คุณสามีแห่งปาฏิหาริย์ - บทที่ 1765
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1765
โทเฮงสุนเกาหัวเมื่อมองเห็นกองทัพโมอาน่าเหนือที่อยู่ใกล้ ๆ และพูดกับฉางเอ๋อว่า “พระมเหสีฉางเอ๋อ เราต้องอ้อมพวกเขาไป กระหม่อมจำเส้นทางอื่นที่ค่อนข้างอันตรายเสียหน่อย แต่ทางนั้นไม่น่าจะมีองครักษ์เฝ้าอยู่!”
แล้วโทเฮงสุนก็เริ่มก้าวนำและเดินไปยังหุบเขาทางด้านซ้ายมือ
ฉางเอ๋อ แดร์ริล และคนอื่น ๆ ก็รีบตามไปอย่างรวดเร็ว
แล้วในไม่ช้า พวกเขาก็มาถึงตรงทางเข้าหุบเขาซึ่งแดร์ริลสังเกตเห็นว่าทั้งสองด้านของภูเขานั้นช่างสูงชันและมีเส้นทางที่ดูอันตรายมาก ไม่มีองครักษ์จริง ๆ ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม แดร์ริลก็ยังคงตกตะลึงเมื่อพวกเขาเข้าไปในหุบเขาลึก
เขาสังเกตเห็นว่ามีก้อนหินหลายพันก้อนวางเป็นเส้นทางเส้นเดียวอยู่ตรงกลางหุบเขา โดยหินแต่ละก้อนนั้นสูงประมาณสองเมตร
ก้อนหินเหล่านี้ดูเหมือนถูกวางเอาไว้สลับกันไปมา แต่แท้จริงแล้วมันมีบางอย่างที่ลึกลับซ่อนอยู่!
เห็นได้ชัดเจนว่ามันคือค่ายกล!
แดร์ริลขมวดคิ้วเมื่อเห็นภาพตรงหน้าและไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือว่าร้องไห้ออกมาดี!
ไม่เป็นที่น่าแปลกใจเลยที่ไม่มีใครเฝ้าที่นี่ เพราะดูเหมือนว่าที่นี่จะเป็นค่ายกล
ฉางเอ๋อสำรวจอยู่สองสามวินาทีก่อนที่จะหันไปมองโทเฮงสุนและพูดอย่างนุ่มนวลว่า “โทเฮงสุน! เจ้ารู้วิธีแก้ค่ายกลนี้ไหม?”
ฉางเอ๋อมีพลังมหาศาลก็จริง แต่เธอไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับค่ายกล
“โอ้!”
โทเฮงสุนรีบเดินเข้าไปก่อนที่จะหายใจเข้าลึก ๆ และตอบว่า “พระมเหสีฉางเอ๋อ ทรงอย่าได้กังวลไป มันเป็นเพียงแค่ค่ายกลหินเท่านั้น ไม่ได้ยากเกินไปสำหรับกระหม่อมเลยสักนิดพะยะค่ะ! ท่านคอยดูได้เลยว่ากระหม่อมจะทำลายค่ายกลหินที่พัง ๆ นี้ได้ยังไง”
แม้ว่าเขาจะพูดว่ามันง่าย แต่ในใจของโทเฮงสุนกลับรู้สึกยุ่งยากอย่างมาก ค่ายกลหินดูซับซ้อนมากและเขานึกไม่ออกจริง ๆ ว่าจะแก้ค่ายกลนี้ได้อย่างไร
แต่ทว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่น เพราะเขาไม่อาจทำให้ตัวเองอับอายขายหน้าต่อหน้าพระมเหสีฉางเอ๋อได้!
โทเฮงสุนแสร้งทำเป็นสำรวจดูอยู่สองสามวินาทีก่อนจะกล่าวกับฉางเอ๋อด้วยความเคารพว่า “พระมเหสีฉางเอ๋อ โปรดตามกระหม่อมอย่างใกล้ชิดหลังจากก้าวเข้าไปแล้วด้วยนะพะยะค่ะ!” แล้วเขาก็ก้าวเท้าก้าวแรกเข้าสู่ค่ายกลนั้น
ฉางเอ๋อพยักหน้าด้วยความโล่งใจและรีบตามไป!
