คุณสามีแห่งปาฏิหาริย์ - บทที่ 8
บทที่ 8
ใช้เวลาเพียงแค่สามวินาที แอชตันก็รับสายทันที
ลิลี่กดปุ่มลำโพงเพื่อให้ได้ยินทั่วกัน
ซาแมนธา ผู้ซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ เริ่มยิ้มออกมาเมื่อเห็นหน้าจอโทรศัพท์ของลิลี่ “ลูกสาวที่รักของฉัน เป็นแอชตันนี่เองที่หาคำสรรเสริญจากคริสตัลมา เขาเป็นผู้ชายที่ดีนะ ลูกควรจะเห็นคุณค่าเขานะ ลูกแม่”
ซาแมนธาจงใจกล่าวออกมาเสียงดัง และไม่ลืมที่จะเหลือบมองไปที่แดร์ริล เทียบกับแอชตัน แดร์ริลเป็นแค่คนไร้ค่า แอชตันเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าถ้าลิลี่แต่งงานกับเขา เขาจะจ่ายสินสอดให้ 20 ล้านเหรียญ!
ที่อีกฝั่งของโทรศัพท์ แอชตันกำลังนั่นงอยู่ที่ทางเท้า เมื่อไม่นานมานี้ เขาได้รับโทรศัพท์ แจ้งว่าตระกูลดาร์บี้ได้เพิกถอนเงินทุนของเขาทั้งหมดออก!
แอชตันถึงกับทรุดเมื่อได้ยินข่าว เมื่อไม่มีการสนับสนุนจากตระกูลดาร์บี้ เขาก็ไม่มีอะไรเหลือ! เขาได้รับการแจ้งต่อจากนั้นอีกว่าเขาไปคุกคามคนที่เขาไม่ควรเข้า
จนถึงตอนนี้ แอชตันยังคิดไม่ออกว่าเขาไปคุกคามใครที่ไหน!
“แอชตัน ฉันอยากจะถามหน่อยว่าคุณสามารถหาคำสรรเสริญจากคริสตัลมาอีกคู่ได้ไหม?” ลิลี่ถามจากทางโทรศัพท์
แม้ว่าเขาจะกำลังสิ้นหวัง แต่เขาก็ฝืนยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าลิลี่เป็นผู้โทรมา “ลิลี่ คุณหมายถึงแบบจำลอง ใช่ไหม?”
“แบบจำลอง?”
ลิลี่และอีวอนแลกเปลี่ยนสายตากันและกัน พวกเธอไม่มีทางดูของเลียนแบบผิดไปเป็นของจริงได้แน่
“ใช่ครับ ไม่ใช่ว่าผมให้แบบจำลองที่ราคา 300,000 กับคุณไปเหรอ? แอชตันกล่าวต่อ “แต่สามีไร้ประโยชน์ของคุณปามันทิ้งไปนี่นา? ผมยังเก็บคู่นั้นไว้ที่บ้านอยู่เลย ถ้าคุณต้องการ ผมเอามันไปให้คุณได้นะ”
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็เต็มไปด้วยความสับสน!
คำสรรเสริญจากคริสตัลที่เธอใส่อยู่ตอนนี้ ไม่ใช่ของขวัญจากแอชตันงั้นเหรอ? แล้วนอกจากเขา จะมีใครอีกที่ให้ของขวัญที่มีราคา 30 ล้านกับเธอกัน?!
ลิลี่วางสายลงและนึกไปถึงวันที่แดร์ริลไปส่งเธอที่ทำงาน เขาเคยบอกว่าเขาจะซื้อคำสรรเสริญจากคริสตัลให้เธอ…
เมื่อคิดได้ดังนั้น ลิลี่ช่วยไม่ได้ที่จะต้องมองไปที่แดร์ริล
แดร์ริลกำลังถือตะเกียบในมือ ในขณะที่คนอื่นยังไม่ทันได้เริ่มทาน เขาก็ใกล้จะกินข้าวถ้วยที่สองเสร็จแล้ว ทุก ๆ คนในโต๊ะเดียวกับเขาล้วนมองเขาด้วยความมุ่งร้ายและพยายามนั่งให้ห่างเขาที่สุดเท่าที่จะทำได้
ลิลี่ถอนหายใจ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ แดร์ริลจะหารองเท้าคู่นั้นมาเป็นของขวัญเธอได้ยังไง? มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย
ผ่านไปครึ่งนาที ในที่สุดแดร์ริลก็วางตะเกียบลง เขาปาดริมฝีปากของเขาขณะที่มองอีวอน
อีวอนเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจ แดร์ริลสังเกตเห็นเธอสวมกำไลสีขาวอยู่บนข้อมือ ทุก ๆ คนต้องรู้อยู่แล้วว่ากำไลนั่นต้องมีราคาไม่น้อย แต่จะมีกี่คนที่รู้ว่ากำไลนั่นเป็นของโบราณ?
