คุณสามีแห่งปาฏิหาริย์ - บทที่ 1839
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1839
แดร์ริลอุ้มฉางเอ๋อและค่อย ๆ เดินขึ้นไปบนแท่นหินช้า ๆ พลางพูดพึมพำกับตัวเอง
“โอ้”
ฉางเอ๋อตัวสั่นเพราะว่าเธอก็ตื่นเต้นจนพูดไม่ออกเหมือนกัน เธอค่อย ๆ อ้าปากพูดว่า “ใครจะไปคิดว่าที่นี่จะมีค่ายกลประตูอยู่เหมือนกัน”
“ฟู่”
แดร์ริลพ่นลมหายใจออกเบา ๆ และมองฉางเอ๋ออย่างประทับใจ “พระมเหสีฉางเอ๋อมีความรู้มากจริง ๆ ท่านถึงกับรู้ว่านี่คือค่ายกลประตู แต่ว่าที่นี่มันที่ไหนกัน?”
หลุมนี้มันใหญ่โตมาก ไม่ต้องนับว่ามีค่ายกลประตูตั้งอยู่ด้วย แน่นอนว่าที่นี่ต้องไม่ใช่สถานที่ธรรมดาแน่
ฉางเอ๋อตอบห้วน ๆ เมื่อได้ยินคำถามของแดร์ริลว่า “เจ้าต้องถามอีกเหรอ? นี่ต้องเป็นซากของสำนักโบราณแน่นอน เมื่อพันปีก่อนสำนักใหญ่ ๆ ต่างก็มีค่ายกลประตูให้ศิษย์ของสำนักใช้กันทั้งนั้น”
ใบหน้างามของฉางเอ๋อเต็มไปด้วยความเหยียดหยามเมื่อเธอพูดเช่นนั้น
‘เขาเป็นคนเถื่อนจริง ๆ เรื่องง่าย ๆ เช่นนี้ก็ยังไม่รู้’
“พระมเหสีฉางเอ๋อ” แดร์ริลไม่ได้ใส่ใจน้ำเสียงเหยียดหยามของเธอ แต่ว่าดวงตาเขาเป็นประกายทันทีขณะที่ถามว่า “งั้นท่านรู้วิธีใช้ใช่ไหม?์”
สีหน้าแดร์ริลเต็มไปด้วยความหวังตอนที่เอ่ยถาม
พวกเขาทุกคนสามารถไปจากสถานที่ซึ่งพระเจ้าทอดทิ้งนี้ได้ หากว่าค่ายกลประตูยังใช้งานได้ เมื่อเขาหาตัวลิลี่และคนอื่น ๆ พบ
ฉางเอ๋อหมดความอดทนและพูดเสียงเรียบว่า “มันง่ายมาก เจ้าเห็นตรงกลางค่ายกลนั่นไหม? แค่ปล่อยพลังภายในของเจ้าใส่ไปตรงนั้น”
‘ให้ตายสิ’
แดร์ริลกระตือรือร้นขึ้นมาทันที กลายเป็นว่าการใช้งานค่ายกลประตูนั้นแสนง่ายดาย มันแทบไม่ต่างจากเครื่องรางประตูเลย
แดร์ริลจำได้ถึงครั้งแรกที่เขาใช้เครื่องรางข้ามภพมหัศจรรย์ ต่อสู้กับแม่ชีแห่งโชคชะตา ตอนนั้นการโจมตีของเธอโดนเข้ากับเครื่องรางข้ามภพมหัศจรรย์ซึ่งบังเอิญทำให้มันเปิดใช้งานและส่งพวกหล่อนไปที่อื่น
แต่ว่าค่ายกลประตูนี้ดูโบราณมาก มันจะยังใช้งานได้อยู่ไหมนะ?
