คุณสามีแห่งปาฏิหาริย์ - บทที่ 1835
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1835
‘อะไรนะ?’
ฟลอเรียนตัวสั่นเทิ้มและแทบจะทรุดลงไปนั่งกับพื้นเมื่อเห็นนักร้องโสเภณีหญิงก่อนจะตะโกนบอกเจ้าศักดินาเคนนี่ว่า “ฝ่าบาท กระหม่อม…”
เจ้าศักดินาเคนนี่ขัดเขาอย่างเย็นชาก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบ “ฟลอเรียน ดาร์บี้ เจ้าจะอธิบายเรื่องนี้ว่าอย่างไรล่ะ?”
เจ้าศักดินาเคนนี่เชื่อสโลนทันทีเมื่อเห็นนักร้องโสเภณีหญิง ตอนนี้ความโกรธในใจของเขาค่อย ๆ เพิ่มขึ้น
เขาอุตส่าห์เชื่อใจฟลอเรียนแต่เขากลับไปเสพสุขในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดเช่นนี้?
ยกโทษให้ไม่ได้
“กระหม่อม…”
ในขณะนั้นเองฟลอเรียนรู้สึกเพียงแค่ว่าจิตใจของเขาสั่นไหวในขณะที่เขาตอบอย่างแผ่วเบาและอึกอักว่า “กระหม่อม-กระหม่อมขออภัยฝ่าบาท แต่กระหม่อมไม่รู้จริง ๆ ว่านักโทษหลบหนีไปได้ยังไง”
ฟลอเรียนเกือบจะร้องไห้ออกมาเมื่อเขาพูดเช่นนั้น เขารู้สึกแค้นใจจนพูดไม่ออก
‘บ้าเอ๊ย ยัยสโลนนั่นร้ายกาจเกินไปแล้ว ถ้าฉันรู้เร็วกว่านี้ฉันน่าจะหาทางให้เธออยู่ที่หน่วยควบคุมเมื่อคืนนี้ แล้วค่อยบอกเจ้าศักดินาเคนนี่เกี่ยวกับการกระทำของเธอ’
แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้มันก็สายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้ว
“โอ้!”
เจ้าศักดินาเคนนี่สูดหายใจเข้าลึก ๆ ท่าทีของเขาอำมหิตอย่างยิ่งในขณะที่เขามองไปที่ฟลอเรียนและพูดอย่างเย็นชาว่า “ฟลอเรียน ดาร์บี้ ข้าควรจะขังเจ้าไว้ในคุกเพราะเจ้าได้กระทำความผิดครั้งใหญ่หลวง แต่เจ้าก็ช่วยข้ามามากในตลอดเวลาที่ผ่านมาเช่นกัน ดังนั้นข้าจะปล่อยเจ้าไป”
จากนั้นเจ้าศักดินาเคนนี่ก็มองไปรอบ ๆ ตัวเขา “ตอนนี้ข้าขอออกคำสั่งให้ฟลอเรียนถูกปลดจากตำแหน่งของเขาและจะต้องถูกสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องนี้!”
“ขอบพระทัยฝ่าบาท ขอบพระทัย…” ฟลอเรียนรีบก้มหัวแสดงความขอบคุณก่อนจะออกจากห้องโถงไปอย่างเศร้าใจภายใต้การคุ้มกันขององครักษ์ของวัง
กลุ่มเมฆข้างนอกนั้นช่างมืดมัวเฉกเช่นเดียวกับอารมณ์ของฟลอเรียนในตอนนี้ที่ทั้งมืดมนและหดหู่
มันกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไร? เขาควรจะมีชีวิตที่มั่งคั่งและรุ่งโรจน์ เขาลงเอยเช่นนี้ได้อย่างไร?
ใช่แล้ว ทั้งหมดนี้ต้องขอบใจนังสารเลวสโลนนั่น
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เขาเห็นยูมินั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นและดื่มชาอย่างผ่อนคลายโดยมีสาวใช้สองสามคนคอยบริการเธออยู่
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงดูเศร้านักล่ะ?” ยูมิยืนขึ้นและถามอย่างห้วน ๆ “ไม่ใช่ว่านายควรจะประหารนักโทษในตอนเที่ยงนี้หรอกเหรอ?”