ตระกูลดาร์บี้นั้นสะสมของโบราณไว้จำนวนมาก ตอนที่แดร์ริลอายุเพียงหกถึงเจ็ดขวบ เขาก็สามารถแยกความแตกต่างของวัตถุโบราณได้แล้ว
ตอนที่ผู้ประเมินราคาอันดับหนึ่งของโลก มาสเตอร์สเตลเลน สมิธ ได้มาเยี่ยมเยียนที่ตระกูลในฐานะแขก เขาได้เรียนรู้วิธีประเมินราคาจากชายคนนี้ถึงสองเดือน
กำไลที่อีวอนใส่นั้นดูละเอียดอ่อนและงดงาม มันน่าจะเป็นงานหัตถกรรมจากสมัยราชวงศ์ถัง มันอาจมีราคาสูงกว่า 20 ล้านหากนำไปประเมินราคาในตลาด
“ทุกคนเงียบลงด้วย”
ในขณะนั้นเอง คุณย่าลินดันเดินขึ้นไปบนเวที เธอดูร่าเริงอย่างมากทีเดียว
“เร็วเข้า หนูน้อยลิลี่ บอกพวกเราว่าหลานเจรจากับบริษัทแพลทินัมยังไง” คุณย่าลินดันกล่าวอย่างใจร้อนและนั่งลง
ลิลี่ลุกขึ้นด้วยความกระอักกระอ่วน หลังจากใช้เวลาคิดเป็นเวลานาน เธอก็กล่าว “หนู… เมื่อหนูไปถึงบริษัทแพลทินัม หนูยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไร ไม่แม้แต่จะได้เจอประธานบริษัท หนูก็ได้รับแจ้งว่าหนูจะได้เซ็นสัญญาแล้ว”
“ว้าว!”
คำพูดของลิลี่กระตุ้นความเกรี้ยวโกรธท่ามกลางฝูงชนทันที
“งั้นก็แปลว่าลิลี่ไม่ได้ทำอะไรเลย แต่กลับได้เซ็นสัญญา?”
“นั่นสิ ตอนแรกฉันก็คิดว่าเธอมีความสามารถเลยทำได้เสียอีก กลายเป็นว่าเธอก็แค่โชคดี”
เมื่อได้ยินเสียงการสนทนา วิลเลียมก็ยืนขึ้นแล้วเดินก้าวออกมา “คุณย่า ผมถูกไล่ออกจากบริษัทแพลทินัมแต่วันนี้ลิลี่กลับได้เข้าไป พวกเขาต้องคิดว่าพวกเราจริงใจ ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจร่วมมือกับเรา! ต่อให้ไม่ใช่ลิลี่ที่ไปพบพวกเขาวันนี้ แต่เป็นคนอื่น พวกเขาก็คงประสบความสำเร็จเหมือนกัน!”
มันชัดเจนว่าวิลเลียมต้องการนำความดีความชอบไป
คุณย่าลินดันมักจะเอ็นดูวิลเลี่ยมเสมอ เพราะฉะนั้นมันจึงไม่แปลกที่เธอจะพยักหน้าและเห็นด้วย “หนูน้อยลิลี่ ผลงานในครั้งนี้จะไม่ใช่ของหลานเพียงคนเดียว วิลเลียมเองก็ถือว่าทำได้ดีเช่นกัน”
วิลเลียมดีใจเมื่อได้ยินคุณย่าลินดันกล่าว เขาก้มหัว 90 องศาให้เธอ “คุณย่าครับ ในฐานะที่เป็นบุตรของตระกูล ผมต้องการที่จะเสียสละ! ผมได้ยินข่าวลือมาว่าที่บริษัทแพลทินัมตอนนี้มีดาราหน้าใหม่เข้ามา ซึ่งเธอมีนามว่า จีเซลล์ ลินด์ท เธอเป็นหญิงสาวที่งดงาม และผมคาดการว่าบริษัทแพลทินัมนั้นต้องการจะแปลงโฉมเธอ ถ้าหน้าที่นี้ตระกูลเราได้รับมอบหมายมาล่ะก็ แน่นอนเลยว่าเราจะได้รับเงินก้อนโต! วันพรุ่งนี้ผมต้องการจะเป็นตัวแทนของตระกูลเราในการเจรจาข้อตกลง!”
