คุณสามีแห่งปาฏิหาริย์ - บทที่ 1767
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1767
เซลีนเองก็ยิ้มออกมาเช่นกัน เธอมองไปที่แดร์ริลและพยักหน้าก่อนจะแอบชื่นชมเขา ‘แดร์ริล… ช่างเก่งกาจในเรื่องค่ายกลจริง ๆ’
ฉางเอ๋อที่อยู่ข้าง ๆ รู้สึกว่าขาของเธอเริ่มอ่อนปวกเปียกเมื่อรู้ว่าแดร์ริลมีความรู้เกี่ยวกับค่ายกล! เขาไม่เพียงรู้เกี่ยวกับค่ายกลเท่านั้น แต่ยังเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ด้วย แม้แต่โทเฮงสุนก็ยังหมดหนทางกับค่ายกลหินขนาดใหญ่ตรงหน้าก่อนหน้านี้ แต่แดร์ริลกลับสามารถแก้ได้อย่างง่ายดาย
แดร์ริลนั้นช่างไม่ธรรมดาจริง ๆ
ฉางเอ๋อไม่สามารถซ่อนความตกใจที่เธอรู้สึกได้เมื่อเธอครุ่นคิดและลอบมองแดร์ริลอย่างใกล้ชิดในขณะที่ร่างของเธอสั่นสะท้าน
“พระมเหสีฉางเอ๋อ!”
แดร์ริลยิ้มและมองไปที่ฉางเอ๋อ “เป็นยังไงบ้างพะยะค่ะ? กระหม่อมไม่ได้ขี้โม้ใช่ไหม?”
ใบหน้าของฉางเอ๋อแดงก่ำและไม่ตอบรับใด ๆ
ชู่วว!
โทเฮงสุนมุ่ยหน้าและบอกให้แดร์ริลเงียบ พร้อมพูดห้วน ๆ ว่า “นี่เจ้าน่ะ มันก็เป็นแค่การลองผิดลองถูก และเจ้าก็แค่โชคดีที่หาทางออกเจอ มีอะไรให้น่าภูมิใจกัน?”
ในใจของโทเฮงสุน การที่แดร์ริลนำทุกคนออกมาได้นั้นเป็นเพราะโชค ไม่ใช่เพราะความสามารถเกี่ยวกับค่ายกลของเขาแต่อย่างใด
ค่ายกลหินขนาดใหญ่เป็นค่ายกลขั้นสูง ถ้าคนที่เคยร่ำเรียนอ่านหนังสือเกี่ยวกับค่ายกลเช่นโทเฮงสุนยังแก้ไม่ได้ ชายหนุ่มคนนี้จะแก้มันได้อย่างไร?
ฉางเอ๋อดึงสติกลับมาได้ในตอนนั้นและพูดกับแดร์ริลอย่างราบเรียบว่า “แดร์ริล พวกเราออกจากเมืองหลวงได้อย่างปลอดภัยแล้ว รีบ ๆ บอกข้ามาเร็วสิ ว่าข้าจะล้างมลทินได้ยังไง ข้าจะพิสูจน์ได้ยังไงว่าข้าไม่ได้ฆ่าจักรพรรดิ?”
แดร์ริลยิ้มเล็กน้อยและค่อย ๆ อ้าปากในขณะที่มองไปที่ฉางเอ๋อและพูดว่า “พระมเหสีฉางเอ๋อ ทรงอย่าได้กังวลมากนักเลยพะยะค่ะ กระหม่อมคิดวิธีแก้ปัญหาได้นานแล้ว แต่ก่อนที่กระหม่อมจะบอกพระองค์ พระองค์ต้องสัญญากับกระหม่อมก่อนโดยมีอยู่สองเงื่อนไขพะยะค่ะ!”
‘อะไรนะ?’