หืมม?
ในขณะนั้นเอง แดร์ริลรู้สึกงุนงงเมื่อเห็นโทเฮงสุนและฉางเอ๋อเข้าไปยังค่ายกลหิน
แดร์ริลส่งสัญญาณให้เซลีนและควีนนี่ตามเขามาในขณะที่พวกเขาเข้าไป พร้อมกับพึมพำกับตัวเองว่า ‘โทเฮงสุนรู้เรื่องค่ายกลด้วยเหรอ?’
ในตอนแรกโทเฮงสุนดูเหมือนจะมั่นใจ แต่ทว่าเขากลับรู้สึกงุนงงในตอนที่พวกเขาเริ่มอยู่ลึกเข้ามาในค่ายกลหิน และเขาก็หลงทิศทางไปในไม่ช้า ฉางเอ๋อที่ถูกเขานำทางก็สับสนและมึนงงไปเช่นกัน
“โทเฮงสุน!” ในที่สุดฉางเอ๋อก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอขมวดคิ้วอย่างแรง มองไปที่โทเฮงสุนและด่าทอ “เจ้าบอกว่าเจ้าสามารถแก้ค่ายกลนี้ได้ไม่ใช่รึ? ทำไมเราถึงยังคงอยู่ในค่ายกลแบบนี้หลังจากเดินมาตั้งนานแล้วล่ะ?”
ท่าทีของฉางเอ๋อดูสงบนิ่งในตอนที่เธอพูดเช่นนั้น แต่ความจริงแล้วเธอกำลังระงับความโกรธของเธออยู่
ฟุ่บ!
โทเฮงสุนไม่สามารถเสแสร้งได้อีกต่อไปเมื่อรับรู้ได้ถึงความโกรธของเธอ พร้อมกับคุกเข่าลงในทันทีและพูดอย่างหวาดกลัวว่า “พระมเหสีฉางเอ๋อ ทรงอย่าโกรธเลยพะยะค่ะ ไม่ใช่ว่ากระหม่อมโอ้อวดแต่อย่างใด แต่ค่ายกลหินนี้แปลกเกินไป กระหม่อมคาดการณ์จากศิลปะแห่งธาตุทั้งห้าของหยินหยาง แต่ก็ยังไม่สามารถหาทางออกของค่ายกลหินนี้ได้เลยพะยะค่ะ”
โทเฮงสุนแอบปาดเหงื่อเย็น ๆ ตรงหน้าผากขณะพูด
ฉางเอ๋อขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนั้น และรู้สึกสิ้นหวังในใจ หมายความว่าเธอต้องติดอยู่ที่นี่หากโทเฮงสุนไม่สามารถแก้ไขค่ายกลนี้ได้งั้นเหรอ?
ฉางเอ๋อพูดเรียบ ๆ พร้อมกับความคิดนั้นในหัว “บอกข้ามาสิว่าเราควรทำยังไงต่อไป?”
โทเฮงสุนเกาหัวของเขาและหน้าแดงก่ำอย่างกระวนกระวายใจ ก่อนจะตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า “พระองค์ทรงอย่าได้กังวลไป ได้โปรดให้กระหม่อมลองคาดการณ์โดยละเอียดอีกครั้งหนึ่งเถิดพะยะค่ะ!”
จากนั้นโทเฮงสุนก็หยิบกิ่งไม้และเริ่มวาดภาพบนพื้นเพื่อคาดคะเน เขาบ่มเพาะมานานกว่าพันปีและรักการอ่านมาก ดังนั้นเขาจึงมีความรู้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับศิลปะแห่งธาตุทั้งห้า แต่หลังจากผ่านไปสิบนาที โทเฮงสุนก็ไม่พบวิธีออกจากค่ายกลหินนี้ได้เลย และรู้สึกกังวลอย่างมากในเวลาเดียวกัน
ฉางเอ๋อก็หมดความอดทนเช่นกัน ใบหน้างดงามของเธอเริ่มแสดงอาการรำคาญออกมาเล็กน้อย
เฮ้อ!