“ยอดเยี่ยม!”
คุณย่าลินดันพยักหน้าด้วยความชื่นชม “ย่าไม่ได้รักหลานอย่างเสียเปล่าจริง ๆ ”
ลิลี่และซาแมนธามองหน้ากันด้วยความอึดอัด งานรวมตัวครั้งนี้ควรจะเป็นงานฉลองความสำเร็จของลิลี่ แต่แสงไฟกลับถูกฉกไปโดยวิลเลียมแทน ตอนนี้ในเมื่อตระกูลลินดันก่อตั้งหุ้นส่วนธุรกิจกับบริษัทแพลทินัมได้แล้ว การเจรจาของวิลเลียมในวันพรุ่งนี้จะสำเร็จโดยไม่ต้องสงสัย และถ้าเป็นเช่นนั้น ผลงานทั้งหมดจะตกเป็นของเขา
ถึงลิลี่จะไม่ชอบใจกับผลที่ออกมา แต่เธอก็ยังคงสงบอยู่ ยังไงก็ตาม วิลเลียมก็เป็นหลานคนโปรดของคุณย่า
“ฮ่าฮ่า เชิญทานให้อิ่มหนำเลยครับ มื้อนี้ผมจะดูแลเอง! วิลเลียมหัวเราะอย่างชื่นบาน
“บ๋อย มา เอาไวน์มาให้ฉัน!” วิลเลียมอุทาน
ครู่ต่อมา พนักงานสาวสองคนในชุดกี่เพ้าก็นำเมนูมาให้
“สวัสดีค่ะคุณผู้ชาย นี่คือรายการไวน์ของเรา ท่านต้องการแบบไหนดีคะ?”
วิลเลียมโบกมือ เขากำลังเต็มไปด้วยพลังงานและความตื่นเต้นจากโอกาสที่น่ายินดี “ไม่จำเป็นต้องเอาเมนูมาให้ฉัน เอาไวน์ขวดที่แพงที่สุดไปเสิร์ฟให้ทุกโต๊ะ! อย่าลืมล่ะ ขวดที่แพงที่สุดเท่านั้น!”
หลังจากการตระเตรียมครู่หนึ่ง พนักงานเป็นแถวๆก็นำไวน์ออกมา วิลเลียมยกแก้วไวน์ของเขาด้วยรอยยิ้มกว้าง “วันนี้เราจะดื่มจนกว่าจะเมาหัวราน้ำ ขอให้ทุกคนเพลิดเพลิน!”
ตอนนี้วิลเลียมอยู่บนจุดสูงสุดของตระกูล แทบทุกคนล้วนต้องการจะญาติดีกับเขา พวกเขาต่างดื่มอวยพรด้วยแก้วในมือ
พวกเขาสั่งอาหารและไวน์หลายต่อหลายครั้ง วิลเลียมสังเกตได้ว่าตอนนี้เริ่มดึกแล้ว เขาจึงโบกมือด้วยความมึนเมาเพื่อเรียกพนักงาน
“เอาบิลมาให้ฉัน ฉันจะจ่ายด้วยบัตร!”
วิลเลียมนั่งข้าง ๆ อีวอน เขาหยิบบัตรธนาคารขึ้นมาด้วยท่าทางที่เขาคิดว่าดูป๋าที่สุด และจงใจพูดให้ดังกว่าที่ควร เขามองไปที่อีวอนขณะที่พูด ใครจะไม่อยากทำให้หญิงงามประทับใจบ้าง?