แดร์ริลเดินเข้าไปใกล้ขณะที่คิดเช่นนั้น เขาปล่อยพลังภายในออกมาด้วยมือข้างหนึ่งและปล่อยมันเข้าไปในใจกลางค่ายกลขณะที่มืออีกข้างอุ้มฉางเอ๋ออยู่
“เจ้า…”
สีหน้าฉางเอ๋อเปลี่ยนอย่างรุนแรงเมื่อเห็นการกระทำของแดร์ริลและอดร้องออกมาไม่ได้
‘เจ้าคนเถื่อนนี่บ้าหรือเปล่า? จู่ ๆ เขาก็ลองค่ายกลประตูแบบนี้ได้อย่างไร?’
เธอร้องออกมาได้เพียงหนึ่งคำก่อนที่จะได้ยินเสียงอื้ออึงดังขึ้นมาในตอนนั้น
เสียงนั้นตามมาด้วยแสงสว่างจ้าพวยพุ่งออกมาจากค่ายกลประตู แสงนั้นมีพลังวิญญาณประหลาดที่กลืนกินแดร์ริลและฉางเอ๋อเข้าไปทันที
‘เวร’
ในหัวของแดร์ริลส่งเสียงอื้ออึงเมื่อเห็นแสงสว่างจ้านั้นจนเขาเกือบจะร้องไห้ออกมา
เขาเพียงแค่อยากลองดูว่าค่ายกลประตูยังทำงานอยู่ไหม แต่ไม่คาดคิดว่าไม่เพียงมันยังทำงานอยู่ แต่ค่ายกลนั้นก็ยังทำงานทันที
‘เวรเอ๊ย ลิลี่ พี่ซู่หรง และคนอื่น ๆ ยังโดนหยางเจียนล้อมอยู่เลย แล้วฉันจะทิ้งพวกเขาไว้อย่างนั้นได้ยังไง? อีกอย่างฉันก็ไม่รู้ว่าค่ายกลประตูนี้จะส่งเราไปที่ไหน’
หากว่ารู้ว่าเป็นแบบนี้เขาก็คงจะไม่ลองหรอก
ตอนนั้นรอบข้างก็สั่นสะเทือนไปด้วยพลังวิญญาณที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แดร์ริลคิดอย่างอื่นไม่ออกอีกแล้วและได้แต่กอดฉางเอ๋อไว้แน่น ไม่ว่าพวกเขาจะถูกส่งไปที่ไหน เขาก็ไม่สามารถแยกจากฉางเอ๋อได้
แดร์ริลรู้ว่าฉางเอ๋ออยากฆ่าเขาอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการพาเธอไปกับเขาด้วยไม่คลาดสายตาจึงปลอดภัยที่สุด
“เจ้าไพร่ ปล่อยข้านะ” หน้างามของฉางเอ๋อแดงก่ำราวผลแอปเปิลเพราะโดนแดร์ริลกอดไว้แน่น เธอพยายามทั้งดื้นรน ทั้งร้องโวยวาย แต่เธอยังโดนสกัดจุดอยู่ ตอนนี้เธอใช้พลังภายในไม่ได้เลยสักนิด ดังนั้นเธอจึงดิ้นไม่หลุด
ซูม
ตอนนั้นเองก็มีแสงจ้าระเบิดออกมาจากค่ายกลประตูและกลืนร่างแดร์ริลและฉางเอ๋อไป ทั้งสองต่างก็รู้สึกมึนงงและเวียนหัวก่อนที่จะโดนย้ายส่งออกไปทันที
แดร์ริลรู้สึกราวกับว่ากำลังอยู่ในความฝันเมื่อร่างของเขาลอยคว้างอยู่กลางอากาศ รอบข้างมืดมิดและหลังจากที่ผ่านไปครู่ใหญ่ เขาก็ได้เหยียบลงบนพื้นแข็ง ๆ
“ฟู่…”
เขาลืมตาขึ้นและเห็นว่าฉางเอ๋อยังอยู่ข้างกายเขา แดร์ริลถอนใจออกมาอย่างโล่งอก ขอบคุณสวรรค์ที่ทั้งสองยังอยู่ด้วยกัน
‘ให้ตายสิ’