“เฮ้อ!”
ฟลอเรียนสูดหายใจเข้าลึก ๆ และยิ้มอย่างขมขื่น “ที่รัก เกิดเรื่องขึ้นน่ะ…”
จากนั้นฟลอเรียนก็เล่าถึงวิธีที่นักโทษหลบหนีและการที่เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งหน้าที่
แน่นอนว่าฟลอเรียนไม่กล้าพูดว่าเมื่อคืนนี้เขากำลังสนุกสนานอยู่ที่หน่วยควบคุม เขาบอกเพียงว่าเขาละเลยหน้าที่และทำให้นักโทษหลบหนีไปได้
‘ว่าไงนะ?’
ยูมิตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธเมื่อได้ยินเช่นนั้น พร้อมกับพูดด้วยความโกรธและกระวนกระวายว่า “นี่นายไร้ประโยชน์ขนาดนี้ได้ยังไง? คุกหลวงมีการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาขนาดนั้น นายปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ยังไง?”
ยูมิโกรธจัดและจ้องไปที่ฟลอเรียน “นายมันช่างไร้ประโยชน์จริง ๆ บอกฉันสิ เราควรจะทำยังไงดีในเมื่อตอนนี้นายตกงานและกำลังจะถูกสอบสวน?”
“ที่รัก” ฟลอเรียนส่ายหัวด้วยสีหน้าขมขื่น “ฉันคิดว่าเจ้าศักดินาเคนนี่จะไม่เรียกใช้ฉันอีกแล้ว แทนที่จะนั่งรอให้ถูกสอบสวน ทำไมเราไม่หนีไปก่อนล่ะ?”
เขาทำเรื่องเลวร้ายมาตั้งมากมายในฐานะขุนนางแห่งโลกใหม่ในตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาจะยอมถูกสอบสวนได้อย่างไร? มันคงจะดีกว่าถ้าจะแอบหนีไปซะ!
ยูมิขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนั้นและพูดอย่างเย็นชาว่า “ก่อนหน้านี้ เราก็ต่อต้านแดร์ริลและสำนักอื่น ๆ มาตลอด เรากลับไปที่จักรวาลโลกไม่ได้แล้วแน่ ๆ และเราก็ไม่สามารถอยู่ในโลกใหม่ได้เหมือนกัน นายบอกฉันสิว่าเราจะไปที่ไหนได้บ้าง?”
เอ่อ…
ฟลอเรียนสูดหายใจเข้าลึก ๆ และเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะค่อย ๆ พูดว่า “ทำไมพวกเราไม่ไปเวสต์ริตันล่ะ? ฉันเพิ่งได้ข่าวว่า โดน็อก ดิกสัน องคมนตรีเวสต์ริงตันได้ฆ่าจักรพรรดิเวสต์ริงตันและขึ้นครองบัลลังก์ด้วยตัวเองแล้ว ฉันยังมีสายสัมพันธ์กับเขาอยู่ แล้วทำไมพวกเราไม่ไปหาเขาล่ะ? ตอนนั้นพวกเราก็จะยังมั่งคั่งและมีเกียรติยศไม่รู้จบแน่ ๆ”
‘อะไรนะ?’
ยูมิตัวสั่นเทิ้มและในใจก็รู้สึกตกใจอย่างสุดขีด
โดน็อกกลายเป็นจักรพรรดิ?
“ไม่!” ยูมิขัดขึ้นมาอย่างเย็นชาพร้อมกับการตัดสินใจที่แน่วแน่และเด็ดเดี่ยวของเธอ!
ยูมิไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ แต่ทว่าหัวใจของเธอเต็มไปด้วยความแค้นเคืองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เธอไม่เคยลืมว่าก่อนหน้านี้โดน็อกได้ทำให้เธอเสื่อมเสียไว้อย่างไร พรหมจรรย์ของเธอถูกผู้ชายคนนี้ทำลายนับครั้งไม่ถ้วน!