*************************************
ฝูงชนถึงกับชื่นชมเมื่อเห็นบัตรธนาคารของวิลเลี่ยม มันคือบัตรระดับแพลทินัมของธนาคารอเมทิสต์! ใครก็ตามที่ถือครองบัตรของธนาคารอเมทิสต์ จะต้องมีรายได้ต่อปีอย่างตําหนึ่งล้าน เพื่อเป็นเจ้าของบัตรทอง พวกเขาต้องการเงินห้าล้านในบัญชี และสําหรับผู้ถีแบัตรแพลทินัม จําเป็นจะต้องมีเงินอย่างน้อย 10 ล้านเป็นอย่างน้อย! วิลเลียมมีรายได้ทั้งหมดประมาณ 30 ล้าน ในฐานะที่เป็นนักธุรกิจ ยังไงก็ตาม รายได้ต่อปีไม่ได้เท่ากับเงินในบัญชีของพวกเขาเสมอไป ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของพวกเขาใช้ไปในการลงทุน มันยากที่จะถือเงินสดไว้ วิลเลียมเก็บเงิน 10 ล้านในบัญชีนี้มาหลายปี เขาเพิ่งจะได้รับบัตรแพลทินัมเมื่อวาน โดยธรรมชาติของเขาย่อมต้องอยากอวดเบ่งสักเล็กน้อยอยู่แล้ว แน่นอน แม้แต่ตัวอีวอน ยัง เองก็ยังอดไม่ได้ที่จะจ้องมองรูปร่างของบัตรนั้นเป็นพิเศษ วัตถุโบราณของตระกูลยังนั้นมีมูลค่ารวมสองพันล้าน ยังไงก็ตามนั้นคือเงินของพ่ออีวอน แม้ว่าอีวอนจะถูกมองว่างดงามและร่ํารวย เงินในบัญชีธนาคารของเธอก็ไม่ได้มีมากถึง 10 ล้านเหรียญ ถ้าหากเธอต้องการจะซื้อคําสรรเสริญจากคริสตัล เธอยังต้องขอให้พ่อของเธอขายวัตถุโบราณสองชิ้นถึงจะมีเงินพอ ใบหน้าของวิลเลียมเต็มไปด้วยความประหลาดใจเมื่อเขาเห็นว่าอีวอนมองเขาอยู่รอบสองรอบ หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น วิลเลียมมองไปที่พนักงานแล้วกล่าว “วันนี้ฉันจะจ่ายให้ทุกโต๊ะ ยกเว้นโต๊ะนั้น!” หลังจบคําพูดของเขา วิลเลียมจึงชี้ไปที่โต๊ะของแดร์ริล เหล่าคนที่นั่งในโต๊ะนั้นล้วนมีจุดยืนในตระกูลลิ่นดันที่ตําต้อย เขาจึงไม่กลัวที่จะคุกคามพวกเขา “แดร์ริล แกรู้ไหมว่าทําไมฉันถึงไม่จ่ายบิลให้แก?” วิลเลียมกล่าวก่อนจะยืนขึ้นแล้วมองไปที่แคร์ริล “เพราะว่าแกไม่ยอมเสนอที่นั่งให้คุณอีวอนไง! แกคุ้นเคยกับความโอหังของแกเกินไป! ทําไมคนที่นั่งอยู่ข้างหน้าอย่างแกถึงได้ดูไร้ค่านัก? แกทําให้คุณอีวอนไม่สบายใจ ฉันจะลงโทษแกในนามเธอเอง” เมื่อเขากล่าวจบ เขาก็มองไปที่อีวอน “คุณอีวอน ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะสั่งสอนมันแทนคุณเอง! แต่ละโต๊ะน่าจะมีราคาอย่างน้อย 10,000 เหรียญ คนอย่างแคร์ริลต้องไม่สามารถจ่ายไหวแน่” อีวอนไม่ได้กล่าวอะไรสักคํา ทําเพียงแค่ยิ้มอ่อน ๆ พนักงานนําบัตรของวิลเลียมไป แล้ววิลเลียมจึงกล่าวต่อกับอีวอน “คุณอีวอน ไม่ต้องกังวลนะครับ คุณชอยคําสรรเสริญจากคริสตัลใช่ไหม? ผมมีเพื่อนอยู่เยอะ ผมจะให้พวกเขาไปตามหาและซื้อมันมาให้คุณเอง!” มันจริงที่วิลเลียมมีเพื่อนมากมาย แต่พวกเขาเหมือนพวกกลุ่มโจร ความเชื่อว่าพวกเขาจะสามารถหาคําสรรเสริญจากคริสตัลมาไว้ในมือได้นั้น เป็นความฝันอันโง่เขลา “ขอบคุณ” อีวอนกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มสุภาพและพยักหน้าให้ ในตอนนั้นเอง พนักงานสองคนพลันรีบเดินเข้ามาหาวิลเลียมและก้มหัวให้ “พวกเราต้องขออภัยด้วยครับ แต่ดูเหมือนยอดเงินในบัตรของท่านจะไม่เพียงพอ” วิลเลี่ยมพลันตกอยู่ในโทสะทันที “พวกแกต้องตอแลฉันแน่? ฉันมีเงิน 11 ล้านอยู่ในบัตร แต่แกกลับบอกว่าบัตรฉันมีเงินไม่พอ?” “ต้องขออภัยด้วยครับ แต่ยอดในบิลรวมคือ 38.26 ล้าน”