่า “หยางเจียน เจ้าคงเข้าใจผิดแล้ว ข้ายังเที่ยวชมโลกภายนอกไม่พอเลย แล้วข้าจะตามเจ้ากลับไปเข้าคุกทำไม?”
‘พอจักรพรรดิโฮ่วอี้ตายไป หยางเจียนก็เป็นบ้าเหรอไง?’
หยางเจียนพูดอย่างเย็นชา “เลิกเสแสร้งได้แล้ว เจ้าเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรพรรดิโฮ่วอี้สิ้นพระชนม์ มันเป็นความผิดที่อภัยไม่ได้ หากว่าเข้าใจแล้วก็ตามข้ามา อย่าบังคับให้ข้าต้องใช้กำลัง”
‘อะไรนะ? ข้าทำให้จักรพรรดิโฮ่วอี้ตายเหรอ? เกิดอะไรขึ้นนี่?’
จูปาเจี๋ยดูตกใจมาก สมองเขาหมุนไปหมด
วินาทีต่อมาเขาก็ตั้งสติได้ เขาไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีขณะที่มองหยางเจียน “ข้าเพิ่งกลับมาจากเมืองอื่น แต่เจ้ากลับบอกว่าข้าสังหารจักรพรรดิโฮ่วอี้? น่าสนใจยิ่งนัก งั้นบอกหน่อยว่าข้าฆ่าเขายังไง?”
จูปาเจี๋ยมีท่าทางกวนอารมณ์มากตอนที่พูดเช่นนี้
“เจ้ายังจะเสแสร้งอีกเหรอ?” หยางเจียนนิ่วหน้า เขาโมโหมาก “เจ้าแอบนัดพบกับฉางเอ๋อในห้องบ่มเพาะ และจักรพรรดิก็เจอเจ้าทั้งสองคน ซึ่งทำให้พระองค์ธาตุไฟเข้าแทรกและตายอย่างอนาถ ก่อนที่พระองค์จะตายก็ได้สลักชื่อเจ้าและพระมเหสีฉางเอ๋อไว้บนแท่นหยกบ่มเพาะ นี่เป็นหลักฐานที่แน่นหน้า เจ้ายังกล้าปฏิเสธอีกเหรอ?”
จากนั้นหยางเจียนก็สูดหายใจลึกก่อนที่จะพูดอย่างเย็นชา “พระมเหสีฉางเอ๋อนั้นโดนคุมตัวไว้แล้ว ส่วนคนที่ปล่อยเจ้าหนีไปอย่างแดร์ริล ดาร์บี้นั้นก็อยู่ในคุกด้วย หากว่าเจ้าคิดได้ก็อย่าขัดขืน ไม่อย่างนั้นนี่จะเป็นที่ฝังร่างของเจ้า”