คุณสามีแห่งปาฏิหาริย์ - บทที่ 1831
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1831
ฟลอเรียนยิ้มและพูดกับสโลนว่า “ท่านแม่ทัพหญิงสโลน คราวที่แล้วคุณเป็นคนที่ดูถูกผมมากที่สุด แล้วทำไมจู่ ๆ คุณถึงมาหาผมในค่ำคืนนี้ล่ะ? คุณกำลังจะขอให้ผมช่วยอะไรใช่ไหม? อย่าบอกเชียวนะว่าคุณอยากให้ผมช่วยชีวิตเพื่อนและครอบครัวของแดร์ริลน่ะ?”
ฟลอเรียนยิ้มกริ่มเมื่อเขาพูดออกมาเช่นนั้น เขารู้ว่าสโลนดูถูกเหยียดหยามเขามาตลอด ตอนนี้การที่เธอมาเยี่ยมเยียนในยามดึกดื่นเช่นนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับการช่วยครอบครัวของแดร์ริลแน่นนอ เพราะเจ้าศักดินาเคนนี่ออกคำสั่งเมื่อช่วงกลางวันว่าให้ตัดหัวพวกเขาในวันรุ่งขึ้นโดยให้เขานั้นเป็นผู้ประหาร
สโลนมาหาเขายามดึกดื่น มันจะต้องเป็นเพราะเธอต้องการให้เขาปล่อยเพื่อนและครอบครัวของแดร์ริลไปแน่ ๆ
สีหน้าของสโลนเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก่อนที่เธอจะพูดนิ่ง ๆ ว่า “แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะ? แล้วถ้าไม่ใช่ล่ะ?”
ฟลอเรียนคาดเดาได้อย่างถูกต้อง สโลนมาเพราะครอบครัวคาร์เตอร์ แด๊กซ์ และคนอื่น ๆ ที่เหลือ
เจ้าศักดินาเคนนี่สั่งให้ตัดหัวพวกเขาในวันรุ่งขึ้นและเวลาก็กำลังจะหมดลง ถึงแม้ว่าสโลนจะมีความสามารถมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่อาจช่วยชีวิตพวกเขาที่มีจำนวนมากขนาดนั้นพร้อม ๆ กันได้
ดังนั้นสโลนจึงได้ตัดสินใจมาตามหาฟลอเรียนหลังจากที่ได้คิดมาอยู่หลายตลบ ฟลอเรียนและครอบครัวคาร์เตอร์มาจากแผ่นดินใหญ่เดียวกัน แม้ว่าฟลอเรียนจะชั่วช้าแต่เขาจะต้องยังมีความรู้สึกอะไรบางอย่างกับบ้านเกิดเมืองนอนของเขาบ้าง
ฟลอเรียนค่อย ๆ ยืนขึ้นก่อนที่จะยิ้มและพูดว่า “ท่านแม่ทัพหญิงสโลน ดูเหมือนว่าคุณจะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับแดร์ริลนะ ถึงขนาดอยากที่จะช่วยครอบครัวของเขาด้วย”
สโลนขมวดคิ้วและไม่สนใจกับเรื่องที่ไร้สาระ “ฟลอเรียน ครั้งหนึ่งคุณเคยเป็นคนที่มาจากจักรวาลโลก ครอบครัวคาร์เตอร์และคนอื่น ๆ ที่คุณกำลังจะตัดหัวในวันพรุ่งนี้ก็มาจากจักรวาลโลกเช่นกัน คุณจะทำมันได้ยังไง? หากคุณยังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่ คุณควรช่วยฉันด้วยการปล่อยพวกเขาไปซะ”
“หึหึ…”
ทันใดนั้นเอง ฟลอเรียนก็หัวเราะออกมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ท่านแม่ทัพหญิงสโลน คุณเป็นคนตรงไปตรงมาจริง ๆ นะ โอเค ผมควรจะพูดอะไรสักอย่างในเมื่อคุณสารภาพออกมาแล้ว ผมช่วยคุณได้โดยมีข้อแม้หนึ่งข้อ คืนนี้คุณจะต้องอยู่ที่นี่และดื่มกับผม เป็นยังไง? คุณเป็นคนฉลาด ผมมั่นใจว่าคุณจะไม่ปฏิเสธ”
