คุณสามีแห่งปาฏิหาริย์ - บทที่ 1813
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1813
ภรรยาของแบรดลีย์นั้นชื่อว่า ซูถง เฮอร์แมน เธอเป็นผู้หญิงที่งดงามที่สุดในโลก ยามนั้นเธอเป็นหญิงงามเหมือนฉางเอ๋อและหยางเจียนก็หลงใหลเธอมาก
วันหนึ่งเมื่อแบรดลีย์ไม่อยู่ หยางเจียนก็ฉวยโอกาสมอมเหล้าซูถงและขืนใจเธอ ซูถงไม่อาจทนรับความอัปยศและปลิดชีพตัวเองไป
เมื่อแบรดลีย์กลับมาเขาก็ได้เห็นสภาพที่สังเวชของภรรยา เขาเกรี้ยวกราดและพุ่งไปล้างแค้นหยางเจียน ตอนนั้นหยางเจียนไม่ได้แข็งแกร่งเท่าแบรดลีย์ เขาจึงหลอกแบรดลีย์ให้เข้าไปในเจดีย์และกักขังเขาไว้ในนั้น
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อพันปีก่อนและหยางเจียนเองก็ลืมไปเกือบหมดแล้ว ดังนั้นเมื่อเขาเห็นแบรดลีย์โดยไม่ทันตั้งตัว หัวใจเขาก็สั่นเทา ไม่มีคำใดจะสามารถอธิบายความรู้สึกที่เขามีตอนนี้ได้
เมื่อเห็นเช่นนี้สายตาของทหารโมอาน่าเหนือทุกคนก็จับจ้องที่แบรดลีย์ ทุกคนต่างก็ส่งเสียงอื้ออึง
“คะ-คนนั้นเป็นศิษย์พี่ของสุดยอดปรมาจารย์เอ้อหลางจริงเหรอ? ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าสุดยอดปรมาจารย์เอ้อหลางมีศิษย์พี่ด้วย?”
“ขืนใจภรรยาของศิษย์พี่เหรอ… ไม่อยากจะเชื่อว่าสุดยอดปรมาจารย์เอ้อหลางเป็นคนแบบนี้”
“คนผู้นั้นเห็นชัด ๆ ว่ามาช่วยแดร์ริล เขาอาจจะโกหกก็ได้ เราไม่รู้หรอก”
ทุกคนต่างก็พากันกระซิบกระซาบและมองกัน พวกเขาต่างก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
‘พระเจ้า’ แดร์ริลอ้าปากค้างขณะที่เขาจ้องสีหน้าตื่นตะลึงของหยางเจียน
เขาคิดว่าหยางเจียนเป็นคนดีและมีเกียรติ เขาไม่เคยคาดคิดว่าหยางเจียนจะขืนใจภรรยาของศิษย์พี่ คนต่ำทรามนี้ทำตัวเหมือนเป็นสุภาพชน ที่จริงก็เลวไม่ต่างจากฟลอเรียน
เมื่อมองเห็นท่าทางของทุกคน หยางเจียนก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา “ทุกคนอย่าไปเชื่อคำพูดของแบรดลีย์ เป็นความจริงที่เขาเป็นศิษย์พี่ของข้า แต่ว่าข้าไม่ได้ข่มเหงภรรยาของเขา”
พอพูดจบ หยางเจียนก็มองแบรดลีย์อย่างจริงจัง “แบรดลีย์ ข้าเคยอธิบายเรื่องนี้ให้เจ้าฟังแล้ว ภรรยาของเจ้าป่วยและเจ้าก็ไม่อยู่ ดังนั้นข้าจึงปรุงยาให้นางและนำไปให้นางดื่มที่เตียง เจ้าเดินเข้ามาเจอเราพอดีและอ้างว่าข้าข่มเหงภรรยาของเจ้า แล้วเจ้าก็โจมตีข้าทันที สุดท้ายเจ้าก็ทำให้ภรรยาตัวเองบาดเจ็บจนตาย”
“เจ้าฆ่าภรรยาของตัวเองแต่มาโทษข้า เจ้าไม่คิดว่ามันน่าขันไปหน่อยเหรอ?”