ฉางเอ๋อขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าที่งดงามของเธอก็แสดงความไม่พอใจออกมา แดร์ริลช่างบังอาจมาก เขากล้าต่อรองกับเธอได้อย่างไร?
“กล้าดียังไง!”
โทเฮงสุนไม่สามารถอดกลั้นต่อไปได้อีก พร้อมกับลุกพรวดขึ้นและด่าทอแดร์ริล “ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่ยอมแพ้จนกว่าเจ้าพลาดท่าสินะ! พระมเหสีฉางเอ๋อเป็นคนที่ต้องเคารพ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครที่จะสามารถมาต่อรองกับพระนางได้?”
‘หึหึ’
แดร์ริลไม่สนใจเมื่อรับรู้ได้ถึงความโกรธของโทเฮงสุน เขาเพียงแต่ยิ้มให้ฉางเอ๋อและพูดว่า “พระมเหสีฉางเอ๋อ เป็นไปได้ไหมว่าจนถึงตอนนี้แล้วพระองค์จะยังไม่เชื่อกระหม่อม? เราควรจะเชื่อใจกันมากพอตั้งแต่หนีมาด้วยกันไม่ใช่หรือพะยะค่ะ ไม่อย่างนั้นพระองค์คงให้โทเฮงสุนส่งพวกเราสามคนกลับเข้าไปในคุกแล้วล่ะ”
แดร์ริลดูผ่อนคลายเมื่อเขาพูดสิ่งเหล่านี้ออกมา เพราะเขามั่นใจว่าฉางเอ๋อจะไม่กล้าส่งพวกเขาทั้งสามคนกลับเข้าไปในคุกอย่างแน่นอน
“เฮ้อ!”
ฉางเอ๋อถอนหายใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น ขณะที่เธอกัดริมฝีปากและพยักหน้า “เอาล่ะ บอกข้ามาสิว่าเงื่อนไขสองข้อของเจ้าคืออะไร?”
เธอโกรธมากที่จู่ ๆ แดร์ริลก็ยกเงื่อนไขสองข้อนี้ขึ้นมา เธอคือพระมเหสีฉางเอ๋อที่สูงส่งและทรงพลัง จะมีใครบังอาจกล้าพูดกับเธอแบบนั้นกัน?
ถ้าคิดให้ดีอีกที แม้แต่โทเฮงสุนเองก็ไม่สามารถแก้ค่ายกลได้ แต่แดร์ริลกลับแก้มันได้อย่างง่ายดาย มันเป็นข้อพิสูจน์แล้วว่าเขามีความสามารถอะไรบางอย่างอยู่
ที่สำคัญไปกว่านั้น ในมุมมองของฉางเอ๋อ ชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ของเธอมีความสำคัญมากกว่าชีวิตของเธอเองเสียอีก แดร์ริลสามารถตั้งเงื่อนไขมาเป็นสิบข้อยังได้ นับประสาอะไรกับสองข้อ และเธอก็จะตอบรับตกลงทุกข้อ
“มันต้องแบบนี้สิ!”
แดร์ริลยิ้มเมื่อเห็นฉางเอ๋อตกลง ก่อนจะค่อย ๆ พูดว่า “เงื่อนไขแรกคือปล่อยสองคนนี้ไปซะ”
แดร์ริลชี้ไปที่เซลีนและควีนนี่
“แน่นอน!” ฉางเอ๋อไม่มีความลังเลใด ๆ และพยักหน้า
ทั้งสองคนนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่เธอถูกใส่ร้ายมากนัก ที่สำคัญพวกเธอทั้งคู่ก็ได้รับบาดเจ็บ การพาพวกเธอไปด้วยจะเพียงแต่เป็นภาระเท่านั้น มันจะดีกว่ามากที่จะปล่อยพวกเธอไป
ไม่ช้าไม่นาน โทเฮงสุนก็แก้มัดเซลีนและควีนนี่ภายใต้คำสั่งของฉางเอ๋อ
“แดร์ริล!”