จากนั้นฟลอเรียนก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปหาและกำลังจะคว้ามือของสโลน
ที่จริงแล้วฟลอเรียนหมายตาสโลนไว้มานานแล้ว ก่อนหน้านี้เขาเคยถูกสะกดไว้อย่างตราตรึงด้วยออร่าอันงดงามของสโลนในตอนที่เขาเห็นเธอเป็นครั้งแรก
เพียงแต่ในตอนนั้น สโลนได้รับการชื่นชมจากจักรพรรดิโลกใหม่เป็นพิเศษจากการที่เป็นนักรบเทวัญที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก ดังนั้นฟลอเรียนจึงทำได้เพียงมองจากไกล ๆ และไม่กล้าเข้าหาเธอ
ต่อมาสโลนได้ถูกจับในตอนที่เจ้าศักดินาเคนนี่ขึ้นเป็นจักรพรรดิ ฟลอเรียนใช้พลังของเขาในการพยายามไถ่ตัวเธอออกมา เพียงแต่ว่าแอมโบรสเป็นคนรับผิดชอบเรือนจำดังนั้นฟลอเรียนจึงไม่มีโอกาสสักที
แต่ในวันนี้สโลนได้มาตัวคนเดียวเขาจะปล่อยโอกาสที่ดีเช่นนี้หลุดมือไปได้อย่างไร?
เพียะ!
ในขณะนั้นเองสโลนก็ยกมือขึ้นและอยู่ดี ๆ ก็ตบหน้าฟลอเรียนโดยทันทีในตอนที่สังเกตเห็นมือของฟลอเรียนเข้าใกล้เธอ
“ไอ้คนโง่หน้าไม่อาย” สโลนพูดอย่างเย็นชาก่อนที่เธอจะหันหลังกลับและจากไปอย่างไม่ลังเล
ถ้าเธอต้องใช้ความบริสุทธิ์เพื่อแลกกับการช่วยเหลือของฟลอเรียน เธอก็ไม่อยากทำมัน
ฟลอเรียนกุมใบหน้าของเขาแต่ก็ไม่ได้รู้สึกโกรธแต่อย่างใด เขาหัวเราะเบา ๆ และหันกลับไปหาสโลน “ท่านแม่ทัพหญิงสโลน พรุ่งนี้ตอนเที่ยงจะมีการประหาร คุณมีเวลาไม่มากหรอกนะ แต่ใช้เวลาคิดเรื่องนี้ซะ ผมจะรอคุณอยู่ที่นี่ ฮ่า ๆ…”
จากนั้นฟลอเรียนก็กลับไปนั่งลงอีกครั้งและกระดกไวน์เข้าเต็มปาก
เขาไม่กลัวว่าสโลนจะรายงานเรื่องของเขากับเจ้าศักดินาเคนนี่ เพราะเขาเองก็มีความลับของเธอที่เสแสร้งทำเป็นภักดีต่อเจ้าศักดินาเคนนี่เหมือนกัน
แต่ทว่าหนึ่งคืนได้ผ่านไปแต่สโลนไม่ปรากฏตัว
ในเรือนจำ ณ ขณะนี้
พระอาทิตย์ข้างนอกกำลังสาดส่องขึ้นเป็นสัญญาณเริ่มต้นวันใหม่ที่สดใส แต่ทว่า แด๊กซ์ แซนเดอร์ส เชสเตอร์ วิลสัน และครอบครัวคาร์เตอร์ในคุกนั้นรู้สึกมืดมนอย่างมาก
พวกเขาได้ยินคำสั่งของเจ้าศักดินาเคนนี่แล้ว พวกเขาจะถูกประหารต่อหน้าสาธารณชนในอีกครึ่งวัน
พวกเขากำลังจะตายอย่างนั้นเหรอ? ช่างไม่ยุติธรรมเสียเลย!
เอี๊ยด!
ในขณะนั้นเอง ประตูของเรือนจำถูกผลักเปิดออกก่อนที่องครักษ์นับสิบจะกรูกันเข้ามา
“มัดและพาพวกมันออกไประหว่างเรากำลังรอคำสั่งของท่านปรมาจารย์ดาร์บี้” หัวหน้าองครักษ์พูดอย่างเย็นชา
โว้ว…