คำพูดของเขาดังและชัดเจน
แต่ขณะที่พูด หยางเจียนไม่กล้าที่จะสบตาแบรดลีย์ เขานั้นหลบสายตาไปทางอื่น ชัดเจนว่าเขานั้นไม่ได้มั่นใจ
หยางเจียนโกหก
สิ่งที่แบรดลีย์พูดในตอนแรกคือความจริง
ฉากหน้าหยางเจียนดูเหมือนสุภาพชนแต่ว่าความจริงแล้วเขาเป็นคนต่ำทราม ไม่เพียงแค่เขาเป็นคนจิตใจทรามและโลภหลงในอำนาจเท่านั้น แต่ว่าเขายังเป็นคนโหดร้ายด้วย
เมื่อเขาพูดจบทั้งพระราชวังก็เกิดเสียงอึงอล ทุกคนที่ตอนแรกต่างก็สงสัยในตัวหยางเจียนก็วิตกมากและแลกเปลี่ยนความเห็นกัน
“ฉันว่าแล้ว สุดยอดปรมาจารย์เอ้อหลางเป็นสุภาพชน เขาไม่ใช่คนแบบนั้นแน่”
“จะต้องพูดอะไรกันอีกล่ะ? ฉันรู้แต่แรกแล้วว่าแบรดลีย์น่ะพูดมั่ว”
“เจ้าแบรดลีย์นี่เลวมาก เขาฆ่าเมียตัวเองแต่ว่ามาโทษสุดยอดปรมาจารย์เอ้อหลาง ฉันไม่เคยเห็นคนเลวขนาดนี้มาก่อนเลย เจ้านี่สมควรตายแล้ว”
ทุกคนต่างก็ถกเถียงกันและสนับสนุนหยางเจียนเพราะพวกเขารู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมกับหยางเจียน
การแสดงออกของทุกคนนั้นก็เป็นที่เข้าใจได้ หยางเจียนมีชื่อเสียงโด่งดังมานานและภาพลักษณ์สูงส่งของเขาก็ฝังลึกอยู่ในใจของทุกคนไปแล้ว ไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะทำเรื่องเลวทรามต่ำช้าแบบนั้นได้
แต่แดร์ริลยืนยิ้มอยู่ตรงนั้นและไม่พูดอะไร เขาไม่เชื่อคำพูดของหยางเจียน
เหตุผลของแดร์ริลก็ง่ายมาก แบรดลีย์นั้นโดนขังอยู่ในเจดีย์นานนับพันปีและยามที่เขาออกมาจากเจดีย์แล้วเห็นหยางเจียนเขาก็เกรี้ยวกราดทันที หากว่าไม่ได้มีความแค้นฝังลีกก็คงไม่มีทางมีอาการแบบนี้
อีกอย่างทั้งสองก็เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกัน
ตอนนั้นแบรดลีย์จ้องหยางเจียนตาแดงก่ำ โทสะเผาไหม้ใจเขาและตอนนี้ก็ยังไม่บรรเทา
‘หยางเจียนทำให้ภรรยาของข้าตายและขังข้าไว้ในเจดีย์เป็นพัน ๆ ปี พอตอนนี้ก็ยังมาโป้ปดต่อหน้าทุกคนอีก คนแบบนี้สมควรตายสักหมื่นหนก็ยังไม่สาสม’
“หยางเจียน ตายซะ” แบรดลีย์คำรามอย่างมีโทสะก่อนจะดึงแส้เหล็กออกมาแล้วพุ่งเข้าใส่หยางเจียน
แส้เหล็กนั้นเป็นอาวุธแบบโบราณและรู้จักกันในชื่อว่าคฑา มันมาด้วยกันเป็นคู่ ด้านนอกดูเหมือนแท่งสี่เหลี่ยมที่มีสี่มุม แต่ว่ามันรู้จักกันว่าแส้เหล็ก อาวุธโบราณนี้มีประวัติที่ยาวนานและหาได้ยาก